ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic yaoi hey! say! jump] Destiny of love

    ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 14 เริ่ม

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 53




    พักกลางวัน

     

    นี่ยามะจังชั้นตกใจมากเลยนะ!” ชี่ถามเพื่อนตัวกลมตาโต



    เอ๋ เรื่องอะไรหรอชี่ยามะจังเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย ก่อนจะก้มลงไปจัดการข้าวกล่องต่ออย่างไม่ทุกข์ร้อน



    ก็เอ่อท่าทีของยามะจังกับยัยนั่นน่ะชี่ลดเสียงลงเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนของตนดูไม่ได้สนใจอะไรนัก



    นั่นสิ ดูเปลี่ยนไปมากเลยนะ ไม่สิ ดูเหมือนกับยามะจังคนเดิมต่างหากเคย์โตะพูดเสริม




    ยามะจังเมื่อได้ยินเพื่อนทั้งสองพูด ก็อมยิ้มแล้วเหงยหน้าขึ้นมา




    อื้อ ช่วงที่หายไป ชั้นเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง เลยคิดว่า กลับเป็นตัวของตัวเองน่ะ ดีที่สุดแล้วยามะจังยิ้มตอบเพื่อนทั้งสองอย่างร่าเริง



    นั่นสินะ! ว่าแต่ยามะจัง เมื่อกี้สุดยอดไปเลยอ่ะ! เห็นท่าทางของยัยนั่นมั๊ย สะใจชะมัด!” ชี่ยิ้มอย่างชั่วร้ายเมื่อนึกถึงสีหน้าของนานะ ตอนที่เห็นยูโตะหยิกแก้มยามะจัง



    ใช่ๆ โห ชั้นเงี้ย แบบโคตรสะใจอ่ะ!”



    เอ๋ จริงอ่ะ ชั้นไม่ได้ทำอะไรซักหน่อยยามะจังปั้นหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะ กระดกกระติกน้ำชาจนหมด เพื่อเป็นการปิดท้ายมื้อกลางวันของเขา



    ฮ้า~ อิ่มชะมัดเลย




    เพื่อนทั้งสองคนยิ้ม




    เฮ้อ ดีจังเลยน้า ที่ยามะจังเป็นแบบเนี้ยอ่ะ ไม่งั้นคงเป็นห่วงแย่เลยเคย์โตะเท้าคางพูด สายตามองที่เพื่อนตัวกลม



    ฮะๆ โทษทีนะ ไม่เป็นไรแล้วล่ะ



    ว่าแต่ ยามะจังจะเอาไงต่อไปล่ะชี่ถามขึ้นมาอย่างสงสัย นั่นสินะ จากนี้ไปต่างหากล่ะ



    ชั้นก็ยังไม่ได้คิดเลยอ่ะชี่ แต่ก็ไม่คิดจะอยู่เฉยๆหรอกนะยามะจังนั่งเซ็ง แล้วถอนหายใจอีกครั้ง



    โห ไม่เห็นต้องคิดเลยชี่ แค่แย่งยูโตะกลับมาก็จบ!” เคย์โตะเปลี่ยนท่านั่งเป็นไขว่ห้าง สองมือยกขึ้นกอดอก วางมาด นักคิดผู้ปราดเปรื่อง จนชี่ชายตามองอย่างหมั่นไส้



    นิ นายน่ะ พูดมันง่ายนะ แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ



    เอ่อ ก็เอ่อ คือ…” อดีตนักคิดผู้ปราดเปรื่องถึงกับจ๋อย



    ไม่ไหวเล้ย ให้ตายสิชั้นเป็นเพื่อนกับไอ้นักเรียนนอก ติงต๊องนี่ได้ไงนะ สงสารริวจังชะมัด

     




    ยามะจังนิ่งเงียบ ในหัวนั่งครุ่นคิดหาวิธี ดึงยูโตะให้กลับมา และตาสว่างเรื่องนานะซักที

     





    นี่ ไปกันเหอะ ^^” ยามะจังลุกขึ้นยืน รวบกล่องข้าวและกระติกน้ำขึ้นมาถือ มือข้างที่ว่าง ดึงแขนเพื่อนตัวเล็กให้เดินตามมาด้วย



    เอ๊ะ ไปไหนหรอยามะจังชี่ลุกขึ้นตามแรงดึงของเพื่อนรัก



    น่า ตามชั้นมาเหอะพูดจบก็ออกแรงดึงเพื่อนให้เดินตามไปด้วยทันที



    เฮ้ย! รอด้วย!!!” เคย์โตะ รีบรวบข้าวกล่องทั้งของตัวเองและชี่เก็บใส่กระเป๋าพร้อมกับรีบวิ่งตามไปทันที

     




    ทางด้านยูโตะกับนานะ




    เฮ้อ ดีจังเลยที่ยามะจังกลับมาแล้วเป็นห่วงแทบแย่แน่ะยูโตะพูดขึ้นหลังจากเก็บกล่องข้าวเสร็จ

    ทำให้นานะถึงกับสะดุ้ง



    เอ๊ะ นี่ยูโตะเป็นห่วงหมอนั่น เอ๊ย เรียวสุเกะคุงขนาดนั้นเลยหรอนานะพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แต่ยูโตะกลับไม่รู้สึกตัว แถมยังทำท่าทางเหม่อลอยอีกต่างหาก



    อื้อ เป็นห่วงมากเลยล่ะ ถ้าเค้าเป็นอะไรไปจริงๆ ชั้นคงทนไม่ได้ยูโตะพูดแล้วยิ้มกับตัวเอง




    นานะ แทบหักตะเกียบในมือทิ้ง ทำไม
    ! ทำไมเธอต้องให้ความสำคัญกับหมอนั่นด้วย! รักชั้นสิ!  ยูโตะ!




    ขณะที่นานะเตรียมจะอ้าปากขึ้นพูด คนที่เธอเกลียดสุดหัวใจก็โผล่ออกมา





    อ๊ะ ยูโตะ นี่ๆ เมื่อกี้ชั้นไปโรงอาหารมา เห็นไอติมรสโปรดของนาย ก็เลยซื้อมาให้น่ะ เอ้ายามะจังวิ่งเข้ามาอย่างเริงร่า ในมือถือไอติมอยู่สองโคน เมื่อพูดจบก็ยื่นไอติมโคนหนึ่งให้ยูโตะ ผ่านหน้าของนานะ



    จนทำให้หล่อนแทบคลั่ง



    อ๊ะ ขอบใจนะ ยามะจัง ดีใจจังเลย ^^” ยูโตะรับไอติมมากินด้วยสีหน้าดีใจ



    ชี่กับเคย์โตะที่เดินถือไอติมคนละข้างค่อยๆเดินตามเข้ามาที่หลัง



    ก็นึกว่าไปไหน ที่ไหนได้ ไปซื้อไอติมให้ยูโตะนี่เองชี่เลียไอติมแล้วยิ้มอย่างสะใจ



    นั่นสิ ยามะจังนี่ เอาเรื่องเหมือนกันแฮะอ้าว! เฮ้ย ชี่ อันนั้นมันของชั้นนะ! แล้วอันนี้อ่ะของนาย!”



    เฮ้ยจริงด้วย! เอามานะ!”



    อะไรนายนั่นแหละ! เอามา!”

     

    ทั้งสองตั้งท่าจะทะเลาะกันว่าใครกันแน่ ที่เป็นคนหยิบผิด



    ยูโตะ ก็เรียกพวกเขาสองคนให้ไปนั่งกินด้วยกันพอดี จนเป็นอันต้องหยุดไป



    เฮ้!! พวกนายสองคนมานั่งนี่สิ!”



    ทั้งสองเลยเดินเข้ามานั่ง โดยที่ได้ไอติมของตนกลับคืนมาแล้ว



    ทั้ง
    4 เริ่มลงมือ กินไอติมในมือกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่ดันมีเพื่อนร่วมโต๊ะอีกคนนึงไม่มีกินกับเขาบ้างน่ะสิ



    อ๊ะ นานะ โทษทีนะ ลืมซื้อมาให้เลย คือ ชั้นกลัวว่าเธอจะไม่ชอบของหวานน่ะยามะจังรู้สึกตัว และขอโทษขอโพยนานะ เป็นการใหญ่



    เอ่อ อืมนานะ พยายามปรับเสียงให้เป็นปรกติ แต่ในใจนี่สิ เธอคิดว่า เรียวสุเกะ กำลังหาเรื่องเธออยู่แน่ๆ



    เห ยามะจัง ไม่เห็นต้องพูดขอโทษเลยนี่นา ยัยนี่นอกคอกเองต่างหากชี่ทำเป็นพูดกลอกตา จนนานะ หันควับมาจ้อง อย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ



    พอเหอะน่าชี่ ชั้นบอกแล้วไงว่าอย่าพูดแบบนี้กับนานะอีกน่ะ ยูโตะเริ่มเอ็ดชี่



    เชอะ!” ชี่เองก็ไม่ได้สนใจจึงจัดการไอติมตรงหน้าของตัวเองต่อ


    .



    .



    .



    .



    .



    เออ ชี่ว่าแต่ของนายรสไรอ่ะเคย์โตะถาม เพราะเมื่อกี้ตนยังไม่ทันชิมก็ถูกเพื่อนตัวเล็กดึงกลับไปซะแล้ว



    อ๋อ สตอร์เบอรี่ชีสเค้กอ่ะ กินป่าวชี่พูดจบก็ยื่นให้เคย์โตะ เคย์โตะเขยื้อนหน้ามาชมนิดๆก่อนจะทำหน้าเบ้



    (ไม่เห็นอร่อยเลย
    =3=)




    ทำหน้างั้นมีปัญหาอะไร



    ป่าว ไม่มีไร



    ไม่วายหันไปทำตาดุใส่เพื่อนนักเรียนนอกของเขา



    แล้วยามะจังกินรสอะไรน่ะยูโตะ เลยถามขึ้นมาบ้าง เห็นสีมันดูน่ากินดี



    อ๋อ รส…” ยังไม่ทันที่ยามะจังจะตอบ ยูโตะก็ก้มลงมาเลียที่ไอติมของเขาซะแล้ว



    อ๊ะ เอ่อ
    .. ชะ ชั้นกินเข้าไปแล้วนะ… /////



    เห รสสตอร์เบอรี่โยเกิร์ตหรอ~” ยูโตะ ยิ้มให้นิดๆก่อนจะหันไปกินของตัวเองต่อ ยามะจังเมื่อเห็นอย่างนั้น ก็หน้าแดงออกมาอย่างช่วยไม่ได้




    ณ เวลานั้น นานะ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เรียวสุเกะ
    !!!!!!!!!



    หล่อนลุกขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บแค้น ก่อนจะเดินตึงตัง จากไป




    คอยดูเถอะ
    ! ชั้นจะทำให้นายไม่กล้า!!!!!!!




    ชี่กับเคย์โตะเมื่อเห็นท่าทีของนานะ แทบอดยิ้มอย่างสะใจออกมาไม่ได้




    อ้าว นานะไปไหนของเค้านะยูโตะชะเง้อมองไปทางที่นานะพึ่งเดินไปเพียงครู่เดียวก็หันกลับมากินต่ออย่างไม่ใส่ใจ





    .          ส่วนตัวยามะจังเองก็ไม่ได้ใส่ใจเหมือนกัน อันที่จริงเขาไม่ได้คิดจะทำอะไรนานะอยู่แล้ว ก็แค่อยากจะเอาใจยูโตะบ้าง อยากจะให้ยุโตะหันมาสนใจเขาบ้างเท่านั้น ส่วนนานะน่ะ มันก็แค่ผลพลอยได้

     



    …………..

     



     
    จำไว้เลยนะ เรียวสุเกะ!” นานะเอ่ย อย่างเคียดแค้น ทำไมกัน ทำไมเรื่องมันถึงเป็นแบบนี้! ในเมื่อ ชั้นทำลายมันไปแล้วนี่!!! แล้วนี่มันอะไรกัน!!!!!! แถมยังแผลงฤทธิ์ยิ่งกว่าเดิมอีก!!! แล้วทำไม! ทำไม!! ทำไมยูโตะถึงไม่สนใจชั้นเลย! มัวแต่สนใจไอ้หมอนั่น!!!!! เรียวสุเกะ!!!!!!!!!!
















    เธอต่างหากที่ต้องจำ…” เสียงปริศนาดังขึ้นด้านหลัง จนเธอตกใจ และหันกลับมาทันที




    นานะเบิกตาโพลง





    นะ นาย พี่ชายของเรียวสุเกะ



    ใช่ชั้นเอง ขอบคุณที่จำกันได้นะไดกิ เดินเข้าไปใกล้ๆนานะ สองมือเดินกอดอก ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเยือกเย็น



    นะ นายมีอะไร นานะเริ่มถอยหนี เมื่อไดกิเดินเข้าไปใกล้ขึ้น จนในที่สุดเธอก็จนมุม หยดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามใบหน้า



    ไดกิ หยุดเว้นระยะห่าง เมื่อเห็นนานะ จนมุมแล้ว



    ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่จะมาบอกว่า พวกชั้นรู้เรื่องของเธอหมดแล้ว แล้วก็รู้ด้วยว่าเธอจะทำอะไรรอยยิ้มยังไม่เลือนหายไปจากใบหน้าเด็กหนุ่ม ที่ได้ชื่อว่า พี่ชายของศัตรูของคนตรงหน้า



    นานะ หน้าซีดเล็กน้อย แต่ก็ทำเป็นไม่กลัวอะไร



    แล้วยังไงล่ะ! ถึงพวกนายจะรู้แล้ว ชั้นก็จะทำต่อไป!” นานะตั้งตัว แล้วเริ่มเผชิญหน้าอย่างไม่เกรงกลัว



    ไดกิเห็นอย่างนั้นก็ส่ายหัวไปมา



    ก็ไม่ยังไงหรอก แค่มาบอกเฉยๆน่ะ แล้วก็อีกอย่างนะ…” รอยยิ้มเริ่มเลือนหายไปจากใบหน้าของไดกิ



    เอื๊อก



    นานะกลืนน้ำลายลงคออย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้ เธอเป็นฝ่ายโดนไล่งั้นเหรอ
    !



    ชั้นบอกไปแล้วไง ว่าเธอ ทำอะไรไม่ได้หรอก



    พูดจบก็คลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตรอีกครั้ง ก่อนจะเดินจากไป





              นานะ ยังคงอึ้งอยู่ซักพัก เหงื่อกาฬเริ่มแห้งผาก ริมฝีบางเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง คิ้วขมวดกันจนชิดเข้าหากันเหมือนจะไม่สามารถแยกออกจากกันอีกได้




    ไม่! ยังไงยูโตะก็ต้องรักชั้น!”

     




    หลังจากออดดัง ทั้ง
    4 จัดแจงล้างมือ แล้วเดินขึ้นห้อง เพื่อเตรียมตัวเรียนอีกสองคาบก่อนจะถึงเวลาเลิกเรียน




    อ้าว นี่นานะยังไม่มาอีกหรอยูโตะเริ่มมองหานานะ เพราะเมื่อเข้าห้องมากลับไม่เจอเธอเลย ทั้งๆที่คิดว่าแอบขึ้นห้องมาก่อน



    หายไปไหนของเขานะ ยูโตะ ทำหน้าเครียดเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงกับที่




                ยามะจังเหลือบไปมองโต๊ะที่ว่างปล่าวของนานะเล็กน้อย ก่อนที่จะฉุกคิดอะไรบางอย่างก่อนจะหันหน้ากลับไป เปิดโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา




    โอ๊ย อย่าไปสนใจเลย เดี๋ยวก็กลับมาเองแหละ นี่มันก็เข้าเรียนแล้วนะชี่หงุดหงิดเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองชะงักชะเง้อหา ยัยนานะ นั่นอยู่ได้



    นั่นสิ เดี๋ยวก็เข้ามาเองแหละ อย่าไปสนใจให้มากเลยเคย์โตะก็ชักไม่สบอารมณ์แล้วเหมือนกัน จะห่วงอะไรกันนักกันหนานะ



    เอ่อ อืมยูโตะนิ่งไปซักพัก แล้วก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน



    คาบบ่ายผ่านไป จนถึง เวลาเลิกเรียน นานะก็ยังไม่กลับมาซักที



    เฮ้อ นี่ก็เลิกเรียนแล้ว นานะไปไหนนะยูโตะ เริ่มฉายแววกังวล ยามะจังเองก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยเหมือนแต่ก่อน จึงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก



    นายก็โทรหาสิยูโตะ ไม่มีเบอร์รึไง เคย์โตะที่เก็บกระเป๋าเสร็จแล้วเดินมาดึงมือถือจากกระเป๋ากางเกงเพื่อนตัวสูง ก่อนจะชูแกว่งไปมา



    เอ่อ ชั้นไม่มีเบอร์เค้าน่ะนั่นสิ ทำไมเราถึงไม่มีเบอร์นานะล่ะ! เอ๊ะ หรือว่าเราไม่ได้ใส่ใจกันนะ



    ห๊า นี่พวกนายเป็นแฟนกันประสาอะไรเนี่ย!” ชี่เอ่ย อย่างขัดใจ ไม่ได้อยากจะพูดคำนี้เลยนะเนี่ย



    อืม นั่นสิ ประสาอะไรนะยูโตะ ก้มหน้าพูดกับตัวเองเบาๆ



    ยามะจังที่พึ่งเก็บของเสร็จเหลือบไปเห็นนานะกำลังจะเดินเข้ามาในห้องพอดี



    อ๊ะ นั่นไงนานะ!” ยามะจังชี้นิ้วไปที่นานะ ทุกคนหันไปตามที่นิ้วเรียวสั่ง



    นานะไปไหนมา!” ยูโตะรีบวิ่งเข้าไปถามไถ่ จน เพื่อนทั้งสองหมั่นไส้ จึงทำเป็นเมินไปทางอื่น




    แต่ยามะจังกลับยืนมองด้วยสีหน้าเรียบๆ เฮ้อ ซักวันเราคงเป็นอย่างนั้นบ้างสินะ




    นานะ ไปไหนมาหรอ หายไปเลยน่ะ



    อ๋อ พอดีคิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ พอรู้สึกตัวอีกทีก็เลิกเรียนซะแล้วนานะเอ่ยตอบยิ้มๆ แต่สายตากลับมาไม่ยิ้มเท่าไหร่น่ะสิ



    อ๋อ เหรอ มีไรบอกได้นะยูโตะ ลูบหัวนานะ นิดๆก่อนจะหมุนตัวกลับ แต่ทว่า






              นานะ ดึงยูโตะให้หมุนกลับมาที่ตนอีกครั้ง ก่อนจะสวมกอดที่ร่างสูงของยูโตะ จนเพื่อนทั้งห้องตกใจ กับเหตุการณ์ตรงหน้า ไม่เว้นแต่ยามะจัง




    ยูโตะอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะลูบๆหลังอย่างเขินๆ




    นานะกอดยูโตะแน่น ก่อนจะจิกสายตาไปที่ยามะจังที่ยืนมองหน้าเครียดอยู่

     

     




    หึ ชั้นไม่มีทางแพ้นายหรอก เรียวสุเกะ

     






              ยามะจังเมื่อ เห็นสายตาของนานะที่ มองมายังตน ก็เข้าใจในความหมายของสายตานั้นทันที ก่อนจะตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว

     






    ชั้นต่างหาก ที่ไม่มีวันแพ้เธอ นานะ

     




    To be con…


    โอ้วว สะจาย ฮ่าๆ ดุเดือดเล็กน้อย อิอิ เรียวจังไม่ร้ายนะ แค่คิดแต่ว่า จะทำยังไงให้ยูโตะมารักตัวเองเหมือนเดิมเท่านั้นเอง ต่างกับนานะ ที่พยายามจะทำลายเรียวจังให้ได้ หึหึ แต่เรียวจังก็ไม่ยอมแพ้หรอกนะ อ๊ากกก เรียวจังสู้
    !!! ว่าแต่ ชอบตอนพี่ไดกิงออกจัง อิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×