[FIC] Boyfriend [DH x MW] Cause your shine - เพราะเธอ - [FIC] Boyfriend [DH x MW] Cause your shine - เพราะเธอ นิยาย [FIC] Boyfriend [DH x MW] Cause your shine - เพราะเธอ : Dek-D.com - Writer

    [FIC] Boyfriend [DH x MW] Cause your shine - เพราะเธอ

    เมื่อความซวยนำพาให้เจอกับความโชคดี

    ผู้เข้าชมรวม

    86

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    86

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 ก.ค. 57 / 11:25 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เป็นแฟนฟิค ของ Boyfriend นะ เรื่องนี้แต่งนานแล้ว แต่รู้สึกว่าปัจจุบัน image ของวงเริ่มเปลี่ยนไป ยังไงก็ช่วยให้คำแนะนำด้วยนะครับ
    นิยายแฟร์ 2025
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      “วันซวยอะไรของฉันเนี่ย งานก็พรีเซ็นต์ไม่ผ่าน ร้านเหล้าร้านประจำก็ปิด โถ่เอ๊ยยยย!!!” วันอะไรกันของฉันเนี่ย!

      “อ้าวเฮ้ย!

      ปริ๊นนนนนน!!!!    เอียดดดดดดด!!!!! (จินตนาการว่าสองอย่างนี้เกิดขึ้นพร้อมกันนะ)

      “โถ่เว้ย!! วิ่งตัดหน้าเดี๋ยวก็ไม่ได้ตายดีหรอก!!!” ร่างในรถสบถพลางปลดเข็มขัดนิรภัยและลงมาดูร่างที่สลบอยู่ตรงพื้นถนน

      ทันทีที่เดินมาที่หน้ารถของตน ก็พบกับร่างที่โดนไฟหน้ารถส่องนอนสลบอยู่ เขาจึงรีบโถมตัวเข้าไปเพื่อดูอาการ

      “..........” คนอะไรน่ารักสุดๆอ่ะ เกิดมาจะ 23 ปี เพิ่งเคยเห็น ขอบคุณสวรรค์

      “เฮ้ย! คุณๆๆ เป็นอะไรหรือเปล่า”

      “..........” ร่างบางนอนนิ่ง มีเพียงการเคลื่อนขึ้นลงของหน้าอกที่ทำให้เขาทราบว่าร่างเล็กยังคงมีชีวิตอยู่

      “หวังว่าจะไม่ได้มีอะไรกระทบกระเทือนนะ วันซวยสุดๆของฉันจริงๆซะนะ!” เมื่อไม่มีการตอบรับ เขาจึงตัดสินใจนำร่างที่สลบอยู่ขึ้นรถ ก่อนที่จะมีรถยนต์คันอื่นผ่านมา

       

       

      แกร๊ก!

      “อุ้มอยู่แบบนี้จะเสียบคีย์การ์ดยังไงหล่ะทีนี้” เขาจึงเดินอุ้มร่างเล็กที่ยังโซฟากลางห้อง

      “เฮ้ยยยยยย” แต่ด้วยความมืดของห้องทำให้เขาสะดุดพรม

      “เกือบไปแล้วนะเนี่ย”

      .............

      “เป็นไงบ้างครับหมอ?!” เขารีบถามทันทีที่หมอถอดเครื่องช่วยฟังออก

      “คนป่วยไม่ได้เป็นอะไรมากครับ แค่สลบ อาจจะเพราะตกใจเฉยๆ แต่ตอนนี้เหมือนจะเพลียหมอเลยให้ยาไป ตอนนี้นอนหลับอยู่ ^^ เดี๋ยวหมอขอตัวนะครับ”

      “ขอบคุณครับหมอ” แล้วบ้านเราอยู่ไหนหล่ะตัวเล็ก ที่อยู่ก็ไม่มีบอก งั้นคืนนี้ก็ไปพักกับเราก่อนก็แล้วกันนะ

      “อ้าว! ถ้าพักที่นี่แล้วเราจะนอนไหนอ่ะเนี่ย ห้องก็มีห้องเดียว”

      .............

      “เฮ้ออออ นอนไม่หลับเว้ย!! เพิ่งรู้ว่าการนอนโซฟามันไม่ได้สบายตัวเลยซักนิดอ่า” หลังจากที่เขามอบเตียง

      z z Z Z” ในห้องนอนที่ไม่ได้ปิดประตูห้องไว้เพราะกลัวเกิดอะไรขึ้นนเขาจะได้เข้าไปทัน มีเสียงของการพลิกตัวไปมาของร่างที่นอนอยู่บนเตียง

      “พลิกตัวบ่อยจัง เป็นอะไรหรือเปล่านะ ไปดูซักนิดหนึ่งก็แล้วกัน” ว่าพลางเดินเข้าไปในห้องที่มีเพียงแสงดวงจันทร์ส่องมาจากระเบียงให้พอเห็น

      “นายเป็นอะไรหรือเปล่าอ่ะ” ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไรก็โดนร่างบนเตียงดึงลงไปกอด

      “มิกกี้...... ไปไหนมา นอนไม่หลับเลยอ่ะ ถ้าหายอีกคราวนี้จะงอนมิกกี้ตลอดเลยนะ”ว่าพลางเอาหน้าซุกกับหน้าอกของคนที่โดนดึงลงไปนอน ที่ได้แต่นอนแน่นิ่งไม่ขยับตัว

      “เอ่อออ...นายๆ ผมไม่ใช่มิกกี้ของคุณนะครับ”

      “ฟรี๊........” อ้าวหลับสนิทเลยทีนี้ เขาจึงเอามือที่พาดอยู่ออกแล้วจัดท่าทางให้อีกคนนอนในท่าที่สบาย  แต่ยังไม่ทันที่จะลุกขึ้นก็โดนแขนเดิมพาดกลับมาแถมมีขามาทับอีก

      “นายนอนหลับ แต่ผมหลับไม่ลงนะครับ” ตาของเขาสว่างกว่าตอนที่นอนบนโซฟาซะอีก

      “อ๊ากกกกก กี่โมงแล้วเนี่ย ตายแล้วๆ วันนี้เวรทำอาหารเช้าของเรานี่หว่า เดี๋ยวฮยอนซองฮยองว่าแน่ๆเลย” ร่างเล็กว่าพลางลืมตาขึ้นและกำลังจะผุดตัวลุกขึ้นแต่ว่ามือของเขาอยู่ใต้ร่างของใครอีกคน

      “ย๊ากกกกก!!!!!” และตัวของเขาอยู่ภายใต้อ้อมแขนของอีกคน

      “เสียงดังอะไรเนี่ย ขอนอนอีกหน่อยนะ หมอนข้างทำไมหนักกว่าเดิมอ่ะ” คนที่กอดตัวเขาอยู่ยังคงนอนขี้เซาพร้อมกับกระชับอ้อมกอดเข้าให้แน่นมากยิ่งขึ้น ก่อนจะปรือตาขึ้นมาสบตากับอีกคนที่ตาตื่นอยู่

      “เฮ้ย! คนที่ตัวโตกว่าดึงแขนกลับมาจากอ้อมกอดที่ เขายังไม่อยากละจากมันเลย

      “นาย!!!!!” ไม่ว่าเปล่าร่างเล็กถีบขาคู่เข้าเต็มแรง

      “โอ้ย!” คนที่โดนถีบตกเตียงอย่างแรงแถมด้วยอาการจุกจนร้องอะไรไม่ได้เลย

      “นายเป็นใครมาทำอะไรทีนี่ แล้วกอดฉันด้วย นายๆๆๆๆ นายทำอะไรกับตัวฉัน” พอถีบเสร็จร่างเล็กก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดตัวไว้

      “เอ่อ นายดูรอบๆห้องก่อนดีมั้ยว่าที่นี่ที่ไหน อีกอย่างเมื่อคืนนายวิ่งตัดหน้ารถฉันแล้วนายก็สลบไป ฉันก็เลยต้องพานายมาที่ห้อง เพราะฉันไม่รู้ว่าจะไปส่งนายที่บ้านยังไงดี....โอ๊ย!” ร่างที่โดนถีบลุกขึ้นแต่ก็ต้องกุมท้ายทอยเพราะเจ็บ

      “เอ่อ....ผมขอโทษนะครับ...เฮ้ย! เลือด! เมื่อกี้หรอ ผมขอโทษนะ” ร่างเล็กว่าพลางคลานจากอีกฟากของเตียงไปดูท้ายทอยของคนที่โดนถีบ

      “ไม่เป็นไรหรอก แผลแค่นี้เอง เดี๋ยวใส่ยาก็หาย”

      “ผมเป็นคนทำคุณเจ็บนะ กล่องยาอยู่ที่ไหนอ่ะ เดี๋ยวผมไปเอายามาใส่ให้” ร่างเล็กว่าพลางเอามือปิดเลือดที่ซึมออกมาจากท้ายทอยของอีกคน

      “อยู่ในตู้ข้างๆทีวีกลางห้องอ่ะ”

      “งั้นคุณไปข้างนอกดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมประคอง”

      “แผลแค่นี้เองฉันเดินได้หน่ะ ไม่ต้องประคองหรอก” เด็กคนนี้เวอร์ไปมั้ย แผลแค่นี้เอง ประคองอย่างกะคนป่วยหนัก

      “ไม่เป็นไรครับ ป่ะ” ไม่พูดเปล่าร่างเล็กเอามือมาประคองให้อีกคนเดินไปที่กลางห้องที่มีโซฟาวางอยู่ เสร็จแล้วก็รีบเคลื่อนตัวไปหากล่องยา

      “ดีนะครับที่แผลไม่ใหญ่มาก^^” อ๊ากกกเด็กคนนี้ยิ้มแบบนี้แล้วน่ารักยิ่งกว่าเดิมซะอีก

      “เอ่อ....ครับ” ผมจะละลายแล้วนะครับ

      “ต้องรบกวนทั้งคืนแถมยังไปแย่งที่เตียงของคุณอีก ต้องขอโทษด้วยนะครับ” ว่าพลางเอาผ้ากร๊อซมาปิดแผล

      “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมชื่อดงฮยอนนะ คิม ดงฮยอน นายชื่ออะไรหรอ”

      “มินวูครับ โน มินวู  ^^” ยิ้มอีกแล้วๆๆๆ อ๊ากกจะละลาย

      “......” ดงฮยอกำลังมองใบหน้าของมินวูยอู่

      “ขอบคุณนะครับคุณดงฮยอน คุณดงฮยอน คุณดงฮยอน!

      “อะ...อือๆ ดูนายยังเด็กอยู่เลย ยังเรียนมัธยมอยู่ใช่มั้ย” ดงฮยอนตะกุกตะกักเมื่อตั้งสติได้

      “ใช่ครับ ^^ ผมเรียนมัธยมปลายแล้วครับปี 2 ครับผม” รอยยิ้มของมินวูที่ส่งออกมาทำให้ดงฮยอนแทบไม่อยากที่จะละสายตาออกมาเลย

      “........”

      “คุณดงฮยอนครับ มันกระทบกระเทือนสมองแน่ๆเลยอ่ะ คุณดงฮยอนเบลอตลอดเลย”

      “ไม่ใช่ๆๆ” ดงฮยอนรีบตอบทั้งปัดไม้ปัดมือพัลวัน

      “ว่าแต่ว่าทำไมตานายบวมขนาดนี้หล่ะ มินวู” ดงฮยอนสังเกตเห็นดงตาของมินวูที่คิดว่าตาของคนเราไม่น่าจะบวมได้ขนาดนี้

      “คือ...ผม...คือ...”

      “ไม่เป็นไรหรอกถ้านายไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร ฉันคงอยากรู้เกินไปเองแหละ อย่าคิดมากนะ”

      “คะ...ครับ” มินวูเริ่มน้ำตาคลอเบ้าอีกแล้ว สงสัยตาที่บวมจะเป็นเพราะร้องไห้หนักหล่ะมั้ง

      “ว่าแต่มินวู บ้านนายอยู่ที่ไหนหรอ ฉันจะได้ไปส่ง ที่บ้านนายคงเป็นห่วงมาก”

      “จริงด้วย! ฮยอนซองฮยองดุแน่ๆเลย นี่กี่โมงแล้วครับ” มินวูพืมพำกับตัวเองก่อนจะปาดน้ำตาแล้วหันหน้ามาถามดงอยอน

      “ก็เกือบเก้าโมงแล้วอ่ะ ว่าไงบ้านนายอยู่ที่ไหนฉันจะได้ไปส่ง”

      “ไม่เป็นไรดีกว่าครับ แค่นี้ผมก็รบกวนคุณมามากแล้ว อีกอย่างคุณดงฮยอนมีแผลด้วยพักผ่อนดีกว่าครับ” มินวูปฏิเสธดงฮยอนที่จะไปส่งที่บ้าน

      “เมื่อกี้ตอนที่ไปเอากล่องยา เห็นนามบัตรของคุณด้วย ผมขอแล้วกันนะครับ ไว้ผมจะเลี้ยงตอบแทนคุณดงฮยอนนะครับ ผมต้องรีบไปแล้วหล่ะครับ” มินวูว่าพลางวิ่งไปที่หน้าประตูห้องของดงฮยอน

      “มินวูอย่าลืมมาเลี้ยงขอบคุณฉันหล่ะ”

      “ครับ!

      “เด็กคนนี้น่ารักดีจังเลย อิอิ” ดงฮยอนว่าพลางเดินไปที่ห้องนอนของตน

      “อ้าวเฮ้ย! กระเป๋าตังค์ของใครหล่ะเนี่ย” ดงฮยอนถือวิสาสะเปิดดูพบกับรูปของเด็กที่ชื่อมินวู ถ่ายคู่กับผู้ชายที่น่าจะวัยไล่เลี่ยกัน

      “เฮ้ออออ มีแฟนแล้วหรอเนี่ยนาย อย่างงี้ฉันก็อดซิ” ดงฮยอนว่าพลางวางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะข้างเตียงก่อนจะนอนหลับไป

       

      แกร๊ก!

      “อ้าวฮยอนซองฮยองไม่ได้ล็อคบ้านหรอเนี่ย? เอ๊ะ! รองเท้าใครเนี่ยไม่คุ้นเลย” มินวูค่อยๆย่องเข้าไปในบ้านพบกับฮยอนซองลงมาจากชั้น2

      “ไปไหนมา!!” ฮยอนซองมีท่าทางโกรธๆด้วย

      “เอ่อ....นอนบ้านเพื่อนอ่ะครับ” มินวูว่าพลางเกาหัว แก้ต่าง

      “มาก็ดีละ ทำอาหารให้หน่อยซิ จองมินไม่สบายเลยมานอนที่นี่ ^^” ผิดคาดแฮะ ฮยอนซองฮยองเปลี่ยนไป

      “งั้นเอาข้าวต้มกุ้งนะ”

      “^^” ฮยอนซองไม่ตอบแต่เดินกลับขึ้นไปชั้นสองตามเดิม

      “รอดไปเลยเรา ^^

       

      “ข้าวต้มกุ้งๆๆๆ ^^” มินวูเตรียมเครื่องไป ยิ้มไปอย่างมีความสุข

      “ข้าวขาวดีจังเลยอ่ะ เอ๊ะ เขาคนนั้นก็ขาวนะ -////-“ เอ๊ะแล้วเรามาคิดถึงเขาคนนั้นได้ไงอ่ะเนี่ย มินวูว่าพลางเขกหน้าผากตัวเอง

      ก๊อกๆ

      “เข้ามา!

      “มินวู!

      “ครับ ^^ ผมทำข้าวต้มกุ้งมาให้จองมินฮยองครับ”

      ...........

      “เฮ้อ....ไปอาบน้ำแต่งตัวไปชวนสองแฝดไปเที่ยวดีกว่า”

       

      “หนึ่งอาทิตย์แล้วนะ มินวูน้อยคงลืมไปแล้วแน่ๆเลย เฮ้อ คงอยู่กับแฟนซินะ” ดงฮยอนว่าพลางนั่งมองปฏิทินบนโต๊ะทำงานพร้อมกับมองดูนาฬิกาที่บอกเวลาพักกลางวัน แต่เขายังไม่อยากออกไปทานข้าว เพราะตอนนี้พนักงานคงจะกำลังออกไปทานข้าวกัน ถ้าออกไปคงจะไปแย่งที่พวกลูกน้องแน่ๆเลย

      “กระเป๋าตังค์ก็อยู่กับเรา แล้วไม่คิดจะเอากระเป๋าตังค์คืนเลยหรอเนี่ย” ดงฮยอนว่าพลางดูกระเป๋าตังค์ของมินวูในมือของตนที่รูปภาพในกระเป๋าโชว์รูปของมินวูกับใครอีกคน ที่มองกี่ทีก็อดอิจฉาไม่ได้ เขารู้สึกว่าเวลามองดูรูปภาพที่มินวูยิ้มทีไร เขาดูมีความสุข และอยากเห็นรอยยิ้มแบบนี้ไปตลอดเลย

       

       

       

      ครืดดดดด ครืดดดดด

      “เอ๊ะ! ใครโทรมาตอนนี้นะเนี่ย เบอร์ที่ไม่รู้จักซะด้วยซิ” ดงฮยอนว่าพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิจารณาอยู่ซักครู่ก่อนจะกดรับ

      (สวัสดีครับ) เสียงนี้ๆๆๆ มันเสียงของน้องมินวูที่น่ารักคนนั้นนี่หน่า

      “อะ...เอ่อ...สวัสดีครับ” ดงฮยอนตอบแบบตะกุกตะกัก

      (ใช่คุณดงฮยอนหรือเปล่าครับ) เสียงของมินวู ยังน่ารัก ถ้าเจอหน้ากันจะน่ารักขนาดไหนเนี่ย

      “ใช่ครับ...แล้ว.”

      (ผมมินวูนะครับ ที่คุณดงฮยอนเคยช่วยเอาไว้วันนั้นหน่ะครับ) ยังไม่ทันที่ดงฮยอนจะได้ถามกลับ มินวูก็แนะนำตัวเสร็จสรรพ

      “อ่อ.. จำได้อยู่แล้วหล่ะนะ ว่าแต่ว่าโทรมาวันนี้มีอะไรหรือเปล่าเอ่ย” ดงฮยอนไม่ได้สังเกตตัวเองเลยนะว่า กำลังยิ้มจนแก้มแทบปริ

      (คือว่า ผมอยากจะขอนัดคุณดงฮยอนเพื่อเลี้ยงตอบแทนที่คุณเคยช่วยผมไว้นะครับ)

      “อ่อ ได้ซิ วันไหนดีละ” ว้าวๆๆ จะได้เจอกันแล้วๆๆ ^^

      (คือ ถ้าเป็นวันนี้ที่ร้าน.....ตอนประมาณ หกโมงเย็นพอจะว่างมั้ยครับ)

      “วันนี้หรอ...อืม...วันนี้ตอนบ่ายมีประชุมตอนบ่าย” ดงฮยอนดูตารางเวลาของวันนี้ และกลัวว่าจะไม่สามารถรับนัดได้เพราะว่า กลัวประชุมเสร็จช้า จะทำยังไงดีหล่ะ อยากเจอเจ้าตัวเล็กที่แสนน่ารักมากๆเลยด้วย

      (อืมมม งั้นไม่เป็นไรก็ได้ครับ ไว้คุณดงฮยอนว่างค่อยนัดใหม่ก็ได้ครับ) เสียงของมินวูดูเศร้าลงจนดงฮยอนไม่กล้าจะปฏิเสธได้เลย

      “ไม่ๆๆๆ ไม่ได้นะ! วันนี้ๆๆ แล้วมินวูจะไปที่ร้านยังไงหล่ะ ให้ไปรับมั้ย..โอ๊ย!” ดงฮยอนรีบตอบพัลวันพร้อมกับลุกขึ้นมาจนขาชนกับขอบโต๊ะ

      (ฮ่าๆๆ ขอโทษที่เสียมารยาทครับ คุณดงฮยอนเป็นอะไรเปล่าครับ ร้องเสียงดังเชียว)

      “ไม่เป็นไรๆ สบายมาก ว่าแต่จะให้ผมไปรับที่ไหนดีหล่ะ” ดงฮยอนถามซ้ำ

      (ไม่เป็นไรดีกว่าครับ เจอกันที่ร้านเลยก็ได้)

      “อะ..อืมๆ”

      (งั้นเจอกันที่ร้านหกโมงเย็นนะครับ...กริก) วางสายไปแล้ว

      “เย้ๆๆ เย็นนี้จะได้เจอมินวูแล้วซินะ”

      กริ๊ง! “บอสค่ะ อีกสิบนาทีประชุมนะค่ะ”

      “ขอบใจนะ” “ต้องรีบประชุมให้เสร็จเร็วๆแล้วซินะเราจะได้รีบไปเจอมินวู^^

       

      “เรามาถึงก่อน ครึ่งชั่วโมงเลยหรอเนี่ย”มินวูเดินมาถึงหน้าร้านอาหารที่นัดกับดงฮยอนเอาไว้ จึงเดินเข้าไปในร้าน

      ........

      “หกโมงเย็นแล้วนะ ทำไมคุณดงฮยอนยังไม่มาเลยอ่ะ” มินวูมองดูนาฬิกาครั้งแล้วครั้งเล่า แก้วโกโก้ร้อนที่ตอนนี้เหลือโกโก้ที่ก้นแก้วเพียงเล็กน้อย

      “หกโมงครึ่งแล้วนะ - -

      “รับอะไรเพิ่มมั้ยค่ะ^^” พนักงานประจำร้านเดินมาถามเขาเพื่อรับเมนูหลายครั้งแล้ว แต่มินวูยังไม่ได้สั่งอะไรเลย นอกจากโกโก้ร้อนที่เพิ่งสั่งไปตอนครึ่งชั่วโมงที่แล้ว

      “เอ่อ....เพื่อนที่นัดไว้ยังไม่มาอ่ะครับ อีกซักครู่คงมาถึงแล้วหล่ะครับ ^^

      “ค่ะ ^^” แล้วคุณพนักงานก็เดินไปรับเมนูอาหารจากโต๊ะอื่นต่อและมีอีกหนึ่งคนเข้ามาแทนที่

      “ดอกไม้ขอโทษนะครับ ที่ต้องให้น้องมินวูรอนาน^^” ชายหนุ่มผิวขาว ยื่นช่อดอกไม้ให้กับมินวู  แต่มินวูกลับอึ้งกับภาพชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาเห็นที่ดูหล่อมากๆในชุดทำงาน

      “มินวูครับ รับดอกไม้จากผมหน่อยซิ มันเขินอ่ะ แฮะๆ” มินวูสังเกตเห็นดงฮยอนมีสีหน้าที่แดงมากขึ้น จึงรับดอกไม้มาจากมือของดงฮยอน

      “ขอบคุณนะครับ^^” ดงฮยอนเองก็สังเกตเห็นว่ามินวูมีอาการเขินอายอยู่

      “รอผมนานมั้ย ต้องขอโทษจริงๆนะที่มาช้า ที่ทำงานประชุมยืดเยื้อไปหน่อย”

      “ไม่เป็นไรครับผมเพิ่งมาถึงก่อนหน้าไม่นานเท่าไหร่เอง^^” ทุกคำตอบของมินวู จะแนบมาด้วยรอยยิ้มที่ทำให้คนมองไม่อยากละสายตาไปจากมันได้

      “เอ่อ...คุณดงฮยอนครับ มองอะไรอยู่หรอ” มินวูเริ่มลูบตามใบหน้าเพื่อหาสิ่งผิดปกติบนใบหน้าที่อาจทำให้ดงฮยอนมองใบหน้าของเขา

      “เอ่อ...เปล่าๆๆครับ เราสั่งอาหารกันดีกว่านะ ผมเป็นคนมาช้า ผมจะเป็นคนเลี้ยงเองนะ มินวูอยากกินอะไรสั่งได้เลยนะ^^

      “แต่ว่า ผมจะเลี้ยงขอบคุณคุณ.”

      “นะครับมินวู ให้ผมเป็นคนเลี้ยงมินวูนะ^^” น้ำเสียงอ้อนแบบนี้ทำให้มินวูยอมใจอ่อน

      “ก็ได้ครับ” ทันทีที่ดงฮยอนได้ยินก็เรียกพนักงานมาเพื่อรับเมนูอาหาร การทานอาหารดำเนินไปเรื่อยๆ

      “อ้อ! ใช่ๆ นี่ของมินวูหรือเปล่าครับ?” ดงฮยอนยื่นกระเป๋าตังค์ให้กับมินวู

      “ใช่ครับ^^ ดีจังนึกว่าหายตอนกลับจากบ้านคุณดงฮยอนผมเลยไม่ได้ตามหาอ่ะครับ” มินวูรับกระเป๋าไปพร้อมกับเปิดดูของภายใน

      “ต้องขอโทษนะที่เปิดดูโดยไม่ได้ขออนุญาต คือรูปในกระเป๋าที่มินวูถ่ายกับแฟนหน่ะ ดูมินวูมีความสุขมากๆเลย แล้วมินวูมาทานข้าวกับผมแบบนี้แฟนของมินวูไม่ว่าอะไรหรอ” ดงฮยอนเข้าประเด็นที่ค้างคาใจเขาทันที

      “ฮ่าๆๆๆ ไม่ใช่หรอกครับ คนในรูปอ่ะคือฮยอนซองฮยองครับเป็นพี่ที่เป็นลูกติดของคุณพ่ออ่ะครับ ^^

      (ให้ตายเหอะเวลาจะพูดอะไรเนี่ยยิ้มตลอดแบบนี้เลยหรือเปล่าอ่ะ เห็นใจคนมองหน่อยซิ มันจะระเบิดแล้วนะ)

      “จริงหรอ! .... งั้นมินวูก็โสดใช่มั้ย” ดงฮยอนโพล่งขึ้นเสียงดังจนมินวูต้องรีบเอามือมาปิดปากดงฮยอนไว้

      “เสียดังไปนิดนะครับ^^” แหมจะเป็นการดุนิดหน่อยจากมินวูแต่ด้วยรอยยิ้มที่ส่งมาทำให้ดงฮยอนยิ่งรู้สึกว่าคนตรงหน้าน่ารักมากๆเลย

      “คำตอบหล่ะ?” ดงฮยอนลุ้นคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

      “ตอนนี้เรียกว่าโสดได้แล้วหล่ะมั้ง” มินวูตอบดงฮยอนพลางหันไปมองด้านนอกของร้านนัยน์ตาที่เศร้าหมองและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ทำให้ดงฮยอนรู้ได้ทันทีว่า เขาได้ถามคำถามที่ทำร้ายมินวูไปแล้ว

      “เอ่อ...มินวูครับ...ขอโทษนะที่ทำให้มินวูรู้สึกแย่” มินวูได้ยินจึงรีบหันกลับมาพร้อมกับส่ายหน้าเหมือนเครื่องจักรรวน

      “ไม่ๆๆครับ ไม่เป็นไร ผมไม่เป็นไรแล้วหล่ะ คุณดงฮยอนสบายใจได้นะครับ^^”รอยยิ้มของมินวูกลับมาอีกครั้ง

      “งั้น....มินวูจะว่าอะไรมั้ยถ้า พี่จะขอจีบมินวู” ดงฮยอนพูดพลางมองมินวูด้วยสายตาที่แน่วแน่พร้อมกับรอคำตอบ

      “ครับ...หา!!!เมื่อกี้คุณดงฮยอนบอกว่าอะไรนะครับ” มินวูสะดุ้งลุกขึ้นตะโกนเสียงดังลั่นทั้งร้าน แต่ดงฮยอนไม่ได้ว่าอะไรแถมยังทำท่าแสดงอาการดีใจออกนอกหน้า(จินตนาการแบบว่ากำปั้นไว้แน่นๆแล้วทำเสียง yesอ่ะ อธิบายไม่ถูก)

      “มินวูอนุญาตแล้วนะ ต่อไปมินวูห้ามเรียกผมเอ๊ย! พี่ว่า คุณดงฮยอนนะ” มินวูที่ตกใจอยู่ นั่งลงพร้อมกับหน้าที่เริ่มแดง

      “แล้วจะให้มินวูเรียกว่าอะไรอ่ะครับ” มินวูที่ตอนนี้ก้มหน้ามองดูจานเปล่าที่ว่างอยู่จนจะทะลุปรุโปร่งไปถึงพื้นแล้ว

      “ขอโทษนะค่ะ อาหารที่สั่งมาเสิร์ฟแล้วค่ะ” ทั้งโต๊ะเงียบไม่มีเสียงใดๆนอกจากดงฮยอนที่ยิ้มแก้มปริอยู่ส่วนมินวูก็ก้มมองจานที่ตอนนี้มีอาหารวางอยู่บนโต๊ะแล้ว

      “ถ้าตอนนี้เรียก”ยอโบ” ไม่ได้ก็เรียก ดงฮยอนฮยองไปก่อนละกันนะ” ดงฮยอนพูดไปยิ้มไป และสังเกตว่าใบหน้าของมินวู เปลี่ยนเป็นสีแดงยังกับสตรอเบอร์รี่(อยากกิน)

      “คะ...คะ..ครับ ดงฮยอนฮยอง” มินวูยังคงก้มหน้าต่อไป

      “มินวูครับ ทานข้าวกันเหอะ อาหารน่ากินทั้งนั้นเลย” หลังจากบทสนทนาเมื่อครู่ ที่มินวูเขินจนทำอะไรไม่ถูกก็โดนดงฮยอนชวนคุยนั่นนี่ จนมินวูผ่อนคลายแล้วเหตุการณ์บนโต๊ะอาหารก็เป็นไปด้วยดี บทสนทนาเริ่มมีเสียงหัวเราะ รอยยิ้มของมินวูกลับมา ดงฮยอนก็พลอยยิ้มไปด้วย

      “มินวูครับ ให้ฮยองไปส่งที่บ้านนะ เย็นแล้วอากาศก็หนาวแล้วด้วยอ่ะ” ดงฮยอนขอมินวูไปส่งที่บ้านหลังจากออกจากร้านอาหาร ตอนแรกดงฮยอนจะชวนมินวูไปทานเค้กต่อแต่ว่า อาหารที่เจ้าตัวสั่งมาเยอะมากจนอิ่ม ทำให้ไม่ได้ทานเค้ก และมินวูบอกว่าหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ฮยอนซองจำกัดเวลาให้มินวูกลับบ้านก่อนสองทุ่ม ทำให้ดงฮยอนต้องยอมแต่โดยดี รถยนต์เคลื่อนตัวออกจากห้างที่ดงวูมาทานอาหารกัน

      “อะ..อ่ะ...อืมครับ ก็ได้ครับ มินวูขอโทษนะที่ไม่ได้ไปกินเค้กตามที่ดงฮยอนฮยองชวนอ่ะ”

      “ไม่เป็นไรหรอกนะมินวู อย่าคิดมากวันหลังก็ไปกินได้ ^^ ทำไงได้หล่ะเนอะ ก็จะเป็นน้องเขยของบ้านหลังนี้ก็ต้องเชื่อฟังพี่เข้าไว้ เดี๋ยวเกิดหวงน้องขึ้นมาหล่ะก็ฮยองทำไงหล่ะ” ดงฮยอนพูดพลางหันมายิ้มให้มินวูอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะจอดรถที่หน้าบ้านมินวู

      “ถึงบ้านแล้วนะครับ”

      “ขอบคุณครับ” มินวูลงจากรถ กำลังจะเดินเข้าบ้าน ดงฮยอนรีบตามมินวูมาหยุดยืนที่หน้าบ้านพร้อมกับจับมือมินวูไว้

      “นี่คือจุดเริ่มต้นนะครับ ฮยองจะไม่ทำให้มินวูเสียใจ เปิดโอกาสให้ฮยองหน่อยนะ เพราะต่อไปนี้ฮยองจะเดินเครื่องจีบมินวู เต็มที่เลยนะ”

      “บะ..บ้าหรอฮยองพูดอะไรก็ไม่รู้ไม่ฟังแล้ว” มินวูเบนหน้าหนีจากสายตาของดงฮยอน ยิ่งทำให้ดงฮยอนเห็นใบหน้าของมินวูที่แดงระเรื่อด้วยความเขิลชัดขึ้น

      “ขอกอดทีหนึ่งนะ” ยังไม่ทันได้ยินคำตอบ ดงฮยอนก็รวบเอามินวูมากอดไว้แน่น มินวูไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยืนอึ้งอยู่

      “ทำอะไรกันหน่ะ!!” เสียงหนึ่งตะโกนมาจากในบ้าน พอดงฮยอนหันไปดูก็พบกับชายที่เขาเคยเห็น

      “เอ่อ...แฮะๆ สวัสดีครับคุณฮยอนซอง ผมคิม ดงฮยอนนะครับ ต่อไปนี้จะจีบมินวูคนนี้(ไม่พูดเปล่าดงฮยอนหันไปมองมินวู มินวูก็หันมามองดงฮยอนแบบตกใจเหมือนกัน ทำให้ต้องรีบละสายตาจางดงฮยอนไปก้มหน้ามองพื้นดินเขิลๆ) คุณฮยอนซองให้โอกาสว่าที่น้องเขยคนนี้ด้วยนะครับ” ดงฮยอนพูดพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ

      “มินวู! เข้าบ้านป๊าโทรมาบอกว่าให้มินวูโทรกลับ อ่อคุณ ดงฮยอนผมไม่ว่าอะไรนะถ้าคุณจะจีบน้องผม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขานะครับ” ฮยอนซองหันมาตอบดงฮยอน

      “ฮยองกลับบ้านไปเลยนะ....พูดแบบนี้ได้ไง...บ้า!” มินวูหันมาหาดงฮยอนแต่หน้ายังก้มมองดูดินอยู่ แล้วผลักหน้าอกดงฮยอน แต่ดงฮยอนก็จับมือนั้นไว้

      “วันนี้ฮยองกลับก่อนนะ แล้วฮยองจะมารับนะพรุ่งนี้”

      “ครับ...ฮยองปล่อยมือได้แล้วนะ” มินวูเงยหน้าที่แดงระเรื่อมามองดงฮยอน

      “ครับผม มินวูหน้าแดงแล้วน่ารักจังเลย ฮยองไปละนะ จุ๊บ” ดงฮยอนขโมยหอมแก้มมินวูไปอีกทีก่อนจะวิ่งไปที่รถ สังเกตเห็นว่ามินวูยังคงยืนนิ่งอยู่ที่หน้าบ้าน

      ปรี๊นนน!! “มินวูฮยองกลับก่อนนะ”พร้อมกับขับรถออกไป

      “คนบ้า!” มินวูที่ได้สติตะโกนไล่หลังรถไป

       

      หลังจากวันนั้นดงฮยอนก็มาตามรับตามส่งมินวู ชนิดเช้าถึงเย็นถึง นับๆเวลาดีๆก็เกือบจากสามเดือนได้ วันนี้ก็เป็นอีกวัน

      “มินวูก่อนกลับบ้านฮยองอยากกินเค้กอ่ะ ไปกินเค้กกันนะ” ดงฮยอนที่เพิ่งขับรถออกมาจากหน้าโรงเรียนเอ่ยขึ้น

      “ก็ดีเหมือนกันครับ มินวูไม่ได้กินเค้กนานแล้ว อยากกินเหมือนกัน ไกลหรือเปล่าอ่ะ มินวูอยากขอนอนก่อนนะวันนี้เรียนพละมาเหนื่อยมากๆเลย”

      “ครับผม เดี๋ยวถึงแล้วฮยองจะปลุกนะ....อ้าวหลับแล้วหรอ” ดงฮยอนว่าพลางเคลื่อนรถเข้าจอดข้างถนน แล้วเอื้อมมือข้ามตัวมินวูไปดึงเข็มขัดเพื่อที่จะมารัดให้มินวู แต่พอสายตาของดงฮยอนมองมินวูที่อยู่ห่างแค่ไม่ถึงคืบก็ต้องหยุดชะงักกับใบหน้าที่เขาหลงใหล ตอนนี้ตัวของดงฮยอนแทบจะเรียกว่าค่อมอยู่บนตัวของมินวูก็ได้

      “เมื่อไหร่มินวูจะรับรักฮยองซักทีนะ หน้าตาน่ารักแบบนี้ฮยองกลัวคนอื่นจะมาเอาไปจังเลย มินวูเป็นแฟนกับฮยองได้มั้ย” ดงฮยอนที่ตอนนี้ยังค้างที่ท่าเดิม

      “ปากนี้ขอเก็บไว้รอฟังคำตอบละกันนะ ขอจองแก้มนี้ไปก่อนแล้วกัน” ดงฮยอนค่อยๆหอมแก้มของมินวูเบาๆ พร้อมกับรัดเข็มขัดให้มินวู และปรับเบาะให้มินวูนอนสบายก่อนจะขับรถไปยังจุดหมาย

       

      “ครับผม เดี๋ยวถึงแล้วฮยองจะปลุกนะ....อ้าวหลับแล้วหรอ” อยู่ดีๆรถก็จอดและมินวูสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่รดอยู่บนแก้ม ทำให้มินวูที่กำลังจะหลับตื่นแต่ไม่กล้าลืมตาขึ้นมาเพราะคิดว่าถ้าลืมตาขึ้นมาต้องเป็นดงฮยอนแน่ๆ แต่ภายในตัวมินวูเองนั้น หัวใจที่เต้นในระดับปกติ กลับเต้นแรงมากขึ้นจนเจ้าตัวกลัวอีกฝ่ายจะได้ยิน

      “เมื่อไหร่มินวูจะรับรักฮยองซักทีนะ หน้าตาน่ารักแบบนี้ฮยองกลัวคนอื่นจะมาเอาไปจังเลย มินวูเป็นแฟนกับฮยองได้มั้ย” ฮยองบ้าพูดอะไรก็ไม่รู้ เขิลนะเนี่ย ให้ตอบตอนนี้เลยมั้ยหล่ะ

      “ปากนี้ขอเก็บไว้รอฟังคำตอบละกันนะ ขอจองแก้มนี้ไปก่อนแล้วกัน” สัมผัสแผ่วเบาที่แก้มของมินวูทั้งสองข้างที่เกิดจากดงฮยอนทำให้มินวูรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด ก่อนที่ดงฮยอนจะเคลื่อนรถต่อไป

       

      “มินวูถึงแล้วนะ”

      “หือ?....”

      “ถึงร้านแล้วครับ”

      “ถึงแล้วหรอครับ....ขอนอนอีกหน่อยนะ.....” มินวูทำท่าจะพลิกตัวแต่ว่าเข็มขัดที่รัดอยู่ทำให้พลิกตัวลำบาก ท่าทีนั้นทำให้ดงฮยอนอมยิ้มขึ้นมา

      “นอนต่อก็ได้ งั้นเดี๋ยวฮยองอุ้มมินวูเข้าไปในร้านเองนะ” เสียงปลดล็อครถและปลดเข็มขัดดังขึ้นทำให้มินวูลืมตาขึ้นมาอย่างตกใจ

      “ไม่เป็นไรครับฮยอง! มินวูเดินไปพร้อมกับฮยองนี่แหละ” มินวูรีบลงมายืนรอที่หน้ารถ ทำให้ดงฮยอนแอบขำในรถก่อนจะเดินตามมาแล้วเข้าไปในร้านเค้กด้วยกัน

      “ฮยองเลี้ยงมินวูนะ^^” มินวูหันมายิ้มแล้วเดินนำดงฮยอนเข้าไปไปในร้าน แล้ววิ่งไปที่ตู้โชว์เค้กที่มีอยู่หลากหลายรสชาติ ท่าทางของมินวูกับรอยยิ้มที่ได้เห็นเค้ก ทำให้ดงฮยอนไม่อยากที่จะละสายตาไปจากมินวูได้เลย ทุกการกระทำทำให้ดงฮยอนไม่ได้สนใจเค้กหรืออะไรที่มินวูพูดถึงเลย เขามองเห็นเพียงมินวูที่ทำท่าเริงร่าและก็ชี้เค้กนั่นนี่

      “ฮยอง!....ฮยอง!!” เสียงของมินวูทำให้ดงฮยอนหลุดจากภวังค์

      “หือ?... ว่าไง มินวูจะกินอะไรเลือกได้หรือยัง” ดงฮยอนที่ลากสติที่หลุดลอยไปไหนไม่รู้กลับมาได้

      “มินวูเลือกไม่ได้อ่ะ มีเค้กสตรอเบอร์รีกับไวท์ช็อกอ่ะครับ ฮยองช่วยมินวูเลือกหน่อยซิ” มินวูทำแก้มป่องพร้อมกับชี้เค้กในตู้โชว์ทั้งสองชิ้น

      “ฮ่าๆ ไหนดูซิกินชิ้นไหนดี” ดงฮยอนว่าพลางเอามือที่ล้วงกระเป๋าอยู่มาโอบไหล่มินวูแล้วก้มลงมองดูเค้กที่มินวูชี้

      “งั้นเราก็สั่งมาทั้งสองชิ้นเลย แล้วก็กินด้วยกันดีมั้ย มินวูจะได้กินทั้งสองแบบเลย”

      “ครับ!^^” มินวูหันมายิ้มให้ดงฮยอน แล้วหันกลับไปยิ้มให้เค้กอีกรอบ

      “ขออย่างละชิ้นนะครับ” ดงฮยอนสั่งกับพนักงาน แล้วก้มลงมาหามินวูที่ยังคงยิ้มแล้วจ้องมองเค้กที่กำลังถูกหยิบออกไป

      “แต่ฮยองว่ามินวูต้องอร่อยกว่าเค้กแน่ๆเลย” ดงฮยอนกระซิบที่ข้างหูมินวูเบาๆจนทำให้คนฟังยืนตัวแข็งพยายามตั้งสติ

      “บ้าอ่ะฮยอง!!” มินวูผลักหน้าอกของดงฮยอนเบาๆ ดงฮยอนที่เห็นท่าทีเขินอายของมินวูก็ได้แต่หัวเราะกับท่าทางน่ารักๆของมินวู (เพราะมินวูน่ารักแบบนี้ไงหล่ะฮยองถึงรอคำตอบของมินวูตลอด)

      “พี่ครับผมขอโกโก้นะครับ ส่วนของลุงคนนั้น(มินวูหันมายิ้มกวนๆให้ดงฮยอน)ขอเป็นมอคค่า”แล้วเจ้าตัวก็เดินไปนั่งรอที่โต๊ะ ดงฮยอนที่ได้ยินจึงรีบเดินตามไป

      “ใครเป็นลุง!” ดงฮยอนถามด้วยน้ำเสียงเข้มๆแต่ใบหน้ากลับบ่งบอกว่ากำลังงอนอยู่ ทำให้มินวูหัวเราะลั่น

      “ฮ่าๆๆ ฮยองอยากเป็นมั้ยหล่ะ” มินวูยิ้มกวนๆให้อีกทีหนึ่งพร้อมกับเค้กและเครื่องดื่มถูกนำมาเสิร์ฟ

      “คอยดูนะจะทำโทษขั้นสูงสุดเลย” ดงฮยอนพูดพลาง เล่นผมของมินวูจนยุ่งไปหมด

      “ย๊ากกกก! ไม่ๆๆๆ ฮยองเรามากินเค้กกันเถอะนะ ^^ นะๆๆ” มินวูเปลี่ยนเรื่องพลางตักเค้กสตรอเบอร์รีเข้าปาก ดงฮยอนนั่งจิบมอคค่าไป มองการกินเค้กของมินวูไป

      “ฮยอง!

      “หือ?”

      “ฮยองไม่กินหรอ อ่ะนี่ป้อน” มินวูตักไวท์ช็อกขนาดพอดีคำขึ้นมาให้ดงฮยอน ดงฮยอนจึงขยับไปกินเค้กที่มินวูป้อนให้ มินวูจึงแกล้งเอาครีมจากเค้กสตรอเบอร์รีมาแตะที่จมูกดงฮยอน

      “ฮ่าๆๆ ดงฮยอนฮยอง ฮ่าๆๆๆ”

      “มินวูแกล้งพี่อีกแล้วหรอ” ดงฮยอนฮยองที่กำลังจะเอาครีมไปแกล้งมินวูกลับ แต่มินวูถือเอาจานเค้กทั้ง 2 ไปไว้กับตัวซะแล้ว

      “มินวูอ่า” อีกครั้งที่ดงฮยอนตามเด็กไม่ทัน

      “มินวู....เป็นแฟนกับฮยองได้มั้ย” คำถามอันราบเรียบของดงฮยอนทำให้มินวูที่กำลังกินเค้กอยู่ถึงกับชะงักและมองมาที่ดงฮยอน

      “ฮ่าๆๆ ดงฮยอน ล้อเล่นใช่ป่าวอ่ะ รีบกินรีบกลับเถอะนะ ^^” มินวูตักเค้กป้อนดงฮยอนอีกครั้งซึ่งดงฮยอนก็กิน แต่เขากลับกำลังเศร้า สงสัยมินวูจะยังไม่พร้อมซินะ

      “อืม..ถ้ามินวูยังไม่พร้อม ฮยองก็จะรอต่อไปนะ”

      ^^ มินวูเพียงแค่ยิ้มออกมาและกินเค้กทั้ง 2 ชิ้นจนหมด

      “ฮยอง มินวูอิ่มจังเลย เรากลับกันเหอะนะ” มินวูหันมายิ้มให้กับดงฮยอนที่เดินตามออกมาจากร้านเค้ก

      “.....” ดงฮยอนไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มเนือยๆตอบมินวู

      ไม่บอกก็รู้ว่าทำไมดงฮยอนมีท่าทีแปลกไปเพราะมินวูไม่ได้ตอบรับไปหน่ะซิ แต่ดงฮยอนก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไปมากเพราะเขาเป็นคนที่บอกเองว่าจะรอ เขาก็จะไม่คะยั้นคะยอให้มินวูต้องลำบากใจ

      “ป่ะ เดี๋ยวฮยองไปส่ง ว่าแต่มินวูอยากไปไหนต่ออีกมั้ย” ดงฮยอนเดินมาข้างๆมินวู แล้วโอบไหล่มินวูเดินมาจนถึงรถ

      “อืม....เดี๋ยวขอคิดก่อนนะ ^^ มินวูหันมายิ้มพร้อมกับวิ่งไปอีกด้านเพื่อขึ้นรถ

      “ฮยองแป๊ปหนึ่งนะครับอย่าเพิ่งออกรถนะ” มินวูพูดพลางจิ้มโทรศัพท์

      “ได้ซิทำไมหรอ”

      “นะๆๆ ^^” ยิ้มแบบนี้ซิน่ะถึงทำให้ดงฮยอนไม่อยากไปไหน ผ่านไปพักหนึ่ง

      “ฮยองไปชานเมืองหน่อยได้ป่าวอ่ะ มินวูอยากออกไปชานเมืองแป๊ปหนึ่ง มินวูมีธุระกับคนที่นั่นหน่อยหน่ะครับ”

      “อ่อได้ซิ งั้นไปกันเลยนะ”

       

      พอมาถึงสถานที่ที่มินวูบอก มันเป็นทุ่งหญ้ากว้างตีนเขา เวลาก็ล่วงเลยไปจวนจะค่ำแล้ว ไม่มีรถยนต์ผ่านซักเท่าไหร่

      “มินวูเดี๋ยวฮยองรอในรถนะ ว่าแต่มินวูมีธุระกับใครหรอที่นี่ไม่เห็นมีใครเลยอ่ะ” ดงฮยอนมองรอบๆตัวที่มีแต่ทุ่งหญ้า มีบ้านไม่กี่หลังแต่อยู่ไกลมากๆ

      “แป๊ปหนึ่งนะครับ^^ “ มินวูยิ้มแล้วก็ลงจากรถก่อนจะวิ่งอ้อมมาเปิดประตูฝั่งดงฮยอนแล้วก็ดึงดงฮยอนออกมาที่หน้ารถก่อนที่มินวูจะนั่งลงที่กระโปรงหน้ารถ ทำให้ดงฮยอนนั่งลงตามไป

      “มินวู ฮยองว่าฮยองรอในรถดีกว่ามินวูจะได้คุยธุระได้สะดวกอ่ะ” ดงฮยอนนั่งมองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับของฟ้าไป

      “ฮยองดูนั่นก่อนดิ เห็นมั้ยดวงอาทิตย์กำลังจะลับของฟ้าไปแล้ว ท้องฟ้าเป็นสีส้มด้วยอ่ะ มินวูว่าภาพแบบนี้สวยจังเลยอ่ะครับ ฮยองว่าไง” มินวูดึงแขนเสื้อดงฮยอนไว้แล้วชี้ให้ดงฮยอนมองท้องฟ้าตามไปด้วย

      “อืม....ก็สวยดี” ดงฮยอนหันหน้ามามองมินวูที่ยิ้มให้กับท้องฟ้ายามเย็น

      “คุณคิม ดงฮยอน” มินวูพูดทั้งที่ยังมองท้องฟ้าอยู่

      “มินวูเล่นอะไรเนีย” ดงฮยอนทำหน้าฉงน

      “ธุรของมินวู คือคุยกับคุณคิม ดงฮยอนอ่ะครับ เห็นวันนี้เขาถามมินวูหลายรอบแล้ว แต่เขาไม่สร้างบรรยากาสซะเลย มินวูเลยสร้างบรรยากาสแล้วให้คุณคิม ดงฮยอนเขาถามมินวูใหม่อ่ะ” มินวูหันมายิ้มให้กับดงฮยอน

      “คำถาม? ถามอะไรหรอ?” ดงฮยอนยังคงงงอยู่

      “ก็คำถามที่ฮยองถามมินวูตอนที่หายใจรดแก้มมินวู หอมแก้มมินวู แล้วก็คำถามเดิมที่ฮยองถามในร้านเค้กไง มินวูจะให้ฮยองถามใหม่อีกรอบ ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วนะ!” มินวูพูดพลางเด้งตัวขึ้นมายืน

      ดงฮยอนที่อึ้งกับคำพูดของมินวู นั่งนิ่งพยายามรวบรวมสติ มินวูรู้หรอว่าเราแอบหอมแก้มในรถ ? มินวูรู้ว่าเราพูดอะไร? มินวูรู้ว่าเราถามอะไร? มินวูอยากให้เราถามอีกรอบ? ดงฮยอนคิดพลางมองไปรอบๆตัวเขาเพิ่งเห็นว่า บรรยากาสรอบข้างช่างสวยงามท้องฟ้าที่ส้ม ดวงอาทิตย์ที่แดงที่กำลังจะลับขอบฟ้า ลมพัดเบาๆ มินวูพามาที่เพื่อให้เขาพูดอีกรอบซินะ แล้วตบหน้าตัวเองแบบแรง

      เพี๊ยะ!!!!

      “ฮยองทำอะไร!” มินวูรีบใช้สองมือของตนประคองหน้าของดงฮยอนขึ้นมาดูเห็นรอยแดงรูปฝ่ามือที่แก้มของตัวเอง

      “ก็ตบหน้าดูไงว่าฮยองไม่ได้ฝันไป มินวูชอบแบบนี้เองหรอ” ดงฮยอนพูดพลางลุกขึ้นจับมือของมินวูที่ประคองหน้าของเขาอยู่ให้อยู่ระดับออก ตอนนี้มินวูและดงฮยอนต่างยืนหันหน้าเข้าหากัน ซึ่งมินวูสูงเพียงแค่ระดับสายตาของดงฮยอนเท่านั้น

      “ก็ครั้งแรกของมินวูก็อยากได้บรรยากาสดีๆหน่อยซิครับ มินวูจะได้จดจำมัน มินวูไม่เห็นฮยองสร้างบรรยากาสซักทีมินวูเลยจัดการเองเลย ^^ ดงฮยอนฮยองเป็นแฟนกับมินวูได้มั้ย^^” มินวูเขย่งเท้าให้ตัวเองสูงขึ้นก่อนจะพูดประโยคสุดท้าย

      “......” ดงฮยอนที่ตอนนี้อึ้งกับภาพของคนตรงหน้าที่กำลังฉีกยิ้มที่น่าหลงใหลมาที่เขา แต่เนื่องจากมินวูต้องเขย่งเท้านานทำให้แรงบีบมือของมินวูบีบมือดงฮยอนมากขึ้นทำให้สติของดงฮยอนกลับมา

      “คะ...ครับ...ครับ ...เป็น..เป็นครับเป็น เป็นแฟนมินวู....ดงฮยอนจะเป็นแฟนมินวูครับ” ดงฮยอนพรั่งพรูคำพูดออกมา มินวูจึงเลิกเขย่งเท้า

      “มินวูหน้าแดงอ่ะ” ดงฮยอน แซวมินวูที่หน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด

      “ฮยองขอจูบมินวูได้มั้ย?” ดงฮยอนมองหน้าของมินวูเพื่อรอคำตอบ

      “กะ...ก็...ก็ใครห้ามหล่ะ” ดงฮยอนได้ยินดังนั้นจึงประกบปากของมินวูแล้วค่อยๆใช้ลิ้นเพื่อเปิดริมฝีปากของมินวูและก็เปิดได้อย่างง่ายดาย ดงฮยอนกวาดเอาความหอมหวานที่เขาได้สัมผัสจากโพรงปากของมินวูรสของเค้กสตรอเบอร์รี่ ไวท์ช็อก และโกโก้ที่เขาได้สัมผัสจากปากของมินวูช่างหอมหวานกว่าที่เขาเคยได้ทานมา ขบกัดเบาๆที่ริมฝีปากของมินวูบ้าง แล้วก็สอดลิ้นเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า ลิ้นทั้งสองกระหวัดเกี่ยวกันอยู่นาน รสจูบที่มินวูได้รับจากดงฮยอนช่างทำให้เขารู้สึกไม่อยากละจากจูบนี้ไปเลย และมันยังทำให้หัวใจของมินวูเต้นดังมาก ดงฮยอนเองก็เอามือของมินวูมาวางไว้ที่หน้าอกให้สัมผัสถึงหัวใจของตนที่เต้นแรงไม่แพ้กัน ดงฮยอนสัมผัสถึงรสจูบของมินวูทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าจูบนี้เป็นจูบแรกของมินวูเพราะมินวูไม่ได้จูบเก่งเลย ทำให้ดงฮยอนยิ่งรู้สึกดีมากยิ่งขึ้นเหมือนเขาได้ครอบครองของมีค่า มินวูแทบจะไม่สามารถทนได้ทำให้ดงฮยอนรั้งท้ายทอยของมินวูและประคองร่างของมินวูไว้ จูบอันดูดดื่มยังคงดำเนินต่อไป ดงฮยอนเลียฟันของมินวูแล้วขบริมฝีปากอีกครั้งก่อนจะจูบมินวู เมื่อมินวูรู้สึกขาดอากาศหายใจจึงขยุ้มเสื้อที่หน้าอกของดงฮยอน เพื่อส่งสัญญาณให้ดงฮยอนรู้ ดงฮยอนที่ไม่อยากละจากปากนี้แต่ต้องจำใจถอนจูบออก เพื่อให้มินวูได้หายใจ

      “มินวูเป็นแฟนฮยองแล้วนะ ริมฝีปากนี้ห้ามไปจูบใครอีกนะ”ดงฮยอนว่าพลางใช้นิ้วชี้กดเบาๆที่ริมฝีปากล่างของมินวู

      “.....” มินวูไม่ตอบอะไรได้แต่ก้มหน้าเพื่อหลบอาการหน้าแดงของตน

      “มินวู (ดงฮยอนเชยคางให้มินวูหันหน้าขึ้นมามองตน) นี่เป็นครั้งแรกที่ฮยองโดนขอคบ และอีกอย่างที่ฮยองรู้คือ ฮยองเป็นจูบแรกของมินวู” ดงฮยอนยิ้มให้กับใบหน้าของมินวูที่แดงเป็นลูกเชอร์รี่

      “มินวู”

      “อะ..อะ..อะไร” มินวูพยายามหลบสายตาเจ้าเล่ห์ที่ดงฮยอนมองมา

      “ขอจูบอีกนะ”

      “.....ฮยอง...” มินวูเอามือมาโอบรอบคอของดงฮยอน

      “อะ..อืม..ก็....อุ๊บ” ยังไม่ทันที่มินวูจะพูดจบ ปากของมินวูก็ถูกดงฮยอนครอบครองอีกครั้ง

      “อืม...”

       

      The End ......

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×