Fic Reborn TYL Yaoi - Fic Reborn TYL Yaoi นิยาย Fic Reborn TYL Yaoi : Dek-D.com - Writer

    Fic Reborn TYL Yaoi

    โดย :: ATOM ::

    10 ปีให้หลังเมื่อสึนะต้องจบชีวิตลง ความรู้สึกเจ็บปวดของผู้พิทักษ์ นภาที่งดงามนั่นจะรู้ตัวบ้างไหม ว่าพวกเขาต้องการปกป้อง...ไม่ใช่ถูกปกป้อง...

    ผู้เข้าชมรวม

    4,008

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    16

    ผู้เข้าชมรวม


    4K

    ความคิดเห็น


    21

    คนติดตาม


    63
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 เม.ย. 58 / 20:40 น.

    แท็กนิยาย

    All27 Fic reborn Fic yaoi TYL



    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้



    Thank you:

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

                  แอ๊ดด

      อ้าว พี่ยามาโมโตะ พี่โกคุเดระ กลับมาแล้วเหรอครับแรมโบ้เอ่ยทักทายผู้พิทักษ์พิรุณและผู้พิทักษ์วายุที่เพิ่งกลับมาจากธุระที่ไปพร้อมกับนภา แต่พวกเขาไม่ตอบและดูมีท่าทีแปลกๆ ไป แล้วพี่สึนะล่ะ? ไม่ได้กลับมาพร้อมกันหรอกเหรอ???

                  โอ้ สวัสดียามาโมโตะกับเจ้าหัวปลาหมึก พวกนายกลับมากันแล้วเหรอ แล้วสึนะล่ะ?”ผู้พิทักษ์อรุณที่เดินผ่านมาพอดีเข้ามาทัก แต่เจ้าสองคนนั้นก็ยังไม่ตอบ นี่เจ้าพวกนี้เป็นอะไรของมัน แบบนี้มันต้องเรียกขวัญกำลังใจกันแบบสุดขั้วววว!!!

                  “…”ผู้พิทักษ์ทั้งสองยังคงเงียบและไม่ยอมตอบอะไร

                  โฮ่ย เจ้าหัวปลาหมึก แกเป็นอะไรไป! โดนสาวทิ้งรึไง ไม่เป็นไร มาเข้าเป็นสมาชิกสมาคมมวยแห่งประเทศอิตาลีกับฉันก็ได้ สุดขั้ววว!!!”

                  สึนะน่ะ…”ยามาโมโตะเอ่ยขัดเรียวเฮออกมา ถึงเขาจะไม่อยากพูดมากแค่ไหน ถึงจะรู้สึกคอแห้งผากมากแค่ไหนเขาก็ต้องบอกให้สองคนนี้รับรู้

                  หืม สึนะ สึนะเป็นอะไรไปงั้นเหรอ? เฮ้ ยามาโมตะ! สึนะเป็นอะไรไป!!”เรียวเฮถามกลับด้วยความตื่นตกใจ ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกกังวลใจแบบแปลกๆ แล้วสิ ทั้งท่าทางของสองคนนี้ ทั้งคำพูดแปลกๆ ของยามาโมโตะ ตัวแรมโบ้เองก็เริ่มรู้สึกมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

                  สึนะน่ะ…”

                  “สึนะอะไรล่ะ! รีบๆ พูดเข้าสิยามาโมโตะ!”

                  สึนะน่ะตายแล้ว…”

                  เรียวเฮกับแรมโบ้ถึงกับนิ่งไป แต่แรมโบ้ก็ตั้งสติได้ก่อน เขาถามกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

                  “หมายความว่ายังไงที่ว่าพี่สึนะตายแล้ว…”แรมโบ้พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และได้แต่หวังว่าเรื่องที่ยามาโมโตะพูดจะเป็นเรื่องโกหก ส่วนเรียวเฮได้แต่ยืนนิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

                  “…”ยามาโมโตะไม่ตอบ เขาได้แต่ก้มหน้าลงหลบสายตา มือของเขากำแน่น และแววตาคู่นั้นเองก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

                  “ฮะๆ ไม่เอาน่ายามาโมโตะ นี่นายพูดเล่นใช่มั้ย? เป็นไปไม่ได้หรอกน่าที่ว่าสึนะตายไปแล้วน่ะเรียวเฮหัวเราะฝืดๆ ออกมา มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ว่าสึนะตายแล้วที่ว่านภาของพวกเขาตายไปแล้ว

                  ใช่รุ่นที่สิบตายแล้ว…”โกคุเดระเอ่ยตอบแทนยามาโมโตะที่ไม่พูดอะไรออกมา มือของเขากำแน่นจนเล็บแทบจะจิกลงไปในเนื้อ ตัวสั่นเทาราวกับลูกนก เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่มันเกิดขึ้นแล้ว เกิดขึ้นโดยที่เขาไม่สามารถแม้แต่จะทำอะไรได้เลย

                  ผู้พิทักษ์ทั้งสองที่ได้ยินเรื่องนี้ตัวชาวาบ พวกเขารู้สึกราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน เสียงต่างๆ รอบตัวหายไปชั่วขณะ บอสของพวกเขาตายแล้วสึนะ ตายไปแล้ว

                  นี่แกหมายความว่ายังไงเจ้าหัวปลาหมึก! สึนะจะตายได้ยังไง!!”เรียวเฮพุ่งเข้าไปหาโกคุเดระ เขากระชากคอเสื้อของโกคุเดระเข้าหาตัว เรียวเฮมองโกคุเดระด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว แต่ในลึกๆ ของแววตาคู่นั้นก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังความหวังที่อีกฝ่ายจะบอกว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่น

                  “…”โกคุเดระได้แต่นิ่งเงียบ เขาไม่คิดจะตอบโต้อะไรทั้งนั้น มันเป็นความผิดของเขาเองความผิดของเขาที่ไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องนภาที่เขารักได้ อย่างเขาน่ะมันไม่เหมาะที่จะเป็นมือขวาของรุ่นที่สิบเลยสักนิด!

                  นี่เจ้าหัวปลาหมึก! เจ้าหัวปลาหมึกพูดอะไรหน่อยสิ! เจ้าหัวปลาหมึก!!”เรียวเฮเขย่าตัวโกคุเดระอย่างแรง แต่ไม่ว่าจะเขย่าสักแค่ไหน โกคุเดระก็ไม่ยอมตอบโต้อะไรเลย เอาแต่ก้มหน้าเงียบท่าเดียว แรมโบ้เองก็ได้แต่มองด้วยสายตาเจ็บปวด พร้อมน้ำตาที่เริ่มไหลรินลงมา

                  แปะ

                  พอเถอะครับ รุ่นพี่

                  ยามาโมโตะเดินเข้าไปแตะไหล่ของเรียวเฮ เขาเข้าใจความรู้สึกของเรียวเฮดี แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้มันไม่ใช่ความผิดของโกคุเดระไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้นแต่มันเป็นความผิดของเขาและทุกของคนที่ไม่สามารถปกป้องสึนะเอาไว้ได้

                  “…”

                  ตอนนี้เรียวเฮปล่อยมือออกจากตัวของโกคุเดระแล้ว ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ต่างคนต่างตกอยู่ในความคิดของตัวเอง แรมโบ้ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ที่มุมห้อง โกคุเดระกับยามาโมโตะเองก็ได้แต่ก้มหน้าเงียบ ส่วนเรียวเฮก็ไม่สามารถแม้แต่จะพูดหรือตะโกนอย่างเช่นเดิมได้

       

                  อรุณโรยราหาได้เจิดจรัส

      วายุคลุ้มคลั่งดั่งต้องพิษร้าย

      พิรุณเย็นเฉียบมิอาจชำระ

      อัสนีงามฟ้าร่ำไห้หลั่งน้ำตา

                  .

                  .

                  .

      จากการพูดคุยกันของคนในห้อง พวกเขาจะรู้ตัวบ้างไหม ว่ายังมีอีกบุคคลหนึ่งยืนพิงขอบประตูฟังพวกเขาอยู่ ดวงตาสองสีของผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกหม่นแสงลง ประกายความอบอุ่นเพียงน้อยนิดที่ถูกจุดขึ้นโดยซาวาดะ สึนะโยชิมอดดับลงไป ริมฝีปากของเขาขบเม้มเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว

      ใช่รุ่นที่สิบตายแล้ว…’

      รุ่นที่สิบตายแล้ว…’

      ตายแล้ว…’

      ตาย…’

      เสียงของผู้พิทักษ์แห่งวายุดังก้องซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเขา วองโกเล่ตายแล้วซาวาดะ สึนะโยชิตายไปแล้วแววตาของเขาฉายความเจ็บปวดอันล้ำลึกออกมาแวบหนึ่ง มันเจ็บเจ็บยิ่งกว่าต้องตกนรกทั้งเป็น เจ็บยิ่งกว่าต้องถูกทดลองโดยพวกมาเฟียโสมมนั่นถึงผมจะทำท่าเหมือนเกลียดคุณ แต่ผมน่ะรักคุณมากเลยรู้รึเปล่า วองโกเล่และทั้งๆ ที่คุณเป็นคนช่วยผมออกมาจากคุกวินดีเช่แท้ๆ ทั้งๆ ที่ผมอุตส่าห์คิดว่าคุณคือบ้านอันแสนอบอุ่นเพียงหนึ่งเดียวของผมแล้วแท้ๆ แต่แล้วทำไมคุณกลับทอดทิ้งผมและเพื่อนๆ ของคุณเอาไว้แล้วหนีไปในที่ๆ ไกลแสนไกลจนเอื้อมไม่ถึงกันนะ

      แต่ความเจ็บปวดนั่นมันก็ฉายออกมาเพียงแค่ชั่วขณะเดียวเท่านั้น แววตาของมุคุโร่กลับมาเป็นปกติ เขาแสยะยิ้มออกมาอย่างที่เคย แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่เจือจางจากรอยยิ้มนั่น เขาหันหลังกลับไปเพื่อดำเนินแผนการบางอย่าง

      มิลฟีโอเลสินะ

      จะกำจัดให้หมดเลยล่ะครับ

       

      สายหมอกสีมืดอันโกรธเกรี้ยว

      ไร้ซึ่งบุคคลให้รักและพักพิง

      ไร้ซึ่งผู้ใดให้คอยปกป้องและพรางตัว

      นภาฟ้ากว้างนั้นจะรู้บ้างไหม

      ว่าตนสำคัญเพียงใด

                  .

                  .

                  .

      ณ ห้องญี่ปุ่นในฐานทัพวองโกเล่

      คุณเคียวครับคุซาคาเบะเรียกผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ตอนนี้คงถึงเวลาแล้ว ที่เขาควรจะพูดเรื่องคุณซาวาดะกับคุณเคียวเสียที

      ผู้พิทักษ์เมฆาแห่งวองโกเล่ไม่ตอบอะไร เพียงแค่ปรายตาไปมองผู้ขานชื่อของเขาเท่านั้น จากนั้นก็หันกลับมาจิบชาต่ออย่างไม่สนใจ

      คุณซาวาดะน่ะเสียแล้วนะครับ…”คุซาคาเบะพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด แม้เขาจะไม่ได้รู้จักอะไรลึกซึ้งกับซาวาดะ สึนะโยชิ แต่เขาก็รักและเอ็นดูคุณซาวาดะเหมือนน้องชาย เป็นคุณซาวาดะที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงคุณเคียว แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็สัมผัสได้ แล้วอีกอย่าง คุณซาวาดะเองก็เป็นคนดี ตัวเขาเองก็รู้สึกเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้เช่นกัน

      “…”ฮิบาริไม่ได้ตอบอะไร เขายังคงจิบชาต่ออย่างเงียบๆ เมื่อคุซาคาเบะเห็นดังนั้นก็ไม่คิดจะเซ้าซี้ต่อ เขารู้ดีว่าคุณเคียวรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว และเขาเองก็รู้ดีด้วยเช่นกัน ว่าคุณเคียวรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่ยังไงคนๆ นี้ก็คือคุณเคียว คุณเคียวเองก็มีวิธีจัดการกับความเจ็บปวดของตัวเองในแบบของคุณเคียว คุซาคาเบะลุกออกจากห้องนี้ไปอย่างรู้ใจผู้เป็นนาย ว่าคงไม่ต้องการให้ใครมายุ่งด้วยในเวลาแบบนี้

      ปึก

      เสียงปิดประตูดังเข้ามาในโสตประสาทของฮิบาริ เคียวยะ เขาวางถ้วยชาลง หลับตาลงช้าๆ ด้วยความหงุดหงิดในใจ เขาเกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุด ความรู้สึกอ่อนแอที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ความรู้สึกใจหายเวลาที่คนๆ นั้นไม่อยู่ เขารับรู้ได้ว่านี่คือความเจ็บปวด และเขาเกลียดความรู้สึกแบบนี้จริงๆ มันเหมือนกับเขาเป็นเพียงแค่สัตว์กินพืชอ่อนแอ และคนที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้ก็มีเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้คนๆ นั้นก็ไม่อยู่ซะแล้ว

      หึ เจ้าสัตว์กินพืช"

      คุณบังอาจมากนะซาวาดะ สึนะโยชิ บังอาจมาทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ แล้วหายตัวไป บังอาจมาทำให้ความคาดหวังในการสู้กับคุณของผมต้องจบลงไป บังอาจมาทำให้ผมรู้สึกอ่อนแอแบบนี้ และคนที่บังอาจทำให้คุณต้องจบชีวิตลงไป ผมจะจัดการมันเอง!

      มิลฟีโอเล จะขย้ำให้ตาย!”

       

      เมฆาเมฆปุยขาวลอยละล่อง

      ถูกจองจำร้อยรัดด้วยสายใย

      ยินยอมยืนเคียงข้างนภาลัย

      แต่เหตุใดนภางาม จึงหายไป

                  .

                  .

                  .

      ทุกๆ เหตุการณ์อยู่ในสายตาของคนๆ หนึ่งตลอดเวลา เขากดหมวกให้ต่ำลงมาปิดใบหน้าของตัวเอง แล้วเดินออกมาจากมุมมืด เขาเดินเข้าไปใกล้หน้าหลุมศพลูกศิษย์จอมห่วยของตัวเอง อีกไม่นานจะมีการจัดพิธีศพอย่างเป็นทางการ พิธีที่ยิ่งใหญ่เพื่อมอบให้แก่วองโกเล่รุ่นที่สิบ

      เขาเป็นหนึ่งในสามคนที่รู้เรื่องแผนการของสึนะ ตัวเขาเองใช่ว่าจะเห็นด้วยกับการทำลายแหวนและการตายไปของสึนะ แต่ตัวเขาก็ไม่คิดจะเข้าไปขวาง เพราะเขารู้ดีนี่คือหนทางที่สึนะเลือกเอง เขาไม่มีสิทธิ์อะไรจะเข้าไปห้าม สึนะเองก็เติบโตขึ้นมากจากครั้งแรกที่ได้เจอกัน จากเจ้าห่วยสึนะ กลายมาเป็นบอสวองโกเล่ผู้ยิ่งใหญ่ กลายเป็นผืนฟ้าที่งดงามจนใครๆ ก็หลงรักแต่แน่นอน เมื่อมีคนรัก ก็ย่อมต้องมีคนเกลียด เพราะงั้นเจ้านั่นถึงต้องจบชีวิตลงไงล่ะ เพราะมันเป็นวัฏจักร

      แต่ตัวเจ้านั่นจะรู้บ้างมั้ย ว่าการตายของตัวเองจะส่งผลที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนจะส่งผลยังไงต่อโลกมืดจะส่งผลยังไงต่อคนที่รักแก จะต้องมีใครเสียใจและหลั่งน้ำตาบ้าง ทั้งเจ้าพวกนั้น ฮารุ เคียวโกะ วาเรีย หรือแม้แต่พวกลูกน้องที่เคารพและรักในตัวแก นี่ขนาดยังไม่รวมหม่าม้ากับอิเอมิสึ แล้วก็รุ่นที่เก้า มันยังมีมากขนาดนี้ แกเคยรู้สึกตัวบ้างรึเปล่า เคยรู้สึกผิดบ้างมั้ยพวกเขาไม่ได้ต้องการให้แกมาปกป้องเพียงฝ่ายเดียว แต่พวกเขาต้องการปกป้องแกด้วยและฉันเองก็รู้สึกแบบเดียวกับเจ้าพวกนั้นแกเข้าใจบ้างมั้ย เจ้าห่วย

      แกนี่มันห่วยตลอดกาลจริงๆ นะ สึนะ…”

       

      นภางามอันเลื่องชื่อ

      ผู้เป็นนายแห่งฟ้าอันไพศาล

      เคยรู้ตัวบ้างไหมฟ้าสีคราม

      หากไร้เจ้าจะมีใครคงอยู่กัน

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×