TW : blood, self - harm, violence
**********
สกอตแลนด์, คริสต์ศตวรรษที่ 15
ภายในป่าที่เต็มไปด้วยต้นโอ๊กสูงใหญ่นั้นเงียบสงัดและมืดมิดมากกว่าที่ควรจะเป็น แสงจันทร์เต็มดวงที่สาดส่องมาตามทางก็ช่วยเพิ่มความสว่างได้น้อยนิด ไร้เสียงสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่ออกหากินยามวิกาล ความเงียบที่ผิดปกตินี้คงจะทำให้ใครหลายคนหวาดหวั่นไม่กล้าก้าวย่างเข้ามาถึงใจกลางป่า แต่ไม่ใช่กับเด็กสาววัยสิบแปดปีที่กำลังย่ำเท้าไปตามกอหญ้าสูงเฉียดเข่า
ร่างบางหอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย มือเล็กกุมที่ชายโครงพร้อมงอตัวอย่างเจ็บปวด เจ้าหล่อนรู้ดีว่าเพลานี้ถึงขีดจำกัดที่จะสามารถเดินทางต่อไปได้ ริมฝีปากล่างถูกขบเพื่อป้องกันการพลั้งเผลอส่งเสียงออกไป แม้จะอยากอาศัยเงาไม้อิงแอบพักพิงเพียงใด ทว่าที่แห่งนี้ไม่เหมาะแก่การผ่อนคลายแม้แต่น้อย อีกทั้งเป้าหมายในการเดินทางของเธอก็ยังไม่ถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้เวลาผ่านไปราวอึดใจ ในที่สุดทุ่งกว้างบริเวณชายป่าก็ปรากฏให้เห็น พื้นที่แห่งนี้กว้างสุดลูกหูลูกตาเกินกว่าจะประมาณได้ แรงลมอันสงบนิ่งก่อนหน้าเริ่มโชยเบาบางจนกลุ่มต้นหญ้าพลิ้วไหว ดวงจันทร์ประกายแสงสว่างปราศจากหมู่ไม้คอยบดบัง ไอวี่ชำเลืองมองเงาที่ปลายเท้าซึ่งตรงกับร่างของตัวเองพอดิบพอดี
ร่างกายบอบบางทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดพละกำลัง รอยช้ำตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายดูท่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ กระนั้นมีดสั้นที่เก็บไว้ในกระเป๋าชุดกระโปรงตัวยาวก็ยังถูกหยิบออกมาเพื่อทำร้ายเจ้าของซ้ำอีก
แววตาอ่อนล้าจ้องมองของเหลวข้นหนืดที่ไหลหยดลงบนพื้นไม่ขาดสาย ระดับลมหายใจหนักหน่วงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงเต็มไปด้วยความแน่วแน่ราวกับรอคอยบางสิ่ง แลคล้อยหลังกระพริบตาถี่เรียกสติให้ตัวเองได้แล้ว การรอคอยนั้นก็สิ้นสุดลง
"เจ้าเรียกข้ามาเช่นนั้นรึ"
น้ำเสียงทุ้มต่ำดุดันทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว ที่ตรงหน้าที่หลั่งหยาดเลือดลงไปปรากฏร่างสูงสง่าของชายหนุ่มในชุดคลุมตัวยาว แต่งกายด้วยผ้าแพรเนื้อดีเช่นชนชั้นสูง ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเรียบนิ่งต่างจากดวงตาสีทับทิมที่ตวัดลงมองร่างเล็กยังปลายเท้าด้วยความสมเพช นางช่างกล้าดีเหลือเกินที่เรียกเขาออกมาทั้งที่ตัวเองอยู่ในสภาพอันอ่อนแอและต่ำต้อยเช่นนี้
ไอวี่ไม่สามารถหลบตาแม้ในใจจะกรีดร้องด้วยหวาดกลัวเพียงใด ราวกับต้องมนต์สะกดให้ไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้ มือที่ข้างที่ถูกกรีดเริ่มเจ็บปวดทั่วทั้งแขน แต่เธอแสร้งว่ากำลังสงบนิ่ง ทั้งที่รู้ดีว่าไม่มีทางที่จะหลอกอีกฝ่ายได้
"ว่าอย่างไรเล่า"
"ข้า..มีความประสงค์จะแลกวิญญาณ กับความต้องการบางอย่าง"
เสียงหวานละมุนเอ่ยแผ่วเบาและสั่นเครือ ฝ่ายปีศาจแปลกใจเล็กน้อย ในบรรดาคนที่ต้องการทำสัญญาขายวิญญาณให้แก่เขาไม่เคยมีเด็กสาวที่ดูไร้ที่พึ่งพิงถึงเพียงนี้ ผู้คนส่วนใหญ่มักเต็มไปด้วยความละโมบและปรารถนาจะได้ครอบครองบางสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอำนาจ ทรัพย์สมบัติ หรือความสามารถที่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจทำได้ และปลายทางคนเหล่านั้นล้วนกลายเป็นพลังชีวิตที่เพิ่มอิทธิฤทธิ์เขาให้แก่กล้าทั้งสิ้น
"เจ้าจะขายวิญญาณให้ข้าเช่นนั้นรึ"
"เจ้าค่ะ"
เด็กสาวยันกายลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล พยายามปกปิดรอยช้ำมากมายราวกับผ่านการถูกทำร้ายมาอย่างหนัก แม้ว่าจะยืนได้อย่างเต็มความสูงแล้วระดับสายตาของเธอก็ยังเทียบได้เพียงอกเขาเท่านั้น
เจเลนเหลือบตามองเรือนร่างบอบบางตั้งแต่ปลายเท้าจรดศีรษะ น่าแปลกที่แม้สภาพกายจะย่ำแย่เช่นนี้ ทว่าเจ้าหล่อนกลับมีรูปร่างที่อ่อนหวานชวนให้ลุ่มหลง ร่างเล็กผ่ายผอมแต่มีสัดส่วนของอิสตรีที่ยั่วยวนใจ วินาทีที่ดวงตาประกายช้อนมองหน้าเขาอย่างมีความหวัง คนมองเป็นฝ่ายหลบตาโดยไม่รู้ตัว
"วิญญาณที่อ่อนแอเช่นนี้จะให้ข้านำไปทำสิ่งใด"
คนฟังหน้าสลด เธอรู้ดีเกี่ยวกับจิตใจที่เต็มไปด้วยความทรมานไม่แพ้ร่างกายตลอดสิบแปดปี แต่ก็มิได้คาดคิดมาก่อนว่าจะเลวร้ายจนถึงขั้นที่ปีศาจยังไม่ต้องการถึงเพียงนี้
"ต่อให้ข้าดื่มกินเป็นพลังก็คงไม่ต่างจากที่ข้าเป็นอยู่ในตอนนี้เท่าใดนัก"
จอมปีศาจแอบยิ้มด้วยความขบขันเล็กน้อย เขามีสิ่งที่ปรารถนาจะแลกเปลี่ยนอยู่ในใจแล้ว เพียงแต่การได้เห็นนางคอตกก็ดูน่าสมเพชมากขึ้นดีเหมือนกัน
"เพียงแค่วิญญาณของเจ้า ข้ามิเห็นว่าจะคุ้มค่าพอที่ข้าจะต้องมอบสิ่งใดให้แก่เข้าเลย"
"เช่นนั้น..มีสิ่งใดที่ข้าพอทำให้ท่านได้อีกบ้างเจ้าคะ"
เดิมทีไอวี่ไม่ใช่คนที่กล้าได้กล้าเสียถึงเพียงนี้ แต่เมื่อได้เดินมาพบกับความตายที่ปลายทางแล้ว เธอก็ไม่มีอะไรให้รั้งรออีกต่อไป
สายตาของอีกฝ่ายนั้นอ่านได้ยาก แทบจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่ คนมองหลุบตาลงอย่างกดดัน ในตอนนี้ความเจ็บปวดในร่างกายเธอก็มีมากพออยู่แล้ว
"เจ้าเหลือเวลาชีวิตอีกสักเท่าไร"
ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกใหญ่ ดวงตาสีเข้มเบิกกว้างขึ้นอย่างลืมตัว
"ท่านรู้หรือเจ้าคะ"
"พิษวิ่งทั่วร่างกายเจ้าเช่นนี้ ข้ารู้สึกถึงมันได้" เขาตอบราวกับเป็นเรื่องปกติทั่วไปในแต่ละวัน "เพราะเหตุนี้จึงนำชีวิตที่เหลือมาแลกกับข้ารึ"
"เจ้าค่ะ ข้าคิดว่าเหลือเวลาอีกแรมปี"
มือเรียวสองข้างกอบกุมประสานกันอย่างกังวล เจเลนก้าวเท้าเข้าใกล้จนเด็กสาวผวาหลับตาด้วยความหวาดกลัว ลาดไหล่เล็กห่อตัวลงราวกับโอบกอดปกป้องตัวเองไว้ เขามองดูการตอบสนองทั้งหมดนั่นด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
ชายหนุ่มโน้มตัวลงจับกลุ่มเส้นผมสลวยขึ้นมาสูดดมเบา ๆ พลางลอบดูใบหน้าหวานที่ค่อย ๆ คลายความกลัวลงและลืมตามองเขาอย่างงุนงง ร่างกายแข็งทื่อและสั่นระริก แต่ไม่มีท่าทีว่าเจ้าหล่อนจะกล้าหลีกหนีไปไหน
"ขายร่างกายเจ้ามาด้วย แล้วข้าจะยอมทำความปรารถนาของเจ้าให้เป็นจริง"
"ท่านหมายถึง.."
"ใช้ร่างกายของเจ้ากับข้าในช่วงเวลาที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่นี้ แลเมื่อเจ้าตายไป วิญญาณของเจ้าก็จะเป็นของข้าด้วยเช่นกัน"
ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นอย่างใช้ความคิด เธอเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการและไม่มีข้อกังขาใด ๆ ด้วยชีวิตนี้ปราศจากความรักและความต้องการที่จะมีคู่ครองมาตั้งแต่ต้น หากแต่กังวลว่าตัวเองจะสามารถสนองความต้องการได้ดีพอด้วยร่างกายที่เจ็บป่วยนี้หรือไม่
ปลายนิ้วยาวเกลี่ยเรียวปากที่กดทับกันให้คลายออกและวนอยู่เช่นนั้น เขานึกอยากจะจุมพิตดูสักครั้ง แค่ได้สูดเอากลิ่นอายสาวเข้าไปก็ชวนให้ลุ่มหลงไม่น้อย เพราะเหตุใดกันร่างกายของเจ้าเด็กนี่จึงน่าพิศวาสถึงเพียงนี้
"ข้า..ตกลงเจ้าค่ะ"
คนฟังคลี่ยิ้มบางด้วยความพอใจ ช่างเป็นรอยยิ้มที่น่าสยดสยองสำหรับผู้อยู่ใต้พันธสัญญายิ่งนัก เขาเริ่มคลอเลียที่แก้มนุ่มด้วยนิ้วชี้ นึกอยากจะขย้ำและเสพสุขในเวลาเดียวกัน
"แล้วเจ้าต้องการสิ่งใด"
"ข้าอยากมีชีวิตที่สุขสบายและมีความสุขในช่วงเวลาที่เหลือเจ้าค่ะ"
"ความสุขแลความต้องการของมนุษย์มีมากมาย ต่างขึ้นอยู่กับบุคคลเหล่านั้นว่าต้องการสิ่งใด ความสุขของเจ้าข้าจะรู้หรือว่ามันหมายถึงอะไรกัน"
น่าแปลกที่เจเลนไม่รู้สึกถึงความโลภในหัวใจดวงน้อยนี้เลย เขาเชยคางมนขึ้นสบตา มิใช่ความอ่อนโยน แต่เป็นเพียงความปรารถนาอันแรงกล้าเท่านั้น สิ่งที่สะท้อนออกมาจากดวงตาของไอวี่ก็มีเพียงความหวาดกลัวและเศร้าสร้อยเช่นกัน
"ข้าอยากมีเงินทองใช้ ไม่ต้องมากมายแต่ไม่อดอยาก ข้าอยากมีโอกาสได้ใช้ชีวิตเพียงลำพัง ข้าไม่อยากถูกทำร้ายแม้กระทั่งในวันที่รู้ว่าข้าจะต้องตายลงแน่แล้ว"
หยาดน้ำสีใสคลอหน่วยตาและไหลรินลงที่พวงแก้มอิ่มทั้งสองข้าง ผ่านปลายนิ้วของปีศาจที่นิ่งไปด้วยความตกใจและเกลียดชังอย่างรุนแรง ร่างบางเริ่มต้นสะอื้นจนตัวโยน ความเหน็ดเหนื่อยในชีวิตที่ผ่านมาและความตายที่คลืบคลานเข้ามาใกล้ทำให้เธอหมดความตั้งใจที่จะระวังตัวต่อคนตรงหน้าอีกต่อไป เขากลายเป็นความหวังหนึ่งเดียวที่มีอยู่ในตอนนี้ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยขุมนรกหรือการทรมานรูปแบบใดก็ตาม เธอคิดว่าไม่มีสิ่งใดจะเลวร้ายไปกว่าการมีชีวิตอยู่อย่างที่พบเจอมาอีกแล้ว
"ข้าเกลียดน้ำตาของมนุษย์ หากเจ้าไม่หยุดร้อง ข้าจะควักหัวใจเจ้าออกมาฉีกกินเสียตั้งแต่ตอนนี้"
มือเล็กกำแน่นจนปลายเล็บจิกเข้าถึงเนื้อฝ่ามือขณะที่พยายามกลั้นสะอื้น ใช้เวลาไม่นานนักเจ้าหล่อนก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ด้วยมิได้ตั้งใจที่จะแสดงความอ่อนแอมาตั้งแต่แรก สีหน้าเรียบนิ่งปรากฏกลับคืนมาเช่นเดียวกับวินาทีที่กรีดเลือดตัวเองเพื่อเรียกจอมปีศาจ
"ดีมาก เช่นนั้นแล้วเจ้าตกลงที่จะทำสัญญากับข้าใช่หรือไม่"
"เจ้าค่ะ ข้าตกลง"
ลำแขนเล็กถูกหยิบยกขึ้นมาใกล้ใบหน้าคม เรียวลิ้นอุ่นไล่เลียเข้าที่รอยกรีดค่อนข้างลึกและดื่มกินเลือดที่หลั่งออกมาจากกาย ไอวี่ขวัญผวาสุดขีด แต่ก็พบว่าทุกพื้นผิวที่ปลายลิ้นอีกฝ่ายลากผ่านนั้นบรรเทาความเจ็บปวดจากบาดแผลไปได้มาก ท้ายที่สุดแล้วรอยแยกที่แขนก็ปิดสนิทดีและกลายเป็นรอยผิวเดิมราวกับไม่เคยเกิดขึ้น
"พันธสัญญาของเราเกิดขึ้นแล้ว ข้าจะเริ่มทำในสิ่งที่เจ้าต้องการ"
"ท่านมิต้องรีบร้อน—"
"เจ้าเองก็ต้องเริ่มทำในสิ่งที่สัญญากับข้า"
"..."
"ภายในคืนนี้"
**********
เปิดมาก็จะเรทกันเลยหรอ (〃▽〃)
ธีมสยองขวัญแต่เนื้อเรื่องเป็นโรแมนติกดราม่า ฟีลเด็กเลี้ยงของคุณปีศาจ พระเอกเป็นคนชัดเจน นางเอกเงียบพูดน้อยว่าง่าย ไม่มีเรื่องให้ปวดหัวแน่น๊อน!
ฝากเอ็นดูน้องไอวี่กับคุณเจเลนด้วยคั้บ ٩(ˊᗜˋ*)و
**********
! TW !
Blood, Violence, Homicide, Corpse, Physical Abuse
ตามประสาปีศาจอะนะ แต่จะไม่รุนแรงมากไปค่ะ
**********
นิยายเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งหมด ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานที่ บุคคล หรือภาพใด ๆ ที่ได้อ้างอิงมา อาจมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และมีความไม่สมเหตุสมผลในบางประการ
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ความคิดเห็น