News คนขายข่าว - นิยาย News คนขายข่าว : Dek-D.com - Writer
×

    News คนขายข่าว

    จ้างฉันสิ จ่าย(เงิน)ฉัน แล้วฉันจะยอมทำทุกอย่าง ตามที่คุณต้องการ... ผมจ้างคุณ รักผมสิ... แล้วผมจะจ่ายคุณด้วยทั้งดวงหัวใจที่ผมมี

    ผู้เข้าชมรวม

    183

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    183

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    5
    จำนวนตอน :  8 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  5 ส.ค. 60 / 14:09 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับ บุคคล สมาคม หรือเหตุการณ์จริงแต่ประการใดทั้งสิ้น

    สำหรับเรื่องนี้ของเราเป็นรักหวานแหววค่ะ เคยเอาบทนำไปให้เพื่อนอ่านแล้วบอกว่าเป็นนิยายรักหวานแหววก็เลยโนค้อนค่ะ เห็นเพื่อนบอกว่าหวานเหววเชี่ยไรมีคนตาย แหววจริงๆ นะคะ ^^ งั้นมาประเดิมด้วยบทนำ (ที่โดนเพื่อนทัก) กันเถอะ

    บทนำ พนักงานขายข่าวต้องปกปิดตัวตนและแอบซ่อนในเงามืด

                    ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

                    ยังคงมีสถานที่ที่ไม่ได้รับการพัฒนา ถูกละเลย ที่แห่งนี้ก็เช่นกัน มันเป็นซอยเปลี่ยวเปล่า อ้างว้างในความมืด มีเพียงหลอดไฟเก่าแก่คร่ำครึหลอดหนึ่งเท่านั้นที่ให้แสงสว่าง ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่พอสำหรับเนื้อที่หลายตารางวาอยู่ดี ผนังที่รายทางอยู่ทั้งสองฝั่งถูกเปิดเป็นสถานบันเทิงผิดกฎหมาย

                    ไม่เพียงแค่นั้นที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งหมักหมมของสิ่งโสมม ยาเสพติด โสเภณี อาวุธปืนราคาถูก การพนัน บริการหนี้นอกระบบ รวมไปถึงกลุ่มบุคคลซึ่งยึดเงามืดยามราตรีเป็นดุจดั่งที่อยู่อาศัย และแฝงตัวอยู่กับผู้คนราวตัวปรสิตในยามกลางวัน นานแค่ไหนแล้วที่คนกลุ่มนี้ตั้งตัวกันเป็นองค์กร เพื่อหาผลประโยชน์จากรูโหว่ของกฎหมาย

                     แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จิตใจแข็งแกร่งเพียงใด แต่มีหรือที่สภาพเขตพื้นที่ที่ตนรักษาการอยู่จะไม่บีบบังคับให้พวกเขารับเงินปริมาณมหาศาลจากองค์กรแห่งนี้ จะเจ้าหน้าที่หรือองค์กรยุติธรรมไหนก็ช่างพวกเขาเหล่านั้นก็แฝงตัวเข้าไปอยู่ในที่นั่นได้ไม่ยาก

                    ด้วยเพราะเกิดและเติบโตมาที่นี่ เดอา ลานีย์ และพี่ชายของเธอปีแอย์ ลานีย์ จึงถูกดึงตัวเขาไปอยู่ในองค์กรแห่งความตายตั้งแต่ยังเยาว์วัย หลังจากเกิดเหตูการณ์ครั้งนั้น...

                    ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ อับชื้นเพราะไร้การทำความสะอาด ของอพาตเม้นท์ที่เบียดตัวเข้าไปอยู่ในตรอกแห่งนี้ ไม่มีครั้งใดเลยที่บุคคลขึ้นชื่อว่า แม่จะไม่มีกลิ่นสุรา หรือบุหรี่ติดกาย หากวันใดไม่มีเหล้าตกถึงท้องเด็กน้อยทั้งสองจะถูกใช้เป็นที่ระบายอารมณ์

                    ทั้งไม้แขวนเสื้อ มือ และเท้าถูกประเคนใส่เด็กทั้งสองอย่างไร้ความปราณี จนเนื้อตัวของทั้งคู่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นแทบไม่มีช่องว่างบนร่างกาย เธอผิดเหรอที่เกิดมาเช่นนี้... ผิดเหรอถึงต้องถูกทำร้ายแบบนี้... ผิดเหรอ... ใช่! ไม่ผิด เธอและเขาไม่ผิด!

                    ในคืนวันหนึ่งขณะที่ผู้เป็นแม่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงอย่างสบายใจนางก็ถูกปักเข้ากลางอกด้วยมีดเก่าขึ้นสนิม แม้จะมองเห็นไม่ชัดแต่เด็กชายก็รับรู้ได้ แววตาแห่งความหวาดกลัวที่ส่งผ่านมาของผู้เป็นแม่ก่อนจะสิ้นใจ นี่ควรจะเป็นแค่ศพเดียวหากลูกค้าของหญิงผู้นี้ไม่เปิดประตูเข้ามาเสียก่อน

                    เมื่อภาพของโสเภณีจมกองเลือดปรากฏแก่สายตาชายหนุ่มก็สร่างเมาทันที ขวดเหล้าตกกระแทกพื้นแตกดังเพล้ง ก่อนเศษเล็กเศษน้อยของแก้วจะแตกกระจายทั่วพื้นห้อง พร้อมๆ กับส่วนของศีรษะซึ่งถูกบั่นด้วยเส้นลวดที่ใช้ขึงราวตากผ้า

                    เลือดของเดอาไหลออกจากบาดแผลที่ทอดตัวเป็นแนวยาวตามรอยลวด ไม่เจ็บ มันไม่เจ็บ เด็กทั้งคู่เรียนรู้ว่าพวกเขาไม่เจ็บกับบาดแผลที่เกิดขึ้นตามร่างกาย ไม่สิ! มันไม่มีความรู้สึกใดๆ เลย

                    พวกเธอใจกล้าดีนี่ เสียงเย็นเยียบเอ่ยขึ้นในความมืด แม้มันจะดังพอสมควรแต่ก็ไม่สามารถจับทิศทางได้เลย แต่ทั้งคู่หาได้หวั่นเกรงไม่ แว่วเสียงหัวเราะดังขึ้นก่อนเสียงปริศนาจะเอ่ยขึ้นอีกครา เกลียดแม่สินะ ปีแอย์ส่ายหน้า

                    “เปล่าหรอก” เรียวปากน้อยยิ้มแสยะก่อนเอ่ยประโยคที่ให้ความนัยน่ากลัวด้วยน้ำเสียงใสซื่อ “เราก็แค่เห็นมันเป็นแค่เศษเดนมนุษย์ แค่หายใจไปวันๆ อยู่ไปก็รกโลก...”

                    คราวนี้เป็นเสียงรองเท้ากระทบพื้นแทน ชายปริศนาเผยตัวออกมาจากมุมมืดของห้อง ราวกับว่าเขาอยู่ตรงนั้นมานานแล้ว บุรุษปริศนาผู้นี้มีใบหน้าที่เรียกได้ว่าหล่อเหลาแม้จะถูกปอยผมสีน้ำเงินเข้มหนาบดบังก็ตาม ดวงตาสีนิลจ้องมองทั้งสองคนก่อนเอ่ยเนิบๆ

                    “งั้นยินดีต้อนรับสู่เรา พนักงานปลิดชีพและพนักงานขายข่าว...”

                    จากนั้นทั้งสองก็ถูกเปลี่ยนนามสกุลและได้รับการศึกษาในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่ไม่ทันถึงสัปดาห์เด็กทั้งคู่ก็ก่อเรื่องเริ่มจากปีแอย์เขาซัดนักเลงประจำโรงเรียนจนหมอบกระแตเหตุเพราะมันมาหาเรื่องเขาก่อน ส่วนเดอาเธอกรีดใบหน้าของเชียลีดเดอร์จนเป็นรอยด้วยคัตเตอร์เพราะหล่อนฉีกสมุดของเธอ

                    “ฮึๆๆ” ชายหนุ่มที่พาพวกเขามาหัวเราะน้อยๆ เหมือนได้สิ่งที่ต้องการ แม้เป็นเรื่องที่เสียมารยาทแต่ด้วยจิตสังหารที่แผ่ออกมาก็ไม่มีใครกล้าโวยวาย

                    “นี่! ลูกของคุณทำลูกของดิฉันถึงขนาดนี้คุณไม่คิดจะรับผิดชอบบ้างเหรอ” ในที่สุดหญิงวัยกลางคนตัวอ้วนกลมก็เอ่ยปาก เธอชี้ใบหน้าซึ่งถูกพันด้วยผ้าพันแผลของเชียลีดเดอร์ ชายหนุ่มหัวเราะอีกครั้ง

                    “แล้วลูกคุณล่ะทำอะไรไว้บ้าง ลูกคุณฉีกสมุดของเดอา...” พอจบประโยคหญิงคนนั้นก็หน้าเจื่อนลงทันทีเพราะจิตสังหารที่ส่งตรงถึงร่างนั้น แว่วเสียงชายอีกคนโวยวาย

                    “แล้วลูกผมล่ะลูกของผมต้องเข้าโรงบาลเพราะไอ้เดนนรกนี่” นิ้วป้อมสั้นชี้ไปที่ปีแอย์ซึ่งนั่งทำหน้าเบื่อโลกอยู่บนเก้าอี้ “คุณต้องรับผิดชอบ!!!” เขาตะโกนลั่นห้องปกครองอย่างเหลืออด

                    “คุณลองมองในทางกลับกันดูสิ”

                    “คุณจะบอกว่าลูกของผมผิดเหรอ!” ใบหน้าอ้วนกลมขึ้นสีด้วยความโกรธ

                    “เปล่า ผมจะบอกว่าลูกคุณตัวใหญ่กว่าปีแอย์ตั้งเยอะ ดังนั้น...”

                    “โว้ยยย!!!

                    ตึง!

                    โครม!!

                    โต๊ะสี่เหลี่ยมถูกเหวี่ยงติดผนังห้องด้วยฝีมือชายวัยกลางคน ตามด้วยร่างอ้วนที่วิ่งเข้ามาโดยไม่ทันคิดหน้าคิดหลังจนโดนปีแอย์เสยด้วยหมัดซ้ายกระเด็นไปติดผนังอีกฟากสลบเหมือดในทันที ชายหนุ่มเพียงแค่หัวเราะชอบใจ

                    “ไม่ฟังให้จบก็เป็นแบบนี้แหละ” เขาพึมพำกับตัวเองก่อนเอ่ย “แค่นี้นะครับผมติดธุระ...”

                    ชายหนุ่มทิ้งสีหน้าตกใจไว้ที่ผู้ปกครองและเด็กอีกสองคนก่อนเดินจากไป จากนั้นทั้งสองคนก็ลาออกจากโรงเรียนและมาเข้ารับการศึกษาที่องค์กรจนจบระดับชั้นมัธยมศึกษา ทั้งวิชาการ กีฬา และศาสตร์การต่อสู้ล้วนเป็นสิ่งที่ซึมเข้าสู่หัวใจที่ถูกแช่แข็ง อวัยวะขนาดเล็กในอกซ้ายถูกสาดย้อมด้วยความเย็นชา

                    เมื่อเรียนในระดับชั้นมัธยมจบแล้วทั้งคู่ก็ต้องได้รับการศึกษาต่อ ในมหาวิทยาลัยที่ผลิตบุคคลมีคุณภาพสู่สังคมสองพี่น้องถูกสอนให้รู้จักการอดทนอดกลั้นเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเหมือนตอนอยู่ชั้นประถม ทั้งสองคนต้องอาศัยอยู่ในคราบเด็กเนิร์ด ต้องแต่งหน้า ต้องพกอาวุธติดตัวตลอดเวลา และทำงานควบคู่กันไปด้วย

                    และเมื่อตกดึกพวกเขาก็ต้องเข้ามาทำงานในชั้นใต้ดินของตรอกแห่งนี้

                    แกร๊ง!

                    ลูกกรงเหล็กถูกเปิดออกเดอาส่ายหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่าน ชายคนหนึ่งก้าวเข้ามา ดูจากบอร์ดี้การ์ดในชุดสูทที่ยืนคุมประตูห้องแล้วชายตรงหน้าคงจะเป็นนักธุรกิจไม่ก็นักการเมืองนั่นแหละ เขาหย่อนก้นอุดมไปด้วยไขมันลงบนเก้าอี้ไม้เก่าจนเกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดราวกับมันพร้อมจะลาโลกได้เสมอ ศีรษะล้านเลี่ยนมีเส้นผมปกคลุมเพียงรอบนอกสะท้อนกับแสงไฟจากหลอดไฟเก่าประดับเพดานต่ำเตี้ยแยงตาเดอายิ่งนัก

                    แต่เส้นผมสีทองที่ถูกยีจนยุ่งเหยิงปรกหน้าปรกตาก็ช่วยลดทอนแสงจากศีรษะนั้นได้ดี หญิงสาวยกยิ้มเย็น เรียวปากสีคล้ำจากบุหรี่ขยับขึ้นลงเป็นถ้อยคำด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

                    “สวัสดี ขอโทษที่ไม่ได้ต้อนรับอย่างสมเกียรติ” เธอปรายตามองคนในชุดสูทท่าทางขึงขังที่รายล้อมรอบห้องอยู่ ณ ตอนนี้ “ทางเราไม่มีกาแฟให้ดื่มหรอกนะ”

                    ชายหัวล้านนำรูปถ่ายใบหนึ่งขึ้นมาวางบนโต๊ะ หญิงสาวประสานมือไว้บนโต๊ะมองรูปชายวัยรุ่นลักษณะเหมือนกุ๊ยข้างถนนตามตัวเต็มไปด้วยรอยสักและรูเจาะน่าขยะแขยง แต่ด้วยชาติตระกูลที่เกิดก็ยกระดับคนคนคนนี้ให้มีคนเคารพยกย่องแทบจะเลียเท้าอยู่แล้ว เดอาถูกสอนว่าถ้าลูกค้าไม่จ่ายเงินก็ห้ามปริปากบอกเรื่องต่างๆ เด็ดขาดมันเป็นกฎบัญญัติของแผนกพนักงานขายข่าว ซึ่งทำงานในหน้าที่การสรรหาข้อมูลของฝ่ายต่างๆ มาบริการให้แก่คนที่ต้องการมันส่วนเรื่องราคานั้นขึ้นอยู่กับปริมาณข้อมูลและระดับความสำคัญของข้อมูลนั้นๆ

                    “ฉันอยากให้นายไปฆ่าไอ้เด็กเวรนี่!” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

                    “ใจเย็นๆ ดื่มกาแฟก่อน” แก้วมัคที่มีของเหลวสีน้ำตาลส่งกลิ่นหอมหวน พร้อมด้วยน้ำตาลก้อน ครีมเทียม และช้อนชาถูกวางทับรูปถ่ายใบนั้น จนอีกฝ่ายตีสีหน้าไม่ถูก “ถ้าจะจ้างงานพรรค์นี้คุณต้องไปที่แผนกพนักงานปลิดชีพ”

                    แผนกพนักงานปลิดชีพคือแผนกแยกย่อยลงมาจากแผนกขายข่าว มีชื่อเรียกเล่นๆ ในองค์กรว่าแผนกนักฆ่า ไม่ก็มือสังหาร ส่วนการทำงานนั้นก็ตรงตามชื่อพวกเขามีหน้าที่ฆ่าเป้าหมายของลูกค้า ส่วนจำนวนเงินนั้นก็ประเมินเหมือนแผนกขายข่าวนั้นแหละ แม้เดอาและพี่ของเธอจะได้รับอนุญาตทำงานควบทั้งสองแผนกได้เหมือนคนอื่นๆ ที่อยู่มานานแล้วแต่ทั้งสองก็เลือกที่จะปฏิบัติตามหน้าที่ในแผนกที่ประจำการอยู่

                    “ซึ่งในแผนกนี้อยู่ในโซนด้านในของสำนักงาน...” ไม่ทันที่เธอจะเอ่ยจบเงินก้อนจำนวนหนึ่งก็ถูกกองกับโต๊ะ หลังจากประเมินด้วยสายตาแล้ว 1... 2... 7ล้านดอลล่า ดวงตาสีไพลินลุกวาว ชายร่างอ้วนคลี่ยิ้มพอใจ ก่อนส่งรายละเอียดของเหยื่อให้แก่เธอ

                    “เจ็ดวันได้รึเปล่า แบล็ค”

                    แบล็ค... คือชื่อที่เดอาใช้ในการปิดบังชื่อของเธอเอง เพราะอยากอยู่ในสังคมอยากสงบสุข ไม่อยากให้มีใครก็ไม่รู้โผล่มาร้องต๊ะเอ๋ข้างหน้าต่างด้วยสภาพเลือดท่วมตัวและมอบหมายภารกิจพร้อมส่งสายตาลุกวาวมาให้เหมือนในหนังที่พล็อตมาจากเรื่องจริงที่เธอเคยดู

                    “แค่สามวันก็พอ...”

                    เมื่อลูกค้ากลับไปแล้วเธอก็รวบผมสีบลอนด์ทองขึ้นแล้วกลัดเกล้าด้วยปิ่นเหล็กสีเงิน เพราะองค์กรแห่งนี้แตกแขนงสาขาออกไปทั่วโลก พี่ชายของเธอจึงถูกย้ายไปที่ออสเตรียด้วยภาวะขาดแคลนบุคลากร มอเตอร์ไซค์สีดำกลืนกินไปกับความมืดที่โอบล้อมพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อหญิงสาวกดบิดคันเร่งจนสุด ข้อมูลต่างๆ นั้นจะถูกจัดเก็บในพื้นที่สมองของเธออย่างเป็นระเบียบราวกับเอกสาร เป้าหมายรายนี้ก็เช่นกัน... เกรย์เดอร์ ลาสวิวล์ ไม่รู้เหมือนกันว่าลูกค้าไปแค้นอะไรมาแต่งานก็คืองาน

                    คนคนนี้นอกจากจะเป็นเหยื่อของลูกค้าแล้วในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นเขาก็เป็นนักเลงรีดไถเงินของนักเรียนจนๆ ที่เข้ามาเรียนที่นั่นเพราะได้รับทุนการศึกษา เป็นเด็กติดยา ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง พอเลิกเรียนแล้วก็เอาแต่เที่ยวซ่อง ในวันนี้ก็คงจะถูกกักบริเวณล่ะมั้ง... ก็เมื่อวานนี้ถูกจับได้ว่าเอาอีตัวเข้ามาในบ้านนี่นา... เดอาที่มีความแค้นกับหมอนี่อยู่น้อยนิดคิด แล้วข้อมูลที่ถูกกักบริเวณนั่นก็ผลงานสืบเรื่องราวของเธอเอง

                    เอี๊ยด...

                    มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ถูกดับเครื่องแล้วจอดไว้ข้างทาง หมวกกันน็อคติดเลนส์ชนิดพิเศษช่วยให้มองเห็นในความมืดช่วยให้งานง่ายขึ้นในที่ที่ไม่มีแสงไฟส่องสว่างเช่นนี้ แม้ไม่มีมันดวงตาที่ได้รับมาตั้งแต่เกิดของเธอก็นำทางได้ แต่ที่เธอใส่หมวกนี่ก็เพราะมันมีข้อดีหลายอย่าง ทั้งในเรื่องการปิดบังใบหน้า (รวมถึงเป็นเอกลักษณ์ของแบล็ค) และกันกระแทก

                    รั้วเหล็กสูง 5 เมตรไม่เป็นปัญหาต่อการบุกรุก มือหุ้มถุงมือหนังยึดจับรั้วเหล็ก เมื่อปีนสู่ยอดรั้วแล้วร่างบางก็ถีบตัวส่งตนเองข้ามปราการด่านแรกอย่างง่ายดาย คฤหาสน์หรูกว้างสร้างด้วยสถาปนิกชื่อดังจนมันออกมาวิจิตรไม่มีที่ติ ถูกแสงสปอร์ตไลท์สาดส่องจนดูราวกับของจัดแสดงโชว์ ที่มีบอร์ดี้การ์ดถือปืนยืนเรียงรายราวตุ๊กตาของเล่น

                    การ์ดคนที่หนึ่ง คนที่สอง คนที่สาม ไม่นานนักชายฉกรรจ์หลายสิบคนก็ถูกจัดการด้วยฝีมือของหญิงคนเดียวที่นับจำนวนเหมือนนับแกะ พอจัดการการ์ดคนสุดท้ายเสร็จเธอก็เปิดประตูเข้าไปภายในบ้าน แม้ของโชว์ในตู้กระจกจะวางเรียงรายน่าหยิบจับแต่เธอก็มุ่งจิตสังหารสู่เป้าหมายแค่นั้น

                    ห้องโถงทรงกลมกว้างแตกแขนงออกเป็นเส้นทางย่อยๆ ประเมินด้วยสายตาแล้วก็มีนับสิบเส้นทาง พื้นหินแกรนิตสีชมพูอ่อนดูสว่างยามแสงจันทร์ด้านนอกลอดผ่านเข้ามา ซ้าย ขวา หน้า หลัง เดอาเลือกเส้นทางตามสัญชาตญาณ เธอเดินไปถึงห้องห้องหนึ่ง ที่มีชั้นหนังสือติดอยู่ที่ผนัง แต่หากพิจารณาดูดีๆ แล้วกลับพบว่ามันคือปุ่มลับที่วางเอาไว้

                    หญิงสาวลูบนิ้วตามสันหนังสือ เธอหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาแล้วจัดวางมันใหม่ทำให้เกิดเสียงปลดล็อคดังขึ้นเบาๆ ก่อนชั้นวางจะหลุบหายเข้าไปในผนังแล้วปรากฏบันไดวนแทน เมื่อก้าวเท้าสู่ขั้นบันไดแล้วประตูที่มาก็ปิดลงโดยอัตโนมัติ ร่างร่างหนึ่งถูกมัดแน่นติดกับเก้าอี้ปรากฏแก่สายตาของเธอ เขาเงยหน้าขึ้นมาใบหน้าท่วมเลือดส่งกลิ่นคาวในอากาศขึ้นมาแล้วก็ต้องหลุมต่ำอีกครั้งเมื่อถูกกระสุนปืนพุ่งเจาะทะลุหน้าผากเข้าอย่างจัง

                    ง่ายดาย... มันช่างง่ายดาย... เธอวนกลับเส้นทางเดิมแล้วกลับมายังที่พัก เข็มนาฬิกาข้อมือชี้บอกเวลาเที่ยงคืน ปกติแล้วเดอาจะนอนตอนเที่ยงคืน และตื่นตอนตี 5 เพื่อแต่งหน้าสวมคราบเนิร์ดและไปโรงเรียนตอนนี้ต้องนอนแล้วมั้ง หญิงสาวเข้านอนโดยลืมสังเกตว่ามีใครตามเธออยู่ที่นอกหน้าต่าง

                    ร่างนั้นเคลื่อนตัวเป็นเส้นสีดำวูบไหวหายไปกับสายลม...

    ขอบคุณที่กรุณาเข้ามาอ่านค่ะ ไม่สิขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้และกำลังจะอ่านต่อไปนะคะ//กราบงามๆ สักสามที

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น