ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic]Bleach:Soul Reaper Revelation

    ลำดับตอนที่ #11 : *Season 1*Episode 11:My real name

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 52


     

    ผีเสื้อนรกบินว่อนไปสองตัว ขณะที่เงาคนสองคนกำลังมองจากมุมบริเวณสูงของตึกคอนโดหรู ดวงตาปราดมองมุมรอบๆก่อนจะมองแผ่นกระดาษที่ประทับตรา46ห้องวังกลาง ร่างของคนตัวสูงกว่าค่อยๆเอาผ้าคลุมหัวออก ดวงตาสีเงินปราดมองไปทั่วแล้วมองแผ่นกระดาษมีเขียนด้วยลายมือบรรจง คำสั่งตรง คือบัญชาที่จะขัดไม่ได้อีกต่อไปแต่ก็ไม่ได้จะชอบพวกนี้เท่าไหร่นัก

     

    จักรวรรดิก็ไม่ได้อยากยุ่งกับพวกมนุษย์เท่าไหร่ แต่มันคือหน้าที่เท่านั้น แต่ทำไมต้องมาเชื่อฟังมนุษย์ด้วย แม้ผู้มีศักดิ์สูงกว่าจะบอกว่าพยายามอย่าขัด

     

                เอาจริงรึไงกันนะคนตัวเล็กกว่าคาดว่าเป็นผู้หญิงเอ่ยบ่น แล้วก้มลงมองรูปคนที่ต้องจับ วิธีสิ้นคิดแฮะ

     

                ขัดไม่ได้จะทำไงล่ะ ฮาริเนะ ยูโนกิ เราจะเริ่มงานตอนบ่ายนี้ด้วยชายหนุ่มประธานนักเรียนที่กลับบ้านไปหมาดๆเพื่อรับโองการซึ่งมันช่วยไม่ได้มา ผมสีทองแซมเงินพลิ้วไหว รับกับเสื้อคลุมที่เป็นแค่เสื้อโค้ตธรรมดาๆ ทว่าดูยังไงเขาก็หน้าตาหล่อเหลาเกินกว่าจะเป็นมนุษย์ได้

     

    ถูกต้องแล้ว... เขาไม่ใช่มนุษย์

     

    คาอินหันมาทางรองหัวหน้าตนด้วยสายตาระอาใจ ขณะที่อีกฝ่ายดึงผ้าคลุมออก แล้วมองไปที่คอนโด ก่อนจะกระโดดหายไปทั้งคู่

     

     

    วันหยุดก่อนจะปิดเทอมไหงมันน่าเบื่องี้นะ ใครคนหนึ่งร้องบ่น ระหว่างที่แต่ละคนมารวมตัวกันที่บ้านของอิจิโกะซึ่งว่างอยู่พอดี และพวกเขาไม่รู้จะทำยังไง เซนริ ยูกิ และคาอินเองก็หายหัวไปตั้งแต่หมดคืนงานเต้นรำเชื่อมไมตรีเรียบร้อย ไม่มีเพื่อนคุย แต่ถ้าคิดในอีกแง่คนที่จะเป็นเพื่อนคุยได้ก็มีแค่คาอินคนเดียว ส่วนเซนรินี่ถึงจะได้พูดคุยด้วยถ้อยคำธรรมดา แต่เขาก็ยังเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงที่ดูน่าเกรงขามอยู่ดี มันช่วยไม่ได้ เพราะราชวงศ์นั้น มันเหนือชั้นและห่างชั้นกับพวกเขาโดยสิ้นเชิง

     

    ชายหนุ่มที่รูปงามที่สุด แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่อาจบอกใครได้ เช่นเดียวกับยูกิและคาอินที่ชอบพูดบ่อยๆว่าไม่ควรมาตีสนิทกับพวกเขา

     

    อิจิโกะยกมือบิดขี้เกียจ เพราะอากาศมันเริ่มร้อนเนื่องจากย่างเข้าหน้าร้อนเต็มที แต่ก็มีฝนตกอยู่บ้าง

     

                ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันออกไปซื้อน้ำให้ละกันเด็กหนุ่มผมส้มกระเด้งตัวออกจากเก้าอี้ของตัวเอง แต่เร็นจิก็ตะโกนถามว่า

     

                เฮ้ยไปไหวหรอ

     

                ไหวๆๆ

     

    ระหว่างที่คุโรซากิ อิจิโกะย่างเท้าลงมา ก็รู้สึกสังหรณ์ไม่ดี พลังวิญญาณสั่นสะท้าน จนเขาต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัย ยิ่งเดินยิ่งรู้สึกหนาวทั้งๆที่มันก็อากาศร้อน บรรยากาศรอบด้านเริ่มไม่ดีเอาเสียเลย ทั้งๆที่มันเป็นช่วงสุขสันต์ก่อนปิดเทอมซึ่งใกล้จะมีเทศกาลดอกไม้ไฟแท้ๆ

     

    พวกเขามีการสอบเรียบร้อยแล้ว แต่พวกเซนต์ราฟาเอลไม่ยอมมาสอบกันซักคน แต่คาโฮโกะบอกไว้แล้วว่า พวกนั้นขอสอบล่วงหน้าเพื่อจะเดินทางกลับก่อน เป็นที่น่าเสียดายมากทั้งๆที่คืนนี้ก็มีเทศกาลดอกไม้ไฟและคิดว่าแต่ละคนน่าจะกำลังเตรียมงานกันอยู่ ดังนั้นระหว่างเดินเขาก็น่าจะลองเดินไปดูลาดเลาเผื่อจะได้หาที่ซื้อนู่นซื้อนี่และแหล่งชมดอกไม้ไฟดีๆ ดังนั้น...

     

    เด็กหนุ่มเปิดประตูออกจากบ้านเดินไปตามถนนแต่ทันใดนั้น ห่างจากบ้านเขาไปประมาณร้อยเมตร มีคนๆหนึ่งกำลังยืนดูแม่น้ำอย่างสงบ ร่างนั้นสูงโปร่งบอบบางน่าปกป้อง ผมสีราวกับท้องฟ้ารัตติกาลยาวสยาย มัดรวบสองข้าวด้วยริบบิ้นสีขาวและดำอย่างละข้าง เธอคนนั้นสวมเสื้อแขนสามส่วนสีม่วงแดงและกระโปรงเอี๊ยม สีเงิน และรองเท้าบู๊ทสีดำ รูปร่างที่ราวกับนางแบบหลุดมาจากนิตยสารและใบหน้าที่งดงามกว่าเทพธิดาหรือปีศาจหรือสิ่งมีชีวิตในเทพนิยายใดๆ คาดคะเนเธอคงอายุราวๆ17ปี รวมถึงสวมหมวกลายสก๊อตสีชมพูอมม่วงตัดสีฟ้าหม่นและสีเทา

     

    เธอหันมาช้าๆเมื่อถูกจ้อง และเมื่อเห็นหน้า เด็กหนุ่มก็จำได้ทันที

     

                ยู... กิ??”

     

    อีกฝ่ายเอียงคออย่างสงสัย ใบหน้างดงามเงยเล็กน้อย เพราะส่วนสูงที่ห่างกันไม่ถึงสี่เซนติเมตร ริมฝีปากบางเอื้อนเอ่ย

     

                รู้จักฉันด้วยหรอ??”

     

     

    ร้านอุราฮาร่า

     

                จินตะโฮมรัน เอ้า เข้าไปจินตะเจ้าเด็กหัวแดงเอาไม้กวาดฟาดไปฟาดมา จนอุรุรุได้แต่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ อาทิตย์เริ่มคล้อยบ่ายแล้ว อุรุรุหันไปทางต้นทาง เตรียมสู้แต่ก็ต้องชะงักกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวถึงหลัง ดวงตาสีกรมท่าในชุดยมทูต มีดาบฟันวิญญาณคาดที่เอว โอบิเป็นโบว์สีแดงอันใหญ่ เธอกอดอกมอง

     

                ผู้จัดการร้านล่ะ

     

                เอ่อ

     

                มีอะไรหรือครับ คุณฟุยุโซระอุราฮาร่าก้าวออกมาจากบริเวณร้านแล้วหันมาประจันหน้ากับเด็กหญิง ฟุยุโซระ นิโกะ แห่งหน่วยที่6

     

               

                เจ้าพวกนั้นมาแล้วนะ ดูเหมือนท่านจะใจเย็นเหลือเกิน คุณอุราฮาร่าเด็กหญิงกอดอกด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย แก้ตอนนี้ยังทันนะ

     

                เสียใจ คุณฟุยุโซระ เรื่องนี้องค์ชายตัดสินพระทัยแล้วด้วย ผมขัดไม่ได้หรอกคร้าบอีกฝ่ายยักไหล่ นิโกะเบือนสายตามามองเล้กน้อย

     

                แต่นั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด คุณคือคนๆหนึ่งที่ห้ามได้ แต่คุณไม่ทำเลยนะคะ

     

                ผมจะทำอะไรได้ในเมื่อผมเป็นแค่พ่อค้า

     

                แต่คุณมีดาบฟันวิญญาณปลดปล่อยบันไคก็ได้ คุณทำได้

     

    อุราฮาร่าถึงกับนิ่งไปทันที พยายามอย่างยิ่งที่จะหาข้อมูล หรือคำโต้แย้ง จนกระทั่งได้ในที่สุด

     

                ผมทำไม่ได้หรอกครับ ไม่มีใครทำได้ โดยเฉพาะเมื่ออยู่เบื้องหน้าท่านฮายาเตะ เซนริ ดาบฟันวิญญาณไม่ต่างจากฝุ่นละอองเลย

     

    นิโกะเบิกตากว้าง หรือว่า...

     

                คุณคงเข้าใจนะครับ ว่าผมไม่เสี่ยงแน่ๆ

     

    เด็กหญิงพยักหน้า เธอรู้ดี ความสามารถนั้นของเซนริ สิ่งที่ทำให้ เขาคือกษัตริย์อย่างแท้จริง ความสง่างามและฝีมือของเขา ไม่มีใครรู้ได้หมด แต่ว่าเคยมีคนๆหนึ่งรู้ดี สาวน้อยคนนั้น นิโกะเงยหน้าขึ้น แล้วมองท้องฟ้ายามบ่าย

     

                ถ้าเป็นท่าน ท่านจะทำอย่างไรดีคะ เจ้าหญิง

     

    หนทางแห่งความเลวร้ายและความมืดของโซลโซไซตี้ การบีบคั้นเซนริ ทำให้เขาจะเป็นอย่างไรกัน ดวงตาสีกรมท่าหันไปทางทิศทางของบ้านคุโรซากิ

     

    คุโรซากิ อิจิโกะ และเหล่ายมทูตแลตัวแทนยมทูตทุกคน นับตั้งแต่นี้ต่อไป มันคือสิ่งที่พวกนายต้องเผชิญ ฉันก็ทำได้แค่พูดเท่านั้น

     

     

     

                ทำไม... ก็อิจิโกะถึงกับพูดอะไรไม่ออกแต่ถ้ามองจริงๆแล้ว อีกฝ่ายไม่รู้จักเขาจริงๆ สีหน้าที่ฉงนและสงสัยเป็นอย่างมากไม่มีวี่แววของคำว่าโกหกเลยแม้แต่น้อย ยูกิเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ๆพลางกอดอก คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น

     

                นายกำลังจะไปที่ไหนงั้นหรอ

     

                เอ่อ... ซื้อน้ำแล้วกะจะไปดูการเตรียมงานที่เทศกาล

     

    ยูกิพยักหน้าช้าๆแล้วมองรุ่นน้องอย่างพิจารณา ใบหน้าที่ฉายความเป็นผู้ใหญ่ซึ่งขัดกับความอ่อนเยาว์อย่างปิดไม่มิดครุ่นคิดเล็กน้อย เพราะอยู่ๆเจ้าเซนริก็บอกว่า ถ้าเจอเด็กหน้าตาคนนี้ อย่างนี้แต่ละคนก็ให้ฝากดูหน่อย แต่ถ้าเกิดว่าจะไปแถวงานเทศกาลก็ปล่อยไปได้เลย แต่ไม่แน่ใจว่าจิตใจจะทนได้ไหมนั่นคือปัญหา เธอเองก็ไม่ค่อยเข้าใจนักเท่าไหร่แต่ก็ต้องลองทำตามดู

     

    มนุษย์... ยมทูต ช่างเปราะบาง

     

                ฉันก็กำลังจะไปทางนั้นเช่นกัน ไปด้วยก็ได้

     

    เธอเดินนำ ขณะที่อิจิโกะเดินตามหลังต้อยๆ เพราะไม่เคยเห็นในระยะใกล้เลยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตัวสูงเอาการ แต่ก็ต้องชมเชยว่ารูปร่างเพอร์เฟ็คนั้น ดูดีกว่านางแบบอย่างไม่ต้องสงสัย รูปร่างกระชับและทุกอย่างลงตัว ไม่ได้มีอะไรมากเกินไปเหมือนโอริฮิเมะ เนล รันงิคุหรือคนอื่นๆ

     

    แต่ดูยังไงก็สวยกว่ามนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตทั่วไป และทำให้เขารู้สึกเกรงใจได้อย่างน่าประหลาด ไม่ได้แบบลูเคียที่ดูเกรงๆตอนแรก แต่สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ที่แผ่ซ่านออกมาและเป็นผู้ใหญ่น่าไว้ใจได้มาก ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น จนอดคิดไม่ได้ว่า พวกนี้มันห่างชั้นกับพวกที่เขาเคยเจอมา

     

    เพลงดาบของเซนริ ไม่สิ แค่พลังที่เขาใช้ออกมาเพียงเล็กน้อย เขาสังหรณ์ใจว่า ถ้าหากเจ้าชายผู้นั้นไม่จงใจให้มันพลาดล่ะก็ เขาคงจะตายไปนานแล้ว

     

                กำลังคิดอะไรอยู่หรอเสียงนิ่งถามเข้ามา ระหว่างที่เดินไปได้ซักพัก ทำเอาอิจิโกะส่ายหน้าเป็นพัลวันปฏิเสธไปทันที ยูกิพยักหน้า สีหน้าเธอนิ่งเฉยจนแทบจะคาดเดาไม่ออกทำเอาเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างไงอย่างนั้น สิ่งที่แผ่ออกมาจากหญิงสาวมีแต่คำว่ากดดัน และทำให้เขาไม่ค่อยกล้าชวนคุยเท่าไหร่นัก ทันใดนั้น ก็มาถึงร้านขายน้ำและซื้อซักครู่ก็ไปถึงที่ๆเขาจะเตรียมงานดอกไม้ไฟในคืนนี้

     

    คนงานวิ่งพล่านไปพล่านมา และดูท่าทางจะไม่ค่อยสนใจเด็กวัยรุ่นสองคนเท่าไหร่ หรือถ้าให้พูดอีกที พวกเขาแทบมองไม่เห็นเสียด้วยซ้ำ อิจิโกะหายใจกระตุกเพราะสถานการณ์รอบด้านมันฟ้องถึงคำว่า... ผิดปกติ

     

                กลัวหรอเสียงนิ่งถามอีกครั้งทำให้เด็กหนุ่มกลั้นหายใจ

     

                ปะ เปล่า

     

                เสียงติดอ่าง และท่าทางแบบนั้นมันฟ้องนะ

     

    เธอเดินไปสำรวจภาพเขียนและการตั้งร้านค้าอย่างสนอกสนใจ ซึ่งมีคนเริ่มตั้งบู๊ทกันแล้ว และบางคนก็แวะมาซื้อของกันบ้าง หญิงสาวเดินไปหยุดอยู่ที่ร้านไอศกรีม แล้วซักพักก็กลับมาพร้อมกับไอศกรีมโคนทรงสูงรสนมเมจิแท้ๆสองโคน เธอส่งหนึ่งอันให้กับเด็กหนุ่ม แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ เป็นครั้งแรกที่อิจิโกะมีคนเลี้ยงไอศกรีม แล้วยังเป็นผู้หญิงที่ยังกับพี่สาวก็ไม่ปาน เขาค่อยๆเดินตามไปช้าๆ แต่ก็กินไอศกรีมเพื่อปกปิดความหวาดกลัวต่อเธอตรงหน้า เป็นครั้งแรกที่เขามีความรู้สึกแบบนี้ และเขาไม่เคยคุยกับเด็กผู้หญิงที่ตัวสูงเกือบเท่าเขาด้วย แทบจะสูงกว่าอิชิดะอยู่รอมร่อ แต่กลับดูดีและมีสง่า

     

                คิดว่าเซนริและคาอินเป็นคนยังไงหรอยูกิหันมาถาม ระหว่างที่นั่งลงบนพื้นหญ้าตรงหน้าศาลเจ้า แล้วขยับที่ให้คนอายุน้อยกว่ามานั่งด้วย เด็กหนุ่มหย่อนตัวนั่งลงอย่างกล้าๆกลัวๆ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไรไปไกลก็ตาม แถมดูท่าว่าจะไม่สนใจใครง่ายๆ เพราะคาอินก็พอจะเล่าให้ฟังอยู่บ้างว่า เพราะยูกิจะสนิทกับเซนริและเห็นหน้าบ่อยๆ อีกทั้งเจ้าชายเป็นคนที่รูปงามที่สุดแล้ว ไม่มีใครเทียบเคียงได้ พอชินตาแล้วมาเห็นลักษณะผู้ชายคนอื่นๆ เธอก็ออกจะเฉยชาเสียด้วยซ้ำ

     

    อิจิโกะทบทวนคำพูดเพราะเขาเองก็รู้จักกับสามคนนี่ได้ไม่กี่เดือน แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าถ้าตอบไปจะทำให้หญิงสาวโกรธหรือไม่

     

                ตอบเถอะน่า

     

                เอ่อ... ก็นิสัยดี แต่แปลก เพราะฉันไม่เคยคุยกับคนของจักรวรรดิ

     

                คนของจักรวรรดิไม่ใช่มนุษย์แท้ๆ ต่างจากคนที่นายเคยรู้จักเพราะสรรพสิ่งที่นายรู้จักและคุ้นเคยก็ล้วนที่จะเป็นผู้ที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อน ต่างจากพวกฉันที่ไม่ใช่มนุษย์มาตั้งแต่แรก หญิงสาวจัดการกับโคนชิ้นเล็กๆชิ้นสุดท้ายเสร็จก็พูดต่อ การพูดคุยแม้จะธรรมดาแต่มนุษย์ก็ไม่ได้คุยในรูปแบบและบรรยากาศที่เหมือนกับพวกฉัน เพราะว่า พวกที่เป็นอมนุษย์ จะอ่านบรรยากาศได้ออก จะรู้และจำอะไรได้ดีกว่ามนุษย์ และเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่า ฉันคงพูดถูก...สินะ

     

                คล้ายๆฮิราโกะ ชินจิ เอ่อ ไวเซิร์ดน่ะ... คงคล้าย ล่ะมั้งอิจิโกะพูดไปก็พยักหน้าไป แต่ยูกิส่ายหน้า

     

                อดีตหัวหน้าหน่วยที่5ฮิราโกะ ชินจิเองก็ไม่จัดเป็นพวกเดียวกับพวกฉัน แม้จะมีพลังไวเซิร์ด แต่ก็คนละแบบกับพวกฉัน เพราะไวเซิร์ดคือพวกมีพลังฮอลโลว์ และฮอลโลว์คือวิญญาณมนุษย์ชนิดหนึ่งเธอพูดคุยราวกับรู้จักคนๆนี้ดีทำเอาอิจิโกะอึ้งไปพักใหญ่ ไม่มียมทูตคนไหนในโซลโซไซตี้หรือคนในจักรวรรดิที่ฉันจะไม่รู้จักชื่อ ประวัติทุกอย่างฉันรู้หมด เช่นเดียวกับพวกนายที่ฉันมองปราดเดียวฉันก็รู้ถึงต้นกำเนิดได้แล้ว และอมนุษย์ที่ฉันกล่าว มันไม่ได้หมายถึงยมทูต ฮอลโลว์ ไวเซิร์ด หรือเอสปาด้าใดๆทั้งสิ้น

     

                แล้วเธอหมายความว่ายังไง

     

                ฉันหมายความว่า อมนุษย์ที่ฉันหมายถึงก็คือเทพ ปีศาจ แวมไพร์ มนุษย์หมาป่า ภูต อสูรกาย นี่แหล่ะคือสิ่งมีชีวิตในจักรวรรดิทั้งหมด อย่างเทพก็มีเชื้อสายที่เริ่มเบาบางลง แต่แข็งแกร่งที่สุดก็คือราชวงศ์ฮายาเตะที่ควบคุมกาลเวลาได้ อย่างที่นายรู้ก็คงจำได้เรื่องที่เซนริแสดงพลังให้นายดู

     

    สายลมที่พัดมาโดยไม่รู้ตัว คมมีดที่กรีดไปตามพื้นดินทำลายทุกอย่าง ไม่เคยลืมเลือนในวันนั้น

     

    แต่ทว่าแบบนั้นกลับมีบางสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า

     

    ซึ่งมันก็คือเธอคนนี้

     

    บรรยากาศน่ากลัว แต่ไม่ได้บ่งบอกถึงความเป็นศัตรูทว่ากลับให้ความน่าเกรงขามมากกว่าเซนริเสียอีก กดดันจนไม่ใช่มนุษย์ ไม่มีความเป็นมนุษย์อยู่เลยจนน่ากลัวเกินไป เพราะยมทูตก็คือมนุษย์ที่มีพลังวิญญาณมหาศาล ซึ่งเป็นวิญญาณไปสู่โซลโซไซตี้ ฮอลโลว์ก็คือวิญญาณมนุษย์ที่กลายสภาพไปเป็นฮอลโลว์ และมีพลังมหาศาล เอสปาด้าก็พวกที่มีพลังของสองอย่างแต่ยังไงพวกนี้ก็เคยเป็นมนุษย์มาก่อน ทว่ายูกิคนนี้ กลับมีทุกอย่างที่น่ากลัวกว่า งดงามกว่า ทำไมกัน??

     

     พลันเด็กหนุ่มหวนคิดถึงคำพูดของใครบางคน

     

    ราชวงศ์ที่ไม่มีความเป็นมนุษย์เลย ต่อให้มองแค่ไหนก็ไม่อาจบ่งบอกได้นอกจากลักษณะภายนอกเท่านั้น ซึ่งก็คือราชวงศ์คุนะยูกิ

     

                รู้เข้าซะแล้วหรือไงยูกิถามเสียงเรียบมาอีก ทำเอาอิจิโกะสั่นสะท้าน กำหมัดแน่น เพราะเขากำลังคิดอยู่ว่า คนๆนี้อาจจะเป็นราชวงศ์คุนะยูกิ แต่ทำไมถึงต้องปิดบังขนาดนั้น แล้วที่ดูราวกับอ่านความคิดได้ นั่นก็แสดงว่าเธอคนนี้มีSOTเหมือนของเซนนะรึเปล่า แต่คุนะยูกินั้น ไม่ใช่ไม่ใช่หรือ พวกนั้นควบคุมอนาคต โชคชะตา และความตายของสิ่งรอบตัวได้ เป็นพลังที่น่ากลัว

     

                ฉันไม่ได้มีSOTอ่านใจหรอกนะ

     

                เธอ... เป็นใครกันแน่ ไม่ใช่ยูกิ...

     

    เธอคือใครกัน มีจุดประสงค์ใดกัน

     

                ยูกิที่พวกเธอเห็นหญิงสาวเว้นจังหวะบรรยากาศกดดันค่อยๆแผ่ออกมาจากเธอเรื่อยๆ เป็นแค่... รูปลักษณ์จำลอง ไม่ใช่ตัวจริง

     

                ว่า... ไงนะอิจิโกะหลุดคำพูดออกมาได้อย่างยากเย็น ไม่ใช่... ตัวจริง นี่มันหมายความว่าอะไรกัน

     

    หญิงสาวเหยียดร่างบางระหงขึ้นแล้วเดินไปอยู่ตรงหน้าศาลเจ้า ห่างจากเด็กหนุ่มราวๆสองเมตร

     

                จะขอพูดอีกครั้ง ยูกิที่พวกเธอเห็น นั่นก็แค่...ตัวปลอมเท่านั้น ที่เอาไว้ผนึกฉันซึ่งก็คือยูกิตัวจริง ไม่ให้ออกมาก็เท่านั้นเธอยักไหล่อย่างไม่แยแส แต่ตอนนี้จะว่าตัวจริงก็พูดได้ไม่ค่อยเต็มปากหรอก เพราะฉัน ไม่มีความทรงจำในอดีต หรือมีก็แค่ครึ่งๆกลางๆเท่านั้น

     

    อิจิโกะยืนนิ่ง ทั่วร่างพลันแข็งทื่อราวกับลืมวิธีการเคลื่อนไหวไปเรียบร้อยแล้ว สรุปว่า พวกนี้เป็นใครกันแน่ พวกเขาเป็นตัวอะไร พวกเขาไม่ใช่มนุษย์ แต่พวกนี้ต้องเป็น...

     

                ชื่อที่แท้จริงของฉันเธอกล่าวช้าๆ ทำให้อิจิโกะต้องขยับคอที่แข็งเกร็งให้หันมามองหญิงสาวซึ่งดูอายุมากกว่าเขาสองสามปี หรือถ้าจะให้พูดก็ดูอายุไล่เลี่ย โซเคนโย โทโอยะ แห่งราชวงศ์คุนะยูกิ ราชวงศ์แห่งสองเผ่าพันธุ์ ผู้ควบคุมอนาคตของมนุษย์แล้วก็... เป็นเจ้านายแห่งยมทูตทั้งปวงยังไงล่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×