คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : จะเอาเรื่องไรดี
“มอกก่อนเลยว่าขอปฏิเสธเดอะริงค์”เฟรินพูดเสียงแข็งหลังจากที่เสนอเรื่องต่างๆมาแล้ว
“ถ้าเป็นอลิส อคาดามี่ก็คงลงตัวพอดี”เฟลิเซียคำนวณตัวละครดู
“อลิส อคาดามี่หรอ”ทุกคนหันมามองด้วยความสงสัยยกเว้นโรและจูปิไตที่พอนึกถึงตัวละครก็หัวเราะพรืด เพราะมันลงตัวอย่างที่ว่าจริงๆ
“อ๋อ”พวกตัวแทนพระเจ้านึกได้รางๆ
“เล่าให้ฟังหน่อยสิจ๊ะ”เมอลินด้าเสนอ “เอานิสัยตัวละครก็ได้”
“มันเกี่ยวกับทักษะการใช้พลังที่มีชื่อว่าอลิส มีนางเอกชื่อ มิกัน ซากุระ เป็นคนที่ซน ไม่ได้เก่งสารพัดด้านเลย ซึ่งนิสัยเหมือนใครบางคน”เฟลิเซียหยุดไปนิดแล้วหันไปทางเฟรินและเอลไลย่า
“ส่วนพระเอกชื่อว่า นัตสึเมะ เฮียวกะ เป็นคนที่เย็นชามากๆ แต่ก็เป็นที่หมายปองของสาวๆในโรงเรียนที่มีชื่อว่าอลิส อคาดามี่ พวกสาวๆยกเว้นนางเอกและเพื่อนผู้หญิงอีกคน ได้แต่ชื่นชมว่าสีหน้านิ่งๆนั้นเป็นของเท่ห์ เวลามีงานเต้นรำก็อยากจะเข้ามาชวน แต่นางเอกกับเพื่อนนางเอกเห็นว่า ขี้เก๊กซะไม่มี”
“เหมือนคาโลกะเจมิไน”นาธานว่า
“เพื่อนนางเอกที่เป็นผู้หญิงชื่อว่าโฮตารึ อิมัย เป็นคนที่เก่งเรื่องการประดิษฐ์มากๆเลย เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของนางเอก”อัซเทียเสริม โรเซตเริ่มสนุกก็ขอต่อทันที
“แล้วเพื่อนพระเอกเป็นเด็กผู้ชายชื่อรึกะ เป็นคนที่มีอลิสด้านเสียง สามารถคุยกับสัตว์ได้ทุกชนิด และรักสัตว์มากๆ”
“โห ลงตัวชะมัด”เคอัสร้องออกมา “แต่เจ๊แอมเบอร์ไม่ได้เป็นนางเอกชัวส์”
แอมเบอร์ตวัดสายตามามองก่อนทำเสียงเชอะในลำคอ ส่วนคิลหัวเราะก๊าก ลงตัวสุดๆ รึกะและนาธานหึๆ
“แล้วก็มีคนที่สามารถอ่านใจคนได้ รู้ทันไปหมดชื่ออะไรก็ไม่รู้จำไม่ได้”โรเซตเริ่มงงนิดๆ
“มีเด็กผู้หญิงอีกคนนะชื่อซูมิเระ เป็นคนที่คลั่งไคล้พระเอกมากๆเลย มีนิสัยบ้าคนหล่อ”เฟลิเซียต่อ คราวนี้ปราดสายตาไปทางแอมเบอร์
“แล้วก็มีตัวละครเช่น อาจารย์จินโนะมาดเฮียบ อาจารย์นารึมิผู้ใจดี๊ใจดี อาจารย์ผู้หญิงผู้น่ากลัว รุ่นี่ชื่อสึบาสะนิสัยแบบพี่โรเวน แต่ว่าไปตัดสินกันเอาเองก็แล้วกัน เดี๋ยวตอนเย็นเจอกันในงานฮาโลวีนนะ”เฟลิเซียลุกพรวดแล้วหายตัวไปทันที ตามด้วย อาดรว์ อัซเทีย โรเซต และอัสมาเรีย
“บทจะไปจะมาจริงๆ”ไธนอสถอนหายใจเบาๆ “อย่าลืมนะ ทดสอบความกล้า”
“ผมไม่ทดสอบได้มั้ยอ่ะ”เฟรินถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ไม่ได้”ลอเรนซ์สั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดจนทุกคนสะดุ้งโหยง
“เอาน่า เฟริน ไม่น่ากลัวหรอกมั้ง บางทีเฟลิเซียอาจจะจัดแบบดีๆให้ก็ได้”คิลพูดปลอบใจแต่ว่า คาโลกลับตัดรอยยิ้มทันที
“เปล่าหรอก เท่าที่รู้มา เด็กคนนั้นมีความสามารถด้านสติปัญญาและจิตวิทยายอดเยี่ยมที่สุดในสวรรค์ เท่าที่รู้มา การทดสอบความกล้าของเด็กคนนั้นที่จัดขึ้น น่ากลัวที่สุด”
คราวนี้คนขวัญอ่อนเริ่มตัวสั่นเพราะความกลัว
“แล้ว ถ้าเกิดปีศาจมาล่ะ”นาธานถาม
“ไม่ต้องห่วง อนาเขตพร้อมจะทำงานทุกเมื่อ”โรพูดยิ้มๆ
เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า เฟรินขนน้ำมนต์ กระเทียม ไม้กางเขน สารพัดอย่างสำหรับไล่ผีมาจนครบ แล้วแต่งชุดสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบใส่กระเทียมจนกลิ่นออก ไม้กางเขนคล้องคอไว้เพียบ น้ำมนต์ใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ที่เตรียมไว้ ส่วนคิลใส่ชุดแบบนักฆ่า คาโล แต่งเป็นพ่อมดปีศาจ
แล้วทั้งสามก็ลงไปข้างล่าง
ที่ห้องนั่งเล่น ทุกคนต่างแต่งชุดผีกันเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็น แวมไพร์ แฟรงเก้นสไตล์ แดร็กคิวล่า สารพัดผี ส่วนs.o.s.ส่วนใหญ่ใส่ชุดผีกัน ยกเว้น กลุ่มเด็กเจ็ดคน เอลไลย่า เจมิไน นาธาน เมอลินด้า เคอัส แอมเบอร์และจูปิไต เอลไลย่าใส่เสื้อแบบง่ายๆ เสื้อสีพาสเทลมีฮู้ต กับกางเกงยีนส์เตรียมลุย ส่วนเมอลินด้าและแอมเบอร์ใส่เสื้อยืดกับกระโปรง ส่วนพวกผู้ชายเป็นเสื้อยืดกางเกงยีนส์
“ทำไมถึงมาออกันอยู่ล่ะ”คิลถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้หรอคิลลี่”เสียงหนึ่งทักขึ้น พอหันไป เฟรินก็ร้องจ๊ากกระโดดกอดคาโลทันที เพราะวันนี้ลูคัสแต่งชุดเป็นซาตาน ส่วนลอเรนซ์ ไม่รู้ว่าผีอะไร
“รู้อะไรหรอครับรุ่นพี่ลูคัส”คิลถาม
“ทุกคนต้องรอฟังกติกาก่อน”ลอเรนซ์เป็นฝ่ายตอบ “เรื่องนี้พวกเสนาธิการจะรับผิดชอบ”
“พี่ลอเรนซ์แต่งเป็นนักบวชหรอคะเนี่ย”เสียงหวานๆเอ่ยทักจากข้างหลังเล่นเอาทุกคนตกใจแทบหัวใจจะวาย
“เฟลิเซีย!!”
เด็กสาวยังคงมีรอยยิ้มอ่อนโยนสดใสอยู่เสมอ ผมสีทองที่ยาวถึงหัวเข่า มัดเป็นเปียสองข้าง ชุดที่ใส่บอกได้คำเดียวว่าไม่ธรรมดา เป็นชุดกระโปรงเข้าทรงเข้ารูปสีขาวขลับน้ำเงินสะอาด ข้างๆมีเข็มขัดแบบพิเศษคือ เป็นเหมือนลูกศรที่เวลาติดกับข้างเสื้อแล้วจะเข้ารูป แขนเสื้อยาวและใหญ่ แล้วมีผ้าคลุมสีน้ำเงินขลิบทองแท้ แล้วมีไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์สีทองอันใหญ่ประทับไว้ที่ผ้าคลุมด้านหลัง และรองเท้าบู๊ทสีขาวสะอาดตาเช่นกัน ข้างๆก็มีอัซเทียที่ใส่ชุดเหมือนกันแต่ว่าแถบกับสีผ้าคลุมเป็นสีมรกตขลิบเงิน โรเซตเป็นสีน้ำทะเล และอัสมาเรียเป็นสีชมพู
“จะแนะนำอะไรให้นะ เวลาทดสอบความกล้าน่ะ มันเฉพาะปีสามที่บังคับบางคน คนขวัญอ่อนให้จับคู่กับคนขวัญแข็งนะคะ เพื่อความปลอดภัย เราจะทดสอบที่ลานเกียรติยศโดยใช้เขาวงกต ปีสามที่บังคับซึ่งมหาปราชญ์ส่งรายชื่อมาแล้วก็มี เฟริน คิล คาโล เท่านั้นแหล่ะ ส่วนสีน้ำเงินก็มีเอลไลย่า เจมิไน นาธาน เมอลินด้า เคอัส แอมเบอร์และจูปิไตเท่านั้น เพราะสิบคนลงตัวพอดี ตอนนี้สีม่วงก็รออยู่ที่ลานเกียรติยศกับพวกปราสาทขุนนาง เดี๋ยวฟังรุ่นพี่เค้าอธิบายกฎกติกาที่ลานเกียรติยศเลย ไปกัน”
ลานเกียรติยศ
ตอนนี้บรรยากาศหวิวๆน่ากลัว แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“ไม่ยักรู้ว่านายกล้าเล่น แอชเชอร์”เสียงหนึ่งดังขึ้นซึ่งเป็นเสียงที่พวกเขารู้ดี แพทริค เซบาสเตียน ซึ่งเดินมาพร้อมกับชไนเดอร์
“โอ๋ๆ พวกนายกลัวผีจนเอาองค์หญิงเฟลิเซียมาเป็นเพื่อนเลยหรอไง พวกนายนี่มันขี้ขลาดจริงๆ”
ฝึบ เสียงดาบแหวกอากาศมา ปรากฎว่าเป็นดาบยาวประมาณ147เซนต์ก็ว่าได้ ตัวดาบใสแจ๋ว แต่ว่า มันแฝงรัศมีแห่งอำนาจจนทำให้ใจสั่น
“ทางที่ดี นายเงียบไปก่อนดีกว่า เพราะวันนี้อารมณ์มันไม่ค่อยคงที่”เฟลิเซียพูดเรียบๆแล้วเก็บดาบไป วิธีเก็บดาบแปลกมาก คืออยู่ดีๆตัวดาบก็หายไปกลายเป็นละอองเล็กๆเข้าไปอยู่ในตัวเจ้าของ จากท่าทางสดใสน่ารักกลายเป็นเย็นชาทันที
“ครับ”แพทริคก้มหัวให้แล้ววิ่งไปสมทบกับพวกปราสาทขุนนางทันที แล้วท่าทางของเฟลิเซียก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“เมื่อกี๊มันอะไรน่ะ”แอมเบอร์ถาม
“รัศมีแห่งอำนาจ”จูปิไตตอบ “มันเป็นรัศมีที่ทำให้คนหนาวสั่น มันก็เหมือนแบบคนในตระกูลแอชเชอร์แล้วก็คิงเคออซนั่นแหล่ะ มันไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนมากจะมี”
“ฮัลโหลทุกคน”เสียงเจ้าชายโรเวนดังขึ้นจากลำโพง แล้วเสียงพูดคุยก็หยุดลงทันทีเพื่อฟังกฎ “เอาล่ะ สิ่งที่เธอต้องทำคือ การเข้าไปวางเทียนในใจกลางของเขาวงกต ซึ่งในเขาวงกต จะถูกจำลองให้เหมือนสภาพที่น่ากลัว จะไม่มีไฟ ต้องใช้เทียนเดินนำทางไปเท่านั้น ขอให้ไปมือเปล่า แต่ว่า จะพกเป้ไปก็ได้ ไปเป็นคู่ ในเขาวงกตจะมีพวกผีเตรียมหลอกพวกเธออยู่ เธอสามารถเอาตัวแทนพระเจ้าไปด้วยก็ได้ สามารถสลับคู่ได้ แต่ว่านะ ห้ามแกล้งเด็ดขาด”โรเวนประกาศ
“โห่”เคอัสบ่น เพราะกะจะแกล้งเจ๊แอมเบอร์
“เอาล่ะสีแรก”ลูคัสมาต่อ “ก็สีน้ำเงิน กรุณาออกมาด้วย”
ผู้พิทักษ์และเอลไลย่าเดินมาทางเวทีหน้าเขาวงกต เมอลินด้าและแอมเบอร์ตัวสั่น
“จับฉลาก”
ผลการจับฉลากก็คือ
คู่แรก เอลไลย่า เฟลิเซีย และเฟริน (ตอนแรกมีแค่สองคนแต่ว่าต้องการสามเลยลากสาวน้อยคนงามมาเฉยเลย)
คู่ที่สอง แอมเบอร์ เมอลินด้า จูปิไต และเคอัส (คู่นี้ออกจะแปลกๆ)
คู่ที่สาม เจมิไน นาธานแล้วก็อาโรว์ที่พวกรุ่นพี่สุ่มๆออกมา (กลุ่มนี้สาวๆอยากเดินด้วยเพราะมีแต่หนุ่มหล่อ)
“เอาล่ะ คู่แรกเดินเข้าไปก่อนนะ หาทางออกให้เจอล่ะ อีกอย่างตามที่ต่างๆจะมีผีมาหลอก อีกสองนาทีคู่ที่สองค่อยไป แต่จะมีซุ้มนั่งพักให้นะ ”แล้วไธนอสก็ผลักกลุ่มแรกให้เดินไป
ภายในเขาวงกต ที่ดำทะมึนน่ากลัว มีเพลงหมาหอน อะไรพวกนี้อีก ดวงจันทร์ส่องแสง จูปิไตเป็นคนถือเทียนแล้วส่องนำทางไป จนกระทั่งมีผีมัจจุราชถือเคียวใหญ่มา อยู่ในชุดสีดำทะมึน
“กรี๊ดดดดดดดดดดด”เอลไลย่าร้องกรี๊ดออกมา เฟลิเซียสะดุ้งโหยง เฟรินร้องจ๊ากถอยหลังทันที
“หึๆ กลุ่มแรกช่ายม้าย”มัจจุราชถาม
“ใช่ค่ะ”เฟลิเซียพยักหน้าบอก ในใจนึกสงสัย ใครแต่งเนี่ย แล้วมัจจุราชก็กระโดดเข้าไปในเงามืด แต่แล้วเอลไลย่าและเฟรินก็ทนไม่ไหววิ่งแจ้นออกไปทันที ทิ้งเพื่อนสาวไว้คนเดียว
“เดี๋ยวสิ”เฟลิเซียตะโกนร้องแต่ว่า ก็ต้องชะงักนัยน์ตาสีน้ำตาลสวยตวัดไปตามต้นไอปีศาจ
“แกนี่จองล้างจองผลาญข้าไม่เลิกเลยนะ ราชาปีศาจ”เฟลิเซียพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา พอราชาปีศาจก้าวเข้ามา
“พลังของเจ้ามีอันตรายต่อพวกข้า เพราะฉะนั้นข้าขอกำจัด”ราชาปีศาจเอ่ย
“ข้าขอเวลาสักเดี๋ยว จะรีบไปสั่งปิดเขาวงกต เพราะข้าไม่อยากให้ผู้บริสุทธิ์ต้องตายไป”
“ตามใจเจ้า”
...............................................................................................
“เมื่อกี๊เสียงกรี๊ดของเอลไลย่านี่จ๊ะ”เมอลินด้าเอ่ยขึ้น
“บรื๋อ”เคอัสตัวสั่นทันที ส่วนอาโรว์ทำหน้าเครียด
“เป็นอะไรไป”นาธานหันมาถาม
“ราชาปีศาจอยู่ในนั้น”อาโรว์เค้นฟันตอบกำหมัดแน่น เมื่อราชาปีศาจปรากฏตัว เขาจพต้องใช้อาวุธไม้ตายเพื่อทำลายที่นี่ แต่ว่า เขาทำไม่ได้
“แล้วพวกเอลไลย่าล่ะ”แอมเบอร์หันมาถามอย่างร้อนรน
“เท่าที่ดูมา เอลไลย่าและเฟรินหนีผีจนหลงกับเฟลิซ คราวนี้ เฟลิซกำลังทำศึกกับราชาปีศาจ”
“แต่กลุ่มที่สองจะต้องเข้าไปแล้วนะ จะทำยังไง”จูปิไตถามเสียงเครียด
“ให้ชั้นจัดการเอง ทดสอบความกล้าต่อไป”แล้วอาโรว์ก็วิ่งเข้าไปในเขาวงกตทันที
...........................................................................................
“โอ๊ย เหนื่อย”เฟรินหอบแฮกๆ
“แล้วเฟลิเซียล่ะ”เอลไลย่าสะดุ้งเหมือนนึกขึ้นมาได้
“เฮ้ย ลืมไปเลย”ทั้งคู่ร้องออกมาพร้อมๆกัน พวกเธอจะกลับยังไงล่ะ
“งั้นลองใช้ดาวเหนือดู”เอลไลย่าเสนอแล้วทั้งคู่ก็ใช้ดาวเป็นเครื่องนำทาง บรรยากาศดูสุขสันต์ แต่ว่า ไม่มีใครรู้เลยว่า หายนะกำลังจะเริ่มแล้ว สิ่งที่ใครบางคนไม่อยากให้เกิดขึ้น พิธีกรรมแพนเดโมเนีย
.............................................................................................
เฟลิเซียวิ่งตามหาเอลไลย่าและเฟรินจนทั่วแต่ว่า หาไม่เจอจนกระทั่ง
“อุ๊บ”มีใครบางคนใช้สันมือฟันที่ต้นคอจนเด็กสาวสลบไป ราชาปีศาจยิ้มเหยียด
“ในที่สุดฝันของข้าก็เป็นจริง จงเตรียมตัวตายซะเถอะ เฟลิเซียแห่งฟาติมา” แล้วราชาปีศาจก็จิกร่างของเฟลิเซียไปสู่ใจกลางเขาวงกต ที่ที่มีปีศาจเต็มไปหมด เตรียมพิธีกรรมหายนะ บนบริเวณ มีทั้ง อัสมาเรีย โรเซต และอัซเทีย ที่นอนสลบไม่ได้สติอยู่
“พลังของอัซเทียคือสร้างน้ำสินะ ของอัสมาเรียคือเสียงและแอสทรัลไลน์ โรเซตคือแอสทรัลไลน์ ควบคุมวิญญาณ ส่วนของสำคัญ เฟลิเซียแห่งชีวิตกับแสง”เสนาธีการณ์บอข้อมูลไปเรื่อย
“หึ เริ่มพิธีได้”ราชาปีศาจสั่ง แล้วหยิบหัวของสตรีสาวคนหนึ่งขึ้นมา พอชูขึ้น มันก็อ้าปากกว้าง คนที่สลบกรีดร้องด้วยความทรมาน มีวงแวหนสีดำปิดกั้นอยู่ พลังอยู่เหนือการควบคุมแล้ว พลังด้านลบ ที่พร้อมจะทำลายโลกนี้ให้สิ้นซาก
...................................................................................................................................
“นี่มันอะไรกัน”เมอลินด้าอุทาน คิลตวัดสายตามองแล้วเบิกกว้าง แล้วเสียงชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“เสร็จกัน แอสทรัลไลน์”พอทุกคนหันไปมอง ปรากฏว่า
“เทพออเกอรี” เทพออกเกอรัพยักหน้า แล้วเรียกคัมภีร์โอเมนออกมา เปิดหาคาถาที่จะหยุดแต่ว่า...
“บ้าที่สุด ไม่มีคาถาใดหยุดได้เลย”
“หมายความว่าไงครับ”เจมิไนถาม
“หมายความว่า พิธีกรรมแพนเดโมเนียที่ใช้ทำลายล้างโลกกำลังเริ่มขึ้น มันใช้พลังของตัวแทนพระเจ้า นี่คงจะเป็นของอัสมาเรีย ซึ่งก็คือทำให้มิติวิญญาณพัง ส่วนที่มากขึ้นก็คงเป็นของโรเซต”ทันใดนั้นฝนก็ตกลงมา เฮอรอเคนปกคลุม
“ส่วนนี่ก็คือพลังของอัซเทีย”
เมอลินด้าใช้ออลซอร์ทหยุดยั้งไม่ให้น้ำทะลัก ส่วนเคอัส นาธาน และเจมิไนก็สร้างเกราะขึ้นมา หยุดยั้งไม่ให้มันทำลาย นักเรียนคนอื่นๆยืนตัวแข็งทื่อ แอมเบอร์และจูปิไต พยายามหาทางหยุดด้วยอีกแรง จนกระทั่ง เฟรินและเอลไลย่าวิ่งมาถึง ทั้งคู่มีสีหน้าตกใจสุดขีด
“นี่มัน”
“เฟริน นายผ่าปฐพีให้น้ำมันตกลงไปที”คิลตะโกนบอกแล้วเฟรินก็เรียกดาบออกมา ผ่าพื้นดินไม่ให้น้ำเข้า แต่แล้วก็มีแสงสีเขียวระเบิดออกจนหมด
เทพออเกอรีเอาหนังสือให้เอลไลย่า เป็นเชิงว่า อ่านคาถาอะไรก็ได้เร็วๆ
ความคิดเห็น