คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : Amour de Femme บรรยายไทย
ด้วยโครงเรื่องที่เสริมส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าข่ายหนังโรแมนติคกินบรรยากาศว่าด้วยการพบกันโดยบังเอิญของคนสองคน นำมาสู่ความประทับใจ และการเติมเต็มให้กัน
แต่เมื่อลงในรายละเอียด Amour de Femme ภาพยนตร์จากฝรั่งเศสเป็นหนังเรียบๆ ในสไตล์ยุโรป ไม่ขับเน้นหวือหวาชวนโรแมนติค แต่ทำให้ชวนคิดถึงทฤษฎีที่เรียกว่า "รัก 3 ขั้น" นั่นคือ ตัณหา คลั่งรัก และผูกพัน ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์ผ่านผู้หญิงคู่หนึ่งที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่ชั่วโมงกลางงานเลี้ยงจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ในระยะสั้นๆ จนนำมาสู่ความผูกพันได้มากแค่ไหน
หนังเปิดเรื่องด้วยคู่สามีภรรยา "เดวิด" และ "ฌอง" ที่กำลังจับมือกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปพร้อมๆ กันกับรอยยิ้มอย่างน่ารักใคร่เพื่อไปให้ทันงานฉลองวันเกิดเพื่อนซี้ของฝ่ายสามี ระหว่างการวิ่งที่ทั้งสองฝ่ายดูใส่ใจกันและกันจนเมื่อมาถึงงานทั้งคู่ถูกจับแยกด้วยการที่เดวิดถูกดึงตัวไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ปล่อยให้ฌองเดินเตร็ดเตร่ในงาน กระทั่งได้รู้จักกับ "มารี" ครูสอนเต้นรำที่รับงานเต้นอวยพรวันเกิดให้เจ้าของงาน
ไม่กี่ชั่วโมงทั้งคู่นั่งพูดคุยอย่างสนุกสนานถูกคอจนฌองที่เริ่มแรกแสดงอาการเบื่องานเลี้ยง สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายยังไม่อยากกลับออกจากงาน และแนะนำให้เดวิดรู้จักกับเพื่อนใหม่- -ความประทับใจ และให้ความสนใจในตัวเพื่อนใหม่นี้ทำให้ฌองตัดสินใจโทรศัพท์ตามเบอร์ที่มารีให้ไว้เพื่อเข้าคลาสเรียนเต้นรำกับมารี และนั่นก็ทำให้ความสัมพันธ์ของสองคนนี้พัฒนาต่อไป
ที่ว่าทฤษฎีรัก 3 ขั้นนั้นเป็นกฎธรรมชาติของคนโดยมากเมื่อห้วงตกหลุมรักที่จะมีระดับความรู้สึก และสถานการณ์แรกเริ่มของสัญชาตญาณมนุษย์นั่นคือจากตัณหาหรือความลุ่มหลง มาจนถึงการคลั่งรักหรือความหลงใหลความชอบ ซึ่งถ้าผ่านขั้นนี้ได้ก็จะพัฒนามาสู่ความรักที่จะส่งผลไปสู่ความผูกพันเป็นขั้นตอนปิดท้ายของความสัมพันธ์
จากสถานการณ์ของ "มารี" และ "ฌอง" ที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถูกนำเสนอเรียบง่าย ไม่หวือหวา และยังประหยัดคำพูดของตัวละคร โดยเน้นไปที่ภาษากายเพื่อสะท้อนให้เห็นความลุ่มหลงระหว่างกันของฌองและมารีผ่านทางสายตา ท่าทาง อากัปกิริยา
โดยที่หนังจงใจไม่ให้รายละเอียดอะไรกับคู่สามีภรรยามากมายนัก เพียงแต่เสนอวิถีชีวิตประจำวันของฌองที่ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดบำบัดได้พบเจอแรงกระตุ้นใหม่จากเพื่อนใหม่ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าการได้รู้จักกับครูสอนเต้นรำอย่างมารี เสมือนได้เรียกวันคืนเก่าๆ ในแบบชีวิตของหญิงวัยรุ่นผู้มีแรงปรารถนาจะทำตามฝัน ไม่แคร์สังคม กลับมาในความคิดของฌองเป็นระยะ ผ่านการเรียนเต้นรำที่ช่วงแรกเธอเต้นเก้ๆ กังๆ ไม่มีความมั่นใจ แต่ผ่านไปไม่นานกลับค่อยๆ ฟื้นความมั่นใจสมัยสาวสะพรั่งขึ้นจนสามารถเต้นได้อย่างอิสระและไม่สนใจสายตาใคร เช่นเดียวกับการเลือกจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับมารี
แม้หนังจะไม่ได้บอกว่าการตัดสินใจคบกับมารี เพราะชีวิตครอบครัวของฌองกับเดวิดมีปัญหาหรือไม่ แต่การที่มารีได้เติมเต็มรื้อฟื้นไฟแห่งหนุ่มสาว จากท่าทางนิ่งขรึมและรอยยิ้มแสนน้อยของฌองที่กลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อยามเธออยู่กับมารี
ด้วยบรรยากาศของเรื่องราวทำให้หนังมีกลิ่นสตรีนิยม (เฟมินิสต์) มากกว่าจะขายความเป็นโฮโมเซ็กช่วลของตัวละคร เพราะเมื่อถึงจุดที่ฌองต้องเลือกระหว่างสามีและลูก หรือมารี แรกเริ่มเธอเลือกจะเดินตามสิ่งที่ควรจะเป็นนั่นคือครอบครัว แต่เมื่อความพยายามล้มเหลว เพราะเดวิดหมดความเข้าใจ และหมดความไว้เนื้อเชื่อใจ มันก็ทำให้เดวิดกับฌองไม่สามารถดำรงความสัมพันธ์ในขั้นที่สามหรือขั้นความผูกพันต่อไปได้
ขณะเดียวกันบนเส้นความสัมพันธ์ของฌองและมารีก็กำลังพ้นสภาพจากความสัมพันธ์ในขั้นแรกนั่นคือความลุ่มหลงและตัณหา เขยิบมาสู่การตัดสินใจของฌองในการเลือกจะสานต่อความสัมพันธ์ขั้นที่สองกับมารีในท้ายเรื่อง ฉะนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังต้องผ่านห้วงเวลาที่จะพัฒนาต่อไปยังขั้นที่สามว่าจะตลอดรอดฝั่งหรือไม่
ทว่าภาพสุดท้ายของหนังที่ผู้หญิงสองคนเดินกอดแขนจับมือกันไปริมชายหาดจึงสวนทางกับภาพเปิดเรื่องที่คู่สามีภรรยาที่คิดว่าความสัมพันธ์ทั้งคู่ผ่านพ้นทฤษฎีสามขั้นมาจนสุดทางแล้ว แต่แล้วไม่กี่นาทีต่อมามันก็นำพาอีกฝ่ายไปสู่ความสัมพันธ์ใหม่ที่ยังต้องรอเวลาพิสูจน์
จาก คอลัมน์ เล่าเรื่องหนัง
โดย ติสตู tistoo79@hotmail.com หน้า 22
Source: http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01ent05120752§ionid=0105&day=2009-07-12
สั่งซื้อได้ที่ร้านยูริ จำหน่ายหนังเกย์-เลสบรรยายไทย ไม่รู้เรื่องยินดีคืนเงิน >>>http://www.yuri-shop.com
พิเศษ!!ตั้งแต่วันนี้ สั่งซื้อ 500 บาทขึ้นไป นอกจากส่งฟรี แถมหนัง 1 เรื่อง ยังแถมแม็กเน็ตติดตู้เย็นด้วยล่ะ มีให้เลือก 2 แบบ น่ารักสุดๆ
..
ความคิดเห็น