เมื่อเธอ...โศกเศร้า แมว และเขาเลยต้องปลอบโยน
เพื่อต้องการที่จะเยียวยา หนึ่งเธอ...ผู้ที่แตกสลาย หนึ่งแมว...ผู้ถูกทอดทิ้ง หนึ่งเขา...ผู้เป็นดั่งแสงอาทิตย์ยามเช้า เลยต้องปลอบโยน และเยียวยาเธอ...ผู้ที่แตกสลายให้กลับมาสดใส และมีรอยยิ้มอีกครั้ง...
ผู้เข้าชมรวม
554
ผู้เข้าชมเดือนนี้
18
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Triggers warning
รบกวนนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และไม่หลอกเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆ , เหตุการณ์ , ความคิดที่เกิดจากสภาวะไม่ปกติของอารมณ์ตัวละครในเรื่องที่ไม่เหมาะสม
และนักอ่านท่านใดที่สภาวะจิตใจอ่อนไหว หรือเข้าข่ายว่ากำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้า อาจจะไม่แนะนำให้อ่านเรื่องนี้ หรือหากต้องการที่จะอ่านและรู้ว่าสภาวะจิตใจของตัวเองไม่ปกติ หรือเริ่มแย่ลง แนะนำให้หยุดอ่านเรื่องนี้นะคะ ^^
ปล.
นักเขียนขอเป็นกำลังใจให้กับนักอ่านทุกท่านที่กำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้าแล้วเข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ ขอให้ปลายทางอุโมงค์อันแสนมืดมิดของทุกคนได้เจอแสงสว่าง ณ ปลายทางอุโมงค์ ได้เห็นท้องฟ้าอันแสนสดใส ได้เห็นโลกอันแสนกว้างใหญ่ ขอให้หัวใจที่กำลังแตกสลายได้รับการเยียวยา และขอให้โลกใบนี้ใจดีกับนักอ่านทุกคนนะคะ
ขอบคุณค่ะ ^^
********************
สำหรับเรื่องนี้จะทำการอัปสัปดาห์ละ 3 วัน ตอน 17.00 น. ค่ะ เรื่องนี้ตั้งใจเขียนมาก ๆ ค่ะ ซึ่งมีเรื่องจริงของตัวนักเขียนเองอยู่ประมาณ 40% ด้วย หวังว่านักอ่านทุกท่านจะชื่นชอบ และขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาอ่านเรื่องนี้กันนะคะ ขอบคุณค่ะ
*******
หนึ่งเธอผู้แตกสลาย ที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว และกำลังจะจบชีวิตตัวเองได้รับการช่วยชีวิตจากแมวน้อยที่ถูกเอามาทิ้งโดยไม่รู้ตัว
หนึ่งแมวน้อยที่ถูกทอดทิ้ง ที่พยายามดิ้นรนจะมีชีวิตรอดได้ช่วยเหลือและฉุดรั้งหนึ่งเธอผู้แตกสลายไม่ให้คิดจบชีวิตตัวเอง
หนึ่งเขาผู้แสนอบอุ่น พี่ชายข้างบ้านที่เห็นทุกช่วงเวลาของหนึ่งเธอผู้แตกสลาย ทั้งการถูกทอดทิ้ง ความสดใส และความแตกสลายของเธอ สิบเจ็ดปีที่แยกจากกันไป เขากลับมาอีกครั้งเพื่อเยียวเธอผู้แตกสลายไปพร้อมกับหนึ่งแมวที่ถูกทอดทิ้ง...
ฮิกกี้: ทาสของฉันเธอป่วยเป็นโรคทางใจ ฉันเลยจำเป็นจะต้องเยียวยาทาสของฉันในแบบฉบับของฉันอยู่...
“ฮิกกี้...มานอนทับอกฉันอีกแล้ว—”
เป็นคำนี้อีกแล้ว คำแรกที่ทาสทักทายฉันหลังตื่นนอน แม้ปากของเธอจะบ่นเรื่องที่ฉันชอบขึ้นมานอนทับหน้าอกของเธอ แต่ทว่า เธอก็ไม่ได้อุ้มฉันออกจากหน้าอกของตัวเอง
ครืน...ครืน...
อา—แบบนั้นแหละ เกาตรงนั้นเลย ฉันชอบมาก
ฉันส่งเสียงเพอร์ออกไป พร้อมกับแหงนหัวขึ้นสูง เพื่อให้ทาสเกาคางของฉันได้ถนัดมากขึ้น
“ตอนนี้กี่โมงแล้วนะ”
ทาสของฉันหันมองเจ้าสิ่งของกลม ๆ ที่ติดอยู่บนผนังห้อง ซึ่งฉันได้ยินเธอเรียกมันว่านาฬิกา หรือสิ่งเครื่องบอกเวลาของมนุษย์ “แปดโมงครึ่ง...ยังเช้าอยู่เลย”
เช้างั้นเหรอ? ฉันว่ามันสายมากแล้วนะมนุษย์
สำหรับมนุษย์มันถือว่าเช้า แต่สำหรับฉันมันถือว่าสายมาก ๆ
เหมียว~ [มนุษย์! เธอควรจะลุกได้แล้วนะ]
ฉันร้องบอกให้ทาสลุกจากโซฟาอันแสนนุ่มนิ่มของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าคำพูดของฉันจะไม่เป็นผล เพราะนอกจากเธอจะไม่ลุกออกจากโซฟาของตัวเองแล้ว เธอยังหลับตาลงอีกครั้ง
เหมียว! [นี่เธอ! ยังจะนอนอีกเหรอมนุษย์...]
*******
คิร่า: ฉันว่าแมวของฉันมันกำลังเยียวยาฉันในแบบฉบับของมันอยู่ และมันก็รับรู้ทุกอย่างที่ฉันเป็นด้วย มันเป็นห่วงฉันสินะ
“เลิกไถขาได้แล้ว ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว” ฉันเอ่ยปรามเจ้าฮิกกี้เสียงค่อย เมื่อมันยังเอาตัว เอาหัวมาถูไถขาของฉันไม่หยุด แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลสักเท่าไหร่
นอกจากมันจะไม่ยอมหยุดถูไถขาของฉัน ตามที่ได้บอกมันไปแล้ว มันยังส่งเสียงร้อง ‘เหมียว~เหมียว~’ โต้ตอบกลับมา ราวกับมันจะบอกฉันว่า ‘ฉันไม่เชื่อเธอหรอกมนุษย์ เธออย่ามาโกหกฉันนะ!’
“รู้มากจริง ๆ นะแกน่ะ” เดี๋ยวความมันเขี้ยวในความชาญฉลาดของเจ้าฮิกกี้ ฉันจึงอุ้มมันขึ้นมาฟัดพุงกลมๆ นุ่มนิ่มของมันเสียชุดใหญ่ จนมันส่งเสียงร้องขัดใจออกมา
เหมียว!
“โอเค ๆ ฉันเลิกแกล้งแกแล้ว ไป ๆ ไปเล่นเถอะ ฉันขอออกไปหยิบขนมที่เพื่อนบ้านคนใหม่ของเราเขาเอามาแขวนไว้ให้ก่อน”
ฉันวางร่างอ้วนกลมของเจ้าฮิกกี้ลง พอขาแตะกับพื้นได้ ร่างอ้วนกลมของมันก็พุ่งทะยานออกไปทันที แต่ก่อนที่เจ้าฮิกกี้จะวิ่งจากไป มันได้หันมามองฉันอยู่แป๊บนึงด้วย
สายตาที่มันมองฉัน เหมือนจะเป็นห่วงและเหมือนจะบอกให้ฉันไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องโศกเศร้าไปนะมนุษย์
แต่ทว่า ก็มีความไม่พอใจแฝงเอาไว้อยู่ด้วย
*******
ลูเซียโน่: เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเขาจีบผู้หญิงด้วยดอกไม้แล้ว ต้องนี่เลย จีบสาวด้วยอาหารแมวแทนไปเลย แค่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอก็มีความสุขแล้ว
“คุณหมอ?”
คิร่าทำหน้าสงสัย เธอคงจะสงสัยที่เห็นผมปรากฏตัวก่อนเวลานัดหมายเกือบสามชั่วโมง
“สวัสดียามบ่ายครับ...”
แย่จังเลย อยู่ดี ๆ ผมก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาซะงั้น คงอาจจะเป็นเพราะสายตาของคิร่าที่มองต่ำลงมาก็เป็นได้
“คุณหมอ...นำเสบียงมาเติมให้เด็ก ๆ เหรอคะ?”
คิร่าถาม พลางทำหน้าสงสัยปนชื่นชมเล็กน้อย เมื่อเธอมองเห็นบางสิ่งบางอย่างในมือข้างขวาของผม ที่ผมหิ้วใส่ถุงพลาสติกมา
“เอ่อ—ไม่ใช่ครับ...” ผมยิ้มแหยง ๆ ก่อนจะค่อยๆ เอ่ยมันออกไปเสียงค่อยและไม่มั่นใจ “อันนี้...ผมเตรียมมันมาให้คุณครับ—”
!!..
“...เอ่อ คุณหมอ ไม่ได้พูดเล่นใช่ไหมคะ?” หลังจากที่คิร่าทำหน้าตกใจเมื่อได้ยินคำตอบของผม เธอก็ได้ถามผมย้ำกลับมา
“หึ...” ผมส่ายหัวรัว ๆ “—ไม่ได้พูดเล่นครับ ผมพูดจริง ๆ”
“อาหารแมวเนี่ยนะคะ...”
“...ครับ อาหารแมว—” ผมค่อย ๆ ก้มหน้าลง เพราะรู้สึกเขินอายสายตาของคิร่าที่จ้องมองมา เธอมองผมด้วยสายตาที่เอ็นดูมาก ๆ
ใช่แล้ว...ของที่ผมนำมาขอโทษคิร่า คือ อาหารแมว ขนาดสิบกิโลกรัมของยี่ห้อหนึ่ง ที่คนเลี้ยงแมวมักจะนิยมซื้อให้แมวของตัวเองกินนั่นเอง ซึ่งผมได้หอบหิ้วมันมาจากโรงพยาบาลสัตว์ของตัวเอง โดยที่ไม่มีใครในโรงพยาบาลสัตว์สงสัยเลยสักคนเดียว
“คิก—”
หืม...เสียงหัวเราะงั้นเหรอ ผมค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองคิร่า
“เอ่อ—ขอโทษด้วยค่ะคุณหมอ” คิร่าพูดขอโทษ พร้อมกับกลั้นหัวเราะไปด้วย
“ครับ ไม่เป็นอะไรครับ...”
*******************
นิยายเรื่องนี้ นักเขียนตั้งใจเขียนมันมากๆ นักเขียนตัวน้อยๆ คนนี้ขออนุญาตฝากเนื้อ ฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ หวังว่าทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านจะเอ็นจอยไปกับนิยายเรื่องนี้นะคะ ^^
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาเจอ มาอ่านเรื่องนี้กันนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ haNARU (චᆽච) ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ haNARU (චᆽච)
ความคิดเห็น