Drabble - Just grown up (ตั้วมาร์ช)
Summary : หกปีให้หลังตั้วเรียนจบจากคณะนิติศาสตร์กำลังเตรียมตัวสอบเนฯไปพร้อมกับได้เล่นหนังใหญ่จากฮ่องกง ทุกอย่างเหมือนจะกำลังไปได้สวยทว่ารอยร้าวบางๆในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมาร์ช...
ผู้เข้าชมรวม
693
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Drabble - Just grown up.
Pairing : Tou x March
Rate : PG-15
**แดรบเบิ้ลฉบับนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ สมาคม หรือเหตุการณ์จริงแต่ประการใดทั้งสิ้น ผู้อ่านโปรดใช้วิจารญาณในการเสพสื่อ
Summary : หกปีให้หลังตั้วเรียนจบจากคณะนิติศาสตร์กำลังเตรียมตัวสอบเนฯไปพร้อมกับได้เล่นหนังใหญ่จากฮ่องกง ทุกอย่างเหมือนจะกำลังไปได้สวยทว่ารอยร้าวบางๆในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมาร์ชชายหนุ่มอดีตนักแสดงรุ่นพี่ที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของร้านกาแฟกลับกำลังขยายตัวมากขึ้น
1.
6.00 PM.
ฝนยังคงตกอยู่...
มาร์ช ชายหนุ่มเจ้าของร้านกาแฟเหลือบมองนาฬิกาของร้านสลับกับสภาพอากาศด้านนอกอย่างหงุดหงิดใจ
ฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงสิบโมงเช้าจนถึงบัดนี้แถมยังไม่มีทีท่าใดๆว่ามันจะหยุดลงเสียด้วยราวกับกำลังมีพายุเข้า ตามปกติแล้วหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเขาจะไม่ลังเลเลยที่จะค้างคืนที่ร้านกาแฟของตนซักคืนหนึ่งหรืออย่างน้อยที่สุดก็รอจนกว่าฝนจะซาลงมากกว่านี้ก่อน เพียงแต่วันนี้เขากำลังมีนัดสำคัญ
เสียงฟึ่บของโทรศัพท์ดังขึ้นก่อนชายหนุ่มจะยกมันขึ้นมาอ่านพร้อมรอยยิ้มเหมือนกับทุกครั้งที่เจ้าของข้อความได้ส่งมา
[...พี่มาร์ชอยู่ไหนแล้ว ฝนตกหนักขับรถระวังด้วยนะครับ..ผมรออยู่ที่ห้องแล้วนะ]
คนสำคัญที่กำลังรออยู่ทำให้มาร์ชตัดสินใจที่จะปิดร้านแล้วกางร่มฝ่าฝนออกไปแม้จะรู้ดีว่าการออกไปในสภาพนี้ร่มจะไม่ได้ช่วยอะไรมากก็ตาม
...เขาเพียงอยากกลับไปให้เร็วที่สุด
...อยากเจอกับเจ้าของข้อความที่ทำให้เขายิ้มได้ เจ้าของอ้อมกอดที่จะทำให้เขารู้สึกอบอุ่นมากเสียกว่าจะมานั่งหนาวในร้านกาแฟไร้ผู้คนยามพายุโหมกระหน่ำ
...พี่อยากเจอตั้ว...
/////////////////////////////////
2.
โกรธ หรือ ขำ?
ตั้วไม่แน่ใจว่าควรจะใช้คำใดเพื่อมาอธิบายความรู้สึกที่กำลังมีอยู่ตอนนี้ได้ถูกต้อง
เขากำลังโกรธที่อีกฝ่ายไม่เคยจะสนใจตัวเอง มีที่ไหนกันตากฝนเสียเปียกโชกแล้วยังขับรถตรงดิ่งมาหาเขาเป็นชั่วโมงแทนที่จะแวะเข้าบ้านตัวเองอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งๆก่อนมาทั้งที่มันก็แทบไม่ได้ห่างอะไรจากร้านกาแฟที่อีกฝ่ายทำงานอยู่เลยแท้ๆ
...เดี๋ยวก็จับไข้อีก...
...บอกตั้งไม่รู้กี่ครั้งก็ไม่เคยจะเชื่อฟังทั้งๆที่เป็นเรื่องของตัวเอง...
แต่ความโกรธที่มีก็ถูกสีหน้าเหมือนลูกหมาหงอยที่มองมาที่เขาอย่างสำนึกผิดลบทิ้งไปเสียหมด ยิ่งมายืนอยู่แบบนี้ยิ่งเหมือนลูกหมาที่หนีออกจากบ้านไปเจอพายุแล้วรีบวิ่งกลับมาด้วยเนื้อตัวเปียกปอนเข้าไปใหญ่
เด็กหนุ่มโยนผ้าขนหนูลงบนศีรษะของผู้มาใหม่อย่างอ่อนใจพร้อมกับค่อยๆเช็ดเส้นผมและหน้าตาของอีกฝ่ายอย่างทะนุถนอม
"ตั้วบอกพี่กี่ทีแล้วว่าไม่อยากให้ตากฝน...พี่ก็รู้ว่าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เดี๋ยวนี่ก็จับไข้อีก ..... ตั้วไม่ได้บินกลับจากฮ่องกงมาเฝ้าไข้พี่นะ" ดวงตาคมที่เป็นที่หลงใหลของสาวๆมากมายมองจ้องไปที่มาร์ชอย่างคาดโทษแต่น้ำเสียงและการกระทำที่อ่อนโยนนั้นกลับทำให้สายตาดุๆนั้นดูจะกลายเป็นความพยามที่เสียเปล่าไปเมื่ออีกฝ่ายยังคงยิ้มแป้นแล้วหัวเราะแห้งๆก่อนเอ่ยประโยคสุดแสนธรรมดาที่ทำให้หัวใจของเขาพองโต
"ก็พี่อยากเจอตั้วเร็วๆ"
มือที่ใช้เช็ดผมเมื่อครู่เปลี่ยนหน้าที่มาประคองท้ายทอยของอีกฝ่ายก่อนจะประทับริมฝีปากลงอย่างนุ่มนวล ลิ้นร้อนไล้เลียริมฝีปากเย็นเฉียบอย่างอ้อยอิ่งก่อนที่จะรุกล้ำเข้าไปควานหาสัมผัสที่ร้อนแรงและหวามไหวมากกว่าเดิมเพื่อความสนองความโหยหาที่กัดกร่อนความรู้สึกมาพักใหญ่
โลกสมัยใหม่ที่เทคโนโลยีก้าวล้ำนั้นทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปโดยง่ายดาย หากแต่ไม่ว่าจะโทรหาเพื่อฟังเสียงนับร้อยครั้งหรือจะส่งข้อความหากันนับพันฉบับไหนเลยจะเทียบกับสัมผัสที่ได้รับยามที่อีกฝ่ายอยู่ในอ้อมกอด
ตั้วผละริมฝีปากออกในที่สุดหลังจากความต้องการที่มีต่ออากาศหายใจของพวกเขาทั้งคู่เริ่มมีอิทธิพลเหนือกว่าการเสพสมในรสสัมผัส แขนแข็งแรงโอบเอวสอบเพรียวเข้ามาใกล้ก่อนฝังจมูกโด่งเป็นสันลงบนซอกคอขาวอย่างไม่สนใจว่าเสื้อเชิ้ตที่เปียกโชกของอีกฝ่ายที่กำลังแนบชิดอยู่จะทำให้ตนเปียกไปด้วย
"ผมคิดถึงพี่แทบตายแล้วรู้ไหม?"
/////////////////////////////////
3.
“พี่รู้...” มาร์ชกระซิบตอบอย่างแผ่วเบา
...เขาเองก็คิดถึงอีกฝ่ายไม่แพ้กันหรอกน่า...
ไม่รู้ว่าตั้วสามารถจับอะไรในน้ำเสียงนั้นได้หรือเปล่าแต่อ้อมกอดของอีกฝ่ายเกร็งขึ้นเล็กน้อยก่อนจะผละออก เขาส่งยิ้มคืนกลับให้อีกฝ่าย
การเป็นนักแสดงทำให้เราสองคนต่างเชี่ยวชาญในการสวมบทบาท เพียงแต่ในบางครั้งบทบาทที่ต่างก็กำลังสวมอยู่เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจก็แนบเนียนจนเกินไป ต่างหลอกลวงตัวเองให้อยู่บนเส้นทางที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีก
ความสัมพันธ์ที่สวยงาม ฉากรักที่อบอุ่น
ความรักที่ได้แต่รอวันให้มันจบลง...
ชายหนุ่มเอ่ยปากเปิดบทสนทนาหลังจากที่ปล่อยให้บรรยากาศนุ่มนวลครอบครองความเงียบงันระหว่างกันมาพักใหญ่ ผิวขาวซีดเป็นสีแดงระเรื่อจากไอร้อนของน้ำในอ่างตัดกันอย่างชัดเจนกับผิวเนื้อคร้ามแดดสีแทนที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ข้างอ่างอาบน้ำเพื่อสระผมให้กับคนที่กำลังพริ้มตาหลับสบายอยู่ในอ่าง
"ทำงานเป็นไงบ้าง?"
"ก็ดีนะพี่...ได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะเลยล่ะ...บ้านเมืองแถวนั้นก็เปลี่ยนไปจากสมัยมัธยมมาก...ไว้ว่างๆเราไปเที่ยวด้วยกันไหม?" ตั้วกล่าวอย่างนุ่มนวลเช่นเดียวกับทุกครั้ง
คำว่า "ไว้ว่างๆ" หรือ "คราวหน้า" ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวบ่อยมากขึ้นในโอกาสที่พวกเขาทั้งคู่ต่างรู้ว่าสิ่งที่กำลังคาดหวังนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นเร็วๆนี้แน่ หรือบางทีอาจจะไม่มีทางเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ...
ถ้าเป็นเมื่อหกปีก่อนตอนที่พวกเขายังคงร่วมเล่นซีรี่ย์และออกโปรโมทผลงานพวกเขาคงไม่ต้องมานั่งคิดมากอะไรอยู่แบบนี้
...แค่สบตากันแฟนคลับก็กรี๊ดกร๊าดถูกอกถูกใจกันเสียขนาดนั้น การจะไปเที่ยวไหนต่อไหนด้วยกันโดนถ่ายรูปสักสองสามรูปก็ดูจะเป็นการเซอร์วิสแฟนๆเสียด้วยซ้ำ...
...เพียงแต่ว่าตอนนี้พวกเขาไม่ใช่เพียงแค่คู่จิ้นอีกต่อไป......
...เขารู้ดีว่าตั้วไม่แคร์ แล้วยังพร้อมที่จะเลิกอาชีพนักแสดงมาเพื่อเขาด้วยซ้ำ แต่กลับเป็นตัวเขาเองที่ยอมไม่ได้.....
เด็กคนนี้ไม่ควรทิ้งอนาคตที่สดใสของตัวเองมาเพื่อผู้ชายที่ยังไม่แน่ใจในตัวเองด้วยซ้ำอย่างเขาเลย
"เอาไว้ให้คุณนักแสดงคิวทองมีเวลาว่างนานๆก่อนเถอะคร้าบบบ" มาร์ชเอ่ยอย่างล้อเลียนก่อนขยับเข้าไปประกบจูบอีกครั้งและอีกครั้ง
แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มแต่บางส่วนในใจนั้นกลับรู้สึกว่างเปล่าและเจ็บปวด เขาไม่ต้องการอะไรมากเกินไปกว่าการได้อยู่ใกล้ๆใช้เวลาร่วมกันก็จริง แต่ทุกครั้งที่มีความรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังห่างออกไปก็อดรู้สึกแย่ไม่ได้
..วันนี้ตั้วเป็นแค่นักแสดงสมทบก็จริง...แต่ดูจากกระแสแล้วอีกไม่นานก็อาจได้เล่นเป็นพระเอก..แล้วก็ไปไกลกว่านั้น
..แต่ตัวเขากลับเป็นแค่เพียงเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ งานบันเทิงที่ยังคงทำอยู่ก็เป็นแค่เพียงละครซิทคอมหรือนักแสดงรับเชิญที่ไม่ได้มีความสำคัญแต่อย่างใด..
..เขากลัว ....... กลัวว่าสักวันตัวเองจะไม่เหลืออะไรพอที่จะรั้ง กลัวว่าสักวันที่ข้างกายของตั้วจะไม่เหลือให้เขาได้ยืนอีกต่อไป
อยากจะเมินเฉยต่อทุกอย่างร้องโวยวายอย่างเอาแต่ใจ บอกห้ามไม่ให้ดวงตาคู่งามนั้นมองฉายภาพอื่นนอกไปจากตน
แต่คนโตๆกันแล้วจะไปทำแบบนั้นได้ยังไง...
"คิดถึงตอนที่เราเล่นฮอร์โมนด้วยกันนะ"
..ตอนที่เรายังเป็นเพียงวัยรุ่นที่ไม่มีอะไรให้ต้องคิดมาก...
"คิดถึงบรรยากาศในกองถ่าย หรือคิดถึงบทของภูกับธีร์กันแน่พี่?" เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยหยอกล้อก่อนจะค่อยวักน้ำล้างคราบแชมพูออกให้อย่างอ่อนโยน “ถ้าพี่บอกว่าคิดบท ผมคงต้องลงความเห็นว่าพี่อยาก”
“ไอ้ลามก!” มาร์ชอดไม่ได้ที่จะสบถใส่อย่างหมั่นไส้ ช่วงเวลาสองสามปีที่แทบไม่ได้ติดต่อกันมันไปทำอะไรมา พอเจอกันอีกทีไอ้เด็กใสๆน่ากลั่นแกล้งของทุกคน ก็กลายเป็นหนุ่มหล่อที่ทั้งเจ้าเล่ห์และฉวยโอกาสแบบนี้
...เออ ถึงมันจะบอกว่าอยากจะฉวยโอกาสแค่กับผมคนเดียวก็เถอะ มันก็อดหมั่นไส้ไม่ได้จริงๆ...
“ล้อเล่นน่า...เดี๋ยวผมไปเอาชุดมาให้พี่เปลี่ยนนะ” เสียงหัวเราะเบาๆที่ห่างออกไปทำให้หน้ากากที่สวมอยู่ถูกถอดออกชั่วคราว มาร์ชลุกขึ้นจากอ่างก่อนหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำที่พาดไว้มาคลุมตัวแบบลวกๆก่อนเดินไปส่องกระจก
ไม่มีรอยยิ้ม สิ่งที่สะท้อนกลับมามีเพียงเค้าหน้าอิดโรยบนใบหน้าที่มีเสน่ห์ดึงดูดทั้งชายและหญิง
เพียงแค่ชั่วครู่ที่ความอ่อนแอนั้นปรากฏ ใบหน้าสดใสพร้อมรอยยิ้มทะเล้นฉายขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายเดินกลับเข้ามา “ผมวางเสื้อไว้นี่นะพี่ เดี๋ยวผมไปหาอะไรให้กินนะ”
“เออ เอาของที่กินได้นะเว้ย”
/////////////////////////////////
4.
สุดท้ายก็มาลงที่พิซซ่า
ถึงจะบ่นงึมงำว่าไม่ชอบอาหารขยะแต่สุดท้ายแล้วมาร์ชก็ยินยอมที่จะทานมันเข้าไปเป็นอาหารเย็นอยู่ดี
ตั้วนั่งอมยิ้มมองคนที่ร้องจะดูหนังแต่กลับหลับผล็อยไปตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งเรื่องอย่างเอ็นดู กลิ่นหอมอ่อนๆที่ระเหยออกมาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปไล้เกลี่ยเส้นผมที่ดำขลับนั้นอย่างหลงใหล
เขาอยากให้มาร์ชพัก ถึงได้เลือกมานัดเจอที่คอนโดแทนที่จะไปหาอีกฝ่านที่ร้าน
อยากให้มีน้ำมีนวลมากกว่านี้ถึงได้จงใจสั่งอาหารที่มีแคลลอรี่สูงมา เพราะว่าตอนที่กอดกันตรงทางเดินเมื่อครู่ก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายผอมลงมากเพียงใด
อยากให้เลิกคิดมากแล้วก็หมกมุ่นอยู่แต่กับตัวเองสักที
นิ้วเรียกยกรีโมทขึ้นปิดทีวีก่อนช้อนอุ้มเอาร่างเพรียวที่หลับไม่รู้เรื่องไปส่งที่เตียงนุ่มอย่างอ่อนโยน ดึงผ้ามาห่มให้แล้วกล่าวราตรีสวัสดิ์
ถ้ามาร์ชยังไม่พร้อมที่จะไว้ใจให้เขาเข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตก็ไม่เป็นไร
แค่ให้เขาได้คอยอยู่แล...ได้อยู่ข้างๆ
เพื่อที่สักวันเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่มากพออย่างที่อีกฝ่ายเคยบอกเอาไว้
ว่าเมื่อถึงตอนนั้นตนจะพิจารณาเรื่องการเป็นคนรักดู
ในเมื่อเขารอมาเกือบหกปีจนกระทั่งได้หัวใจของอีกฝ่ายมา
แล้วทำไมถึงจะรออีกหน่อยเพื่อสถานะคนรักไม่ได้กัน?
จบจ้ะ
TALKs: อันนี้เป็นแดรบเบิ้ลที่เกิดจากการมโนกันในทวิตในคืนฝนพรำค่ะ อยากจะเขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องยาวเหมือนกันแต่ดูเหมือนจะแพลนอยากเขียนนู่นนี่นั่นไปเต็มไปหมด ความเป็นไปได้เลยค่อนข้างริบหรี่พอสมควรเลย สำหรับเรื่องนี้จริงๆแล้วมีอีกเวอร์ชั่นที่เหมาะสำหรับสาววายภูมิต้านทานสูงนะคะ ถ้าอยากอ่านก็จิ้มได้เลย PART1 >> http://twishort.com/iHxgc PART2>> http://twishort.com/1Iygc
ผลงานอื่นๆ ของ yuhankung ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ yuhankung
ความคิดเห็น