ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอยรักกลีบซากุระ ตีพิมพ์กับกรีนมายด์

    ลำดับตอนที่ #5 : แผนการขั้นที่หนึ่ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 387
      0
      5 ก.ย. 52

     

    โอเค……ดูดีแล้ว แยกย้ายกันไปได้ ว่าแต่ใครจะไปตรงไหนกันมั่งติรณาเอ่ยถามขึ้นขณะสำรวจความสวยของเพื่อนร่วมขบวนการยุทธวิธีหาสามี เอ้ย! ไม่ใช่หาแฟน ตะหาก

    แต่……แฟนมันก็คือสามีในอนาคตอยู่ดีนี่นา แต่ช่างเถอะ อะไรก็ช่าง เอาเป็นว่าหาให้ได้ซักอย่างก่อนก็แล้วกัน

    ฉันว่าเราไปห้องสมุดกันไหม คนเยอะดี ผู้ชายดีๆที่ไหน เขาก็ต้องไปอยู่ที่ห้องสมุดกันทั้งนั้นนะแหละฉวีวรรณออกความเห็น

    แต่ฉันว่าเราไปสนามกีฬาดีกว่า พวกนักกีฬาหล่อๆทั้งนั้นปริศนาแย้งขึ้น ติรณาคิ้วขมวดทำท่าตึกตรองราวกับเป็นปัญหาสำคัญระดับชาติก็ไม่ปาน

    แต่ฉันอยากอ่านหนังสือด้วย ไปห้องสมุดก็แล้วกัน จะได้ไม่เสียเวลาอ่านหนังสือ ยิงนกทีเดียวได้สองตัวไงติรณาเป็นฝ่ายตัดสินใจให้ เลยเป็นอันว่าทั้งสามสาวตัดสินใจไปห้องสมุดแทน

    เอาล่ะ ไอ้ปริศนา ในฐานะที่แกเป็นเจ้าของหนังสือเล่มนั้นน่ะ แกทำท่าทางให้มันดูน่าสนใจทีซิ เผื่อจะมีใครแถวนี้ตกหลุมแกมั่งฉวีวรรณหันมาบอกตัวต้นคิด

    ปริศนาพยักหน้ารับพร้อมกับยืดคอมองหาเป้าหมาย ยิ้มอย่างมั่นใจเมื่อเจอหนุ่มหล่อคนหนึ่งกำลังค้นหาหนังสืออยู่ เธอแกล้งเดินเข้าไปใกล้แล้วทำท่าเซแซดๆไปชนไหล่ชายหนุ่มโชคร้ายคนนั้นเต็มแรง

    ว้าย!”เสียงกรีดร้องนั้นเรียกความสนใจให้กับคนที่เดินผ่านไปมา ติรณากับฉวีวรรณนั่งอ้าปากค้างอย่างตกใจ

    เปล่าหรอก……ที่นั่งอ้าปากค้างไม่ใช่อึ้งกับแผนการของยายปริศนาแต่ที่ค้างเพราะเสียงกรี๊ดซะดังลั่นนั้นรีไม่ใช่เสียงของยายปริศนาเพื่อนเธอน่ะสิ

    ปริศนาเบ้ปาก สะบัดหน้าพรวดรีบเดินจ้าอ้าวกลับมานั่งที่โต๊ะเดิม โดยไม่มีแม้แต่คำขอโทษให้กับชายที่เดินชนเมื่อครู่

    ไง…….ยายปริศนา ว่าที่แฟนแก เด็ดสะบัดเลยว่ะ ฮ่ะๆฉวีวรรณหัวเราะเสียงดังอย่างชอบอกชอบใจ ปริศนาเงื้อมือเข้าใส่อย่างหงุดหงิด

    ไม่ต้องมาหัวเราะเยาะฉันเลยนะ ใครมันจะไปตรัสรู้ละว่า ไอ้บ้านั่นมันจะเป็นเก้งกวาง

    ไม่เห็นจะได้เรื่องเลย ไหนแกลองซิยายฉวีติรณาหันมาทางฉวีวรรณที่หยุดหัวเราะชั่วคราว ฉวีวรรณยักไหล่ก่อนจะเริ่มต้นแผนการที่สู้อุตส่าห์นอนคิดมาทั้งคืน

    คอยดูแผนฉันมั่งก็แล้วกันฉวีวรรณว่าพร้อมกับเดินเข้าไปทักชายหนุ่มที่แอบหมายตาเอาไว้

    เอ่อ….ขอโทษนะคะ เราเคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่าฉวีวรรณไถลเข้าไปถามหน้าตาย ชายคนนั้นทำท่างงๆก่อนจะเปิดยิ้มกว้างพยักหน้า

    อืม……ใช่แล้วถึงว่าสิหน้าคุ้นๆ เด็กปั๊มแถวบ้านนี่เองใช่ไหมครับฝ่ายนั้นตอบกลับ เล่นเอาฉวีวรรณเองชักงงไปเหมือนกัน

    เราเคยไปเป็นเด็กปั๊มแถวบ้านเขาตอนไหนหว่า ฉันกับตานี่ใครจะงงก่อนกันเนี่ย

    เอ่อ……ไม่ใช่นะคะ คุณคงจำคนผิดแล้วมั้ง

    ไม่ผิดหรอกครับ เมื่อกี้คุณยังบอกผมเองเลยว่าเรารู้จักกัน แล้วนี่ไม่ทำงานที่ปั๊มแล้วเหรอครับ ถึงมีเวลามาเรียนได้เขาถามเสียงดังขึ้น

    คนชักจะหันมามอง ฉวีวรรณหันหน้าหันหลังรู้สึกอยากจะเอาหน้าไปมุดลงกับพื้นกระเบื้องตายๆไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ฉวีวรรณค้อนให้หนุ่มคนนั้นวงใหญ่ก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดกลับไปหาเพื่อนๆ

    โธ่เอ้ย……นึกว่าจะแน่ มันก็พอกันละว้า ไหนยัยติน ตาแกแล้วปริศนาหันมาทางอีกฝ่ายหลังจากที่หัวเราะแผนการของฉวีวรรณจนท้องแข็ง

    ไม่มีอ่ะ ฉันคิดไม่ออกหรอกเพราะไอ้ที่ฉันคิดเอาไว้พวกแกก็ลอกเอาไปหมดแล้วเจ้าตัวสารภาพเสียงอ่อยๆ  เธอไม่มีเวลาจะมานั่งคิดแผนการติงต๊องๆพวกนี้ เพราะมัวแต่ท่องศัพท์วิชาที่เรียนอยู่น่ะสิ

    ได้ไงล่ะ พวกฉันลองจนหน้าแตกกันหมดแล้ว แกเอาเปรียบนี่นาปริศนาหันมาเท้าสะเอวต่อว่า ติรณายิ้มแหย รีบเปลี่ยนเรื่อง

    โอ้ย……ไม่เอาแล้ว ขี้เกียจคุยกะพวกแก ฉันไปหาหนังสือมาอ่านดีกว่าว่าแล้วก็เสเดินไปหยิบหนังสือ ก่อนจะต้องสะดุ้งตกใจเมื่อมีมือหนึ่งเอื้อมมาหยิบหนังสือเล่มเดียวกัน

    อุ้ย! ขอ…….”คำพูดที่เตรียมจะเอ่ยขอโทษฝ่ายนั้นต้องชะงักค้างเมื่อพบว่าเจ้าของมือนั้นเป็นใคร เขาก็คือมาวินคนที่เธอแอบฝันถึงนั่นเอง

    บังเอิญจังเลยนะครับ เราก็อยากได้หนังสือเล่มนี้อยู่พอดีเขาบอกขึ้นแล้วถือโอกาสจับมือบางนุ่มนิ่มนั้นไว้ไม่ยอมปล่อย ติรณายิ้มเขินไม่กล้าขยับมือออกจากการเกาะกุมนั้น มาวินรีบคลายมือออกเมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก

    ขอโทษที……”เขาบอกเขินๆ

    เอ๊ะ…….นี่มันหนังสือวิชา  Anatomy มันเกี่ยวกับสรีระ อวัยวะมนุษย์ไม่ใช่เหรอ แล้วมาวินจะเอาไปทำอะไรล่ะถามขึ้นอย่างแปลกใจ

     อ๋อ……คือแม่เราเขาอยากให้เรียนพยาบาลน่ะ ก็เลยอ่านๆเอาไว้เผื่อได้สอบใหม่เขาบอกตามตรงสีหน้าไร้พิรุธ จนคนที่คิดเข้าข้างตัวเองอยู่ว่าเขาคงมาดักรอเธออยู่ที่มุมหนังสือของนิสิตพยาบาลแน่ๆ ต้องหน้าจ๋อยสนิท

     แล้วนี่ตินมากับใครเขาถามพร้อมกับมองหาก่อนที่สายตาจะไปสะดุดอยู่ที่สองสาวเพื่อนซี้ของเธอที่นั่งหัวชนกันกำลังซุบซิบอะไรกันอยู่ ติรณามองตาม

    หนอย……ยัยสองคนนั่นคงกำลังเมาท์เราอยู่แน่ๆเชียว ติรณารีบดึงตัวชายหนุ่มไปหาสองสาวที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว

    สวัสดีครับ บังเอิญจังนะที่เจอกันอีกแล้วมาวินเอ่ยทักทายขึ้น

    เขาเรียกว่าบุพเพสันนิวาสค่ะปริศนาบอกยิ้มๆ ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้กับติรณาที่ก้มหน้างุดไม่สบตาด้วยทีท่าเขินจัด

    เดี๋ยวเราขอเอาหนังสือพวกนี้ไปเก็บแป๊บหนึ่งนะ แล้วเราไปหาอะไรกินกันเดี๋ยวเราเลี้ยงเองมาวินบอกอย่างใจป้ำ สามสาวพยักหน้าโดยไม่มีเสียเวลาคิดสักนิด

    เพราะกลัวว่าขืนตกลงช้ากว่านี้อีกสักวินาทีเดียวเขาจะเปลี่ยนใจเขาหัวเราะเบาๆอย่างพอใจในความไม่เสแสร้งของสามสาวก่อนจะวิ่งเอาหนังสือไปเก็บบนชั้น

    แหม…….ยัยติน ร้ายนะยะหล่อน บอกไม่ได้คิดแผนอะไรมา แต่ตกเบ็ดได้ปลาตัวเบ้อเริ่มปริศนาหันมาต่อว่าเพื่อนอย่างหมั่นไส้

    บ้าสิ…..มันบังเอิญย่ะติรณาหันไปทุบกำปั้นใส่กลางหลังเพื่อนรักอย่างเขินๆ

    แน่ใจเหรอยะ แกเห็นเขาตั้งแต่แรกเลยแกล้งทำเป็นไปหาหนังสือแถวนั้นละซี้ฉวีวรรณถามล้อๆ ติรณาหน้าแดงกำลังจะอ้าปากตอบโต้ก็พอดีกับที่เขาเดินกลับมา

    ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวแดดจะแรงกว่านี้เขาบอกขึ้นอย่างเอาใจใส่ ติรณาพยักหน้ารับลุกขึ้นเดินตามเขาไปด้วยหัวใจพองโต ไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครคนหนึ่งยืนมองตามหลังเธอไปจนลับตา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×