คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : แผนการขั้นที่หนึ่ง
“โอเค
ดูดีแล้ว แยกย้ายกันไปได้ ว่าแต่ใครจะไปตรงไหนกันมั่ง”ติรณาเอ่ยถามขึ้นขณะสำรวจความสวยของเพื่อนร่วมขบวนการยุทธวิธีหาสามี เอ้ย! ไม่ใช่หาแฟน ตะหาก
แต่
แฟนมันก็คือสามีในอนาคตอยู่ดีนี่นา แต่ช่างเถอะ อะไรก็ช่าง เอาเป็นว่าหาให้ได้ซักอย่างก่อนก็แล้วกัน
“ฉันว่าเราไปห้องสมุดกันไหม คนเยอะดี ผู้ชายดีๆที่ไหน เขาก็ต้องไปอยู่ที่ห้องสมุดกันทั้งนั้นนะแหละ”ฉวีวรรณออกความเห็น
“แต่ฉันว่าเราไปสนามกีฬาดีกว่า พวกนักกีฬาหล่อๆทั้งนั้น”ปริศนาแย้งขึ้น ติรณาคิ้วขมวดทำท่าตึกตรองราวกับเป็นปัญหาสำคัญระดับชาติก็ไม่ปาน
“แต่ฉันอยากอ่านหนังสือด้วย ไปห้องสมุดก็แล้วกัน จะได้ไม่เสียเวลาอ่านหนังสือ ยิงนกทีเดียวได้สองตัวไง”ติรณาเป็นฝ่ายตัดสินใจให้ เลยเป็นอันว่าทั้งสามสาวตัดสินใจไปห้องสมุดแทน
“เอาล่ะ ไอ้ปริศนา ในฐานะที่แกเป็นเจ้าของหนังสือเล่มนั้นน่ะ แกทำท่าทางให้มันดูน่าสนใจทีซิ เผื่อจะมีใครแถวนี้ตกหลุมแกมั่ง”ฉวีวรรณหันมาบอกตัวต้นคิด
ปริศนาพยักหน้ารับพร้อมกับยืดคอมองหาเป้าหมาย ยิ้มอย่างมั่นใจเมื่อเจอหนุ่มหล่อคนหนึ่งกำลังค้นหาหนังสืออยู่ เธอแกล้งเดินเข้าไปใกล้แล้วทำท่าเซแซดๆไปชนไหล่ชายหนุ่มโชคร้ายคนนั้นเต็มแรง
“ว้าย!”เสียงกรีดร้องนั้นเรียกความสนใจให้กับคนที่เดินผ่านไปมา ติรณากับฉวีวรรณนั่งอ้าปากค้างอย่างตกใจ
เปล่าหรอก
ที่นั่งอ้าปากค้างไม่ใช่อึ้งกับแผนการของยายปริศนาแต่ที่ค้างเพราะเสียงกรี๊ดซะดังลั่นนั้นรีไม่ใช่เสียงของยายปริศนาเพื่อนเธอน่ะสิ
ปริศนาเบ้ปาก สะบัดหน้าพรวดรีบเดินจ้าอ้าวกลับมานั่งที่โต๊ะเดิม โดยไม่มีแม้แต่คำขอโทษให้กับชายที่เดินชนเมื่อครู่
“ไง
.ยายปริศนา ว่าที่แฟนแก เด็ดสะบัดเลยว่ะ ฮ่ะๆ”ฉวีวรรณหัวเราะเสียงดังอย่างชอบอกชอบใจ ปริศนาเงื้อมือเข้าใส่อย่างหงุดหงิด
“ไม่ต้องมาหัวเราะเยาะฉันเลยนะ ใครมันจะไปตรัสรู้ละว่า ไอ้บ้านั่นมันจะเป็นเก้งกวาง”
“ไม่เห็นจะได้เรื่องเลย ไหนแกลองซิยายฉวี”ติรณาหันมาทางฉวีวรรณที่หยุดหัวเราะชั่วคราว ฉวีวรรณยักไหล่ก่อนจะเริ่มต้นแผนการที่สู้อุตส่าห์นอนคิดมาทั้งคืน
“คอยดูแผนฉันมั่งก็แล้วกัน”ฉวีวรรณว่าพร้อมกับเดินเข้าไปทักชายหนุ่มที่แอบหมายตาเอาไว้
“เอ่อ
.ขอโทษนะคะ เราเคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่า”ฉวีวรรณไถลเข้าไปถามหน้าตาย ชายคนนั้นทำท่างงๆก่อนจะเปิดยิ้มกว้างพยักหน้า
“อืม
ใช่แล้วถึงว่าสิหน้าคุ้นๆ เด็กปั๊มแถวบ้านนี่เองใช่ไหมครับ”ฝ่ายนั้นตอบกลับ เล่นเอาฉวีวรรณเองชักงงไปเหมือนกัน
เราเคยไปเป็นเด็กปั๊มแถวบ้านเขาตอนไหนหว่า ฉันกับตานี่ใครจะงงก่อนกันเนี่ย
“เอ่อ
ไม่ใช่นะคะ คุณคงจำคนผิดแล้วมั้ง”
“ไม่ผิดหรอกครับ เมื่อกี้คุณยังบอกผมเองเลยว่าเรารู้จักกัน แล้วนี่ไม่ทำงานที่ปั๊มแล้วเหรอครับ ถึงมีเวลามาเรียนได้”เขาถามเสียงดังขึ้น
คนชักจะหันมามอง ฉวีวรรณหันหน้าหันหลังรู้สึกอยากจะเอาหน้าไปมุดลงกับพื้นกระเบื้องตายๆไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ฉวีวรรณค้อนให้หนุ่มคนนั้นวงใหญ่ก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดกลับไปหาเพื่อนๆ
“โธ่เอ้ย
นึกว่าจะแน่ มันก็พอกันละว้า ไหนยัยติน ตาแกแล้ว”ปริศนาหันมาทางอีกฝ่ายหลังจากที่หัวเราะแผนการของฉวีวรรณจนท้องแข็ง
“ไม่มีอ่ะ ฉันคิดไม่ออกหรอกเพราะไอ้ที่ฉันคิดเอาไว้พวกแกก็ลอกเอาไปหมดแล้ว”เจ้าตัวสารภาพเสียงอ่อยๆ เธอไม่มีเวลาจะมานั่งคิดแผนการติงต๊องๆพวกนี้ เพราะมัวแต่ท่องศัพท์วิชาที่เรียนอยู่น่ะสิ
“ได้ไงล่ะ พวกฉันลองจนหน้าแตกกันหมดแล้ว แกเอาเปรียบนี่นา”ปริศนาหันมาเท้าสะเอวต่อว่า ติรณายิ้มแหย รีบเปลี่ยนเรื่อง
“โอ้ย
ไม่เอาแล้ว ขี้เกียจคุยกะพวกแก ฉันไปหาหนังสือมาอ่านดีกว่า”ว่าแล้วก็เสเดินไปหยิบหนังสือ ก่อนจะต้องสะดุ้งตกใจเมื่อมีมือหนึ่งเอื้อมมาหยิบหนังสือเล่มเดียวกัน
“อุ้ย! ขอ
.”คำพูดที่เตรียมจะเอ่ยขอโทษฝ่ายนั้นต้องชะงักค้างเมื่อพบว่าเจ้าของมือนั้นเป็นใคร เขาก็คือมาวินคนที่เธอแอบฝันถึงนั่นเอง
“บังเอิญจังเลยนะครับ เราก็อยากได้หนังสือเล่มนี้อยู่พอดี”เขาบอกขึ้นแล้วถือโอกาสจับมือบางนุ่มนิ่มนั้นไว้ไม่ยอมปล่อย ติรณายิ้มเขินไม่กล้าขยับมือออกจากการเกาะกุมนั้น มาวินรีบคลายมือออกเมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก
“ขอโทษที
”เขาบอกเขินๆ
“เอ๊ะ
.นี่มันหนังสือวิชา Anatomy มันเกี่ยวกับสรีระ อวัยวะมนุษย์ไม่ใช่เหรอ แล้วมาวินจะเอาไปทำอะไรล่ะ”ถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“อ๋อ
คือแม่เราเขาอยากให้เรียนพยาบาลน่ะ ก็เลยอ่านๆเอาไว้เผื่อได้สอบใหม่”เขาบอกตามตรงสีหน้าไร้พิรุธ จนคนที่คิดเข้าข้างตัวเองอยู่ว่าเขาคงมาดักรอเธออยู่ที่มุมหนังสือของนิสิตพยาบาลแน่ๆ ต้องหน้าจ๋อยสนิท
“แล้วนี่ตินมากับใคร”เขาถามพร้อมกับมองหาก่อนที่สายตาจะไปสะดุดอยู่ที่สองสาวเพื่อนซี้ของเธอที่นั่งหัวชนกันกำลังซุบซิบอะไรกันอยู่ ติรณามองตาม
หนอย
ยัยสองคนนั่นคงกำลังเมาท์เราอยู่แน่ๆเชียว ติรณารีบดึงตัวชายหนุ่มไปหาสองสาวที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
“สวัสดีครับ บังเอิญจังนะที่เจอกันอีกแล้ว”มาวินเอ่ยทักทายขึ้น
“เขาเรียกว่าบุพเพสันนิวาสค่ะ”ปริศนาบอกยิ้มๆ ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้กับติรณาที่ก้มหน้างุดไม่สบตาด้วยทีท่าเขินจัด
“เดี๋ยวเราขอเอาหนังสือพวกนี้ไปเก็บแป๊บหนึ่งนะ แล้วเราไปหาอะไรกินกันเดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”มาวินบอกอย่างใจป้ำ สามสาวพยักหน้าโดยไม่มีเสียเวลาคิดสักนิด
เพราะกลัวว่าขืนตกลงช้ากว่านี้อีกสักวินาทีเดียวเขาจะเปลี่ยนใจเขาหัวเราะเบาๆอย่างพอใจในความไม่เสแสร้งของสามสาวก่อนจะวิ่งเอาหนังสือไปเก็บบนชั้น
“แหม
.ยัยติน ร้ายนะยะหล่อน บอกไม่ได้คิดแผนอะไรมา แต่ตกเบ็ดได้ปลาตัวเบ้อเริ่ม”ปริศนาหันมาต่อว่าเพื่อนอย่างหมั่นไส้
“บ้าสิ
..มันบังเอิญย่ะ”ติรณาหันไปทุบกำปั้นใส่กลางหลังเพื่อนรักอย่างเขินๆ
“แน่ใจเหรอยะ แกเห็นเขาตั้งแต่แรกเลยแกล้งทำเป็นไปหาหนังสือแถวนั้นละซี้”ฉวีวรรณถามล้อๆ ติรณาหน้าแดงกำลังจะอ้าปากตอบโต้ก็พอดีกับที่เขาเดินกลับมา
“ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวแดดจะแรงกว่านี้”เขาบอกขึ้นอย่างเอาใจใส่ ติรณาพยักหน้ารับลุกขึ้นเดินตามเขาไปด้วยหัวใจพองโต ไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครคนหนึ่งยืนมองตามหลังเธอไปจนลับตา
ความคิดเห็น