คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ชายในฝัน
ชายในฝัน
“นี่
.ปู ฉวีวรรณ อย่าพึ่งนอนสิ มันพึ่งจะสี่ทุ่มเองนะ อยู่คุยเป็นเพื่อนกันก่อนสิ”ติรณาหันมาเขย่าปลุกเพื่อนร่วมห้อง
หลังจากที่เธออ่านหนังสืออยู่หน้าเดียวกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบก็ไม่จบซะที แถมยังไม่เข้าใจสักบรรทัดเสียอีก
“โอ้ย
อะไรของแกวะ ฉันจะนอนพรุ่งนี้ต้องไปดูสวนผักแต่เช้า”ฉวีวรรณลุกขึ้นมาตอบงัวเงียพร้อมกับเผยอเปลือกตาปรือๆส่งไปให้อีกคน
“นั่นสิ ดึกแล้ว ทำไมแกยังไม่หลับไม่นอนอีก”ปริศนาลุกขึ้นมองหน้าเพื่อนตาปรือจะปิดเหล่ไม่ปิดเหล่จนคนปลุกต้องถอนหายใจ
“ฉันนอนไม่หลับนี่ ตั้งแต่วันที่เจอหน้ามาวินที่ห้องสมุด ฉันยังไม่ได้เจอเขาอีกเลยนะ”ติรณาหน้าเศร้า ไม่สนใจว่าเพื่อนจะนั่งฟังหรือนั่งหลับ
“โอ้ย
..นี่แกยังไม่เลิกคิดถึงเรื่องนี้อีกเหรอ หลายเดือนแล้วนะเขาคงไม่ใช่เนื้อคู่กระดูกคู่ของแกแล้วล่ะ”ฉวีวรรณบอกก่อนจะฟุบหลับลงไปใหม่
“ใครบอกว่าไม่ใช่ยะ ผู้ชายแบบนี้ล่ะชายในฝันของฉันเลย ลึกลับน่าค้นหา”ติรณาบอกขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้
“โอ้ย
..ไม่เอาล่ะขี้เกียจฟังแกพล่าม ฉันไปเข้าห้องน้ำดีกว่า”ปริศนาบอกก่อนจะเดินโซเซเข้าห้องน้ำไป ไม่สนใจเสียงคร่ำครวญของเพื่อนสาวตัวดี
“กรี๊ด
.ผะ
ผี ช่วยด้วย”ปริศนาตะโกนสุดเสียง ฉวีวรรณที่ฟุบหลับไปแล้วสะดุ้งพรวด ตาเหลือกเพราะเธอกลัวพี่ยิ่งกว่ากลัวอะไรทั้งหมดในชีวิต ส่วนติรณานั้นกระโดดพรวดข้ามเก้าอี้วิ่งไปหาเพื่อนก่อนจะอึ้งตะลึงกรี๊ดเสียงดังเข้าอีกคน
“ไหน
.ผีอยู่ไหน”ฉวีวรรณรีบวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาหน้าตาตื่น
“นะ
นั่น หัวกะโหลก พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วยเถิด”ปริศนาตัวสั่น หลับหูหลับตาชี้มือไปที่หัวกะโหลกใบเขื่องที่วางอยู่หน้ากระจกเงาพร้อมกับยกมือไหว้ปะหลกๆ
ติรณาที่กำลังหลับตาอยู่เช่นกันนึกได้เมื่อได้ยินคำว่าหัวกะโหลก รีบเอื้อมมือไปเปิดไฟแล้วส่งยิ้มแหยๆกลับไปให้
“หัวกะโหลกของฉันเองแหละ ฉันยืมมาจากคณะเอามาท่องชิ้นส่วนของมัน”เจ้าตัวเสียงอ่อย ปริศนาค่อยๆลืมตาขึ้นมองเท้าสะเอวมองตาเขียว
“นังบ้า! หัวใจฉันจะวาย เปิดประตูเข้ามาเห็นหัวกะโหลกวางแมะอยู่แบบนี้”
“แล้วนี่แกร้องทำไมฮ่ะ แกเอามันมาเองแท้ๆ”ฉวีวรรณต่อว่าอีกคน
“แหะๆ ฉันลืมตัวน่ะ เห็นแค่แวบๆไม่ทันมอง”ติรณายิ้มเจื่อน เพื่อนทั้งสองเลยได้แต่ส่ายหน้าเบาๆก่อนจะหลุดหัวเราะกับความเพี้ยนของเธอ
******************************************************************************************
“ติน! เร็วๆเข้า เกรดเทอมนี้ออกแล้ว”เสียงเรียกของฉวีวรรณดังขึ้นพร้อมกับกวักมือเรียกหยอยๆ ติรณารีบสาวเท้าไปดูผลสอบด้วยหัวใจเต้นรัว กวาดสายตาไปทั่วรายชื่อนิสิตและผลการเรียนที่แปะอยู่หน้าห้องเรียนแทบลืมหายใจ
หญิงสาวถอนหายใจอย่างโล่งอกกับผลสอบ ถึงจะทำได้ไม่ได้ดีนักในสายตาคนที่เรียนเก่งๆแต่ก็ดีแล้วสำหรับเธอ
“ฮึ่ย
เธอทำได้ไงน่ะติน วิชาเภสัชได้ B+ Anatomyกับเคมีได้ A วิชาพวกนี้ยากจะตาย”ฉวีวรรณถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“ได้เกรดเยอะก็เฉพาะพวกนี้แหละ แต่วิชาภาษาอังกฤษฉันก็แย่ วิชาพวกนี้ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นเขาซะอีก”ติรณาว่า เธอถนัดแต่วิชาที่ต้องท่องจำต่อให้ศัพท์มากมายขนาดไหนเธอก็จำได้แต่วิชาที่คนอื่นเห็นว่าพื้นๆอย่างวิชาเต้นรำเธอกลับเห็นว่ามันยากสุดชีวิตจำไม่ได้ซะที
“แต่ฉันได้แค่ C แต่ช่างเถอะได้แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว เอ้อ
..เมื่อกี้นี้พี่หน่อย พี่ปีสองชวนไปออกค่ายอาสาน่ะเธอเห็นว่าไง”ฉวีวรรณหันมาถามความเห็น ติรณาทำท่าสนใจเต็มที่
ก็แหม
.ก็เธอเรียนหนักมาตลอดเทอมแล้วนี่นา ปิดเทอมใหญ่ก็ตั้งสามเดือนไปหาประสบการณ์การออกค่ายก็ดีเหมือนกัน
“สนใจสิ ปิดเทอมนี้ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว จะได้รู้จักคนเยอะๆด้วย”ติรณาเห็นด้วย ฉวีวรรณพยักหน้าหงึกหงัก
“เป็นอันว่าตกลง คณะเราก็มีปู แอ๋ม ฉันแล้วก็เธออีกคน น่าสนุกเหมือนกันนะ”
“แล้วค่ายมันเป็นยังไง มีอะไรทำบ้าง”หันมาถามรายละเอียด
“ก็
.เห็นว่าไปสร้างอาคารเรียนไปอาทิตย์หน้านี่แหละ”
“อืม
.น่าสนใจ แต่ฉันคงต้องขออนุญาตพ่อก่อน จะให้ไปรึเปล่าก็ไม่รู้”ติรณาพึมพำกับตัวเองเบาๆอย่างกังวล เพราะพ่อกับแม่แทบจะไม่ยอมให้เธอไปไหนไกลตาเลย นอกซะจากจำเป็นจริงๆ
ความคิดเห็น