ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทัณฑ์รัก.........เกอิชา

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 766
      0
      8 ต.ค. 53

    อัสมานสงบสติอารมณ์ของเขาได้แล้ว เมื่อเห็นสภาพอ่อนแรงของหญิงสาว เขาดึงตัวเธอขึ้นมา ปล่อยลำแขนนั้นเพียงเบาๆ ร่างของเธอก็รูดลงไปกองกับพื้นทรายอย่างน่าเวทนา ซาวานยกมือขึ้นปิดปากตัวเองแน่นด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น อัสมานยามโกรธเกรี้ยวนั้น น่ากลัวเหลือเกิน

    อัสมานขยับเข้าไปใกล้ พลิกร่างของหญิงสาวขึ้นและช่วยดึงให้เธอลุกขึ้นนั่ง ซายูริน้ำตานองหน้า หอบจนตัวโยนด้วยแรงสะอื้นและการขาดอากาศ

    ภาพของอัสมานที่ผ่านม่านน้ำตาของเธอเวลานี้ ใบหน้าและรูปร่างของชายหนุ่มสูงตระหง่านในความมืด ดูพร่ามัวราวกับภาพของปีศาจและซาตานร้าย

    ไอ้คนบ้า ฉันไปทำอะไรให้นักหนา ถึงได้ทำร้ายฉันถึงขนาดนี้อารมณ์ของซายูริระเบิดออกมาด้วยความกราดเกรี้ยวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หญิงสาวถลาตัวเข้าทุบตีเขาพัลวันด้วยความเคียดแค้นชิงชังที่มากขึ้นเป็นทวีคูณ

    อัสมานเองถึงกับงันไป เผลอตัวปล่อยให้ซายูริกระหน่ำทุบตีลงมาไม่ยั้ง เพราะสายตาวาวโรจน์ราวกับแม่เสือสาวนั้น ชายหนุ่มปล่อยให้เธอระบายอารมณ์จนสาแก่ใจแล้วจึงได้บอกขึ้น

    เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ แล้วก็เข้านอนได้แล้วเขาเดินจากไปซะเฉยๆ สวนทางกับนางซาวานที่ยังคงทำทีเป็นง่วนอยู่กับการก่อไฟตรงหน้า ทั้งที่หูและตาคอยสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา

    ช่วยดูแลนางด้วย เปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งๆ ให้เสร็จก็ให้นางเข้านอนซะ วันนี้ให้นางนอนด้วยกันกับเจ้าก็แล้วกัน อย่าให้นางหนีไปได้ล่ะอัสมานออกคำสั่ง

    เจ้าค่ะนางซาวานรับคำ

    ทั้งที่ไม่เข้าใจนักกับอาการประเดี๋ยวดี ประเดี๋ยวร้ายของเจ้านาย ที่ทำร้ายซายูริจนเกือบตายแต่กลับสั่งให้นางดูแลอย่างดีซะอย่างนั้น ซาวานมองตามหลังเจ้านายหนุ่มไปจนลับตาจึงได้รีบสาวเท้าไปหาซายูริพร้อมกับยื่นผ้าคลุมหน้าเก่าๆ ของตัวเองให้และลงมือเช็ดผมให้หญิงสาวจนแห้งดี

    ห่มซะ เดี๋ยวจะเป็นปอดบวมตายซะก่อนที่จะได้คิดหนี เจ้าหาเรื่องเองแท้ๆนางก้มตัวลงพยุงร่างบางสั่นเทาของซายูริให้ลุกขึ้นก่อนจะพยุงร่างบางอ่อนระโหยของเธอเข้าไปในกระโจมอันถือเป็นที่พักของเธอ ในขณะที่อัสมานอยู่บนบ้านพักหลังน้อยแต่ทว่าอบอุ่นและกันลมหนาวในเวลากลางคืนได้ดี

    แกนี่น้า…….นังผู้หญิงต่างชาติ ไม่เจียมตัวเอาซะเลย กล้าดียังไงไปตีฝีปากกับท่านอัสมาน ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขาน่ะอารมณ์ร้ายนักนางซาวานส่ายหน้าระอา

    รู้สิ รู้ดีด้วย ว่าเจ้านายของท่านน่ะ คือปีศาจร้ายในร่างคน

    ก็ใครใช้ให้แกไปยั่วโมโหเขาเล่า ท่านอัสมานน่ะไม่เหมือนใครหรอกนะ ผู้ชายอย่างเขา อย่าคิดว่าจะใช้ความงามหลอกล่อได้เลย เอ้า…..เสื้อผ้า เปลี่ยนซะ ท่านอัสมานสั่งให้ข้าดูแลเจ้าอย่างดีนางซาวานบอกขึ้น ซายูริเลิกคิ้วอย่างไม่อยากเชื่อ

    เขาน่ะหรือ สั่งให้ท่านดูแลฉันอย่างดี

    จริงๆ แล้ว ท่านอัสมานไม่ใช่คนใจร้ายใจดำหรอกนะ เขายังเคยช่วยชีวิตข้าเอาไว้แถมยังให้เงินข้าเอาไว้ใช้สำหรับตั้งตัวอีกด้วย แต่เพราะข้าไม่มีที่ไป สามีของข้าก็ตายไปแล้ว ลูกสาวของข้าก็แต่งงานไปอยู่กับผัวที่เผ่าอื่น ข้าก็เลยขอมารับใช้ท่านที่นี่ยามเมื่อพูด สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความชื่นชม

    พอทีเถอะ ฉันมาอยากได้ยินใครพร่ำบ่นถึงความดีของผู้ชายคนนั้นหญิงสาวบอกเสียงห้วน ลงมือผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วล้มตัวลงนอนบนผ้าผืนบางที่ปูบนพื้นทรายนั้น

    น้ำตาของความระทดท้อหยาดรินขึ้นมาอีกครั้ง แม่ของเธอจะรับรู้บ้างหรือไม่หนอ ว่าลูกสาวคนนี้ลำบากแค่ไหน เพื่อหวังว่าจะพบหน้าแม่ผู้ให้กำเนิดสักครั้ง

    ************************************************************************************************

    คหบดีโยฮานคิ้วขมวดมุ่นด้วยความไม่พอใจ เมื่อยะนีระห์ให้สาวใช้ขนกระเป๋าและข้าวของส่วนตัวอีกหลายอย่างของเธอลงมาจากห้องและแจ้งกับเขาเดี๋ยวนั้นเองว่า เธอต้องการจะไปพักค้างแรมที่บ้านของซายีน่า ถึงอย่างไรมันก็ดูไม่เหมาะนักเพราะอัสมานกับยะนีระห์ยังไม่ได้หมั้นหมายกันอย่างเป็นทางการ

    แต่ลูกจะไปค่ะยะนีระห์บอกอย่างดื้อดึง

    จะไปได้อย่างไรกันเล่า ในเมื่อบ้านนั้นเป็นของอัสมาน ใครๆ ก็รู้ดี เจ้ากับเขายังไม่ได้หมั้นหมายกันเป็นเรื่องเป็นราว จะไปอยู่อย่างนั้นได้อย่างไรโยฮานบอกขึ้นเสียงเข้มแต่ยะนีระห์ไม่สนใจ

    ลูกไม่อยากอยู่ที่นี่ เพราะมลภาวะทางอากาศมันเยอะจนเกินไป หันไปทางซ้ายก็ขยะเน่าเหม็น มองไปทางขวาก็ขยะสังคมไม่พูดเปล่าแต่สายตาคมกริบของเธอแลเลยมายังราริณีสลับกับการีมที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ใกล้ๆ

    ชายหนุ่มขยำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งเปิดอ่านจนยับแถมจะขาดคามือ ราริณีเอื้อมมือมาแตะไหล่บุตรชายเอาไว้และส่ายหน้าเป็นเชิงห้ามปราม

    พ่อก็บอกแล้วอย่างไรล่ะว่าจะสร้างบ้านให้ใหม่ ลูกก็ไม่ยอมรับ แล้วจะให้พ่อทำอย่างไรโยฮานส่ายศีรษะอย่างระอากับความเอาแต่ใจของลูกสาวคนเดียว ผ่านมาหายปีแล้วแต่ยะนีระห์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมรับภรรยาคนใหม่ของเขา ทั้งที่ราริณีนั้นสงบเสงี่ยมและสงบปากสงบคำเสมอมา

    ที่นี่เป็นบ้านของท่านแม่ ลูกจะไม่ย้ายออกไปไหนทั้งนั้น

    จะเอายังไงกันล่ะยะนีระห์ จะสร้างให้ใหม่ก็ไม่เอา จะสร้างใหม่ให้ราริณีกับการีมลูกก็ไม่ยอมคหบดีโยฮานถามขึ้นอย่างเหลืออดกับความเอาใจของเธอ

    เรื่องอะไรลูกจะให้ท่านพ่อเอาสมบัติของบ้านเราไปสร้างบ้านให้คนอื่น หากจะให้อยู่หลังเล็กๆ เท่าเรือนคนใช้ก็ว่าไปอย่างยะนีระห์เบ้หน้าอย่างถือดี

    แต่น้าราริณีเป็นภรรยาของพ่อโยฮานเริ่มเสียงแข็ง มือกุมหน้าอกด้วยความเจ็บ ยะนีระห์ทำท่าตกใจแต่ก็ช้ากว่าราริณีที่รีบลุกขึ้นมาประคองเอาไว้อย่างห่วงใย

    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณ ฉันอยู่ที่ไหนก็ได้

    เห็นไหมล่ะคะพ่อ เขาก็บอกอยู่แล้ว แบบนี้ท่านพ่อจะให้เขาไปอยู่ที่บ้านหลังเล็กได้หรือยังยะนีระห์เย้ยหยัน เธอไม่เชื่อหรอกว่านังอดีตเกอิชาคนนี้ จะรักพ่อของเธอจริง แท้จริงแล้ว มันไม่ได้สงบเสงี่ยมอย่างที่แสดงออกต่อหน้าคนอื่นหรอกเธอรู้ดี

    เราสองคนอยู่ที่บ้านเล็กก็ได้ครับพ่อ เพราะมลพิษบ้านนี้ก็เยอะอย่างที่ยะนีระห์ว่า มลพิษทางเสียงน่ะครับ มันแหลมและก็บาดแก้วหูจนน่ารำคาญการีมบอกขึ้นบ้าง ตาของเขาจับจ้องใบหน้าหวานแต่นิสัยตรงกันข้ามของยะนีระห์อย่างชิงชังเช่นกัน

    ผู้หญิงปากร้าย เอาแต่ใจ แบบนี้เขาจะต้องสั่งสอนให้รู้สำนึกเข้าสักวัน

    แกไอ้การีม ไอ้คนไร้การศึกษา ไอ้…..”ยะนีระห์ตัวสั่นด้วยความโกรธกรริ้ว การีมแสยะยิ้มเยาะหยัน มองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

    ไปเรียนมาตั้งหลายปี กิริยาของคุณหนูยะนีระห์ช่างเป็นกุลสตรีโดยแท้ คุ้มค่าเงินกับที่ท่านพ่อเสียไปจริงๆ ผู้ชายบ้านไหนเห็นคงอยากจะได้เป็นเมียจนตัวสั่นการีมบอกเสร็จก็ผละเดินหนีอย่างรวดเร็ว ยะนีระห์ปาข้าวของใกล้มือไล่หลังเขาไปไม่ยั้งท่ามกลางเสียงร้องห้ามของท่านโยฮานกับราริณี

    พ่อดูสิคะ ดูไอ้การีม มันว่าลูก

    แกก็ทำตัวอย่างที่เขาว่าจริงๆ นั่นแหละท่านโยฮานบอกขึ้นอย่างสุดทน เสียงของเขาขาดเป็นห้วงๆ ความเจ็บราวกับถูกเหยียบลงมาบนหน้าอก ทำให้เขาต้องทรุดตัวลงหอบ

    ท่านพ่อ ! ท่านพ่อเข้าข้างไอ้ไพร่นี่ยะนีระห์ตกใจหนัก เช่นเดียวกับราริณีที่รีบเข้าไปประคองและพาร่างอ่อนแรงนั้นกลับไปนังยังบนโซฟา

    อย่าไปเลยนะคะคุณยะนีระห์ ฉันกับลูกจะไปอยู่บ้านเล็กนั่นเองค่ะ คุณพ่อคุณไม่สบายมาก อยู่ให้กำลังใจท่านเถอะนะคะเมื่อแม่เลี้ยงที่เธอแสนจะเกลียดชังยอมสิโรราบให้แต่โดยดี หญิงสาวจึงหมดข้ออ้างที่จะไปอยู่ในบ้านของอัสมาน แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่หัวใจร่ำร้องแต่เธอก็เป็นห่วงผู้เป็นพ่อไม่น้อยไปกว่ากัน

    อย่าไปเลยนะลูกท่านโยฮานบอกเสียงอ่อน หญิงสาวจึงจับเป็นต้องพยักหน้า

    ค่ะเธอรับคำ

    เอาไว้ให้พ่อของเธออาการดีขึ้นเมื่อไหร่ เธอค่อยไปอยู่บ้านของอัสมานก็คงจะไม่ช้าเกินไป

     ผู้ชายเย็นชาอย่างเขาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนอยู่ข้างกาย ถึงอย่างไรจะช้าหรือเร็ว เขาก็ต้องเป็นของเธออยู่วันยังค่ำ ไม่มีใครในประเทศนี้ที่จะเหมาะสมกับเขามากไปกว่าเธอ………

    ***********************************************************************************************

    อากาศหนาวเหน็บของคนที่นี่แต่เย็นสบายสำหรับซายูริกำลังจะผ่านพ้นไป เพราะมันถูกแทนที่ด้วยไอแดดร้อนๆ ที่เธอยังไม่คุ้นเคย หญิงสาวขยับตัวลุกจากที่นอนอย่างเมื่อยล้า เกิดความรู้สึกปวดเมื่อตามร่างก่ายเพราะต้องนอนบนผ้าปูบางๆ ที่ไม่ต่างจากนอนบนผืนทรายขรุขระสักเท่าไหร่

    ซายูริเยี่ยมหน้าออกไปภายนอกกระโจม พระอาทิตย์เพิ่งจะโผล่พ้นขอบฟ้าแต่เหตุไฉนหนอมันถึงได้ร้อนจนรู้สึกแสบไปหมดทั้งหน้าอย่างนี้ ดินแดนแห่งทะเลทรายที่แห้งแล้ง เป็นของขวัญจากพระเจ้าหรือว่าเป็นการลงทัณฑ์พวกคนบาปกันแน่นะ

    ถ้าตื่นก็ออกมาได้แล้วเสียงที่ดังขึ้นแต่ไม่เห็นตัวคนพูดทำให้หญิงสาวสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที ภาพความป่าเถื่อนโหดร้ายที่เขาปฏิบัติต่อเธอเมื่อคืนนี้ยังติดตาไม่รู้คลาย

    พรุ่งนี้ฉันต้องกลับเข้าไปในเมือง เพราะฉะนั้นอูฐของฉันสมควรที่จะได้รับน้ำและอาหารอย่างดี ฉันมอบให้เป็นหน้าที่ของเธอ แม่เกอิชาแสนสวยเขาก้าวเข้ามาหยุดหลังเธอเมื่อไหร่ก็ไม่ทันได้รู้ หญิงสาวรีบลุกขึ้นและจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่

    ไม่ต้องทำเป็นรักนวลสงวนตัวถึงเพียงนั้นหรอก เพราะมันไม่ได้ทำให้ตัวเธอมีค่าขึ้นมาเลยสักนิดอีกฝ่ายยิ้มเยาะ ดวงตาสองข้างของเขายังคงแดงเรื่อเพราะฝีมือเธอ นั่นช่วยสร้างรอยยิ้มสาสมใจขึ้นเป็นครั้งแรกบนใบหน้าของซายูริ

    ขำอะไรของเธอ

    ดวงตาปีศาจของท่านไงล่ะ ขำที่วันนี้มันช่างแดงสุกปลั่งราวกับดวงตะวันที่เพิ่งจะเริ่มทอแสงออกมารับรุ่งอรุณหญิงสาวเล่นลิ้นอย่างอารมณ์ดี

    อย่างน้อยๆ เขาก็ควรจะเจ็บเป็นเสียบ้าง ถึงแม้มันจะแค่เล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เธอได้รับแต่มันก็ยังดีกว่าที่เธอจะไม่ได้ลิ้มรสแห่งความสะใจเอาเสียเลย

    เอาอูฐไปเลี้ยงได้แล้ว มุมโน้นมีอินทผลัมร่วงอยู่เต็มไปหมด ให้มันกินและดื่มให้อิ่มหนำเสียก่อน ฉันถึงจะอนุญาตให้เธอกลับมากินข้าวได้ชายหนุ่มบอกขึ้นแล้วคว้าข้อมือบางฉุดให้หญิงสาวลุกขึ้นจากกระโจมแล้วยัดเยียดเชือกถักขนาดใหญ่นั้นให้

    ว๊าย……”หญิงสาวเซถลา เมื่อเจ้าอูฐที่ตัวใหญ่กว่าเธอหลายเท่านักลุกขึ้นจากท่านอนแรงๆ ทำให้เธอยังไม่ทันตั้งตัว เลยถูกเชือกในมือกระชากจนหงายหลังล้มจ้ำเบ้าลงไปกองกับพื้น

     อัสมานทำหน้ากลั้นยิ้มเอาไว้ในหน้าก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ท่ามกลางความแปลกใจของนางซาวาน ทาสผู้ซื่อสัตย์ที่รับใช้กันมาหลายปี

    หมู่นี้ท่านอัสมานหัวเราะบ่อยจนน่าแปลกใจนางโคลงศีรษะก่อนจะก้มหน้าก้มตาหุงหาอาหารตามปกติ มองร่างบอบบางของซายูริในชุดเสื้อคลุมเก่าๆ ถือเชือกจูงอูฐตัวโตออกเดินเลียบไปตามชายขอบแหล่งน้ำอย่างเห็นใจ ไม่รู้ว่าท่านอัสมานจงเกลียดจงชังทาสสาวคนนี้นักหนาด้วยเหตุอันใด

    ซายูริกัดฟันจูงเจ้านาวาแห่งทะเลทรายตัวโตไปตามทางเดินอย่างยากลำบาก เริ่มแรกมันก็เล่นเอาเธอหกล้มหกลุกไปตลอดทางแต่สักพักก็เริ่มจับทางได้ หญิงสาวเปลี่ยนจากการกึ่งจูงกึ่งลากมาเป็นเดินขนาบข้างมัน มือถือเชือกเอาไว้มั่น

    อัสมานกอดอกลอบมองร่างเล็กๆ นั้นอย่างพอใจ เสื้อคลุมของนางซาวานที่เธอเอามาใช้สะบัดตามจังหวะการก้าวเดินของคนใส่ รองเท้าคู่ใหญ่ที่เธอสวมนั้นเป็นรองเท้าหนังผูกโยงมารัดรอบข้อเท้าแทนรองเท้าหนังสานคู่เดิมของเธอ

    ทุกย่างก้าวที่เหยียบย่ำลงไป เม็ดทรายระเอียดยิบที่ร้อนจัดราวกับถูกบดคั่วด้วยเปลวไฟก็ท่วมบนหลังเท้าของเธอ ซายูริปล่อยให้เจ้านาวาแห่งทะเลทรายตัวโปรดของอัสมานเล็มหญ้าและยอดกระถินป่าตามใจชอบ ส่วนเธอนั้นก้มลงเก็บอินทผลัมที่ร่วงหล่นนั้นขึ้นมาดมดูและกัดชิมดูอย่างสนใจ

    รสชาติแปลกๆ แต่ก็อร่อยดีหญิงสาวบอกกับตัวเองแล้วจึงกัดกินเจ้าลูกอินทผลัมนั้นด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยนักหนาพลางมองทัศนียภาพเบื้อหน้าอย่างแปลกตา เพราะเมื่อวานมัวแต่ตกใจกลัวจนไม่ทันสังเกตรอบๆ แหล่งน้ำที่ได้ชื่อว่าโอเอซิส

    เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าโอเอซิสจะเป็นแหล่งน้ำที่ใหญ่และดูสมบูรณ์อย่างนี้ มีพืชทนแล้งหลายชนิดขึ้นอยู่ประปราย ทั้งต้นปาล์มและอินทผลัมที่ชูยอดไสวลู่ลมที่พัดมาเป็นระลอก ผลของมันร่วงลงเต็มพื้นดิน เพราะไม่มีใครผ่านมาเห็นมันบ่อยนัก ทุกอย่างที่นี่เลยยังคงความอุดมสมบูรณ์เอาไว้

    มิกะ เธอจะรู้ไหมนะ ว่าคำเตือนของเธอที่บอกกับฉันมันกำลังจะเป็นจริงขึ้นมาแล้ว คนที่นี่รักแรงเกลียดแรงอย่างที่เธอว่า และฉันก็มาเจอกับคนที่โหดร้ายป่าเถื่อนอย่างที่สุดแล้วซายูริน้ำตาซึมขึ้นมาอีกครั้งกับโชคชะตาที่เล่นตลกกับชีวิตของเธอ

    เวลานี้เธอควรที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่สุขสบายของท่านฮัสซาร์ไม่ใช่หรือ หากไม่ได้มาที่นี่แล้วเธอก็ยังคงจะได้อยู่ในห้องพักเล็กๆ ในสำนักเกอิชาที่ยังมีมิกะเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข

     บ้านที่ถึงแม้จะเล็กแต่ก็อบอุ่น อากาศเย็นสบายไม่ร้อนระอุเหมือนที่นี่

    ทำไมหนอ ผืนแผ่นดินใต้ฟ้าเดียวกัน สภาพถึงได้แตกต่างกันลิบลับอย่างนี้…….

    ซายูริ ท่านอัสมานเรียกแหนะ รีบๆ ไปเถอะ ประเดี๋ยวจะโดนเข้าอีกนางซาวานกระหืดกระหอบเข้ามาเรียก ทำให้อารมณ์เหม่อลอยของหญิงสาวหยุดชะงักลง

    ช่างเขาสิซายูริบอกเสียงยานคางและแกล้งเอนหลังพิงกับโขดหินด้วยท่าทางเกียจคร้าน นางซาวานถอนหายใจก่อนจะฉุดข้อมือเล็กๆนั้นให้ลุกขึ้น

    อย่าเล่นลิ้นอยู่เลยน่า ทำไมเจ้าจะต้องวอนหาเรื่องอยู่เรื่อยเลยนะ เจ้าน่ะอายุพอๆ กับลูกสาวของข้า ข้าถึงได้ไม่อยากเห็นเจ้าต้องเจ็บตัว

    ทำไมท่านจะต้องกลัวเขานักนะ

    ท่านอัสมานเป็นคนจริง ชีวิตเขาไม่ค่อยมีเรื่องให้ต้องพูดเล่นมากนักหรอก

    ท่านมาอยู่กับเขาได้ยังไง ท่านดูเหมือนจะเป็นชาวบ้านมากกว่าคนเมืองซายูริลุกตามแรงฉุดของนางซาวานและจูงเจ้าอูฐกลับไปยังที่พักที่เป็นกระโจม และบ้านของอัสมาน

    บ้านที่สร้างจากไม้และอิฐสูง แตกต่างจากบ้านของชาวทะเลที่โดยทั่วไปที่สร้างจากดินเหนียวและอิฐแต่ไม่มีไม้ประกอบเลย เพราะในทะเลทรายอย่างนี้ไม้เป็นสิ่งที่หายากนัก

    ท่านอัสมานช่วยชีวิตของข้าเอาไว้ เมื่อครั้งที่ออกค้าขายกับผัวของข้า แต่โชคร้ายระหว่างทางถูกโจรร้ายเบดูอินดักปล้น ผัวของข้าถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมแต่โชคดีที่ท่านอัสมานบังเอิญท่องเที่ยวผ่านมาจึงช่วยชีวิตข้าเอาไว้ได้ทัน

    นางซาวานเล่าความหลังพลางเช็ดน้ำตาป้อยๆ ด้วยความสงสารสามีที่มาด่วนจากไปทั้งที่เหลือกันอยู่แค่สองคน ซายูริหยุดเดินแล้วหันมาถามด้วยความสงสัย

    เขาก็ร่ำรวย มีธุรกิจที่ต้องดูแลมากมายแล้วเหตุใดถึงได้มีเวลาออกมาเที่ยวเล่นอย่างนั้น แถมยังมาเที่ยวทะเลทรายลึกที่เต็มไปด้วยอันตรายมากเสียด้วย

    ความชอบกระมัง ท่านยุซุปลูกน้องของท่านอัสมานก็เคยถามอย่างนี้ ท่านอัสมานบอกว่าบางอย่างก็ศึกษาในตำราเรียนไม่ได้ บางครั้งระหว่างทางหากเจอใครผ่านมา ท่านก็ช่วยเหลือให้เงินไปโดยไม่คิดหวังสิ่งตอบแทนทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาดูเหมือนนางซาวานจะชื่นชมไปเสียหมดจนน่าหมั่นไส้

    ทำความดีกับเขาก็เป็นด้วยหรือหญิงสาวค่อนขอด

    หากเจ้ารู้จักท่านอัสมานดีล่ะก็ เจ้าจะต้องหลงรักเขาแน่ๆ เขาเป็นผู้ชายสง่าที่ใครๆ ก็ฝันถึงนางซาวานบอกยิ้มๆ เป็นเชิงล้อเลียนแต่ซายูริหน้าตึงขึ้นมาทันที

    ไม่มีทางหรอก

    ข้าล้อเล่นหรอกน่า

    พวกเบดูอินนี่ดูโหดร้ายน่ากลัวจังนะคะ แล้วเขาผ่านมาแถวนี้บ้างไหมซายูริเริ่มต้นเก็บข้อมูล พยายามวางสีหน้าให้ดูเฉยมากที่สุดจะได้ไม่ดูจงใจสืบข้อมูลมากจนเกินไป

    พวกเบดูอินน่ะ เป็นพวกที่ท่องเที่ยวไปในทะเลทราย มีหลายเผ่า บางพวกก็ดี บางพวกก็ร้ายกาจ เป็นพวกรักอิสระ ไม่ค่อยอยู่เป็นหลักแหล่งกันนักหรอก พวกที่ร้ายก็มักจะเป็นพวกโจรร้าย ใจคอของมันเหี้ยมโหดนัก คอยดักปล้นกองคาราวานต่างๆ ที่เดินทางรอนแรมในทะเลทราย ข้าคงตอบไม่ได้หรอกว่าพวกมันจะผ่านไปมาเมื่อไหร่ แต่โอเอซิสที่นี่อยู่หลังหุบเขาแห้งแล้ง ไม่ค่อยมีใครผ่านมานักหรอก เพราะมองดูเผินๆ ดูแห้งแล้งเกินไป ไม่มีใครกล้าเสี่ยงเข้ามาดู

    อย่างนี้ก็แย่ซายูริเผลอครางกับตัวเอง

    อะไรนะนางซาวานไม่ทันฟังให้ถนัดร้องถามขึ้น

    เปล่าจ้ะ……ฉันเพียงแต่คิดว่าพวกมันไม่มาที่นี่ก็ดีแล้ว เพราะพรุ่งนี้อัสมานก็จะไม่อยู่ ปล่อยผู้หญิงอย่างเราสองคนเอาไว้มันก็อันตาย หากมันเข้ามาเราก็แย่ซายูริแก้ตัวได้ทันควัน จนมาถึงบ้านพักของอัสมานที่ชายหนุ่มนั่งรออยู่ก่อนแล้วด้วยสีหน้าบึ้งตึงอันป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของเขาไปเสียแล้ว

    ทำไมมาช้ากันนัก

    ฉันเดินเอานี่ ไม่ได้นั่งรถมาจะได้เร็วถ้อยคำตอบโต้ของซายูริทำเอานางซาวานต้องยกมือขึ้นตบหน้าผากของตัวเองอย่างเหนื่อยใจ เพิ่งจะสั่งสอนกันมาเมื่อครู่นี่เองแท้ๆ

    เล่นลิ้นเก่งขึ้นนี่ แสดงว่ายังไม่เหนื่อย เอาล่ะ ไปเอาอาหารออกมากินกันได้แล้ว มีงานอีกมากที่จะให้เธอทำชายหนุ่มบอกหน้าตาเฉยทำเอาหญิงสาวตาค้าง

    อะไรนะ นี่ฉันต้องทำอะไรอีกเนี่ย

    มากมายเชียวล่ะ ซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน เตรียมอาหารสำหรับมื้อเที่ยงและมื้อเย็น ไปเก็บอินทผลัมมาตากแห้งเก็บเอาไว้อัสมานร่ายรายการยาวเหยียดออกมา

    เอาสิ……ถึงอย่างไรฉันก็กลายเป็นเชลยของท่านไปแล้วนี่ซายูริเชิดหน้าก่อนจะสะบัดยัดตัวออกไปช่วยนางซาวานจัดแจงล่ามอูฐเอาไว้และลำเลียงอาหารออกมาวางไว้สำหรับเขา

    วันนี้ฉันอยากจะกินข้าวกับเธอ

    แต่ฉันไม่อยากกิน ฉันจะกินกับซาวาน

    นี่เป็นคำสั่งเขาเสียงดุเข้าใส่ นางซาวานเห็นท่าจะไม่ดี จึงรีบเอ่ยแทรกขึ้น

    แต่นางผู้นี้เป็นหญิงนะเจ้าคะนายท่าน ให้มันกินกับข้าที่หลังกระโจมเถอะ

    เจ้าคงลืมไปแล้วกระมังซาวาน ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นหญิงต่างชาติ นางไม่สนใจขนบธรรมเนียมประเพณีอันงดงามของเราหรอกเขาพูดกับซาวานแต่ตาจับจ้องมาทางเธออย่างเยาะหยัน ซายูริกระแทกตัวลงนั่งบนพรมด้านตรงข้ามกับเขาและรวบเอาถ้วยอลูมิเนียมที่บรรจุข้าวเมล็ดป้อมนั้นขึ้นมาถือเอาไว้

    ยังกินไม่ได้เขาแย่งถ้วยนั้นกลับมาถือเอาไส้เสียเอง ซายูริตาขวางก่อนจะตวาดแว๊ดออกไปด้วยความหงุดหงิด

    อะไรของท่านอีก บอกให้เรามากินก็กำลังจะกินอยู่นี่ยังไง

    ฉันอยากกินในบรรยากาศของเกอิชาน่ะ ไหนลองแสดงให้ฉันดูสิว่าเกอิชามีหน้าที่อะไรบ้าง อะไรที่เรียกว่าปรนนิบัติแขก นอกจากปรนเปรอผู้ชายชายหนุ่มเอนหลังกับขอบหมอนอิงทรงสูงด้วยท่าทางสบายใจ ซายูริกัดริมฝีปากตัวเองแน่นจนรู้สึกเจ็บแต่ก็ไม่เท่ากับเจ็บใจที่เขาดูถูกอาชีพของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    อย่ามาดูถูกนะ ท่านยังไม่รู้จักเกอิชาดีพอ พวกเราเป็นกันยากลำบากแค่ไหน คนภายนอกไม่มีทางรู้หรอก ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตาดีแล้วจะเดินเข้าไปสมัครเป็นเกอิชาได้หญิงสาวบอกอย่างโกรธเคือง ดูเหมือนเขาจะสนุกนักหนาที่ได้เห็นใบหน้าของซายูริยามโกรธขึ้ง โดยเฉพาะยามเมื่อได้ปะทะคารมกับเธอ

    งั้นลองแสดงให้ดูซิ ว่าทำอะไรได้บ้างแม่เกอิชาอัสมานยิ้มยั่ว ซายูริสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ อย่างพยายามควบคุมอารมณ์ ก่อนจะเรียกสติและพลังให้เข้ามาสู่หัวใจของตัวเอง

    แล้วท่านจะได้เห็นซายูริลุกขึ้นยืนแล้วถอดเสื้อคลุมรุ่มร่ามของตัวเองออกโยนทิ้งไปอีกด้าน แล้วหยิบจานเปล่าที่วางอยู่ใกล้ๆ มาระบำแทนพัด

    จานใบเล็กๆ หมุนติ้วในมือของเธออย่างหวาดเสียว คล้ายจะตกแต่ไม่ตก ฝีมือการระบำของเธออ่อนช้อย ร่างกายโอนอ่อนไหวเอนไปมาราวกับอินทผลัมลู่ลม ปลายเท้าจิกลึกในท่าเต้นบัลเล่ต์ วาดลวดลายสวยงาม สง่าจนชายหนุ่มอดนึกชื่นชมขึ้นมาไม่ได้ แต่สีหน้าของชายหนุ่มยังคงเรียบเฉย

    อัสมานเผลอมองหญิงสาวร่ายรำอย่างเพลิดเพลินจนกระทั่งการแสดงโชว์ศิลปะแห่งเกอิชาของหญิงสาวจบลง นั่นแหละชายหนุ่มถึงได้รีบปรับสีหน้าให้เป็นเฉยชาดังเดิม

    ก็เหมือนๆ กับระบำหน้าท้องของดิลิยะห์ ไม่ต่างอะไรกันสักเท่าไหร่ในใจคิดอีกอย่างหนึ่งแต่ปากก็พูดอีกอย่างหนึ่ง ระบำพัดของเธอลีลาอ่อนช้อยและต้องใช้สมาธิมากกว่าระบำหน้าท้องมากนัก แต่จะให้เขาเอ่ยชื่นชมเชลยอย่างเธอได้อย่างไรกัน

    ฉันก็คิดอยู่แล้ว ว่าท่านจะต้องบอกแบบนี้ซายูริย่นจมูกขึ้น

    ก็มันคือเรื่องจริงนี่นา เฮ้อ……ไร้สาระจริงๆ เลยอัสมานเปลี่ยนจากท่าเอนหลังพิงกับหมอนมาเป็นลุกนั่งแล้วทำท่าจะรินชาผสมหญ้าหวานใส่ถ้วยแต่ซายูริปัดมือของเขาออกห่างแล้วนั่งลงคุกเข่าข้างๆ

    ฉันจะรินให้เองค่ะหญิงสาวบอกอย่างอ่อนหวาน

     เริ่มต้นบทบาทของการเป็นเกอิชาเต็มตัวขึ้นมาอีกครั้ง เพราะคำดูถูกของเขา สักวันหนึ่งเถอะซายูริ เกอิชาไร้ค่าในสายตาของเขา อาจจะทำให้เขาหลงรักหัวปลักหัวปำอย่างที่พ่อเขากำลังเป็นอยู่ก็ได้

    เอาสิอัสมานยักไหล่ ซายูริเอื้อมมือขวาไปจับฝาของกาน้ำ มือซ้ายจับตัวกาแล้วรินให้อย่างอ่อนช้อยพร้อมกับยื่นจ่อให้ถึงปากเล่นเอาคนมองชักเคลิ้ม

    ดื่มสิคะเธอคะยั้นคะยอ อัสมานยกขึ้นจิบแล้วรอฟังหญิงสาวเล่าเรื่องราวความเป็นมาของพิธีชงชาอันเลื่องชื่อของประเทศญี่ปุ่น ที่เจ้าตัวภาคภูมิใจนักหนา

    กว่าจะได้กิน ฉันคงหายอยากกันพอดีชายหนุ่มไม่วายบ่น

    พิธีชงชาของเรา เป็นการชงชาที่ประณีต งดงามและมีมนต์ขลัง ไม่ว่าชนชาติใดๆ ในโลกก็อยากจะลิ้มลองชาเขียวของเราสักครั้งซายูริบอกขึ้นอย่างภูมิใจ เป็นเชิงอวดจนเขานึกหมั่นไส้

    ไม่เกินไปหน่อยหรือ

    ไร่ชาที่ดีจะต้องปลูกอยู่ ตามเชิงเขา ในแต่ละพื้นที่รสชาติของชาก็จะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและสภาพของดิน ส่วนที่ดีที่สุดของชาก็คือยอดของมัน ยอดอ่อนที่อยู่บนสุด ยอดของมันจะต้องถูกเด็ดด้วยมือของคนห้ามใช้เครื่องมืออย่างอื่นเป็นอันขาด จากนั้นค่อยเอามาแปรรูปตามกรรมวิธีต่างๆ

    เล่าต่อไปสิอัสมานฟังเพลิน อาหารที่วางอยู่ตรงหน้าพร่องลงไปมากแล้ว ดูเหมือนเกอิชาอย่างเธอจะทำให้เขาเจริญอาหารมากเป็นพิเศษเสียด้วยสิ

    การแปรรูปของเรามีหลายแบบ ทั้งการตากแห้ง การหมักหรือไม่ก็เอาไปอบด้วยไอน้ำเดือด นำมาคั่วให้หอมแล้วนำมารีดให้แห้งให้มันยุ่ย บิดและค่อยๆ งอเพื่อให้มันคายกลิ่นหอมของมันออกมาซายูริหยุดเว้นระยะ เพื่อให้คนฟังอึดอัดและอยากฟังน้ำเสียงกังวานใสนั้นให้เล่าต่อ นับว่าได้ผลเมื่อคนฟังอย่างอัสมานทำท่าขัดใจ

    ผงละเอียดของชานี่เรียกว่ามัทฉะค่ะ นอกจากชาจะคัดสรรมาอย่างดีแล้ว ถ้วยชาแต่ละใบจะต้องสวยงาม โชว์ศิลปะและอารยธรรมของญี่ปุ่น พิธีชงชาไม่ใช่ว่าใครก็จะทำได้ เพราะมันจะต้องเรียนกันเป็นปีๆ เลยล่ะค่ะ

    เหลวไหล กะอีแค่ชงชา ชั่วโมงเดียวฉันก็ทำได้คนฟังทำหน้าไม่เชื่อถือเธอเลยสักนิดเดียว

    ชงชาแบบที่ท่านว่าไม่จำเป็นต้องเรียนฉันก็ทำได้ แต่การชงชาแบบญี่ปุ่นหรือที่รียกว่าชาโนยุนั้น ทุกอย่างของเรานั้นมีพิธีรีตอง ไม่ว่าจะเป็นท่านั่ง การจับถ้วยชา การชงชาเลยไปจนถึงการดื่มเลยทีเดียว

    ยุ่งยากพิลึก

    นั่นเป็นเพราะท่านไม่มีหัวใจแห่งความมีศิลปะต่างหากล่ะ นั่นล่ะคือพวกเรา เกอิชาที่ท่านดูถูกนักหนา พวกเราต้องนั่งหลังขดหลังแข็งเรียนการชงชามาเป็นปีๆ

    ไหนลองว่ามาสิ ว่ามันต้องทำอะไรบ้าง จะยากแค่ไหนนักเชียว

    ขั้นตอนคร่าวๆ สำหรับพิธีชงชาก็จะเริ่มต้นจากเชิญแขกของเราเข้ามาในห้องชงชา มีดอกไม้ตกแต่งสวยงามตามแบบฉบับของญี่ปุ่น พื้นห้องจะต้องปูด้วยเสื่อทาตามิ เพราะมันจะมีช่องเล็กๆสำหรับวางเตาและหม้อต้มน้ำร้อนสำหรับชงชาซายูริบอกขึ้นก่อนจะเริ่มสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างและอธิบายไปด้วย

    หญิงสาวนั่งลงด้านตรงข้ามกับเขาอย่างสงบเสงี่ยม ใบหน้าของหญิงสาววางนิ่งราวกับว่ามันจำเป็นต้องใช้สมาธิอย่างแรงกล้าเลยทีเดียว ซายูริลงมือเช็ดถ้วยชาช้าๆ

    หลังจากเช็ดถ้วยชาแล้ว เราก็จะใช้ช้อนตักผงชาใส่ลงไปในถ้วยเบาๆ ช้าๆ ตามด้วยการตักน้ำร้อนใส่หม้อ ใช้ไม้คนชาคนเบาๆแล้วค่อยๆ ตีแรงขึ้นๆ ตีจนกระทั่งขึ้นฟอง เมื่อได้ที่ก็ค่อยยกถ้วยชาขึ้นหมุนสามครั้งแบบนี้ซายูริทำให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยการหมุนถ้วยชาของอัสมานสามครั้งแล้วยกมันออกไปวางไว้หน้าผู้ดื่ม

    ลีลามากซะจริง

    อย่าเถียงสิ ถ้าท่านอยากจะฟังต่อซายูริชักเสียงขุ่น ที่ถูกชายหนุ่มขัดคอตลอดรายการ

    ก็ได้อัสมานพยักหน้ายอมแพ้ ยังงงตัวเองอยู่บ้างเหมือนกันว่าเพราะเหตุใดเขาจะต้องยอมหล่อนด้วย คนที่เป็นเชลยน่ะคือเธอไม่ใช่เขาแต่ในเวลานี้คนที่ถูกคุกคามมากที่สุดกลับเป็นเขาเสียอย่างนั้น

    ท่านจะต้องโค้งศีรษะลงเล็กน้อย ก่อนรับถ้วยชามา แล้วจะต้องใช้มือขวาเท่านั้นในการจับถ้วยชา แล้วค่อยๆ วางลงบนฝ่ามือซ้าย หมุนถ้วยชาตามเข็มนาฬิกาก่อนและหมุนอีกสามครั้งแล้วถึงจะดื่มได้

    เฮ้อ…….หวังว่าการดื่มคงไม่ต้องมีศิลปะอีกหรอกนะ ประเทศของเธอนี่ช่างสรรหาความยุ่งยากให้กับตัวเองโดยแท้ แทนที่จะได้กินอิ่ม นี่อะไร รอกันจนไม่อยากกิน

    ถูกของท่าน การดื่มของเราก็ต้องมีพิธี และจะต้องดื่มให้หมดภายในสามครั้งและครั้งสุดท้ายจะต้องดื่มให้มีเสียงดังที่สุด นั่นหมายถึงการแสดงออกถึงมารยาทและการชื่นชมของรสชาติชา พอดื่มเสร็จก็จะต้องหมุนถ้วยชากลับคืนมาอีกครั้งแล้วค่อยวางลง อย่างนี้……..”หญิงสาวว่าพลางทำท่ายกดื่มและหมุนถ้วยชากลบคืนให้ดู

    ทำไมจะต้องหมุนกลับไปกลับมาให้เมื่อย

    ก็เพราะว่าถ้วยชาของแต่ละที่จะมีความงดงามแตกต่างกัน เป็นการโชว์ความงามและศิลปะของมัน หมุนให้ครบทุกด้าน ทุกคนก็จะได้เห็นลวดลายของมัน หลังจากดื่มเสร็จพวกเราก็จะต้องพูดคุยถึงความเป็นมาของลวดลายในถ้วยชา ในระหว่างดื่มชาเราจะต้องอยู่ในลักษณะอาการสงบนิ่ง สง่างาม ไม่วอกแวก

    โอ้ย……งั้นฉันจะไม่ขอดื่มชาจากเกอิชาอย่างเธออีกเลยเขาว่าแล้วหันไปให้ความสนใจกับอาหารตรงหน้าต่อ ภายในใจอดนึกทึ่งไม่ได้ถึงความพยายามในการฝึกหัดของพวกเกอิชา

    ยามเมื่อหญิงสาวกลับกลายเป็นเกอิชาผู้สวยงามและอ่อนหวาน ช่างเอาอกเอาใจอย่างเมื่อครู่นั้น ไม่อยากโกหกตัวเองเลยว่าเขาเองก็เกือบจะเคลิบเคลิ้มไปบ้างเหมือนกัน

    ทีนี้เห็นรึยังล่ะ ว่าเกอิชาจะต้องทำอะไรบ้าง

    เห็น แต่ไม่รู้ว่าจะต้องมีอาชีพนี้ไปเพื่ออะไร

    ก็เพราะผู้ชายไม่เคยพอน่ะสิคะ หากผู้ชายพอใจที่จะอยู่บ้าน ไม่ออกมาหาความสำราญนอกบ้าน อาชีพเกอิชากับโออิรันก็จะไม่มี นั่นจะต้องโทษผู้ชายล่ะ

    แล้วเพราะอะไรเธอถึงอยากจะเป็นเกอิชา

    บางครั้งคนเราก็เลือกเกิดไม่ได้หรอกนะคะ ความจนและความจำเป็นบางอย่างก็ทำให้ผู้หญิงอย่างเราต้องทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความคิดและความรู้สึกซายูริบอกเสียงเศร้า

    อย่างการแต่งงานกับพ่อฉันล่ะ เธอทำเพราะความเต็มใจหรือเพราะความจำเป็นชายหนุ่มถามหยั่งเชิง

    ทั้งสองอย่างมั้งค่ะ ฉันไม่ขอตอบ เพราถึงฉันจะเป็นเชลย ฉันก็ไม่ใช่นักโทษ ฉันมีสิทธิ์ที่จะตอบเฉพาะในสิ่งที่ฉันพอใจเท่านั้น เหมือนอย่างที่เกอิชามีสิทธิ์เลือกที่เราจะขายพรมจารีให้กับใครก็ได้ ถ้าเราเต็มใจซายูริก้มหน้ารับประทานอาหารในส่วนของตัวเองเงียบๆ อัสมานมองซีกหน้าเศร้าสร้อยนั้นอย่างแปลกใจเพราะมันดูว้าเหว่จนน่าใจหาย และสักวันเขาจะต้องค้นหามันให้ได้

    อิ่มได้รึยังคะจู่ๆ ซายูริก็ถามขึ้น

    หืมอัสมานเลิกคิ้วงุนงง

    ฉันจะรีบเก็บ แล้วจะได้ไปช่วยซาวานทำงานต่อ การเป็นเชลยไม่ควรจะนั่งสบาย นั่งๆ นอนๆ รอกินมากนัก เดี๋ยวแขนขามันจะเป็นง่อยเอาซายูริประชดเข้าให้ เพราะที่เธอพูดมาทั้งหมดนั้น มันเป็นพฤติกรรมของเขาโดยแท้

    อัสมานในวันแรกที่เธอเห็น เขาหล่อเหลา คมคายแต่ในเวลานี้ เพราะต้องการพรางตัวในทะเลทรายและหลบหลีกจากการติดตามจากคนของฮัสซาร์ผู้เป็นพ่อ ทำให้เขาต้องปล่อยให้หนวดเคราขึ้นยาวแลดูสกปรกไม่น่ามอง ร่างสูงในชุดเสื้อคลุมมอซอจึงดูเหมือนพวกเบดูอินเร่ร่อนที่ยากจนและโหดร้ายนักในความรู้สึกของซายูริ

    เธอกำลังว่าฉันหรือแม่เกอิชาอัสมานแยกเขี้ยว

    เปล่าเลยนะคะ ฉันจะไปบังอาจว่าท่านได้อย่างไร เกิดท่านโกรธขึ้นมาจับฉันกดน้ำเหมือนเมื่อคืน ฉันจะทำอย่างไร คนเราคงไม่อาจโชคดีถึงสองครั้งสองคราหรอกนะคะซายูริจีบปากบอกแล้วสะบัดหน้าออกไปทันที ไม่รอเก็บถ้วยชามตามที่บอกสักนิด อัสมานยิ้มในหน้ากับอาการเง้างอนของเจ้าหล่อน

    แกคุยอะไรกับท่านอัสมานหรือ เขาทำร้ายอะไรอีกรึเปล่านางซาวานที่ทำท่าลับๆ ล่อๆ อยู่ใกล้ๆ รีบเอ่ยถามขึ้นมาทันทีที่ซายูริเดินออกมาจากบ้านของอัสมาน หญิงสาวส่ายศีรษะ

    ไม่มีหรอก ถึงทำก็ใช่ว่าฉันจะยอมง่ายๆ

    ปากดีอีกแล้วนะ ปากดีที่ไรเป็นได้เจ็บตัวเสียทุกที มาช่วยข้าแกะอินทผลัมดีกว่า ข้าไม่อยากเห็นเจ้ามีเรื่องกับท่านอัสมานนางซานวานรีบจูงมือขาวผ่องของอีกฝ่ายหลบไปยังด้านหลังของกระโจม

    ดูท่านกลัวเขาซะจริง

    หรือเจ้าไม่กลัวคำถามของซาวานทำให้หญิงสาวนิ่งคิด ภาพความโหดร้ายดุดันของชายหนุ่มผุดขึ้นมาเป็นระรอก สิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอนั้นป่าเถื่อนเกินกว่าที่สุภาพบุรุษจะทำกับสุภาพสตรีได้ แต่น่าแปลกที่เธอกลับไม่รู้สึกหวาดกลัวเขาเท่าที่ควร ในใจส่วนลึกนึกขอบคุณเขาเสียด้วยซ้ำ ที่ช่วยให้เธอไม่ต้องกลายเป็นภรรยาคนที่สี่ของท่านฮัสซาร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×