ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอยรักไอยคุปต์ ตีพิมพ์กับแนตตี้

    ลำดับตอนที่ #3 : เพียงภาพฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 52


    ในงานแต่งงานของนารากับภาคภูมิถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ระดับประเทศท่ามกลางแขกเหรื่อที่มาร่วมงานมากมาย

    หญิงสาวอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ เป็นชุดเกาะอกระบายลูกไม้สีเดียวกัน โดยปล่อยกระโปรงตัวยาวให้ระไปกับพื้น

    ผมดำยาวสลวยถูกเกล้าเป็นมวยอย่างประณีต แซมด้วยดอกลิลลี่สีขาวเข้ากันกับชุด ใบหน้างามถูกแต่งแต้มด้วยสีเข้มกว่าปกติ ดวงตางามทาด้วยอายแชโดว์สีหวาน ขนตายาวดัดจนงอน ส่วนริมฝีปากบางได้รูปทาด้วยสีชมพูอ่อนหวาน

    ซึ่งมันช่วยขับให้ใบหน้าที่สวยอยู่แล้วให้สวยเด่นขึ้นมายิ่งขึ้น เคียงคู่กับเจ้าบ่าวของเธอที่อยู่ในชุดสูทสากล ซึ่งใครๆต่างก็มองทั้งคู่ด้วยสายตาแสดงความชื่นชม

    คุณหญิงจรัสศรีเช็ดน้ำตาเงียบๆด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจที่ลูกสาวได้เป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีแถมยังได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีพร้อมอย่างภาคภูมิเสียอีก

    ลูกเรากำลังมีความสุข แล้วร้องไห้ทำไมกันคุณหญิงท่านประมุตหันมากระเซ้าภรรยายิ้มๆเมื่อเห็นเธอมาแอบยืนเช็ดน้ำตาอยู่อีกมุมหนึ่ง

    ก็ฉันดีใจนี่คะ ที่ลูกเราได้แต่งงานกับคนดีๆอย่างตาภาค เฮ้อ………ต่อไปนี้บ้านเราก็จะมีแต่ความสุขนะคะคุณ อีกหน่อยบ้านเราก็จะมีเด็กๆตัวเล็กๆวิ่งเล่นกันคุณจรัสศรีบอกขึ้นด้วยแววตาเพ้อฝัน สีหน้าแย้มยิ้มมีความสุข

    คุณประมุตหัวเราะขึ้นเบาๆให้ภรรยาด้วยความรักใคร่ พลางโน้มตัวภรรยามากอดไว้หลวมๆพร้อมกับยืนมองคู่บ่าวสาวที่กำลังยิ้มแย้มต้อนรับแขกอยู่ด้วยสีหน้าเป็นสุข จวบจนกระทั่งถึงเวลาในการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ

    ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวกำลังนั่งพับเพียบกันอยู่ที่พื้น พร้อมกับพนมมือไหว้รอรับคำอวยพรจากผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย

    พ่อกับแม่ขออวยพรให้รักกันนานๆ ขอให้ถือไม้ยอดทองกระบองยอดเพชร ฝากดูแลยัยนาด้วยนะตาภาค น้องยังเด็กอยู่มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากันคุณจรัสศรีบอกขึ้นเป็นคนแรกพลางเช็ดน้ำตาป้อยๆ ตามด้วยคุณประมุต

    แต่งการแต่งงานเป็นผู้ใหญ่เสียทีนะยัยนา พ่อหมดห่วงแล้วล่ะ รักกันให้มากๆ มีอะไรก็ดูแลกันท่านประมุตบอกขึ้น หญิงสาวก้มลงกราบแทบเท้าของผู้เป็นพ่ออย่างซาบซึ้ง

    ถ้าหาก……….ถ้าหากเธอรักภาคภูมิสักนิด ก็คงจะดีไม่น้อยเลย

                หลักจากนั้นคุณอนงค์กับคุณวิวัฒน์ก็อวยพรต่อ เมื่อเสร็จพิธีแล้วจึงปล่อยให้คู่บ่าวสาวเอาไว้ให้พักผ่อนกันตามลำพัง

                เฮ้อ……..เสร็จซะทีเนอะพี่ภาค ไม่คิดเลยว่าการแต่งงานมันจะยุ่งยากวุ่นวายขนาดนี้หญิงสาวบ่นเบาๆพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนอนหนานุ่มพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน

                แต่มันก็เป็นวันสำคัญของเราไม่ใช่เหรอ หรือนาไม่คิดอย่างนั้นภาคภูมิบอกพร้อมกับหันมามองเจ้าสาวหมาดๆของเขาอย่างน้อยใจ นาราได้คิดรีบลุกขึ้นไปกอดแขนเขาเอาไว้อย่างเอาใจ

                แหม…….ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย ก็นาเหนื่อยนี่คะ ต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่เช้ามืด จนป่านนี้นายังไม่ได้พักเลย ปวดหัวจะแย่เธอบอกขึ้นด้วยน้ำเสียงประจบ ภาคภูมิทำหน้าตกใจพร้อมกับยกมือออกไปแตะหน้าผากคนรักอย่างห่วงใย

                ปวดหัว ตายจริง………นาไม่สบายรึเปล่า ตัวก็ไม่ร้อนนี่ท่าทางร้อนรนห่วงใยของอีกฝ่าย ทำเอาเธอถึงกับน้ำตารื้นขึ้นมา ซุกใบหน้าเข้ากับอกแข็งแรงนั้นอย่างซึ้งใจ

    ดวงตากลมโตของเธอเป็นประกายขึ้นเล็กน้อย ระยะเวลายาวนานที่ได้รู้จักภาคภูมิ หญิงสาวก็ยอมรับกับตัวเองว่า ภาคภูมิได้พิสูจน์ตัวเองให้เธอเห็นแล้วว่าเขาสามารถดูแลปกป้องคุ้มครองเธอได้จริงๆทั้งในยามสุขและยามทุกข์เขาก็จะคอยอยู่เคียงข้างคอยปลอบใจเธอตลอดมา

    นาแค่ปวดหัวนิดหน่อยเท่านั้นเอง ไม่เป็นไรหรอกค่ะเธอบอกยิ้มๆ ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก พร้อมกับก้มใบหน้าลงจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลานั้นอย่างรักใคร่

    เขารักนารามากเหลือเกิน เพียงแค่ได้ยินว่าเธอไม่สบายเท่านั้น เขาก็ร้อนรนจนแทบอยากจะป่วยแทนเธอเสียเอง

    ถ้าสักวัน………เขาไม่มีเธออยู่เคียงข้าง เขาจะอยู่ได้ยังไงกันนะ!

    เดี๋ยวนาขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ เหนียวตัวจังเธอบอกขึ้นพร้อมกับผละตัวออกจากอกของเขา เดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนที่แขวนอยู่ในตู้ตรงไปยังห้องน้ำซึ่งภายในถูกแบ่งออกเป็นห้องแต่งตัวไปด้วยอีกด้านหนึ่ง

    ภาคภูมิพยักหน้ารับก่อนจะเดินลงไปข้างล่างเพื่อค้นหายาในตู้ยามาไว้ให้ แล้วนั่งรอจนกระทั่งหญิงสาวเดินออกมาจากในห้องน้ำ

    เขาเงยหน้าขึ้นมองร่างเพรียวบางที่ยืนเช็ดผมอยู่หน้ากระจกด้วยความรู้สึกที่ร้อนลุ่ม เขาไม่เคยได้ใกล้ชิดกับเธอในลักษณะนี้มาก่อนเลยทั้งที่คบกันมาหลายปี

    ร่างเล็กๆนั้นอยู่ใสนชุดคลุมสีขาว ร่างค่อนข้างระหงบอบบางจนมองดูเผินๆคล้ายเด็ก ผมยาวสลวยดัดสีน้ำตาลอ่อนเป็นเงา หยักเป็นลอนคลื่นเล็กๆ ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางแต่งแต้มทำให้ดูอ่อนเยาว์ สิ่งที่เด่นที่สุดในใบหน้าเห็นจะเป็นดวงตาดำใหญ่ที่มีแววตาดื้นรั้นปนสดใสอยู่เป็นนิตย์

    ชายหนุ่มสาวเท้าไปหยุดยืนอยู่ด้านหลัง แย่งแปลงหวีผมในมือเธอขึ้นมาหวีให้เสียเองอย่างเบามือพร้อมกับก้มลงสูดลมหายใจเอากลิ่นหอมจากเรือนผมนั้นเข้าปอดลึกๆ

    หอมจัง………นาใช้แชมพูยี่ห้ออะไรน่ะเขาว่าพร้อมกับซุกใบหน้าลงกับซอกคอขาวเนียนนั้น หญิงสาวใจเต้นแรงอยู่นานหลายนาทีก่อนจะเอี้ยวตัวหลบ

    ก็ใช้ยี่ห้อที่นาเคยใช้นั่นแหละค่ะ เดียวนาหวีผมเองพี่ภาคไปอาบน้ำเถอะเธอรีบบอกขึ้นก่อนที่เขาจะทำอะไรเธอมากไปกว่านี้

    ดูเหมือนภาคภูมิจะหน้าเจื่อนไปเล็กน้อยก่อนจะยอมทำตามด้วยการไปอาบน้ำตามความต้องการของนารา เพราะว่าเขาไม่เคยขัดใจเธอเลยสักครั้ง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม

    ชายหนุ่มจึงขยับลุกขึ้นยืน รวบเอาผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่บนราวตากผ้าใกล้ๆนั้นมาพาดบ่า เขาหันกลับมามองนาราอีกครั้งสีหน้าอ่อนโยนขณะทอดสายตามองหญิงสาวที่นั่งอยู่หน้ากระจก

    หลายครั้งที่เขาเฝ้าถามตัวเองว่าทำไมเขาถึงผูกพันรักใคร่กับเธอมากนัก ทั้งๆที่เขามีสาวๆสวยๆมากมายมาให้เลือก ซึ่งมีหลายคนที่พร้อมจะทอดไมตรีให้โดยง่าย ภาคภูมิถอนหายใจยาวสลัดความคิดนั้นทิ้งก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

    หญิงสาวถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ก่อนจะมองตามหลังภาคภูมิไปด้วยความรู้สึกผิดที่ยังไม่สามารถทำตามความต้องการของเขาได้

    ขอโทษนะคะพี่ภาค………..นายังไม่พร้อมจริงๆ

                ภาคภูมิชะงักมือที่กำลังเช็ดผมอยู่ เมื่อออกมาจากห้องน้ำมาแล้วพบว่า เจ้าสาวของเขานอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ทั้งๆที่เวลานี้แค่สี่ทุ่มเศษเท่านั้นเองปกติแล้วเขาเห็นนารานอนดึกทุกคืน ไม่เคยนอนก่อนเที่ยงคืนเลยสักครั้ง

                ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนข้างๆนารา พร้อมๆกับเอื้อมมือไปโอบกอดร่างบางนั้นเอาไว้พลางหรี่ตาลงมองร่างที่กำลังนอนตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนึกอยากแกล้ง หญิงสาวหลับตาปี๋ หัวใจเต้นแรงด้วยความรู้สึกตกใจแกมหวาดหวั่น

                นาแกล้งหลับใช่ไหม?นารังเกียจพี่เหรอเสียงเบาหวิวเจือแววน้อยใจดังขึ้น นาราที่นอนตัวแข็งทื่ออยู่รีบหันขวับกลับมาทันที

                ไม่ใช่นะ!”หญิงสาวรีบบอกขึ้นแล้วต้องหน้าแดงจัดเมื่อเขาพลิกตัวมาเป็นนอนตะแคงมองเธออยู่ด้วยสายตารู้ทัน

                พี่ภาคแกล้งนาใช่ไหมหญิงสาวว่าพร้อมกับทุบแรงๆไปบนลำตัวเขา ภาคภูมิหัวเราะร่าพร้อมกับตวัดร่างบางของเธอมากอดเอาไว้แน่น

                ถ้าพี่ไม่พูดแบบนี้แล้วนาจะยอมตื่นเหรอ มานี่…….มาให้พี่ลงโทษซะดีๆเขาไม่พูดเปล่าแต่ซุกใบหน้าลงกับซอกคอของเธอ นารารีบเบี่ยงตัวหลบพัลวัน

                ปล่อยค่ะพี่ภาค ปล่อย!”นาราเสียงเขียวพร้อมกับผลักอกเขาออกไปเต็มแรง ภาคภูมิชะงักไปพร้อมกับหันมามองเธอนิ่งๆ หญิงสาวเหมือนรู้สึกตัวรีบหันมาขอโทษเขา

                เอ่อ……..นาขอโทษค่ะพี่ภาค คือวันนี้นาเหนื่อยนะค่ะ ขอนาพักนะ พรุ่งนี้เราต้องไปฮันนีมูนกันแต่เช้าไม่ใช่เหรอ นอนพักกันเถอะนะเจ้าตัวว่าพร้อมกับเอื้อมมือมาโอบเขาเอาไว้หลวมๆอย่างเอาใจ ทำให้ภาคภูมิที่มีท่าทีโกรธขึงเมื่อครู่ถึงกับใจอ่อนยวบกับความขี้อ้อนของเธอ

                ก็ได้ๆ…….แค่วันนี้นะ ว่าแต่ทำไมนาถึงไม่เลือกที่ฮันนีมูนของเราให้มันดูดีกว่านี้หน่อย มีใครบ้างฮะที่ไปฮันนีมูนกันที่อียิปต์นะ มีแต่ทะเลทรายแห้งๆกับปิรามิดเต็มไปหมดภาคภูมิเอ่ยขึ้นพลางมองหน้าคนรักอย่างไม่เข้าใจ

    เพราะดูนาราจะร้อนรนอยากไปอียิปต์นักหนา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะสนใจเรื่องราวของประเทศนี้พวกนี้เลยนอกจากจะชอบอ่านหนังสือนวนิยายแนวทะเลทรายเท่านั้น

    ก็……..นาชอบนี่คะ เคยอ่านในนิยายแล้วอยากไปเห็นของจริงบ้างก็เท่านั้นปากเธอบอกขึ้นอย่างนั้น แต่ภายในใจกลับไม่ค่อยแน่ใจนัก ตัวเธอเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน มันเหมือนมีบางอย่างร่ำร้องให้เธอไปอียิปต์ให้ได้

    ……….เจ้าสัญญากับข้าแล้วนะ ว่าเจ้าจะกลับมา

    เอ๊ะ……..”นาราชะงักคำพูดเมื่อเธอได้ยินเสียงหวีดหวิวแผ่วเบาดังลอดหน้าต่างเข้ามา เสียงนุ่มหวานนั้นช่างคุ้นหูเธอนัก

    นาเป็นอะไรไปภาคภูมิยื่นมือมาแตะแขนเธออย่างแปลกใจที่เห็นหญิงสาวอยู่ในอาการนิ่งขึงอยู่อย่างนั้นนานหลายนาที

    ปละ…….เปล่าค่ะ นอนกันเถอะพี่ภาคจวนจะเที่ยงคืนแล้วหญิงสาวรีบบอกขึ้นก่อนจะทิ้งตัวลงนอนใหม่และเพียงชั่วครู่ก็หลับสนิท

    ท่ามกลางความรู้สึกสะลึมสะลือ กึ่งหลับกึ่งตื่น หญิงสาวรู้สึกคล้ายกับมีเสียงเรียก เป็นเสียงที่คุ้นเคยราวกับเคยได้ยินมานานแสนนาน

    นารา………อย่าทิ้งข้าไป…….”

    ใครกัน……………ใครกัน ที่พร่ำเรียกเธออยู่อย่างนี้ตลอด เธอได้ยินเสียงเรียกพร่ำหาอย่างอาลัยอาวรณ์โหยหาแบบนี้มาตั้งแต่จำความได้

    แต่ก็เกิดขึ้นนานๆครั้ง ผิดกับครั้งนี้…………ตั้งแต่เธออายุครบ 20 ปีเธอก็ฝันแบบนี้เกือบทุกวัน ฝันจนอยากที่จะไปเยือนแดนอียิปต์ซักครั้ง

    อียิปต์?............เธอรู้ได้ยังไงว่าความฝันนี้มาจากคนที่อียิปต์ ทั้งที่เธอมองไม่เห็นภาพ ได้ยินแต่เสียงเรียกที่ไร้ตัวตนเท่านั้น

    และหลังจากนั้นเพียงแค่ครู่เดียว เธอก็มองเห็นร่างใหญ่โตของใครบางคนยืนเด่นตระหง่านอยู่ท่ามกลางหมอกควัน เงานั้นอยู่ไม่ไกลนัก หากแต่เมื่อเธอพยายามเอื้อมมือจะไขว่คว้า

    กลับพบว่าเงานั้นกลับถอยห่างออกไปเรื่อยๆ ท่ามกลางกลุ่มควันที่หนาตัวขึ้นจนบดบังร่างของชายผู้นั้นจนมิด

    อย่า!..........อย่าจากฉันไปอีกหญิงสาวพร่ำบอกกับตัวเองอย่างนั้นทั้งๆที่แน่ใจว่าเธอเองก็ไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ อีกครั้งที่น้ำตาของเธอไหลรินออกมาโดยไม่รู้ตัว

    เธอรู้แล้ว………..รู้แล้วว่าเสียงเรียกหาเธอทุกครั้งยามหลับ คือเสียงของชายที่ยืนอยู่ท่ามกลางหมอกควันนี่เอง!

    ไม่นะ!.........อย่าไปเมเนสรา อย่าไป!”หญิงสาวตะโกนก้องพร้อมๆกับสะดุ้งพรวดตื่นขึ้นมา ท่ามกลางความตกใจของภาคภูมิ

    นาราลืมตาขึ้นในความมืด เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดซึมขึ้นเต็มใบหน้า  หญิงสาวหายใจหอบถี่ทั้งที่น้ำตายังคงไหลรินออกมาเรื่อยๆ

    นารา……นารา!”ภาคภูมิตะโกนเรียกเสียงดังแต่เธอก็ยังไม่รู้สึกตัวจนเขาต้องลุกขึ้นมาเขย่าร่างบางของเธอไปมา

    โอ๊ย………..พอแล้วพี่ภาค นาเจ็บนาราโอดครวญเมื่อมือแข็งแรงของภาคภูมิกำลังเขย่าตัวเธอจนหัวสั่นหัวคลอน

    นาเป็นอะไรรึเปล่า ฝันร้ายมากเลยเหรอชายหนุ่มหันมาถามอย่างห่วงใย

    ปละ……..เปล่าค่ะ นาก็ฝันร้ายธรรมดา ไม่มีอะไรเธอบอกขึ้นเสียงอ่อนพร้อมกับฝืนยิ้มแห้งแล้งส่งกลับไปให้

    พี่เรียกนาตั้งนาน แต่นายังนั่งตาลอยอยู่พี่ตกใจแทบแย่ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วภาคภูมิบอกสีหน้าคลายกังวลลง

    ขอโทษจริงๆค่ะ เอ๊ะ………เช้าแล้วนี่นา งั้นนาขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะเธอบอกขึ้นพร้อมกับ

    ผลุนผลันเข้าห้องน้ำไปท่ามกลางสายตางุนงงของภาคภูมิ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×