ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rose of the Underworld

    ลำดับตอนที่ #10 : Angel\'s Slavery

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 170
      0
      15 พ.ย. 47

    “เลมอส อีกสองวันเตรียมตัวเดินทางไปเมืองพาราไดซ์ได้” อาเคเดียนเอ่ยกับเลมอสขณะที่อยู่ในห้องหนังสือกันเพียงสองคน



    “หา! ทำไมเร็วเช่นนั้นล่ะพะย่ะค่ะ ตามกำหนดการในเทียบเชิญอีกตั้งเดือนนึงไม่ใช่หรือฝ่าบาท” เลมอสแย้งอย่างประหลาดใจ



    “เอาเถอะน่า ทำตามที่ข้าบอกนั่นแหละ เราจะเดินทางไปอย่างลับ ๆ ” เมื่อเห็นสายตางุนงงของคนสนิทเขาก็อธิบาย



    “ถ้าเราไปก่อนกำหนดเราก็จะได้รู้ข้อมูลมากกว่าคนอื่น บางทีอาจเตรียมหาทางหนีทีไล่ไว้ด้วย ไปดูว่าเจ้าอิคารัสมันเตรียมการอย่างไร”



    “อ้อ อย่างนี้นี่เอง” เลมอสพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ



    “ฝ่าบาทจะนำกำลังไปสักเท่าไรพะย่ะค่ะ” เขาถามต่อ



    “ห้าคน ไม่รวมเราสองคน”



    “จะไม่น้อยไปหรือฝ่าบาท”



    “ไม่เป็นไรหรอก เพราะเราจะไปสมทบกับสายลับของเราที่นั่นด้วย เราต้องการความคล่องตัวที่สุด”



    เลมอสจัดเตรียมเอกสารต่อไปในขณะที่อาเคเดียนเอ่ยเสียงเบาราวกับรำพึงกับตัวเอง



    “เลมอส”



    “ฝ่าบาท มีอะไรอีกหรือพะย่ะค่ะ?”



    “เจ้าว่าองค์หญิงอเมเลียจะเป็นคนยังไงนะ”



    “ไม่ทราบกระหม่อม อย่างที่ท่านทราบ สายของเรารายงานมาเพียงความเคลื่อนไหวเท่านั้น ไม่ได้ระบุลักษณะอื่นใดเลย  ...ว่าแต่...ท่านมีอะไรข้องใจหรือ”



    “อย่างไรนางก็เป็นปีศาจ หากข้าได้พบนางแล้ว อาจต้องสังหารนางเสียก่อนที่นางจะตกอยู่ในมือของอิคารัส ไม่อย่างนั้นอันตรายจะเกิดกับโลกของเราอย่างใหญ่หลวง”



    “ท่านจำเป็นต้องทำอย่างนั้นด้วยหรือ” เลมอสถามยิ้ม ๆ ก่อนเอ่ยต่อ “ท่านจะโหดร้ายได้ขนาดนั้นหรือ บางทีนางอาจจะไม่ก่อปัญหาเช่นนั้นก็ได้”



    “เราไม่มีทางรู้ได้แน่หรอก ขึ้นชื่อว่าอำนาจ ไม่มีใครไม่ต้องการ หากนางและอิคารัสร่วมมือกันแล้วล่ะก็ แม้กองทัพเทพทั้งหมดร่วมมือกันก็ยังอาจรับมือไม่ไหว”



    “ฝ่าบาทอย่าเพิ่งวิตกไปเลยกระหม่อม แม้สายลับของเราจะส่งข่าวมาว่านางเดินทางออกจากเมืองฮาดีส แต่ก็มิได้หมายความว่านางจะต้องมาร่วมมือกับอิคารัสนี่ฝ่าบาท”



    “แต่ข้าสังหรณ์ว่าองค์หญิงอเมเลียจะต้องเดินทางมาที่เมืองพาราไดซ์แน่นอน แต่ด้วยจุดประสงค์ใดนั้น ข้ายังไม่รู้!”



    .......................................................................................



    “ดีใจจังเลยที่พ้นเขตป่าอาถรรพ์มาได้” อเมเลียเอ่ยกับเฮเธลขณะยืนสูดอากาศบริสุทธิ์อยู่บนดาดฟ้าเรือ



    “ข้ากลับรู้สึกหนักใจแฮะ เพราะเมื่อพ้นเขตป่าอาถรรพ์แล้ว เดี๋ยวท่านก็ต้องออกมาเดินเพ่นพ่านให้ข้าต้องคอยเดินตามอีก” เฮเธลเย้าเล่นด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ



    จริงอย่างที่เฟกเก้กล่าวไว้ ไฮดร้าคุ้มครองคณะเดินทางของเหล่าปีศาจจนกระทั้งพ้นเขตป่าอาถรรพ์ ซึ่งทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการรบกวนจากเหล่าปีศาจใด ๆ เลย



    อย่างไรก็ตาม เฟกเก้ก็ไม่ได้ไขข้อข้องใจของทุกคนว่าทำไมเขาจึงเรียก ไฮดร้า สัตว์ในตำนานออกมาเป็นผู้พิทักษ์ได้



    อเมเลียนั้นแทบจะไม่ได้ออกจากห้องตลอดการเดินทางในป่าถรรพ์ นอกจากบรรยากาศจะไม่น่าอภิรมย์แล้วหญิงสาวยังรู้สึกกลัวไฮดร้า สัตว์ในตำนานซึ่งว่ายนำอยู่หน้าเรือด้วย



    เรือเข้าสู่เขตแม่น้ำขาวแล้ว แม้ระยะทางจะพอ ๆ กับจากแม่น้ำดำไปป่าอาถรรพ์ แต่ที่นี้ใช้เวลาเดินทางมากกว่า เพราะเป็นการเดินเรือทวนกระแสน้ำที่ไหลจากแม่น้ำขาวลงสู่แม่น้ำเกรย์วอเตอร์ในป่าอาถรรพ์



    คณะเดินทางแวะรับพ่อค้าทาสที่บริเวณชายป่าริมน้ำซึ่งได้นัดแนะกันไว้ พ่อค้าทาสนำทาสกว่ายี่สิบชีวิตขึ้นเรือเพื่อไปขายยังเมืองหลวงของอาณาจักรเทพ โดยคิดจะตบตาด่านตรวจของเมืองพาราไดซ์ซึ่งปกติมีการค้าทาสมากมาย จึงมักจะให้เรือค้าทาสผ่านไปมาได้ง่ายกว่าเรืออื่น ๆ



    เมื่อเห็นสภาพของเหล่าทาสแล้ว อเมเลียถึงกับสลดใจ



    ทาสเหล่านั้นมีสภาพอะไรไม่ต่างจากสัตว์ที่ถูกจองจำ บางคนยังไม่พ้นวัยเด็กเสียด้วยซ้ำ



    หญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อว่า ในอาณาจักรเทพยังมีการค้าทาสเช่นนี้อยู่อีก



    “ทาสพวกนี้จะอยู่ที่ไหนกันหรือ” หญิงสาวถามพ่อค้าทาสท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายขณะลำเลียงทาสขึ้นเรือ



    “ใต้ท้องเรือพะย่ะค่ะ” นายทาสตอบด้วยท่าทางปกติ



    “อะไรนะ คนตั้งมากมายขนาดนี้อัดอยู่ในนั้นหมดได้ยังไง” อเมเลียร้องอย่างตกใจ



    “นี่ยังน้อยนะพะย่ะค่ะ ปกติกระหม่อมขนมาเยอะกว่านี้เสียอีก คราวนี้เห็นว่าพระองค์มา จึงขนมาน้อยกว่าปกติ” นายทาสซึ่งดูแล้วอายุราวสี่สิบปลายตอบราวกับเป็นเรื่องปกติ



    “แล้วอยู่กันได้ยังไง อัดกันขนาดนี้ไม่ตายหรอกหรือ” อเมเลียถาม ไม่อยากคิดถึงสภาพใต้ท้องเรือซึ่งเล็กแคบราวกับรูหนูและไม่มีช่องทางระบายอากาศ



    “ไม่หรอกพะย่ะค่ะ เวลาเดินทางแค่อาทิตย์เดียว เดี๋ยวก็ได้ออกมาแล้ว”



    “ทำไมท่านไม่ปล่อยให้พวกเขาออกมาข้างนอกบ้างล่ะ” หญิงสาวพยายามหาทางออกให้คนเหล่านั้น



    “มิได้หรอกพะย่ะค่ะ ไม่อย่างนั้นพวกทาสก็โดดน้ำหนีหมด กระหม่อมซื้อมาแต่ละคน ราคาไม่ใช่น้อย เห็นจะไม่ยอมขาดทุนอย่างนี้แน่”



    “เข้าไปข้างในกันเถอะ” เฮเธลชักชวนก่อนจะกระซิบที่หู “เจ้าอย่าวุ่นวายไปเลยน่า มันเป็นอาชีพของเขา” แล้วก็ดึงแขนอเมเลียจากไปอย่างรวดเร็ว



    “ทำไมพวกเขาทำอย่างนั้นน่ะ น่าสงสารพวกทาสออก ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีการค้าทาสอย่างนี้อยู่อีก” อเมเลียเอ่ยขณะอยู่กันตามลำพังในห้อง



    “ตอนแรกก็ไม่มีทาสหรอก อิคารัสเป็นผู้ฟื้นฟูระบบทาสขึ้นมาหลังจากยกเลิกกันไปเมื่อหลายร้อยปีแล้ว และก็ดูเหมือนว่าธุรกิจนี้จะเฟื่องฟูเอามาก ๆ เสียด้วย” เฮเธลเอ่ย



    “อิคารัสนี่ใครน่ะ” อเมเลียถาม



    “ก็ผู้ปกครองอาณาจักรเทพ เจ้าเมืองพาราไดซ์ที่เรากำลังจะไปกันนี้ไงล่ะ” เฮเธลตอบอย่างแปลกใจที่หญิงสาวไม่รู้จัก



    “แล้วทำไมต้องฟื้นฟูระบบทาสขึ้นมาด้วยล่ะ” อเมเลียยังไม่เข้าใจ



    “ก็เพื่อเงินยังไงล่ะ อิคารัสตั้งตัวเป็นผู้ปกครองอาณาจักรเทพแต่ขาดเงินสนับสนุนกองทัพของตน จึงต้องใช้วิธีนี้หาเงินไงล่ะ”



    “เป็นเทพแท้ ๆ ทำไมทำอย่างนี้ล่ะ ชั่วร้ายจริง ๆ” อเมเลียบ่นอย่างไม่เข้าใจ



    “จะเป็นอะไรก็ตาม ถ้ายังมีกิเลสอยู่ก็ทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ” ว่าแล้วเฮเธลก็ส่ายหัวให้กับความไม่ประสีประสาขององค์หญิงแห่งอาณาจักรปีศาจก่อนเดินจากไป



    เมื่อใดความทรงจำขององค์หญิงจึงจะกลับคืนมา



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×