ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rose of the Underworld

    ลำดับตอนที่ #11 : Paradise City

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 168
      0
      15 พ.ย. 47



    เรือค้าทาสที่เหล่านักรบปีศาจอาศัยมาเข้าจอดเทียบท่าที่เมืองพาราไดซ์ได้อย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหา สร้างความประหลาดใจให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟกเก้ถึงกับรำพึงว่า เป็นไปไม่ได้



    จำนวนทหารที่ประจำการอยู่ที่ท่าเรือมีจำนวนตามปรกติและมิได้มีท่าทีกวดขันเป็นพิเศษแต่อย่างใดซึ่งขัดแย้งกับสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียดอยู่ในตอนนี้ เดมอนเห็นด้วยกับเฟกเก้ว่าต้องมีบางสิ่งผิดปรกติ หากแต่ผู้ที่ไม่รู้สึกเดือดร้อนเลยคืออเมเลียที่คิดว่าสมุนปีศาจล้วนวิตกกันเกินเหตุ



    ที่ท่าเรือแห่งนี้คราคร่ำไปด้วยเรือขนาดต่าง ๆ กันทั้งที่บรรทุกสินค้าและเหล่าข้าทาสมาขาย หรือเรือโดยสารรับนักเดินทางจากเมืองอื่นมารวมกัน ริมตลิ่งเรียงรายไปด้วยเรือจนแน่นขนัดไปตลอดแนว บนฝั่งผู้คนแออัดเนืองแน่น บ้างก็เป็นบรรดาญาติที่มารับผู้โดยสารที่มากับเรือ บ้างก็เป็นพ่อค้าที่มารับสินค้า หรือแม้แต่เรือที่อเมเลียอาศัยมาก็มีพ่อค้าทาสมารับซื้อทาสเช่นกัน



        เมื่อเรือเทียบท่าแล้ว เดมอนและเฟกเก้พากันไปขึ้นรถที่ได้จัดส่งคนมารอรับอยู่แล้วโดยมีอเมเลียและเฮเธลซ่อนตัวอยู่ในหีบห่อสัมภาระ ลูอิกส์และจิลล์ที่แยกออกจากคณะไปรวมกับพวกทาสตั้งแต่อยู่บนเรือกำลังถูกนำตัวไปยังลานประมูลซึ่งจะมีการประมูลทาสซึ่งมาจากที่ต่าง ๆ



    แผนการทำท่าว่าจะไปได้ดี เพราะผู้ประมูลรายใหญ่ในวันนี้ได้แก่พวกวังหลวงที่ต้องการประมูลทาสไปใช้งานในการรับรองแขกเหรื่อจากเมืองต่าง ๆ ที่จะมาประชุม ไม่มีใครสงสัยหรือจับพิรุธในตัวของลูอิกส์และจิลล์ได้ เพราะทั้งสองสวมบทบาททาสได้อย่างไม่มีที่ติ และเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็สกปรกและขะมุกขะมอมสมกับเป็นทาสจริง ๆ



        พาหนะที่มารับเดมอนและคณะเป็นรถเทียมม้าสี่ตัวซึ่งมีขนาดใหญ่พอที่จะจุคนและสัมภาระทั้งหมดได้ อเมเลียและเฮเธลต่างก็ซ่อนตัวอยู่ในหีบเสื้อผ้าคนละใบ ระหว่างการเดินทางต้องผ่านพื้นที่ขรุขระทำให้รถม้ากระเทือนจนทำให้อเมเลียภาวนาขอให้ถึงที่หมายโดยเร็ว



        ไม่นานนักก็ถึงบ้านพักที่เตรียมไว้ เดมอนวางแผนว่าจะปลอมตัวเป็นพ่อค้าต่างเมืองที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานขายอัญมณีอยู่ในย่านชั้นสูงของเมืองโดยหวังว่าจะได้สืบข่าวจากบรรดาลูกค้าที่อาจเป็นพวกขุนนางในวัง

    ข้าวของทั้งหมดถูกขนย้ายเข้าที่พัก โดยเฉพาะหีบเสื้อผ้าขนาดใหญ่สองใบที่อเมเลียและเฮเธลซ่อนอยู่ เดมอนมาดูแลการขนย้ายด้วยตนเองพร้อมกับกำชับให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ



    เมื่อทุกอย่างถูกจัดวางเรียบร้อยแล้ว คนทั้งหมดก็แยกย้ายกันกลับไป เหลือแต่เดมอน เฟกเก้และพรรคพวกที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกไม่กี่คน เมื่อลับสายตาคนอื่นแล้ว เดมอนก็จัดแจงให้อเมเลียและเฮเธลออกจากที่ซ่อน



        “เอาล่ะ ออกมาได้แล้ว” เดมอนกล่าวพลางเปิดหีบเสื้อผ้าทั้งสองใบ



    อเมเลียและเฮเธลปีนออกมาจากหีบอย่างทุลักทุเลพลางบิดเนื้อตัวที่เมื่อยขบเป็นการใหญ่ เฮเธลที่ปกติมักไม่ค่อยปริปากบ่นถึงกับออกปากว่า การเดินทางช่วงหลังช่างทรมานจริง ๆ นอกจากจะต้องขดตัวอยู่ในหีบแคบ ๆ แล้วยังต้องทนกระแทกกระเทือนจากรถม้าที่วิ่งอย่างไม่ปรานีปราศัยบนถนนที่ขรุขระเป็นลูกระนาด



        “เจ้าหญิงเป็นอย่างไรบ้างขอรับ กระหม่อมต้องขออภัยที่การเดินทางไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร” เดมอนเอ่ย



        “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ แต่คราวหน้าคราวหลังอย่ามีอีกก็ดีเหมือนกัน เลี่ยงได้ก็ดี”



        เดมอนยิ้ม ไม่ตอบอะไร เพราะรู้ดีว่า การมาราชการลับเช่นนี้แม้จะลำบากกว่านี้ก็จะต้องทนให้ได้ ทุกคนคิดว่าไม่ควรปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ จึงรีบจัดประชุมกันทันที พร้อม ๆ กับที่สายลับที่ทิ้งไว้ที่ลานประมูลควบม้าเร็วมาแจ้งข่าวว่า ทั้งลูอิกส์และจิลล์ถูกประมูลเข้าวัง นับเป็นข่าวที่น่ายินดีอย่างยิ่ง



        ขณะที่ทั้งหมดกำลังหารือกัน อเมเลียก็ทำท่าจะออกไปข้างนอก เฮเธลปราดเข้ามาขวางไว้พร้อม ๆ กับที่ทุกคนทักท้วงเป็นเสียงเดียวกัน



        “เพื่อความปลอดภัยของฝ่าบาท อย่าเพิ่งเสด็จออกไปเลยจะดีกว่าพะย่ะค่ะ” ใครคนหนึ่งกราบทูลขึ้น



        “ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า จะออกไปเดินเล่นแถวนี้เอง” อเมเลียแย้ง



        “นอกจากความปลอดภัยส่วนพระองค์แล้ว ฝ่าบาทควรคำนึงถึงแผนการโดยรวมของเราที่อาจถูกเปิดเผยหากมีใครรู้สถานะที่แท้จริงของพระองค์”



        ‘อพิโธ่ ใครจะมารู้ล่ะว่าฉันเป็นใคร ฉันก็ไม่ได้จะไปเที่ยวบอกใครซะหน่อยว่าเป็นเจ้าหญิง’ อเมเลียคิดในใจอย่างเบื่อพลางกล่าว

        “แล้วนี่ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ จะไม่ให้ฉันออกไปข้างนอกบ้างเลยเหรอ” อเมเลียถามเสียงขุ่น



        “หามิได้พระเจ้าข้า เพียงแต่เราต้องรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น หากสถานการณ์ปลอดภัย พระองค์สามารถเสด็จที่ได้ก็ได้ตามพระราชประสงค์โดยมีเฮเธลติดตาม” เดมอนกล่าว



        อเมเลียถามเสียงห้วนว่าห้องพักอยู่ที่ใดก่อนที่จะเดินจากไปอย่างกระฟัดกระเฟียดโดยไม่สนใจการประชุม ทุกคนในที่นั้นได้แต่มองตามไปอย่างหนักใจ



    …………………………………………………..

        สองวันแล้วที่คณะจากเมืองปีศาจเฝ้ารอการเคลื่อนไหวจากสายข่าวที่เข้าไปสอดแนมในวัง ขณะที่กิจการค้าอัญมณีที่เดมอนทำบังหน้านั้นไม่สามารถสืบข่าวอะไรได้มากนักนอกจากเรื่องสัพเพเหระภายในราชสำนัก อเมเลียอดทนเก็บตัวอยู่แต่ในห้องมาเป็นเวลาถึงสองวันแล้ว ทั้งต้องการจะประท้วงและไม่รู้ว่าจะเล็ดลอดออกไปได้อย่างไร



        หลังจากเลยเที่ยงมาเล็กน้อย มีชายลึกลับคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน ทำทีว่าจะมาซื้อเครื่องประดับ เขาแจ้งกับเดมอนว่าต้องการ “แบล็คเพิร์ล” เดมอนรับฟังด้วยสีหน้าปกติก่อนที่จะเชิญเขาเข้ามาชมภายในร้าน



        หลังจากปล่อยให้ลูกน้องรับรองจนแขกคนสุดท้ายออกจากร้านไปแล้ว เดมอนก็รีบปิดร้านทันทีและเข้านั่งชุมนุมกันให้ห้อง พร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องการ “แบล็คเพิร์ล” ซึ่งเป็นสายลับของฝ่ายปีศาจเข้าร่วมประชุมด้วย



    อเมเลียแอบย่องลงมาดูสถานการณ์ข้างล่าง เห็นทุกคนเข้าห้องประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไม่มีใครหันมาสนใจเธอ อเมเลียกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะลอบออกไปเที่ยวตามลำพัง



        หญิงสาวเหลือบไปที่ประตู เห็นมีเวรยามเฝ้าอยู่ตามลำพังคนเดียว จึงคิดหาทางออกไปโดยไม่ถูกขัดขวาง



        “ดื่มน้ำหน่อยไหม” อเมเลียถามเวรยามที่ยืนเฝ้าอยู่พร้อมกับยื่นแก้วน้ำให้



        “ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ”



        ชายผู้นั้นรับเครื่องดื่มมาอย่างเกรงอกเกรงใจและดื่มรวดเดียวหมด



        อเมเลียแอบซ่อนยิ้มขณะเดินจากมา ไม่ทันเกินห้าก้าวก็ได้ยินเสียงล้มตึง!





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×