ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Hydra The Savior!
ฝูงเวโนมัสลุกฮือเข้ามาจากทุกทิศทาง ทุกคนบนเรือต่างพากันต่อสู้พลางหาที่กำบังหลบหลีก อสรพิษบางตัวพันเลื้อยขึ้นมาบนเรือพลางวาดหัววาดหางไปทั่ว เหล่านักรบปีศาจพากันหลบจ้าละหวั่น ทหารยามถูกสั่งให้อยู่แต่ภายในเรือทั้งนี้เพื่อความคล่องตัวในการต่อสู้และเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายแก่กำลังพลซึ่งมีอย่างจำกัด
อย่างไรก็ตาม เหล่าเวโนมัสก็พากันดาหน้าเข้ามาเรื่อย ๆ โดยที่ฝ่ายปีศาจแทบไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้เลย ได้เพียงแต่ปัดป้องหลบหลีกเท่านั้น อาวุธธรรมดาหาได้ระคายผิวมันไม่!
ขณะเหล่านักรบทั้งสี่กำลังชุลมุน เวโนมัสตัวหนึ่งก็พุ่งโฉบเข้าไปหาเฟกเก้ซึ่งนั่งหลับตาอยู่ เฮเธลเหลือบไปเห็นก็ปราดเข้าไปช่วยทันที แต่ช้าไปเสียแล้ว เจ้างูยักษ์นั้นเข้าถึงตัวของเฟกเก้ในพริบตาเดียว ก่อนที่คมเขี้ยวของมันจะฝังลงบนร่างของเขา เฟกเก้ก็ได้อันตรธานหายไป รวดเร็วเสียจนสายตาอันเฉียบคมของเฮเธลยังไม่อาจเห็นได้ทัน
เจ้างูพิษส่ายหัวอันใหญ่โตของมันเพื่อหาเหยื่อที่เมื่อสักครู่มันพุ่งเข้าโจมตีโดยที่ไม่รู้เลยว่าบนศีรษะของมัน ร่างสูงตระหง่านของเฟกเก้ยืนอยู่อย่างสงบ
เฮเธลยืนมองอยู่อย่างตะลึงเมื่อเห็นเขาปรากฏกายอยู่บนหัวของงูยักษ์ เธอจึงไม่ทันสังเกตเห็นเวโนมัสอีกตัวหนึ่งซึ่งฉกเข้ามาอย่างมาดร้าย
เฟกเก้ปล่อยพลังเวทย์เข้าระเบิดส่วนหัวของมันก่อนที่มันจะเข้าถึงตัวหญิงสาวเพียงเมตรเดียว หัวขนาดยักษ์ของมันระเบิดหายไปในพริบตา เหลือแต่เพียงส่วนลำตัวที่ดิ้นพราด ๆ อยู่กลางกองเลือด เฮเธลได้สติจึงรีบหันกลับมารับมือกับกองทัพเวโนมัสอีกครั้ง
ทุกคนต่อสู้จนลืมไปว่าอเมเลียถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังโดยมีเพียงทหารยามอารักขาอยู่เท่านั้น
แม้ว่าเฟกเก้จะสามารถโจมตีเวโนมัสได้อย่างเฉียบขาดโดยกำจัดมันได้ทุกครั้งที่เขาปล่อยพลังออกไป แต่เมื่อเทียบกับจำนวนมากมายของเวโนมัสแล้วก็ยังนับว่าสถานการณ์เป็นรองอยู่มาก การโจมตีของคนอื่น ๆ ได้แต่ทำให้มันบาดเจ็บเท่านั้น ซึ่งยิ่งเป็นการยั่วยุให้พวกมันกราดเกรี้ยวยิ่งขึ้น
ทุกคนผงะไปเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากภายในเรือ นั่นคือเสียงของเหล่าทหารยามซึ่งคุ้มกันอเมเลียอยู่
แต่ละคนไม่สามารถรับมือกับกองทัพเวโนมัสจำนวนมากได้ทันการ จนพวกมันเล็ดลอดเข้าไปภายในเรือได้ในขณะที่สถานการณ์กำลังชุลมุน ประตูทางเข้าเรือถูกเบียดชนจนหลุดห้อยร่องแร่ง ส่วนลำตัวของเวโนมัสที่เลื้อยเข้าไปในเรือโผล่พ้นประตูออกมาเล็กน้อย เฮเธลรีบพุ่งตามเข้าไปในเรืออย่างรวดเร็ว
เวโนมัสตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่าตัวอื่น ท่าทางน่าจะเป็นจ่าฝูง ลำตัวของมันทอดยาวเต็มทางเดิน เฮเธลต้องเหยียบไปบนลำตัวมันเพื่อวิ่งไปยังห้องของอเมเลีย
ด้วยความร้อนใจ เฮเธลไถลลื่นล้มบนลำตัวที่ลื่นเป็นเมือกของมันหลายครั้ง แต่เจ้าเวโนมัสก็ไม่มีท่าทางสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย
ขณะที่กำลังล้มลุกคลุกคลานอยู่นี่เอง เฟกเก้ก็วิ่งแซงหน้าเฮเธลตรงไปยังห้องต้นเสียงทันที
ตั้งแต่ปากทางไปจนถึงประตูห้อง มีทหารยามได้รับบาดเจ็บล้มอยู่ตามทาง บางคนถูกพิษร้ายจากเวโนมัสพ่นเข้าใส่จนบางส่วนของร่างกายละลายไปถึงกระดูก
ที่หน้าประตูห้อง ทหารยามสองนายล้มจมกองเลือด หทารที่เหลือเพิ่งวิ่งมาจากอีกด้านหนึ่งหลังจากได้ยินเสียง
ทหารทั้งสองนายโดนมันกัด นอกจากจะมีบาดแผลฉกรรจ์จากคมเขี้ยวแล้ว พิษร้ายของมันยังซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็วอีกด้วย ทหารอีกคนหนึ่งถือดาบและโล่ขวางอยู่หน้าประตู พยายามจะต้านทานไม่ให้มันเข้าไปในห้องได้ แต่ก็ดูจะไม่เป็นผลนักเพราะมันพุ่งปราดเข้าชนโดยไม่ลังเลเลย
เฟกเก้ปราดเข้าไปสกัดหน้าอสรพิษขนาดยักษ์ไว้และปล่อยพลังเข้าใส่ในระยะประชิด มันผงะไปนิดหนึ่ง ที่ศีรษะอันใหญ่โตมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย การโจมตีของเฟกเก้ทำอันตรายมันได้น้อยนิดเท่านั้นเนื่องจากปล่อยพลังอย่างฉุกละหุกจวนเจียน
ขณะที่มันซวนเซเสียหลัก เฮเธลก็วิ่งมาถึงพอดี หญิงสาวกระชับดาบไว้มั่นและแทงสุดแรงลงไปที่เบ้าตาของมัน งูร้ายสะบัดหัวอย่างเจ็บปวดปัดโดนเฮเธลปลิวไปปะทะกับผนังอย่างแรง หญิงสาวลงไปกองจุกอยู่กับพื้น
เฟกเก้รวบรวมพลังจู่โจมใหม่ คราวนี้เขาใช้เวลารวบรวมพลังนานกว่าปกติ สีผมและสีตาของเขากลายเป็นสีทองไปหมด เขาเล็งส่วนหัวของเจ้างูยักษ์โดยกะให้พลังโจมพุ่งออกไปทางประตูเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายภายในเรือ ทันทีที่เขาปล่อยพลัง เจ้างูร้ายก็ถูกพลังอัดกระเด็นจนส่วนหัวปลิวออกไปตามแรงระเบิด มันตายสนิทอยู่ตรงทางเดินนั้นเอง!
เฮเธลรีบเข้าไปดูอเมเลียในห้อง หญิงสาวนั่งหน้าซีดอยู่ที่เตียง อเมเลียสังเกตดูสถานการณ์ภายนอกจากหน้าต่าง นึกไม่ถึงว่าในชีวิตจะได้เห็นงูใหญ่ยักษ์เช่นนี้ ยิ่งกว่าอนาคอนด้าเสียอีก มันบุกเข้ามาได้ถึงในเรือหน้าประตูห้องนี้เอง อเมเลียได้ยินเสียงการต่อสู้ภายนอกห้องแต่ไม่กล้าออกไปดู หญิงสาวกำลังคิดอยู่ทีเดียวว่า เข้าไปหลบในตู้เสื้อผ้าน่าจะปลอดภัยกว่า ก็พอดีกับที่เฮเธลเข้ามาในห้อง
“เจ้าอยู่ในนั้นกับองค์หญิงนั่นแหละ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว ที่เหลือพวกข้าจัดการเอง” เฟกเก้ตะโกนบอกจากหน้าห้องก่อนวิ่งผละไปอย่างรวดเร็ว เฮเธลปิดประตูห้อง ทั้งสองได้แต่นั่งลุ้นเหตุการณ์อยู่ในห้องด้วยกัน
เมื่อเฟกเก้วิ่งกลับออกไปที่ดาดฟ้าเรือ เหล่านักรบปีศาจที่เหลืออยู่ก็แทบสิ้นแรงกันแล้ว เดมอน ลูอิกส์และจิลล์มีท่าทางเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัดโดยที่จำนวนเวโนมัสก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย พวกมันยังพากันดาหน้าเข้ามาเรื่อย ๆ
เมื่อเสนาบดีเฒ่าเหลือบมาเห็นเขาก็ตะโกนถามทันที
“เฟกเก้ ทำยังไงดี พวกมันมากันเยอะเหลือเกิน”
“อดทนอีกนิดเถอะท่าน ใกล้จะเรียบร้อยแล้ว”
“เราออกเรือหนีไปก่อนไม่ได้เหรอ” ผู้เฒ่ายังคงร้องถาม
เฟกเก้มีสีหน้าขำ ๆ ก่อนถามกลับ
“แล้วท่านจะฝ่าพวกมันไปได้อย่างไรล่ะ มันขวางเต็มทางอย่างนี้”
“โธ่เว้ย” เดมอนสบถอย่างหัวเสียพลางใช้ดาบปล่อยพลังเพลิงเข้าแผดเผางูยักษ์ตัวหนึ่ง
ทันใดนั้นเหล่าเวโนมัสยักษ์ก็มีทีท่าชะงักไป พร้อม ๆ กับเสียงกระพือปีกที่ดังใกล้เข้ามา ลมเริ่มพัดปั่นป่วนราวกับมีพายุ พัดเอากิ่งไม้เล็กใหญ่ที่ปิดทั่วบริเวณจนมืดครึ้มหักไปกิ่งแล้วกิ่งเล่า
ชั่วพริบตา ต้นไม้ใหญ่ข้างแม่น้ำสี่ห้าต้นก็หักโค่นลงพร้อม ๆ กับที่ร่างมหึมาทิ้งตัวลงมายังพื้นทำให้แผ่นดินสะเทือนเลือนลั่นราวกับแผ่นดินไหว
เมื่อลำแสงจาง ๆ ของพระอาทิตย์ยามเย็นที่ลอดรอยต้นไม้หักสาดส่องลงมา ทุกคนก็เห็นภาพเบื้องหน้าได้ถนัด
มันคือ สัตว์ในตำนาน ไฮดร้า มังกรเก้าหัว อสูรร้ายแห่งโลกปีศาจซึ่งร้ายกาจที่สุด!
ทุกคนตื่นตะลึงไป มีเพียงเฟกเก้ที่ยิ้มอย่างเยือกเย็น
เหล่าเวโนมัสเริ่มกระสับกระส่าย บางตัวเริ่มมีท่าทางลังเลเมื่อไฮดร้าเลื้อยเข้ามาอย่างแช่มช้าแต่น่าเกรงขาม เวโนมัสบางตัวก็ล่าถอยไป ในขณะที่อีกจำนวนหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่ไฮดร้าอย่างมุ่งร้าย
หัวทั้งเก้าของไฮดร้าซึ่งมีพลังต่าง ๆ โจมตีฝูงเวโนมัสล้มตายเกลื่อน หัวหนึ่งพ่นไฟบรรลัยกัลป์แผดเผาเวโนมัสที่อยู่ในรัศมีการโจมตีไหม้เกรียมเป็นจุณไปในพริบตา
อีกหัวหนึ่งพ่นพิษซึ่งมีความเป็นกรดสูงยิ่งกว่ากรดพิษของเวโนมัสหลายสิบเท่า ละลายเนื้อเยื่อและกระดูกของงูยักษ์เคราะห์ร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เวโนมัสบางตัวกลายเป็นน้ำแข็งซึ่งแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันทีที่โดนกระทบ บ้างก็กลายเป็นหิน กองทัพเวโนมัสแตกกระเจิงด้วยอานุภาพในการทำลายล้างที่แตกต่างกันไปในแต่ละหัวของไฮดร้า
เวโนมัสเริ่มแตกกระจายหนีไปคนละทิศละทาง บ้างก็หนีขึ้นฝั่งหายไปในป่า บ้างก็ว่ายกลับไปในทิศทางเดิมที่มา ทิ้งให้เรือของเหล่าปีศาจเงียบสงบดุจเดิม
เมื่อเวโนมัสผละไปหมดแล้ว ไฮดร้าก็เลื้อยตรงเข้ามายังเรือ
“เหวอ ดูสิ มันกำลังตรงมาทางนี้” เดมอนร้องเอะอะขึ้นอย่างตกใจ เมื่อครู่ทุกคนได้ประจักษ์ถึงความร้ายกาจของไฮดร้าสัตว์ในตำนานแล้วโดยไม่ต้องกังขา
“อย่าวิตกไปเลยท่าน มันไม่ทำอันตรายอะไรหรอก” เฟกเก้เอ่ยปลอบยิ้ม ๆ
“เราจะไปรู้ได้ยังไง รีบหนีกันก่อนเถอะ” ว่าแล้วเดมอนก็ฉุดแขนเฟกเก้ เตรียมลากเข้าเรือ
เฟกเก้รั้งไว้แล้วหัวเราะลั่น
“นี่ท่าน ดูก่อนสิ มันตรงเข้ามาก็จริงแต่ไม่ได้ทำร้าย ไม่เชื่อดูสิ”
ไฮดร้าเลื้อยตรงมายังเรือทำเอาเดมอนหวาดเสียว แต่เมื่อมาถึงริมฝั่งแม่น้ำ มันก็เลื้อยขึ้นหน้าเรือไปก่อนที่จะลงมาว่ายนำหน้าเรือ  เรือใหญ่ที่หยุดมานานค่อย ๆ ลอยไปตามกระแสน้ำอีกครั้ง
“จากที่นี่ไปจนสุดเขตป่าอาถรรพ์ ไฮดร้าจะเป็นผู้พิทักษ์ให้กับพวกเราเอง ต่อให้มีศัตรูร้ายกาจแค่ไหนก็รับรองว่าทำอะไรเราไม่ได้” เฟกเก้อธิบายให้ทุกคนฟัง โดยเฉพาะเดมอนซึ่งมีท่าทางระแวดระวังเกินเหตุ
“แล้วท่านจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันจะไม่ทำอันตรายเรา” เสนาบดีเฒ่ายังถามอย่างหวาด ๆ
“ข้ารับรองว่าเราจะเดินทางถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ ท่านก็เห็นแล้วว่าเมื่อกี้เรารอดมาได้เพราะความช่วยเหลือของมัน”
“อือ ก็จริงอยู่ ว่าแต่ว่าเจ้าสามารถเรียกมันมาได้ยังไงกันน่ะ แถมยังสามารถเรียกให้คอยคุ้มกันให้ได้ด้วย” เดมอนถามอย่างสงสัยเต็มที่
“เอาเถอะน่า ท่านอย่ารู้เลย” เฟกเก้ตอบยิ้ม ๆ อย่างมีเลศนัยก่อนเดินลับหายเข้าไปในเรือ
“รีบไปดูอาการทหารที่บาดเจ็บกันก่อนเถอะ”
.........................................
อย่างไรก็ตาม เหล่าเวโนมัสก็พากันดาหน้าเข้ามาเรื่อย ๆ โดยที่ฝ่ายปีศาจแทบไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้เลย ได้เพียงแต่ปัดป้องหลบหลีกเท่านั้น อาวุธธรรมดาหาได้ระคายผิวมันไม่!
ขณะเหล่านักรบทั้งสี่กำลังชุลมุน เวโนมัสตัวหนึ่งก็พุ่งโฉบเข้าไปหาเฟกเก้ซึ่งนั่งหลับตาอยู่ เฮเธลเหลือบไปเห็นก็ปราดเข้าไปช่วยทันที แต่ช้าไปเสียแล้ว เจ้างูยักษ์นั้นเข้าถึงตัวของเฟกเก้ในพริบตาเดียว ก่อนที่คมเขี้ยวของมันจะฝังลงบนร่างของเขา เฟกเก้ก็ได้อันตรธานหายไป รวดเร็วเสียจนสายตาอันเฉียบคมของเฮเธลยังไม่อาจเห็นได้ทัน
เจ้างูพิษส่ายหัวอันใหญ่โตของมันเพื่อหาเหยื่อที่เมื่อสักครู่มันพุ่งเข้าโจมตีโดยที่ไม่รู้เลยว่าบนศีรษะของมัน ร่างสูงตระหง่านของเฟกเก้ยืนอยู่อย่างสงบ
เฮเธลยืนมองอยู่อย่างตะลึงเมื่อเห็นเขาปรากฏกายอยู่บนหัวของงูยักษ์ เธอจึงไม่ทันสังเกตเห็นเวโนมัสอีกตัวหนึ่งซึ่งฉกเข้ามาอย่างมาดร้าย
เฟกเก้ปล่อยพลังเวทย์เข้าระเบิดส่วนหัวของมันก่อนที่มันจะเข้าถึงตัวหญิงสาวเพียงเมตรเดียว หัวขนาดยักษ์ของมันระเบิดหายไปในพริบตา เหลือแต่เพียงส่วนลำตัวที่ดิ้นพราด ๆ อยู่กลางกองเลือด เฮเธลได้สติจึงรีบหันกลับมารับมือกับกองทัพเวโนมัสอีกครั้ง
ทุกคนต่อสู้จนลืมไปว่าอเมเลียถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังโดยมีเพียงทหารยามอารักขาอยู่เท่านั้น
แม้ว่าเฟกเก้จะสามารถโจมตีเวโนมัสได้อย่างเฉียบขาดโดยกำจัดมันได้ทุกครั้งที่เขาปล่อยพลังออกไป แต่เมื่อเทียบกับจำนวนมากมายของเวโนมัสแล้วก็ยังนับว่าสถานการณ์เป็นรองอยู่มาก การโจมตีของคนอื่น ๆ ได้แต่ทำให้มันบาดเจ็บเท่านั้น ซึ่งยิ่งเป็นการยั่วยุให้พวกมันกราดเกรี้ยวยิ่งขึ้น
ทุกคนผงะไปเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากภายในเรือ นั่นคือเสียงของเหล่าทหารยามซึ่งคุ้มกันอเมเลียอยู่
แต่ละคนไม่สามารถรับมือกับกองทัพเวโนมัสจำนวนมากได้ทันการ จนพวกมันเล็ดลอดเข้าไปภายในเรือได้ในขณะที่สถานการณ์กำลังชุลมุน ประตูทางเข้าเรือถูกเบียดชนจนหลุดห้อยร่องแร่ง ส่วนลำตัวของเวโนมัสที่เลื้อยเข้าไปในเรือโผล่พ้นประตูออกมาเล็กน้อย เฮเธลรีบพุ่งตามเข้าไปในเรืออย่างรวดเร็ว
เวโนมัสตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่าตัวอื่น ท่าทางน่าจะเป็นจ่าฝูง ลำตัวของมันทอดยาวเต็มทางเดิน เฮเธลต้องเหยียบไปบนลำตัวมันเพื่อวิ่งไปยังห้องของอเมเลีย
ด้วยความร้อนใจ เฮเธลไถลลื่นล้มบนลำตัวที่ลื่นเป็นเมือกของมันหลายครั้ง แต่เจ้าเวโนมัสก็ไม่มีท่าทางสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย
ขณะที่กำลังล้มลุกคลุกคลานอยู่นี่เอง เฟกเก้ก็วิ่งแซงหน้าเฮเธลตรงไปยังห้องต้นเสียงทันที
ตั้งแต่ปากทางไปจนถึงประตูห้อง มีทหารยามได้รับบาดเจ็บล้มอยู่ตามทาง บางคนถูกพิษร้ายจากเวโนมัสพ่นเข้าใส่จนบางส่วนของร่างกายละลายไปถึงกระดูก
ที่หน้าประตูห้อง ทหารยามสองนายล้มจมกองเลือด หทารที่เหลือเพิ่งวิ่งมาจากอีกด้านหนึ่งหลังจากได้ยินเสียง
ทหารทั้งสองนายโดนมันกัด นอกจากจะมีบาดแผลฉกรรจ์จากคมเขี้ยวแล้ว พิษร้ายของมันยังซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็วอีกด้วย ทหารอีกคนหนึ่งถือดาบและโล่ขวางอยู่หน้าประตู พยายามจะต้านทานไม่ให้มันเข้าไปในห้องได้ แต่ก็ดูจะไม่เป็นผลนักเพราะมันพุ่งปราดเข้าชนโดยไม่ลังเลเลย
เฟกเก้ปราดเข้าไปสกัดหน้าอสรพิษขนาดยักษ์ไว้และปล่อยพลังเข้าใส่ในระยะประชิด มันผงะไปนิดหนึ่ง ที่ศีรษะอันใหญ่โตมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย การโจมตีของเฟกเก้ทำอันตรายมันได้น้อยนิดเท่านั้นเนื่องจากปล่อยพลังอย่างฉุกละหุกจวนเจียน
ขณะที่มันซวนเซเสียหลัก เฮเธลก็วิ่งมาถึงพอดี หญิงสาวกระชับดาบไว้มั่นและแทงสุดแรงลงไปที่เบ้าตาของมัน งูร้ายสะบัดหัวอย่างเจ็บปวดปัดโดนเฮเธลปลิวไปปะทะกับผนังอย่างแรง หญิงสาวลงไปกองจุกอยู่กับพื้น
เฟกเก้รวบรวมพลังจู่โจมใหม่ คราวนี้เขาใช้เวลารวบรวมพลังนานกว่าปกติ สีผมและสีตาของเขากลายเป็นสีทองไปหมด เขาเล็งส่วนหัวของเจ้างูยักษ์โดยกะให้พลังโจมพุ่งออกไปทางประตูเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายภายในเรือ ทันทีที่เขาปล่อยพลัง เจ้างูร้ายก็ถูกพลังอัดกระเด็นจนส่วนหัวปลิวออกไปตามแรงระเบิด มันตายสนิทอยู่ตรงทางเดินนั้นเอง!
เฮเธลรีบเข้าไปดูอเมเลียในห้อง หญิงสาวนั่งหน้าซีดอยู่ที่เตียง อเมเลียสังเกตดูสถานการณ์ภายนอกจากหน้าต่าง นึกไม่ถึงว่าในชีวิตจะได้เห็นงูใหญ่ยักษ์เช่นนี้ ยิ่งกว่าอนาคอนด้าเสียอีก มันบุกเข้ามาได้ถึงในเรือหน้าประตูห้องนี้เอง อเมเลียได้ยินเสียงการต่อสู้ภายนอกห้องแต่ไม่กล้าออกไปดู หญิงสาวกำลังคิดอยู่ทีเดียวว่า เข้าไปหลบในตู้เสื้อผ้าน่าจะปลอดภัยกว่า ก็พอดีกับที่เฮเธลเข้ามาในห้อง
“เจ้าอยู่ในนั้นกับองค์หญิงนั่นแหละ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว ที่เหลือพวกข้าจัดการเอง” เฟกเก้ตะโกนบอกจากหน้าห้องก่อนวิ่งผละไปอย่างรวดเร็ว เฮเธลปิดประตูห้อง ทั้งสองได้แต่นั่งลุ้นเหตุการณ์อยู่ในห้องด้วยกัน
เมื่อเฟกเก้วิ่งกลับออกไปที่ดาดฟ้าเรือ เหล่านักรบปีศาจที่เหลืออยู่ก็แทบสิ้นแรงกันแล้ว เดมอน ลูอิกส์และจิลล์มีท่าทางเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัดโดยที่จำนวนเวโนมัสก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย พวกมันยังพากันดาหน้าเข้ามาเรื่อย ๆ
เมื่อเสนาบดีเฒ่าเหลือบมาเห็นเขาก็ตะโกนถามทันที
“เฟกเก้ ทำยังไงดี พวกมันมากันเยอะเหลือเกิน”
“อดทนอีกนิดเถอะท่าน ใกล้จะเรียบร้อยแล้ว”
“เราออกเรือหนีไปก่อนไม่ได้เหรอ” ผู้เฒ่ายังคงร้องถาม
เฟกเก้มีสีหน้าขำ ๆ ก่อนถามกลับ
“แล้วท่านจะฝ่าพวกมันไปได้อย่างไรล่ะ มันขวางเต็มทางอย่างนี้”
“โธ่เว้ย” เดมอนสบถอย่างหัวเสียพลางใช้ดาบปล่อยพลังเพลิงเข้าแผดเผางูยักษ์ตัวหนึ่ง
ทันใดนั้นเหล่าเวโนมัสยักษ์ก็มีทีท่าชะงักไป พร้อม ๆ กับเสียงกระพือปีกที่ดังใกล้เข้ามา ลมเริ่มพัดปั่นป่วนราวกับมีพายุ พัดเอากิ่งไม้เล็กใหญ่ที่ปิดทั่วบริเวณจนมืดครึ้มหักไปกิ่งแล้วกิ่งเล่า
ชั่วพริบตา ต้นไม้ใหญ่ข้างแม่น้ำสี่ห้าต้นก็หักโค่นลงพร้อม ๆ กับที่ร่างมหึมาทิ้งตัวลงมายังพื้นทำให้แผ่นดินสะเทือนเลือนลั่นราวกับแผ่นดินไหว
เมื่อลำแสงจาง ๆ ของพระอาทิตย์ยามเย็นที่ลอดรอยต้นไม้หักสาดส่องลงมา ทุกคนก็เห็นภาพเบื้องหน้าได้ถนัด
มันคือ สัตว์ในตำนาน ไฮดร้า มังกรเก้าหัว อสูรร้ายแห่งโลกปีศาจซึ่งร้ายกาจที่สุด!
ทุกคนตื่นตะลึงไป มีเพียงเฟกเก้ที่ยิ้มอย่างเยือกเย็น
เหล่าเวโนมัสเริ่มกระสับกระส่าย บางตัวเริ่มมีท่าทางลังเลเมื่อไฮดร้าเลื้อยเข้ามาอย่างแช่มช้าแต่น่าเกรงขาม เวโนมัสบางตัวก็ล่าถอยไป ในขณะที่อีกจำนวนหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่ไฮดร้าอย่างมุ่งร้าย
หัวทั้งเก้าของไฮดร้าซึ่งมีพลังต่าง ๆ โจมตีฝูงเวโนมัสล้มตายเกลื่อน หัวหนึ่งพ่นไฟบรรลัยกัลป์แผดเผาเวโนมัสที่อยู่ในรัศมีการโจมตีไหม้เกรียมเป็นจุณไปในพริบตา
อีกหัวหนึ่งพ่นพิษซึ่งมีความเป็นกรดสูงยิ่งกว่ากรดพิษของเวโนมัสหลายสิบเท่า ละลายเนื้อเยื่อและกระดูกของงูยักษ์เคราะห์ร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เวโนมัสบางตัวกลายเป็นน้ำแข็งซึ่งแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันทีที่โดนกระทบ บ้างก็กลายเป็นหิน กองทัพเวโนมัสแตกกระเจิงด้วยอานุภาพในการทำลายล้างที่แตกต่างกันไปในแต่ละหัวของไฮดร้า
เวโนมัสเริ่มแตกกระจายหนีไปคนละทิศละทาง บ้างก็หนีขึ้นฝั่งหายไปในป่า บ้างก็ว่ายกลับไปในทิศทางเดิมที่มา ทิ้งให้เรือของเหล่าปีศาจเงียบสงบดุจเดิม
เมื่อเวโนมัสผละไปหมดแล้ว ไฮดร้าก็เลื้อยตรงเข้ามายังเรือ
“เหวอ ดูสิ มันกำลังตรงมาทางนี้” เดมอนร้องเอะอะขึ้นอย่างตกใจ เมื่อครู่ทุกคนได้ประจักษ์ถึงความร้ายกาจของไฮดร้าสัตว์ในตำนานแล้วโดยไม่ต้องกังขา
“อย่าวิตกไปเลยท่าน มันไม่ทำอันตรายอะไรหรอก” เฟกเก้เอ่ยปลอบยิ้ม ๆ
“เราจะไปรู้ได้ยังไง รีบหนีกันก่อนเถอะ” ว่าแล้วเดมอนก็ฉุดแขนเฟกเก้ เตรียมลากเข้าเรือ
เฟกเก้รั้งไว้แล้วหัวเราะลั่น
“นี่ท่าน ดูก่อนสิ มันตรงเข้ามาก็จริงแต่ไม่ได้ทำร้าย ไม่เชื่อดูสิ”
ไฮดร้าเลื้อยตรงมายังเรือทำเอาเดมอนหวาดเสียว แต่เมื่อมาถึงริมฝั่งแม่น้ำ มันก็เลื้อยขึ้นหน้าเรือไปก่อนที่จะลงมาว่ายนำหน้าเรือ  เรือใหญ่ที่หยุดมานานค่อย ๆ ลอยไปตามกระแสน้ำอีกครั้ง
“จากที่นี่ไปจนสุดเขตป่าอาถรรพ์ ไฮดร้าจะเป็นผู้พิทักษ์ให้กับพวกเราเอง ต่อให้มีศัตรูร้ายกาจแค่ไหนก็รับรองว่าทำอะไรเราไม่ได้” เฟกเก้อธิบายให้ทุกคนฟัง โดยเฉพาะเดมอนซึ่งมีท่าทางระแวดระวังเกินเหตุ
“แล้วท่านจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันจะไม่ทำอันตรายเรา” เสนาบดีเฒ่ายังถามอย่างหวาด ๆ
“ข้ารับรองว่าเราจะเดินทางถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ ท่านก็เห็นแล้วว่าเมื่อกี้เรารอดมาได้เพราะความช่วยเหลือของมัน”
“อือ ก็จริงอยู่ ว่าแต่ว่าเจ้าสามารถเรียกมันมาได้ยังไงกันน่ะ แถมยังสามารถเรียกให้คอยคุ้มกันให้ได้ด้วย” เดมอนถามอย่างสงสัยเต็มที่
“เอาเถอะน่า ท่านอย่ารู้เลย” เฟกเก้ตอบยิ้ม ๆ อย่างมีเลศนัยก่อนเดินลับหายเข้าไปในเรือ
“รีบไปดูอาการทหารที่บาดเจ็บกันก่อนเถอะ”
.........................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น