ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ll Harry Potter ll yaoi short fic party .Main [DM/HP]

    ลำดับตอนที่ #14 : HP[+u] [dm/hp] ll Oh Dear! (1)

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 55


     

     

    OH DEAR!!

     

     

     

    หลังจากคุณหายสติแตก(พร้อมกับรัวชัตเตอร์ไปเฉียดๆ100รูปได้ อ้อ+iphoneที่ตั้งวิดีโออัดตอนนี้เอาไว้ด้วยนะ)คุณก็กลับมานั่งดูผู้ชายสองคนทะเลาะกันด้วยสายตาอย่างดุเดือดราวกับไม่สนใจอะไรอย่างอื่นบนโลกนี้อยู่บนเตียงของคุณอย่างเงียบๆ

     

    ...ตอนอยู่บนเตียงมันไม่ใช่เวลามาทะเลาะกันนะเฟร้ย! ถ้าอยู่บนเตียงมันต้อง....

     

    แต่ในหัวคุณนะโอเวอร์ฮีตไปเรียบร้อยแล้วล่ะ

     

    อันที่จริงคุณก็แอบเขินเล็กๆอ่ะนะก็แบบคุณไม่เคยเห็น ตัวเป็นๆของแฮร์รี่กับเดรโกมาก่อนนี้หน่า

     

    แฮร์รี่ที่นั่งอยู่ตรงหน้าคุณนี้ถ้าจะให้บรรยายง่ายๆก็คงจะเป็นแดเนียล แรดคลิฟฉบับเพรียวลมที่สุด ใบหน้าติดหวานนั้นเป็นรูปเรียวสวยผมสีดำขลับที่ยุ่งเหยิงเป็นประจำนั้นดูนุ่มสลวยน่าจับ ช่างตัดกับดวงตาสีเขียวมรกตสดใสอย่างลงตัว ผิวขาวเนียนอย่างคนสุขภาพดีนั้นเมื่อขึ้นสีเรื่อๆด้วยความเหนื่อยจากการผ่านศึกกอดรัดฟัด.... ก็ยิ่งน่าดู (อร๊ายยยย) แต่ในความสูงตอนนี้ถือว่าร่างเพรียวๆของแฮร์รี่ก็ยังคงสู้อริหน้าหล่อไม่ได้อยู่ดี ฮา...

    เดรโกก็เหนือความคาดหมายของคุณเล็กน้อยทำไมนะเหรอ?ก็เพราะเดรโก หล่อมากกแบบถ้าหน้าตาพ่อคุณจะเข้มขนาดนี้... ทำไมหน้าเสี้ยมๆที่พระแม่เจเคบรรยายไว้พอออกมาในโลกแห่งความเป็นจริงมันช่างสมส่วน... ดูดี... ขอบอกว่าผมสีบลอนด์ซีดนั้นไม่ได้ทำให้เดรโกดูจืดเลยแม้แต่น้อย มันกลับทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากกว่า แล้วถึงจะใส่สูทอยู่แต่จากการประมาณอันเชี่ยวชาญ(?) ภายใต้สายเสื้อนั้นมันจะต้องเป็นซิกส์แพ็คแน่ๆ!! และแน่นอนว่าสัดส่วนร่างกายแทบจะข่มผู้รอดชีวิตใจกล้าที่นั่งอยู่ข้างๆได้แทบจะมิด

     

    โอ้แม่เจ้า! นี้มันช่าง... เป็นเคมีที่เพอร์เฟ็กฉันคิดถูกแล้วจริงๆว่ามันต้องเป็น DM/HP เห็นไหมทุกๆโค๊นนนนน!!!

     

    และก่อนที่คุณจะฟินตายนั้นเองก็มีหีบไม้หีบใหญ่ตกเสียงดังปึงใหญ่ลงตรงกลางห้อง ซึ่งนั้นทำให้คุณสะดุ้งนิดๆและทำให้สองหนุ่มระงับการกัดกันชั่วคราวแล้วหันมาสนใจหีบนั้นเอง ด้วยหน้าตาที่คุ้นเคยว่าเป็นหีบใส่ของเมื่อตอนอยู่ฮอกวอตส์ทั้งสองจึงลุกขึ้นจากเตียงแล้วเข้าไปรุมเปิดหีบนั้นด้วยความรวดเร็ว ไม่ได้สนใจสาวไทยเจ้าของห้องที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงโต๊ะทำงานเลยแม้แต่น้อย

    และเมื่อเปิดกล่องขึ้นทั้งสองก็พบกับจดหมายปิดผนึกอย่างดีวางอยู่ในกล่อง แฮร์รี่เมื่อเห็นอย่างนั้นก็รีบคว้าจดหมายมาอ่านออกเสียงดังฟังชัดเจนทันที

    ถึงคุณพ็อตเตอร์และคุณมัลฟอย

                เนื่องจากเหตุการณ์การทะเลาะเบาะแว้งของพวกคุณในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาสร้างความเสียหายให้กับโรงเรียนเป็นจำนวนมาก อันจะแจกแจงในที่นี้คือ :

    1.ห้องสมุดพังไปครึ่งแถบ หนังสือเก่าแก่ 253 เล่มได้รับความเสียหายอย่างแทบไม่เหลือเค้าเดิม

    2.เด็กนักเรียนปี 1-4 ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นต้องเข้าห้องพยาบาล 3 อาทิตย์ 4 คน

    3.ห้องน้ำชายพัง 2 ชั้นต้องใช้เวลาบูรณรวมแล้ว 1 อาทิตย์

    4.ต้นไม้และสนามหญ้าของโรงเรียนได้รับความเสียหายและตายไปเป็นจำนวน 23 ต้น

    5.เครื่องมือการเรียนและโต๊ะได้รับความเสียหายทั้งหมด 6 ห้อง ต้องเปลี่ยนโต๊ะชุดใหม่ 123 ชุด เครื่องแก้วอีก 45 ชุด หนังสือสำรองหายากอีก 3 ชุด

    6. ภารโรงของโรงเรียนเส้นเลือดในสมองโป่งพองต้องทำการหยุดพักเป็นเวลา 3 วันซึ่งส่งผลต่อความสะอาดของโรงเรียนเป็นอย่างมาก

    7.พื้นที่ลานประลองจำลองบริเวณหน้าห้องโถงใหญ่เป็นรอยไหม้ลึก 2 นิ้วส่งผลให้มีเด็กนักเรียนสะดุดล้ม 47 คน

    8.กระจกสีและภาพเขียนเสียหายเป็นจำนวน 40 จุด

    9.มีนักเรียนติดกับดักที่ถูกวางไว้ที่ระเบียงและสถานที่ต่างๆบาดเจ็บและป่วยจำนวนมากจนต้องระงับการเรียนชั่วคราวเป็นเวลา 1 อาทิตย์

    ...” แฮร์รี่อ่านแล้วทำหน้าปุเลี่ยนมองมัลฟอยซึ่งตอนนี้พ่อคนขี้เก็กก็แอบอึ้งเล็กน้อยเช่นกัน

     

    คุณได้แต่นิ่งอึ้งแล้วคิดในใจว่า โรงเรียนเละซะ... ไปทำ(อุ๊ย คำล่อแหลมแหะ)กันอีท่าไหนล่ะเนี่ย? พร้อมๆกับหันไปมองแฮร์รี่อย่างไม่อยากเชื่อ คุณไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าแฮร์รี่กับมัลฟอยจะโกรธกันจนถึงขึ้นทำโรงเรียนเสียหายวินาศสันตโรได้มากมายขนาดนี้

     

    ร่างบางดันแว่นแล้วสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เพื่ออ่านต่อ “รวมถึงความเสียหายอื่นๆอีกมากมาย (ถึงตอนนี้แฮร์รี่กับเดรโกได้แต่มองหน้ากันอย่างสยองนิดๆ) ซึ่งได้ระบุไว้ในแผ่นกระดาษใต้ผ้าสักกะหลาดสีดำในหีบ ทางโรงเรียนจึงได้พิจารณาว่าจะทำการลงโทษสถานบาเพื่อให้นักเรียนได้ปรับปรุงตัว

    ระยะเวลาการทำโทษ:ไม่จำกัด

    ผลที่คาดหวัง:ความรักและสามัคคีระหว่างนักเรียน

    เงื่อนไข:การริบพลังเวทย์มนต์ในระยะเวลาที่โดนลงโทษ

    เรื่องที่อยู่อาศัยทางโรงเรียนได้ตัดสินใจให้นักเรียนได้อยู่ในโลกซึ่งไร้เวทย์มนต์แต่จะมีความเป็นอยู่ที่สะดวกสะบาย ทางโรงเรียนจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด เมื่อทางโรงเรียนได้ตรวจสอบว่าทั้งสองมีความรักใคร่กลมเกลียวดีแล้วจะทำการรับตัวกลับมาในทันที หากนักเรียนได้ก่อความเสียหายให้กับทางสถานที่ที่นักเรียนอยู่เกินกว่าเหตุนักเรียนทั้งสองจะโดนโทษสถานหนัก หรือโดนไล่ออกภายในทันที การลงโทษมีผลตั้งแต่จดหมายฉบับนี้ถึงมือของมิสเตอร์แฮร์รี่ พ็อตเตอร์และมิสเตอร์เดรโก  มัลฟอยและถูกเปิดขึ้นอ่านหวังว่าพวกคุณจะรีบทำความเข้าใจและสามัคคีกันโดยเร็ว

     

    ด้วยความหวังดียิ่ง

    ลงชื่อ ครูใหญ่โรงเรียนพ่อมดแม่มด

    มินอร์ว่า มักกอนนากัล...

    เมื่ออ่านจบทั้งสองก็มองหน้ากันก่อนจะโพล่งออกมาพร้อมกันว่า...

     

    “ไม่มีทางซะล่ะ!!!

     

     

     

    “ชิ สามัคคีงั้นเหรอพ็อตเตอร์ แค่เห็นหน้านายซักห้าวิฉันอยากจะอ้วกแล้ว ฝันไปเถอะ!” ร่างสูงเค่นเสียงมองดูแฮร์รี่ด้วยสายตาเหยียดหยาม

    “เฮอะ! คิดว่าฉันพิศวาสอยากเห็นหน้านายรึไงมากรึไงมัลฟอย ไอ้หัวเถือกๆซีดๆของนายน่ะฉันก็ไม่อยากให้มาอยู่รกหูรกตาฉันเหมือนกันล่ะ” แฮร์รี่ตอบด้วยโทนเสียงต่ำดวงตาสีมรกตนั้นมีแววเย็นชาพอๆกัน

    ทั้งสองคนจ้องหน้ากันอยู่สามวิก่อนจะพูดออกมาพร้อมกันว่า

     

     

    ฉันเกลียดนาย พ็อตเตอร์/มัลฟอย

     

     

     

     

     

     

     

     

    “เอ่อ... เกลียดยังไงก็ได้อย่างนั้นนะคะ”

     

    พรึ่บ

     

    ชายหนุ่มทั้งสองคนหันมามองคุณซึ่งอยู่ๆก็เพลอพูดตามใจคิดออกไปเป็นตาเดียวกัน ซึ่งนั้นก็ทำให้คุณได้แต่ยิ้มแหยๆ แล้วยิ่งเมื่อโดนสายตาเย็นชาของคุณชายบ้านสลิธิรินเข้านั้น ทำให้คุณอยากจะเฟดเอาท์ออกมาจากซีนนั้นทันทีเลยทีเดียว

    แต่หากไม่นับคุณชายที่จดจ้องคุณอย่างเย็นชาอยู่นั้น ดูเหมือนว่าที่คุณทักไปจะทำให้พ่อมดอีกคนซึ่งอ่อนโยนและมีมารยาทมากกว่าซึ่งก็คือแฮร์รี่รู้สึกตัว ว่าตัวเองอยู่ในห้องของคนอื่นซึ่ง... ควรจะเกรงใจเจ้าของเขาบ้างอะไรบ้างได้แล้ว

     

    “เอ่อ... ขอโทษนะครับพวกเรามารบกวนรึเปล่า?”

     

    คุณได้แต่ยิ้มปลื้ม ตื่นเต้นเล็กๆที่ตัวละครในดวงใจพูดด้วยแต่อีกใจหนึ่งก็ได้แต่คิดว่า

     

    อยู่ๆก็ระเบิดลงมาบนห้องชาวบ้าน...

    มานั่งเถียงกันในห้องของเขา

    ในเวลาใกล้ขึ้นวันใหม่...

     รบกวน... ไม่เลยค่ะ!! จริงจริ๊ง!!

     

    “อ่า... ไม่หรอกค่ะ” คุณตอบไปอยางสุภาพ

    “เอ่อ ต้องขอโทษด้วยเราคงมารบกวนคุณ... แต่พอจะบอกหน่อยได้ไหมครับว่าที่นี้คือที่ไหน?”

    “ไม่น่าถามโง่ๆนะพ็อตเตอร์ ที่นี้ก็คงจะเป็นบ้านของมักเกิ้ลจนๆที่ไหนสักที่บนโลกนี้แหละ” เดรโกพูดเสียงเนือยพลางมองสำรวจไปทั่วห้องก่อนจะหันมาจ้องหน้าคุณแล้วใบหน้าหล่อเหลานั้นก็ส่งยิ้มเย็นมาทางคุณ “ดูจากหน้าตาเจ้าของห้อง ท่าทางจะเป็นประเทศที่ยังไม่พัฒนา.... หึ!

     

    ปึด!

     

    เสียงเส้นประสาทของคุณกระตุกขึ้นเล็กน้อย แต่ใบหน้ายังคงรอยยิ้มพิมพ์สยามไว้ได้

     

    แหม.... ปากอย่างนี้มันช่างน่าเอาตระกร้ามาครอบ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแฮร์รี่ถึงได้ฟิวส์ขาดจนพังโรงเรียนไปครึ่งแถบอย่างนั้น

     

     

    “เฮ้อ! จะโดนทำโทษทั้งที ส่งมาที่ๆน่าเจริญตาเจริญใจมากกว่านี้ก็ไม่ได้นะ นี้มัน... รูหนูชัดๆ ทั้งคนทั้งข้าวของ ไร้รสนิยมสิ้นดี”

     

    ป้อก!

     

    เสียงหักครึ่งท่อนของปากกาที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ในมือคุณเมื่อไหร่นั้นดังขึ้น เส้นประสาทที่มือของคุณเริ่มปูดขึ้นมาน้อยๆ แต่ใบหน้าก็ยังคงยิ้มได้เหมือนเดิม เพียงแต่มันดูจะเป็นยิ้มที่บิดเบี้ยวไปสักหน่อยน่ะนะ...

     

    อย่าคิดว่าหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้นะยะ! เดี๋ยวแม่ปัดเขียนฟิคให้โดนงูฉกตายซะนี้

     

    “หุบปากน่ามัลฟอย! ถ้าไม่ช่วยอะไรก็ช่วยหุบปากห่วยๆของนายไปซะ” แฮร์รี่หันไปเอ็ดอริหนุ่มก่อนจะหันมาขอโทษขอโพยคุณ “ขอโทษแทนเขาด้วยนะครับ เขา... ประสาทไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอครับ?”

    “เอ่อ... ฉันชื่อ......”

     

    .

    .

    .

     

    ไม่น่าเชื่อ.... ไม่น่าเชื่อจริงๆ

     

    คุณมองภาพในครัวอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ที่แฮรรี่กำลังช่วยรีเบคก้าทำอาหารเช้านั้นถึงที่น่าชื่นใจแต่คุณก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอกนะเพราะแฮร์รี่นะออกจะเป็นคนน่ารักอ่อนหวานนิสัยดีมีเมตตาโอบอ้อมรารีราวกับแม่ชีเทเรซ่าแถมยังมีฝีมือปลายจวักเหมาะสมกับการเป็นกุลสตรีและภรรยาชั้นเยี่ยมในอนาคต(?) แต่ที่คุณกำลังอึ้งก็เพราะเห็นผู้ชายหัวทองตัวสูงกำยำกำลังก้มๆเงยๆ ด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียดบ่งบอกอารมณ์อันบูดบึ้งไม่เต็มใจของเจ้าตัวเป็นอย่างดี กับสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ยากที่สุดในโลก

     

     

     

    เครื่องปิ้งขนมปัง

     

     

     

     

    อ้อ

     

    ใส่ผ้ากันเปื้อนสีชมพูด้วยลายกระต่ายน้อยอีกตั้งหากน่ะ น่ารักเชียะ

     

     

    อันที่จริงมันก็น่าอึ้งตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ...

     

     รีเบคก้าหน้าชื่นตาบานมากเมื่ออยู่ดีๆก็มีผู้ชายแปลกหน้าสองคนมาอยู่ในบ้านของเธอ คุณแม่ยังสาวอมยิ้มน้อยๆพร้อมกับตกลงให้ทั้งสองคนอยู่ที่บ้านนี้ได้อย่างง่ายดายโดยแลกกับการช่วยทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆ ราวกับรู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว ส่วนแจ็คกับฟินถึงจะมีสีหน้างุนงงเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มรับแขกเป็นอย่างดีแล้วกลับไปนอนต่อด้วยสีหน้างัวเงียเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...

     

    ตกลงแล้วก็มีคุณคนเดียวที่งงกับสถานการณ์อันแปลกประหลาดนี้....

     

    เรอะ...?

     

     

    เอาล่ะกลับมาที่สภาพปัจจุบันดีกว่า

     

    คุณยังคงนั่งมองทั้งสามคนทำอาหารต่อไปอย่างเงียบเชียบ ก่อนที่จะมองไปยังคุณชายมัลฟอยอย่างเป็นห่วงนิดๆ เพราะนี้ผ่านมา 5 นาทีแล้วชายหนุ่มยังไม่สามารถทำให้เครื่องทำงานได้เลยแม้แต่น้อย กองขนมปังในถังขยะที่พูนขึ้นเรื่อยๆนั้นก็มาจากการที่ชายหนุ่มโกรธจนกดสปริงเครื่องปิ้งอย่างแรงซึ่งก็ได้ผลคือขนมปังแผ่นน้อยๆลอยละลิ่วตีลังกาสามตลบตกลงบนพื้นครัวอย่างสวยงาม คุณดูเหตุการ์ที่ก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกราวกับเดจาวูแถมยังดูท่าจะทวีความถี่ขึ้นเรื่อยๆอย่างละเหี่ยใจในความไม่รู้(หรือฉลาดน้อย?)ของพ่อมังกรน้อย ณ ตอนนี้เดรโกแทบจะยกเครื่องปิ้งขึ้นมาเขวี้ยงทิ้งแล้วถ้าทำได้(ขืนทำก็โดนไล่ออกน่ะสิ!) ตามสภาพกาณ์ ใจจริงคุณก็อยากจะเข้าไปช่วยหรอกนะ แต่พอนึกถึงคำพูดที่น่าเอาเครื่องปิ้งขนมปังฟาดหัวเมื่อคืนแล้ว... ขอบอกตรงๆว่าทำใจไม่ลง

     

    และแล้ว คุณก็นึกอะไรดีๆออก

     

    “รีเบคก้าคะ ให้ฉันช่วยคุณดีกว่า”

     

    คุณแทรกตัวไประหว่างกลางแฮร์รี่กับรีเบคก้า ซึ่งเจ้าบ้านก็พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตระหว่างที่แฮร์รี่กำลังจะเอ่ยปากค้านนั้นคุณก็หันไปพูดกับหนุ่มหน้าสวยว่า

     

    “ฉันว่านายไปช่วยมัลฟอยดีกว่านะ ดูเข้าจะมีปัญหากับเครื่องปิ้งขนมปังน่ะ”

     

    แฮร์รี่ได้แต่มองตามสายตาคุณ เมื่อมองเห็นกองขนมปังเปล่าในถึงขยะก็ได้แต่พยักหน้ายอมรับอย่างเสียไม่ได้ คุณจึงพยักหน้ากับตัวเองอย่างพึงพอใจ และรออีกไม่นานคุณก็ต้องอมยิ้มกับบทสนทนาของสองหนุ่มที่ดังลอยตามลมมา...

     

    “แล้วนายไม่เสียบปลั๊กมันจะใช้ได้ยังไงเล่า!! แล้วทำเสียไปกองพะเนินอย่างนี้ไม่เกรงใจเขาบ้างรึไง ไอ้บ้าพลัง!!

     

    “แล้วฉันจะไปรู้ไหมล่ะ ฉัน ไม่ ใช่ มัก เกิ้ล ไอ้... ไอ้...!

     

    “หุปปากไปซะมัลฟอย งั้นก็เรียนรู้ไว้ซะสิ ดูนี้...”

     

    เสียงคุยเบาลงและทั้งสองหนุ่มก็หันไปสนใจเครื่องปิ้งขนมปังอย่างตั้งอกตั้งใจ

     

    ท่าทางมาอังกฤษเที่ยวนี้จะไม่เหงาอย่างที่คิดแหะ

    .

    .

    .

    (แนะนำว่าควรเปิด lucky ของ Jason Mraz ฟังคลอไปด้วยนะ ฮา...)

     

     

     

     

     

     

     

                    Do you hear me… I’m talking to you… across the water~ across the deep blue ocean~

     

                    เสียงร้องนุ่มทุ้มของ Jason Mraz ดังออกมาจากหูฟังสีแดงตัวเก่งของคุณ ด้วยระบบตัดเสียงอันดีเยี่ยมของหูฟังนั้นทำให้คุณไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงเพลงระรื่นหู ยิ่งภาพที่คุณเห็นนั้นทำให้คุณคล้อยตามกับเนื้อเพลงไปใหญ่

     

                    เดรโก มัลฟอยกับแฮร์รี่ พ็อตเตอร์กำลังนั่งอิงแอบ(?)จ้อง ipad ของแจ๊คอยู่บนโซฟาด้านตรงข้ามคุณอย่างใจจดใจจ่อ โดยที่มีการหันไปคุยกันเป็นระยะๆ มีบางช่วงที่อีกฝ่ายแอบมองฝ่ายตรงข้ามเงียบๆและส่งสายตาอบอุ่นให้ เอ... ไม่ได้เป็นสายตาอบอุ่นแต่เป็นสายตาหงุดหงิดงั้นเหรอ? เอาเถอะน่า...อย่าคิดมาก!

                   

                    I keep you with me in my heart~ You make it easier  when live gets hard~

     

                    คุณมองภาพสองหนุ่มกระหนิงกระหนิง(?)กันอย่างอิ่มใจเพลงจังหวะสบายก็ยังคงบรรเลงไปเรื่อยๆตามหน้าที่ของมัน ในช่วงที่กำลังถึงท่อนฮุคนั้นเองอยู่ๆแฮร์รี่ก็หัวเราะออกมาพลางไล้นิ่วลงไปบนหน้าจอ ipad ส่วนเดรโกก็หันไปยิ้มให้แฮร์รี่พร้อมๆกับหน้าที่แดงขึ้นด้วยความเขิน(?)

                                   

                    Lucky I’m in love with my best friend~

     

                    นั้นสิ โชคดีจริงๆที่ทั้งสองคนนั้นรักกันขนาดนี้ ฉันนี้ช่างโชคดีที่ได้มาเห็นช็อตเด็ดที่ทั้งสองคนกำลังพลอดรักกัน...

     

     

     

                    ซะเมื่อไหร่หล่ะเฮ้ย!!!!

     

     

     

                Ohhh ohhh ohhh~ ปึก!

                   

                    คุณตกใจจนแทบจะโยน ipod ตัวโปรดทิ้งเมื่อแฮร์รี่กับเดรโกยืนขึ้นเผชิญหน้ากันหน้าโซฟา อันที่จริงคุณก็คงจะนั่งดูอยู่เฉยๆแล้วล่ะถ้าพ่อคุณเดรโก มัลฟอยจะไม่ทำท่าเงื้อ ipad อันแสนจะบอบบางขึ้นทำมุมกับพื้นเป็นแนว 85 องศาราวกับจะฟาดมันลงกับโต๊ะรับแขกด้านหน้าตนเองเพื่อระบายอารมณ์ ซึ่งนั้นทำให้คุณต้องรีบวิ่งเข้าไปช่วยชีวิตเจ้าแท็ปเล็ตสัญชาติผลไม้ออกมาจากพ่อหนุ่มใจร้อนโดยไว ต้องขอบคุณสตีฟ จ็อบส์ที่ออกแบบ the new ipad ออกมาได้บางเฉียบง่ายต่อการหลุดมือ(?) เพราะนั้นทำให้คุณสามารถดึงชีวิตมันออกมาจากมือของพ่อมังกรน้อยในวินาทีสุดท้ายก่อนที่มือแกร่งนั้จะตบลงบนโต๊ะอย่างฉิวเฉียด

     

                    เฮ้อ~ เฉียดฉิว...

     

                    คุณมองอุปกรณ์ไฮเทคล้ำโลก(เว่อร์...)ขนาดเบาในมือก่อนจะตวัดสายตาไปดูพ่อคุณชายผมทองที่กำลังยืนเถียงกับพ่อหนุ่มตาเขียวอีกด้านอย่างเอาเป็นเอาตาย คุณไม่อย่างจะนึกสภาพแจ๊คเลยจริงๆถ้ารู้ว่า ipad ลูกรักจะหักเป็นครึ่งท่อนจะเป็นยังไง ถ้าเป็นงั้นจริงมีหวังแจ๊คคงจะได้ลงไปนอนแดดิ้นเกลือกกลิ้งไปกับพื้นบ้านน้ำตาเช็ดหัวเข่า แต่ก็ไม่แน่... คนที่น้ำตาเช็ดหัวเข่าอาจจะเป็นคุณก็ได้ เพราะคนที่ไปขอ ipad จากแจ็คมาให้สองคนนี้ลองเล่นก็คือคุณเองนี้แหละ!!!

                   

                     ซึ่งแน่นอนว่าคุณชายผู้สูงศักดิ์ของเราก็ยังคงถกเถียงคอเป็นเอ็นไม่รับรู้เหตุการณ์รอบด้านเช่นเดิม...

     

                    ยัง... ยังไม่รู้สึกตัว... คิดว่า ipad เป็นค้อนของเล่นรึไงพ่อคุณถึงจะเอามันตบโต๊ะปักปักปักขนาดนั้น!!

     

                คุณดูไปกอด ipad ไปราวกับมันเป็นลูกรักของคุณเองเสียอย่างนั้น คุณมองภาพวัยรุ่นสองคนกำลังทะเลาะกันราวกับเด็กอนุบาลซึ่งหัวข้อเรื่องนั้นก็ไม่ใช้อะไรอื่นไกล...

                   

                    “โอ๊ย ฮะๆๆๆ ตอนนั้นนายหน้าเหวอวิ่งหนีไปจริงๆด้วยล่ะมัลฟอย ฮ่าๆๆๆ”

     

                    “โธ่เว้ย! นั้นมันก็ตอนเด็กๆ อันที่จริงนายก็กลัวจนก้าวไม่ออกนั้นแหละน่า!

     

                    “แต่ฉันก็ไม่ได้วิ่งหนีป่าราบจนมาดหลุดเหมือนนายแล้วกัน ไอ้คนขวัญอ่อนเอ๊ย ฮ่าๆๆๆ”

     

                    “พ็อตเตอร์!! หุปปากเดี๋ยวนี้นะ!!

     

                    “ทำไม? จะวิ่งไปฟ้องพ่อเหมือนตอนปี 1 รึไง? เชิญเล้ย โอ๊ะ ลื้มไป นายกับฉันติดแหง็กไร้เวทย์มนต์อยู่นี้หน่า”

     

                    “แฮร์รี่ พ็อตเตอร์!!!

     

                    “ทำไม?เดรโก มัลฟอย?”

     

                    อืม... ช่างเลือกหัวข้อทะเลาะกันได้ซีเรียสจริงๆพ่อคุณทั้งหลาย...

     

                คุณได้แต่ถอนหายใจอย่างเบื่อๆ ก่อนที่จะครุ่นคิดหาทางออกที่จะทำให้สองคนนี้สงบ อันที่จริงคุณก็ชอบหรอกนะผู้ชายทะเลาะกัน ต่อย แล้วพอโกรธจัดก็จับกดซะ อันที่จริงขั้นตอนเบสิคมันเป็นอย่างนี้(เรอะ?) แต่นี้ท่าทีทั้งสองคนในตอนนี้จะไม่นำพาไปสู่อะไรอย่างนั้นเพราะฉะนั้นคุณควรจะหาทางออกที่มีช่วยลดมลภาวะทางเสียงเสียดีกว่า

     

                    อืมม....

     

                    คุณมองไปรอบๆก็ยังคิดอะไรไม่ออกแล้วก็รู้สึกถึงเส้นหยุ่นๆบางอย่างที่อยู่ในมือ เมื่อยกมันขึ้นมาก็พบกับอุปกรณ์การละเล่นอันแสนจะคลาสสิกของเด็กไทย หนังสติ๊กเส้นหนายาวเท่างูอนาคอนด้าห้อยยาวตามมือคุณออกมาจากกล่องของที่แม่เพิ่งส่งมาให้จากเมืองไทย อันที่จริงเมื่อช่วงเช้ากล่องนี้เพิ่งตามมาถึงมือคุณ คุณก็เลยนั่งแงะมันซะตรงห้องนั่งเล่นซะเลย

     

                   

                    คุณมองหนังสติ๊กในมือก่อนจะมีรอยยิ้มไม่น่าไว้ใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของคุณ

     

                    “หยุด! หยุดทะเลาะกันได้แล้ว!!!” คุณตะโดนเสียงดังทำให้ทั้งสองคนหันมาสนใจคุณได้ไม่ยาก




                   “เลิกทะเลาะแบบเด็กๆแล้วมาทำอะไรสนุกๆแบบผู้ใหญ่กันดีกว่า หึๆๆ”

     

                    “ห๋า?”

                    “ฮะ?”
    .
    .
    .




                       ตอนนี้มีชายหนุ่มสองคนที่ร่างกาย(เกือบจะ)ล่อนจ้อนยืนจ้องหน้ากันอยู่อย่างไม่ลดละ

     

                    “แน่จริงก็ชนะฉันให้ได้สิพ็อตเตอร์ หึ!” เจ้าของดวงตาสีควันบุหรี่พูดอย่างท้าทาย รอยยิ้มเหยียดสะใจปรากฏอยู่บนใบหน้าแกร่ง คางเหลี่ยมได้มุมนั้นเชิดขึ้นอย่างเย่อหยิ่งแน่ใจเหลือเกินว่าบ็อกเซอร์และถุงเท้าข้างซ้ายที่เหลืออยู่นั้นจะต้องพิชิตแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ได้แน่ๆ

                    “อย่าเพิ่งดีใจไปมัลฟอย หุบปากเสียๆของนายไว้ก่อนที่มันจะร่วงลงมาตอนหน้านายแตกเป็นเสี่ยงๆเถอะ” ชายหนุ่มตัวเล็กตอกกลับไป เขาก็แน่ใจเหมือนกันว่าเสื้อกล้ามและบ็อกเซอร์ที่เหลืออยู่นั้นจะต้องอยู่ครบ!

                    มัลฟอยไม่ว่าอะไรส่งแต่รอยยิ้มเย็นกลับมาพร้อมๆกับทำท่ามองเสื้อผ้าชิ้นที่เหลืออยู่ของตัวเองอย่างใจเย็นไม่สนใจร่างบางที่ยืนจังก้าตีหน้ายักษ์เข่นเคี้ยวอยู่อีกด้านเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มผมทองเท้ามือแกร่งไว้ที่ท่อนเอวเปลือยเปล่าของตัวเองอย่างมั่นใจว่าเขา... ชนะแน่ๆ

                    แหม... ก็ขาสั้นๆอย่างนั้นน่ะไม่มีทางกระโดดอีเอวผ่านหรอกน่า!!

     

                    คุณมองดูการขับเคี่ยวของฝรั่งหัวทองหนึ่งหัวดำหนึ่งอย่างเหนื่อยใจ

                   

                   

                   

                    ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่คุณจัดให้เกิดการแข่งขัน “โดดหนังติ๊กสานสัมพันธ์ครั้งที่ 1 ณ บ้านฮาร์ริส” โดยยึดเอาโถงกลางบ้านเป็นสนามแข่งขันก็เท่านั้นเอง มีหนังสติ๊กทั้งทีเอามาทำอะไรให้สร้างสรรค์ดีกว่า เมื่อเห็นคนทะเลาะกันคุณเลยจัดการใช้หนังยางเส้นโตที่ไม่รู้ว่าแม่ส่งมาให้ทำไม(นั้นน่ะสิ- -//ไรต์)ในการสร้างความสัมพันธ์อันดีและเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในรอบเดียวกันไปเลย ดีใช่ไหมล่ะ!

     

                    แล้วที่ทำไมว่าทั้งสองคนถึงเหลือเสื้อผ้าแค่นั้นน่ะเหรอ หึๆ

     

                    แหม... ก็มันเป็นเกมระดับอินเตอร์ แล้วจะให้ใช้กติกาแบบเด็กป.2เล่นกันน่ะเหรอ ไม่ได้ๆ คุณก็แค่เพิ่มเกร็ดเล็กๆน้อยๆเพิ่มความท้าทายไปว่าถ้าใครกระโดดโดนยาง 1 ครั้งจะต้องเลือกถอดเสื้อผ้า 1 ชิ้น ก็เท่านั้น...

     

                   

                    ตอนแรกๆก็ไม่มีใครยอมหรอกนะแต่คุณก็เถียงกลับไปว่ากติกามันตั้งมาแบบนี้ตั้งแต่สมัยทวารวดีแล้ว(?)จะเล่นทั้งทีก็ต้องเล่นให้มันเป็นแบบต้นตำรับสิถึงจะเข้มข้น! พอได้ยินดังนั้นแฝดที่นิยมของแปลกเป็นทุนเดิมแล้วก็ยิ่งหึกเหิมอยากเล่นขึ้นมาทันที ในเมื่อเจ้าบ้านอยากเล่นแล้วผู้มาอาศัยหน้าตาดีเกินมาตรฐานทั้งสองจึงต้องยอม ถึงจะมีการหันมาเหล่มองคุณด้วยสายตาเคลือบแคลงก็ตามที แต่ก็นั้นแหละคุณก็ยังคงไม่ออกพิรุทพร้อมกับตอกไปอีกดอกว่า ทำหน้าสงสัยอย่างนั้นทำไม ใครกันแน่ที่เป็นคนไทยคะ?(เอาจริงๆแปลว่าฉันพอใจให้เล่นแบบนี้ใครจะทำไม?)

                   

                    พออธิบายกติกาจบโดดไปไม่กี่ตานึกไม่ถึงว่าพวกฝรั่งหน้าตาดีพวกนี้ช่างกระโดดหนังยางได้....

     

                    ห่วยแตก

     

                    จนถึงอีเอวแล้วแจ็คกับฟินก็ต้องสละถุงเท้าเข็มขัดกับเสื้อไปเท่าๆกัน(=โดดเสียอีล่ะ 2 รอบ) แต่พ่อหนุ่มจากโลกเวทย์มนต์นั้นอาการหนักกว่าโดดไปโดดมาทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือกันอยู่แค่ 2 ชิ้น... แน่นอนว่าแชมป์ไทย์ลีกโดดยางเก่าสองสมัยอย่างคุณแค่อีเอวแค่นี้เบาะๆ แม้แต่ปลายขนข้อเท้าของคุณยังไม่ได้เฉียดหนังยางเลยแม้สักนิด ฮ่าๆๆๆ

                   

                    สรุปแล้ว ณ ตอนนี้หญิงสาวเจ้ามือจากเมืองไทย(คุณ)ได้รับอาหารตาเพียวๆเป็นซิกส์แพ็คเนียนๆ 3 แพ็คกับขาอ่อนขาวๆของแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ อีกหนึ่ง โอ๊ยยยยยย คุ้มเกินคุ้มคุณเอ๊ย! จะเป็นลมมม แล้วถ้าแฮร์รี่โดดครั้งนี้ไม่ผ่านจะถอดอะไรนะระหว่างเสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์.... หุๆๆ คุณครุ่นคิดอย่างจริงจังสายตาจ้องผู้เข้าแข่งขันอย่างมีสมาธิ(?)

     

                    กลับมาที่การแข่งขัน

     

                    หลังจากแฮร์รี่ยืนทำใจอยู่สิบวิร่างบางก็ถอยหลังไปสามก้าวก่อนจะวิ่งแล้วกระโดดออกตัวไปอย่างแรง...

     

     

                    ตุบ ตึงงงงงง

     

                    ...

     

                   

     

     

     

                    แฮร์หลับตาปี๋รอรับความเจ็บเพราะเขารู้ตัวว่าตัวเองเสียหลักตั้งแต่กระโดดแล้วแหละ แต่ก็ต้องแปลกใจ เพราะว่าถึงจะจุกเล็กๆแต่ก็เจ็บน้อยกว่าที่เขาคิดเยอะ แต่เอ๊ะ ไม่เจ็บมากยังไม่เท่าไหร่แต่ทำไมมันรู้สึก... เฉะๆ

     

                    “!!!

     

                    แฮร์รี่ลืมตาขึ้นมาก็ต้องช็อคเพราะตอนนี้เขาเห็นแต่ใบหน้าที่พร่ามัวของเดรโก มัลฟอยและที่มันรู้สึกแฉะๆนั้นเป็นเพราะว่าปากของเขากับมัลฟอยกำลังประกบจูบกันอยู่อย่างแนบแน่น!!

     

                    “อื้อ อ อ อื้อ!” แฮร์รี่เริ่มดิ้นพล่านเพื่อดันตัวออกมาก แต่กลับทำอะไรไม่ได้ เพราะตอนล้มลงมานั้นมัลฟอยเพลอตัวยึดสิ่งที่ล้มลงมาตามสัญชาติญาณ(ซึ่งในที่นี้มันก็คือเขา)ไว้แน่น แน่นอนว่าอ้อมกอดแกร่งนั้นแฮร์รี่ไม่สามารถต้านทานได้เลย

                    “...” เมื่อรู้ว่าดิ้นไปก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมาแฮร์รี่จึงเลิก เอาเถอะแค่ปากชนกันเขาจะถือซะว่าโดนหมา... เลีย...

     

                    “!!!!!!” แฮร์รี่เริ่มเกร็งตัวอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรแปลกปลอมเข้ามาในปาก...

     

     

     

     

     

                    ดีฟคิส!!!! ไอ้บ้านี้มันใช้ดีฟคิสกับผมมมมม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

     

     

     

     

     

                    “!!!!!!!!!!!!” คราวนี้ต้องขอใช้ตัวหนาเลยทีเดียว เพราะไม่รู้ว่าถูกกระทบกระเทือนอะไรยังไงตอนนี้คุณชายมัลฟอยเลิกนอนเป็นเบาะให้แฮร์รี่แต่เกิดของขึ้น(อะไรขึ้น?!) พลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่างบางแทนแล้วกัดกินความหวานจากริมฝีปากอิ่มอย่างหิวหายต่อไปอย่างเร่าร้อนแทน

     

     

                    อะ อะ อะ ไอ้บ้าเอ๊ยยยยย ยังมีหน้ามาคร่อมต่ออีกเหรอวะ แกเป็นอะไรของแกเนี่ยมัลฟอย ที่สำคัญเอาลิ้นแกออกป๊ายยยยยยย!!!!

     

     

                    แฮร์รี่ได้แต่คิดในใจเท่านั้นเพราะแน่นอนว่าปากของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยลิ้นชุ่มชื้นของคนด้านบนที่ตอนนี้เหมือนเสียสติไปซะแล้ว ตัวแฮร์รี่เองตอนนี้ก็ชักจะเริ่มเบลอๆ และก่อนที่มันจะมีหนังสดกลางโถงบ้านนั้นเอง แฮรืรี่ก็ตัดสินใจกัดลิ้นมัลฟอยซึ่งนั้นก็ส่งผลให้คุณชายสะดุ้งด้วยความเจ็บจนปล่อยการเกาะกุมจากพ่อหนุ่มผมยุ่งมาสำรวจช่องปากตัวเองที่ตอนนี้มีรสเค็มปะเล่มๆของเลือดออกมาแทนอย่างหัวเสีย

     

                    แฮร์รี่พอหลุดออกมาได้ก็ทำหน้าปานจะหัวใจวายตาย หายใจหอบแหกๆและสิ่งแรกที่เขาพูดก็คือ...

     

                    “อย่ามองนะ!!!

                   

                    แน่นอนว่านั้นต้องพูดกับผู้รับชมทั้งสามที่เหลือนั้นเองเมื่อสิ้นสุดคำนั้นแฮร์รี่ก็ได้แต่มองหน้าพวกคุณทั้งสามคนอย่างตื่นๆ คุณ แจ๊คและฟินก็หันไปมองหน้ากันอย่างเงียบๆ ก่อนที่แต่ละคนจะก้มลงมองอุปกรณ์บันทึกแบบอิเล็กทรอนิกส์ในมือของตัวเอง แล้วหันขึ้นมาพูดกับแฮร์รี่ว่า...

     

                    “เอ่อ... คงไม่ทันแล้วล่ะ...(เพราะพวกเราถ่ายอัดไว้เรียบร้อยแล้ว)”

     

                    แฮร์รี่เมื่อได้ยินดังนั้นก็ได้แต่หน้าซีด ชายหนุ่มร่างบางอ้าปากค้างอย่างไม่สามารถพูดอะไรได้อีก ดวงตาสีมรกตฉ่ำเยิ้มนั้นมีน้ำรื้นออกมา ตอนนี้หน้าตาแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ดูสิ้นหวังยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าจอมมารฟื้นคืนซะอีกเมื่อร่างด้านหลังมีความเคลื่อนไหวแฮร์รี่จึงหันกลับไปตวาดใส่คุณชายผมบลอนด์ว่า

     

                    “เพราะนายคนเดียว!!

     

                    เมื่อมัลฟอยจะขยับตัวแฮร์รี่ถึงกับสดุ้งเอามือทั้งสองข้างปิดปากตัวเองเอาไว้ ใบหน้าซีดนั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่จะมีใครทันพูดอะไรแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ก็วิ่งขึ้นไปบนชั้นสองซะแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า เดรโก มัลฟอยจะต้องวิ่งตามขึ้นไปแน่นอน...

     

                    “พ็อตเตอร์หยุดเดี๋ยวนี้นะ พ็อตเตอร์!!!




    ---------------------------------------
    ไรเตอร์ อยากจะ talk(3)

    กรี๊ดดด จบตอนแล้วเย้!!!!!!!! (กว่าหล่อนจะมาอัพได้) ขอโทษทุกคนจริงๆค่ะ T^T ...

    จบตอนนี้ทุกคนคงมองหน้ากันงงๆเอ๊ะบทมันดูน้อยๆแล้วให้มันจูบกันเลยเร้อออออ! (แล้วกระโดดยางมันมาได้ยังไง?) อันนี้ต้องขออภัยค่ะเป็นความบ้าบอส่วนตัวเรื่องนี้มันเลยดูแปลกๆเช่นนี้แลเพราะไรต์ใจร้อนอยากให้เรื่องมันจบเร็วๆ?

    (แต่มันก็ยังคงจะไม่จบเร็วๆนี้แน่นอน((อ่าว?))เพราะเรื่องนี้ยังมีช่องว่างหลายอย่างเลยค่ะ)
    ปิดท้ายก็เบลอซะ จะดราม่า จะฮา (รึจะ NC?) จะป่วงยังไงคำตอบเดียวก็คือ.....

    ลุ้นกันต่อไปค่ะ! ไรต์เตอร์เองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพ่อหนุ่มสองคนนี้จะเคีลยร์กันยังไง หุ หุ ....

    อ้อป.ล.สำหรับคนที่งงว่าตอนดู ipad เถียงอะไรกันก็คือว่าทั้งสองคนกำลังอ่านแฮร์รี่เล่ม 1 กันอยู่ค่ะ แล้วจำฉากที่แฮร์รี่กับมัลฟอยโดนทำโทษให้ไปในป่าต้องห้ามได้ไหมคะ นั้นแหละตอนที่มัลฟอยกลัวจนแผ่นแนบนั้นแหละค่ะ 55+
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×