คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : HP[+u] [dm/hp] ll Oh Dear! (Intro)
OH DEAR!!
ณ บ้านหมายเลขที่ 16/28 ไนท์บริจ
คุณชะโงกหน้าเข้าไปมองบ้านสีขาวสองชั้นขนาดใหญ่พอสมควรที่ตั้งอยู่ใจกลางลอนดอน รั้วซี่สีดำสูงสองเมตรดูดีตามแบบผู้ดีอังกฤษทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย นี้ถือว่าเป็นบ้านขนาดกกระทัดรัดถ้าเทียบกับคฤหาสน์ที่มองเห็นแต่ปลายหลังคารำไรที่ตั้งอยู่รายรอบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะมันก็ยังใหญ่อยู่ดี... และนี้คือบ้านที่คุณจะต้องอยู่ไปอีก 4 ปีต่อจากนี้ไป
คุณก้มๆเงยๆดูแถวประตูรั้วหากริ่งอย่างงงๆ เมื่อมองแล้วไม่เห็นอะไร แล้วในที่สุดคุณก็หาเจอ กริ่งทันสมัยสีกลมกลืนกับรั้วถูกซ่อนอยู่ในกล่องเล็กๆข้างรั้วนั้นเอง
ออดดดด
เสียงออดเบาๆดังขึ้น คุณรออยู่ตรงนั้นสักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย ผู้ชายคนนั้นใส่เสื้อฮู้ดสีน้ำเงินเข้มปิดหน้าก้มหน้าก้มตาเดินเมื่อกระชากประตูเปิดออก ซึ่งนั้นทำให้คุณใจเสียนิดๆ
“เข้ามา” ผู้ชายคนนั้นพูดเสียงห้วนก่อนจะเดินลิ่วๆกลับเข้าบ้านไป คุณทำท่าจะพูดอะไรซักอย่างแต่ก็ได้แต่นิ่งค้างเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้ใยดี ปล่อยให้คุณลากกระเป๋าเดินทางใบโตเข้าไปเองอย่างเก้ๆกังๆ ด้วยพื้นทางเข้าเป็นอิฐฝังพื้นทำให้ขรุขระเล็กน้อย
“โธ่เอ๊ย! ไหนเขาบอกว่าคนอังกฤษเป็นสุภาพบุรุษไง แล้วนี้อะไรเนี่ย ช่วยสักหน่อยก็ไม่ได้” คุณบ่นพึมพำกับตัวเองเป็นภาษาไทย แน่สิ ใครจะไปกล้าด่าตรงๆล่ะ เดี๋ยวก็โดนเฉดหัวออกจากบ้านพอดี
เมื่อคุณพาตัวเองกับกระเป๋าใบโตมายืนอยู่ในโถงด้านในบ้านสำเร็จบุรุษฮู้ดน้ำเงินก็หายตัวไป ทิ้งคุณไว้กับความงุนงงว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี?
“เออ....”
“อ้าว หนูเพื่อนเจนใช่มั๊ยจ๊ะ”
เหมือนสวรรค์ยังคงเข้าข้างคุณอยู่บ้าง หญิงวัยกลางคนที่ยังคงความสวยท่าทางใจดีเดินออกมาจากห้องครัวเธอใส่ผ้ากันเปื้อนที่ชมพูสดใส ในมือมีถุงมือกันร้อนสีเคอท็อยซ์เข้ากับผ้ากันเปื้อนสวมอยู่ ผมสีบลอนด์เข้มยาวสลวยถูกรวบเป็นหางม้าด้านหลัง ผมหน้าม้าปัดเก๋ไก๋ช่วยให้เธอดูเด็กลงกว่าอายุจริงสักสิบปีได้ คุณหันไปยิ้มกว้างให้เธอให้สมกับที่มาจาก ‘สยามเมืองยิ้ม’
“ค่ะ แล้วคุณ...”
“โอ้ ฉันรีเบคก้า ฮาร์ริสจ๊ะ เรียกฉันเบคกี้ก็ได้”
ขณะที่คุณพยักหน้ารับรู้อย่างสุภาพนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นจากในห้องครัว ก่อนที่ต้นเสียงจะเดินตามมา
“โธ่.... ‘เบคกี้’ อุ๊บส์ ฮ่าๆๆๆ จะย้อนวัยไปไหมแม่?”
คุณหันไปมองชายหนุ่มอายุอานามน่าจะแก่กว่าคุณไม่กี่ปีกำลังยืนกัดแอปเปิ้ลแล้วหัวเราะตัวสั่นด้วยความขบขัน เมื่อเห็นใบหน้าใสวิ๊งนั้นคำเดียวที่เด้งเข้ามาในหัวคุณคือ...
‘น่ารักอ่ะ!’
“แจ๊ค! เรื่องของแม่น่า แล้วแม่บอกแล้วไงว่าอย่าขโมยผลไม้มากินก่อนทานมื้อเย็น ดูสิ เสียมารยาทเชียว”
“เอาน่าแม่ เขาไม่ถือหรอก ใช่มั๊ย?”
แจ๊คหันมาเลิกคิ้วใส่คุณเป็นเชิงถาม ซึ่งก็แน่นอนคุณมีสิทธิ์อะไรที่จะไม่เห็นด้วยล่ะ
“เอ็นอ๊ะ?” แจ๊คกัดแอปเปิ้ลอีกคำแล้วจึงหันไปพูดกับแม่เสียงอู้อี้ด้วยสีหน้าที่น่าเอาส้นเท้าไปทาบ เมื่อเห็นว่าคุณยิ้มๆแล้วบอกสั้นๆว่าไม่ถือ
“เฮ้อ...” แมนด้าได้แต่กลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย “พอเลยแจ๊ค ฮาร์ริส เลิกทำตัวเหลวไหลแล้วพาแขกขึ้นไปที่ห้องพักเดี๋ยวนี้!”
“คร๊าบ คร๊าบ” แจ๊คตอบรับก่อนจะเดินไปทิ้งแกนแอปเปิ้ลที่เขากินหมดพอดีในครัวแล้วเดินมาหาคุณ
แจ๊คยิ้มให้คุณในระยะประชิด นั้นทำให้คุณอิจฉาเล็กน้อยเพราะเขาผิวขาวเนียนยิ่งกว่าคุณที่เป็นผู้หญิงซะอีก!
“ตามฉันมาเลย” แจ๊คพูดก่อนที่จะยกประเป๋าเดินทางของคุณขึ้นไปบนบันไดอย่างง่ายดาย ทำเอาคุณทึ่งเล็กน้อย ก่อนจะรีบกระชับสายกระเป๋าสะพายคู่ใจแล้วเดินขึ้นบันไดตามไปบนชั้นสอง
ด้านบนแยกเป็นสองฝั่ง ฝั่งนึงติดกับบันไดมีประตูอยู่บานเดี่ยวๆ ส่วนอีกฝั่งโดนแยกเป็นสี่ห้องย่อยๆ ร่างสูงเปิดเขาไปในห้องแรกทางด้านขวาวางกระเป๋าของคุณไว้ข้างในก่อนจะเดินออกมาอธิบายให้คุณฟังคร่าวๆ
“ด้านนี้ มี 4 ห้อง สองห้องในสุดเป็นห้องของฉันกับฟินห้องฉันด้านซ้ายห้องฟินด้านขวาติดกับห้องเธอ อย่าสับสนล่ะเดี๋ยวเวลาจะไปหาฉันแล้วจะเข้าผิดห้อง” แจ๊คหันมายิ้มให้คุณอย่างขี้เล่น ซึ่งคุณก็ยิ้มตอบไป “ส่วนห้องซ้ายมือนี้เป็นห้องพักแขก ที่จริงห้องเธอก็เป็นห้องพักแขกแต่ตอนเจนบอกแม่ แม่ก็แจ้นไปซื้อของแต่งห้องให้เธอใหม่หมดยกใหญ่…”
ชายหนุ่มพูดก่อนจะเดินไปพิงกรอบประตูห้องคุณ คุณเดินตามแจ๊คมองเข้าไปก็พบกับห้องนอนขนาดพอดีที่ถูกตกแต่งอย่างมีสไตล์ด้วยโทนสีขาวสะอาดเป็นส่วนใหญ่ ตัดกับสีไม้ธรรมชาติของพื้นห้อง เตียงขนาด 3 คูณ 5 ฟุตพร้อมผ้าห่มและหมอนนุ่มน่ากระโดดไปทิ้งตัวถูกวางไว้ติดริมหน้าต่าง ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินขนาดกำลังพอดีฝังอยู่ด้านหนึ่ง อีกด้านเป็นตู้หนังสือเปล่าๆกับโต๊ะทำงานขนาดใหญ่
“เจนบอกว่าเธอชอบอ่านหนังสือ แม่ฉันเลยซื้อมาไว้ให้ แต่ตู้เสื้อผ้านั้นมันอยู่อย่างนั้นอยู่แล้วถ้าเธออยากหาที่เก็บเสื้อเพิ่มคงต้องหาอีกตู้นะ ” แจ๊คเว้นจังหวะ “ หวังว่าเธอจะชอบ”
คุณมองสำรวจห้องอย่างตื่นเต้นก่อนจะหันมาตอบแจ๊คอย่างกระตือรือร้น
“ฉันชอบมากเลย ขอบคุณเบคกี้มากนะ หมายถึง...แม่นายน่ะ”
แจ๊คหัวเราะเบาๆเมื่อได้ยินชื่อเบคกี้ ก่อนจะปล่อยเธอให้เก็บของคนเดียว “อย่าลืมลงไปกินข้าวเย็นตอนหกโมงล่ะ” ชายหนุ่มพูดทิ้งท้าย
คุณปิดประตูตามหลังแจ๊คและนั่งงัดแงะจัดข้าวของตัวเองอย่างเงียบๆ กระเป๋าเดินทางใบโตของคุณนั้นต้องใช้กำลังพอสมควร กว่าจะรื้อของทั้งหมดออกมาได้ คุณเริ่มแยกข้าวของออกมาเป็นหมวดๆพวกเสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ จนถึงของชิ้นที่คุณบรรจงห่อเก็บไว้อย่างดีที่สุด
“ฮา! ลูกแม่~~” คุณคว้าเมาส์ปากการุ่นที่คุณเก็บเงินซื้อเองเมื่อตอนม.ปลายขึ้นมากอด
ไม่ได้เป็นคนวาดรูปเก่งอะไรมากมายหรอกนะ แค่ชอบน่ะ
คุณจัดแจงเสื้อผ้าเข้าที่เสร็จพอมองนาฬิกาก็เกือบถึงเวลาทานอาหารเย็นพอดีคุณจึงวางของทั้งหมดไว้ก่อนแล้วเดินลงไปกินข้าว ยังไงมาอาศัยเขาอยู่ก็ไม่ควรเสียมารยาทน่ะนะ
พอคุณเดินลงมาถึงห้องอาหารรีเบคก้าก็กำลังจัดอาหารอยู่พอดี คุณยิ้มบางๆให้เธอ
“อ้าวลงมาแล้วเหรอจ๊ะ ตรงเวลากว่าลูกชายฉันซะอีกนะ” รีเบคก้าพูดอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินไปตบที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง “ที่ของหนูอยู่ตรงนี้นะนั่งรอได้เลยจ๊ะ”
“เอ่อ...ค่ะ” คุณลังเลเล็กน้อย เราไม่ควรทำตัวเหมือนแขกสินะ ยังไงๆเราก็มาขอเขาอาศัยอยู่.... เมื่อคุณคิดได้ดังนั้นคุณจึงเดินตามรีเบคก้าไปในครัว “เอ่อ...มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?”
“จริงเหรอจ๊ะ” รีเบคก้าหันมาทำตาวิบวับใส่คุณเหมือนได้ยินเสียงสวรรค์ ดีใจจนเกินเหตุ
“ค่ะ...” คุณตอบพร้อมกับความคิดในหัวว่า... นี้ฉัน... ไม่ได้ตกหลุมพรางอะไรใช่มั๊ยเนี่ย?
“ดีจัง งั้นช่วยมาตรงนี้.....” รีเบคก้าเริ่มสั่งงานด้วยความรวดเร็ว นั้นทำให้คุณออกจะมึนๆเล็กน้อย เพราะไม่ทันตั้งตัว อันที่จริงอาหารส่วนใหญ่ก็เสร็จเรียบร้อย เหลือแค่ยกไปจัดบนโต๊ะเท่านั้นล่ะ คุณทำตามคำสั่งของรีเบคก้าโดยไม่ปริปากบ่น 5 นาทีหลังจากนั้นโต๊ะอาหารจึงออกมาเรียบร้อยสวยงามเหมือนในแมกกาซีน อาหารและช้อนชามถูกจัดเรียงอย่างสวยงามบนโต๊ะไม้โอ๊คยาวออกแนวโมเดิร์น ที่มีเก้าอี้ 6 ตัววางล้อมรอบพร้อมกับวิวสวนสวยๆจากประตูกระบานบานเลื่อนบานโตที่ตั้งอยู่อีกด้านของห้อง
“สมกับเป็นบ้านของผู้กำกับแหะ เป๊ะจริงๆ” คุณพึมพำกับตัวเองเป็นภาษาไทยเมื่อมองเห็นวิวทั้งหมด
“เอ๊ะ มีอะไรเหรอจ๊ะ” รีเบคก้าทักเมื่อเธอเดินกลับมาจากการเก็บผ้ากันเปื้อน
“อ้อ เปล่าค่ะ” คุณหันไปยิ้มให้กับเธอ
“แม่~~ วันนี้มีอะไรกินบ้างคร๊าบบ” เสียงแจ๊คดังนำมาแต่ไกลก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้าห้องทานอาหารมา
“ไงแจ๊ค ฮาร์ริส รู้ทุกทีเลยนะว่าโต๊ะพร้อมตอนไหน ไม่เคยคิดมาช่วยแม่สักทีจริงๆ” รีเบคก้าบ่น “แล้วฟินล่ะ?”
“ฟิน? อุ๊บส์ หึๆ” แจ๊คหัวเราะแปลกๆเมื่อได้ยินชื่อของฟิน “หมอนั้นพยายามลบรอยมาเป็นชั่วโมงแต่ก็ลบไม่ออกแล้วก็ยังไม่ละความพยายาม ผมบอกแล้วว่าไม่มีใครสนใจหรอกก็ไม่เชื่อ แต่ตอนนี้... คงจะกำลังลงมาล่ะมั้งครับ” แจ๊ดยิ้มร่าปิดท้าย
“ลูกไม่น่าแกล้งฟินอย่างนั้นนะ ยิ่งแอบทำตอนหลับด้วยนี้ยิ่งไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย” รีเบคก้าพูดเสียงเข้ม แต่ก็นั้นล่ะแจ๊คไม่สนใจเช่นเคย คุณก็ไม่ได้ตั้งใจจะสอดเรื่องในครอบครัวหรอกนะแต่ว่าบทสนทนานั้นทำให้คุณเริ่มฟุ้งซ่านนะสิ...
รอย?
ตอนหลับ?
รอยอะไร?
อย่าบอกนะว่า....
โอ๊ย! หยุดหยุดคิดอกุศลเดี๋ยวนี้นะยัยบ้า! คุณคิดพร้อมกับส่ายหัวไปมา
“เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ?” รีเบคก้าถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นคุณทำท่าแปลกๆ
“อ้อ... เปล่าค่ะ” คุณตอบกับแบบเบลอๆ พลางสางผมแก้เขิน
ตอนนั้นเองที่ ชายหนุ่มหน้าตาเหมือนแจ๊คเป็นพิมพ์เดียวกันก็เดินหน้ายุ่งเข้ามา เขาปรับสีหน้าให้เป็นมิตรขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นคุณ
“ฟิน ฮาร์ริสย้อมย้ายร่างมากินข้าวซะทีนะมาครบแล้วก็รีบๆนั่งเลย” รีเบคก้าสั่ง
“ครับ” “ครับ” ทั้งสองขานรับ
รีเบคก้านั่งลงที่หัวโต๊ะด้านหนึ่ง ฟินกับแจ๊คนั่งลงที่ที่นั่งตรงข้ามกับคุณ ที่นั่งข้างๆคุณกับหัวโต๊ะที่อีกด้านจึงว่างอยู่
“มีลูกชายเนี่ยเหนื่อยแท้ๆ แถมยังไม่ยอมช่วยอะไรอีกตั้งหาก ฉันล่ะอยากมีลูกสาวจริงเลยๆ แต่อันที่จริงฉันก็มีน่ะนะ...” รีเบคก้าหันมาบ่นกับคุณเมื่อเห็นพฤติกรรมเรื่อยๆไม่สะทกสะท้านของลูกชายทั้งสองเมื่อโดนว่ากระทบ “ดื้อด้านจริงเลยนะว่าไหม?”
“ค่ะ” คุณตอบพร้อมกับยิ้มคิดว่าถ้าอยู่ในไทยคงจะไม่เรียกว่าดื้อด้านแต่คุณคงจะใช้คำว่าหน้าด้านมากกว่านะ เอ๊ะ?... แรงไปรึเปล่านะ?
“พอเถอะแม่” ฟินพูด
“เขารำคาญแย่แล้ว” แจ๊คเสริม
รีเบคก้าไม่ว่าอะไรได้แต่ส่งสายตาค้อนลูกชายแล้วกินอาหารต่อไปเงียบๆ เมื่อทุกอย่างเงียบสงบคุณจึงมีเวลาพิจารณาแฝดทั้งสองคน คุณก็พอรู้นะว่าฟินกับแจ๊คเป็นฝาแฝดกันแต่ไม่คิดว่ามาเจอตัวจริงแล้วจะเหมือนกันขนาดนี้.... ผิวชาวเนียนเว่อร์ ตาสวย หล่อเหมือนกัน.... เฮ้ย! ใจร่มๆ ต่อมบ้าผู้ชายถูกกระตุ้นอีกแล้วสิเรา หายใจเข้าหนอ~ หายใจออกหนอ~ ใจเย็นๆหนอ... ผู้ชายหล่อกินไม่ได้หนอ... เฮ้อ....
เมื่อสงบจิตสงบใจจากอาการบ้าชาวต่างชาติกำเริบชั่วคราวได้แล้ว คุณจึงหันไปสังเกตหมวกไหมพรมที่ปิดแทบถึงคิ้วของฟิน แฝดคนพี่ อย่างสนอกสนใจแต่ก็พยายามไม่จ้องเพราะกลัวเสียมารยาท ตอนที่คุณดูรูปที่เจนนี่ส่งมาให้ดูและเช็คเฟจแฟนเพจบนเฟซบุ๊ตของพวกเขา(ใช่แฟนเพจ!แจ็คมีวิกิเป็นของตัวเองด้วยนะ)คุณไม่เคยเห็นสองพี่น้องนี้ใส่หมวกแบบนี้เลยถ้าไม่ใช้หน้าหนาว และก็ดูเหมือนว่าในเวลาเดียวกันรีเบคก้าก็สังเกตหมวกนี้ได้เช่นกัน
“ลูกใส่หมวกนั้นทำไมน่ะฟิน?”
“ไม่มีอะไรหรอกแม่.... กินต่อเถอะ” ฟินพยายามเลี่ยง
“ฟิน ฮาร์ริส” รีเบคก้าเสียงเข้มขึ้น
“เฮ้ย!!”
ไม่ต้องรอให้รีเบคก้าพูดซ้ำสองแจ๊คสนองความอยากรู้ของคุณแม่โดยการกระชากหมวกออกด้วยความรวดเร็ว ไม่ต้องสงสัยว่าฟินโมโหมากแค่ไหนเพราะเมื่อคุณและรีเบคก้าเห็นสิ่งที่หมวกปิดไว้ก็แทบกลั้นหัวเราะไม่ให้สำลักอาหารที่เคี้ยวอยู่ไมได้เลยทีเดียว คุณรู้แล้วล่ะว่าไอ้รอยที่พูดถึงเนี่ยมันเป็นรอยอะไร
“ฮะๆ ขอโทษฟิน พอดีแม่ลืมเรื่องรอยนั้นไป ใส่ๆหมวกกลับไปเถอะ ฮ่ะๆๆ”
“ฮึ่ย!” ฟินหันไปทำหน้าเหวี่ยงใส่แจ๊คแล้วแย่งหมวกมาใส่คืนปกปิดรอยปากกาเมจิคสีดำที่เขียนว่า DAMN! บนหน้าผากมิดชิดเหมือนเดิม
เมื่อเหตุการณ์วุ่นวายระลอกสองจบไปมื้อเย็นก็ดำเนินต่อด้วยความสงบสุขจนทุกคนแยกย้ายขึ้นห้องนอน หลังจากช่วยรีเบคก้าล้างจานเสร็จคุณก็เดินขึ้นห้องอย่างเหนื่อยๆก่อนจะเจอสองหนุ่มยืนคุยกันอยู่หน้าห้องคุณ นั้นทำให้คุณชะงักเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปอย่างลังเล
“ขอโทษนะ มีอะไรกับฉันรึเปล่า?” คุณทักออกไปซึ่งนั้นทำให้สองหนุ่มหันมาสนใจคุณ
“ฉันน่ะไม่มี” แจ๊คพูดก่อนจะหันไปทางฟิน “แต่หมอนี้มี”
เมื่อได้ยินดังนั้นคุณจึงหันไปทางฟินด้วยความสงสัย
“เอ่อ...” ชายหนุ่มอึกอักเล็กน้อยฟินยกนิ้วขึ้นมาเกาแก้มตัวเองอย่างเขินๆ “คือฉันเป็นคนที่เปิดประตูให้เธอเมื่อตอนเย็นน่ะ พอดีเพิ่งเห็นรอย... ก็เลยโมโหหมอนี้ค้างนิดหน่อย พอเจอเธอก็เลยทำท่าทางไม่ดีไป ขอโทษนะ” ฟินพูดเรียบๆแต่สายตาจริงใจกับใบหน้าที่ขึ้นสีด้วยความอายนิดๆนั้นทำให้คุณหายหงุดหงิดไปได้เยอะเลย ว่าแต่...ฟินเนี่ยนะคืออีตาขี้วีนเมื่อตอนนั้น ไม่อยากจะเชื่อเลยแหะ…
พอพูดจบฟินก็เงียบเสียงไป ชายหนุ่มเม้มสีฝีปากสีสดเป็นเส้นตรงรอคุณเอ่ยคำให้อภัยเขาอยู่
“อ่าหะ ไม่เป็นไร” คุณตอบ “มีเรื่องแค่นี้ใช่ไหม?”
“ใช่” แจ๊คตอบแทนฟิน ก่อนจะเอาแขนตัวเองคล้องคอพี่ชายฝาแฝดที่กำลังทำหน้าดุนิดๆใส่เขาอยู่แล้วบอกลาคุณ “ตอนหลับฝันดีนะ บาย~”
“บาย” ฟินบอกลาคุณสั้นๆใบหน้าหล่อใสวิ้งมีแววตาขอโทษจริงจัง ก่อนจะโดนแรงของน้องชายลากไปทางห้องนอน
คุณมองตามพี่น้องฝาแฝดไปจนทั้งสองกลับเข้าห้องของฟินไป คุณนิ่งอึ้งอยู่สามวิก่อนจะเดินเข้าห้องไปแล้วเอาหน้าซุกหมอนกรี๊ดออกมาดังๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับผมที่ยุ่งนิดๆ
“ความรักต้องห้าม! เป๊ะทั้งพี่ทั้งน้อง เลือกบนล่างไม่ถูกเลยนะเนี่ย!!! อิ่มจัง..... อิ่มใจอ่ะ อ๊ายยยยย!”
อ้อ... คุณไม่ได้กรี๊ดคนหล่อแบบธรรมดานี้นะ
หลังจากคุณอาบน้ำเสร็จคุณก็ลองเปิดโน๊ตบุ๊คทดลองอินเทอร์เน็ตด้วยการ.... เสิร์ชฟิคdm/hpอ่าน
และในระหว่างที่คุณกำลังเพลิดเพลินเขินระทวยกับบทอันสนุกสนานของฟิคนั้นเอง...
“โอ๊ย ตายๆๆๆ เดรโกรุกหนักๆเลยนั้นแหละ ต่อยแล้วจับกดเลยนะ.... ”
บึ้มมม
อยู่ๆก็มีเสียงระเบิดเบาๆควันพร้อมกับประกายระยิบระยับลอยทั่วห้องคุณอึ้งเล็กน้อยพร้อมกับวิ่งไปเปิดหน้าต่างให้ควันระบายออก อากาศเย็นเฉียบของลมด้านนอกทำให้คุณขนลุกอย่างบอกไม่ถูก และเมื่อหมอกควันจางแล้วภาพที่เห็นทำให้คุณอยากกรี๊ดเข้าไปใหญ่ เพราะคุณกำลังเห็นตัวละครในนิยายเรื่องโปรดมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงแฮร์รี่ พ็อตเตอร์! กับเดรโก มัลฟอย!
เห็นสองคนนี้ก็ว่าตื่นเต้นแล้วแต่ไม่เท่าไอ้ท่าเดรโกกำลังคร่อมแฮร์รี่อยู่แบบเต็มสองตาจับต้องได้หรอกนะ มือแกร่งยึดข้อมือสองข้างของแฮร์รี่ไว้ เสื้อผ้าหลุดรุ่ย ใบหน้าแทบจะชนกัน…
“กล้อง! เอากล้องไปไว้ไหนล่ะเนี่ย!!!”
.
.
.
ความคิดเห็น