ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ&SNSD] Catch me if you can : จับให้ได้สิ! ถ้านายแน่จริง?

    ลำดับตอนที่ #1 : CATCH ME IF YOU CAN : I

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 889
      2
      22 เม.ย. 55

    CATCH ME IF YOU CAN : I 

      
                 “ในบรรดาสมาชิกโซนยอชีแด...มีน้อยกว่าครึ่งค่ะที่กำลังตกหลุมรัก” เสียงของฉันดังขึ้นจากในจอทีวีของห้องซ้อมเต้นตึกเอสเอ็ม แน่ล่ะ... โซวอนทั่วโลกได้ยินประโยคนี้คงกรี๊ดกันหูดับ หรือไม่ก็ร้องไห้จะน้ำท่วมโลก คงไม่มีใครมานั่งนอยคนรามยอนจนอืด... คงไม่มีน่ะนะ ยกเว้นไว้คนนึง...

                    “เธอใช้คำผิด -*-” โจคยูฮยอน มักเน่ออนท็อปของวงซุปเปอร์จูเนียร์กำลังนั่งหน้าบูดอยู่ข้างฉัน ไม่พอใจเอามากๆกับประโยคที่ตัวเองเตี๊ยมไว้ให้พูดเหมือนกัน... มันไม่เหมือนตรงไหนฟระ -*-

                    “ตรงไหนล่ะที่ผิด?” ฉันถามกลับ

                    “เธอบอกว่าตกหลุมรักอ่ะ จริงๆมันต้อง มีน้อยกว่าครึ่งค่ะ ที่มีคนรัก

                    “ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหนเลย”

                    “ต่าง!” อีตาบ้านี่เถียง เดี๊ยะแม่ก็หลังแหวนซะนี่ -*- ถ้าไม่ติดว่าเป็นแฟนล่ะก็นะ...

                    แฟน ใช่ค่ะแฟน... มักเน่ของซุปเปอร์จูเนียร์นี่แหละแฟนฉัน

                    แล้วก็ไอ้ประโยคที่เราเตี๊ยมกัน มันก็เป็นส่วนนึงในโปรเจคต์ประกาศความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของของหมอนี่นั่นล่ะ =_=” คืออยู่ดีไม่ว่าดี คบกันแบบลับๆเอาแค่เพื่อนๆในวงรู้มันก็น่าจะพอ แต่นี่พี่แกต้องการจะบอกให้โลกรู้เหลือเกินว่าเราคบกัน รู้มั้ยว่าทำยังงั้นน่ะลากคอตัวเองลงเหวชัดๆ!

                    “เพราะเธอพูดไม่เหมือนกัน ดูดิ๊ ไม่เกิดกระแสเลย” พี่แกนั่งคลิกๆแมคบุ๊คโปรเช็คข่าวในเว็บบอร์ดแบบเซ็งๆ อย่างเนิร์ดอ่ะ =_= จริงๆแผนของเค้าคือ จงใจให้เราสองคนพูดเหมือนกันว่ามีสมาชิกในวงบางคนมีแฟนอยู่ ประมาณว่าถ้าเราพูดเหมือนกัน แฟนคลับบางส่วนน่าจะรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง จนถึงขั้นอาจจะเดาได้ว่าเราเตี๊ยมกันมา และเข้าใจไปว่าเราคบกันอยู่ รวมถึงช่วยปลุกกระแสคยูซันให้โลกรับรู้!

                    โคตรจะเพ้อเจ้อเลย -*-

                    “ฮึ่ย รูปที่คราวที่แล้วปล่อยไปก็หายเงียบไปเลย แบ็คฮักแท้ๆนะนั่น ทำไมคยูซันมันเชียร์ยากเชียร์เย็นยังงี้เนี่ย” หมอนั่นบ่นกระปอดกระแปดอีกละ ประจำอ่ะ รูปที่ว่าคือรูปที่เจ้าเราไปถ่ายแบบ SPAO ด้วยกัน เจ้าตัวก็ดั้นด้นไปขอถ่ายรูปคู่กับฉันให้ได้ทั้งๆที่จริงๆแล้วตัวเองโดนจับคู่กับซอฮยอน ยูริ ยุนอา ส่วนฉันก็ได้คู่กับพี่ซองมินตลอดเวย์ =__=

                    “ดีแล้วล่ะที่ไม่มีใครรู้ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่นะ” ฉันพยายามโน้มน้าว

                    “แต่พี่ไม่อยากหลบๆซ่อนๆ เราคบกันมาจะสองปีแล้วแต่ยังไม่เคยได้ไปเดทด้วยกันซักครั้งนะซันนี่” พี่คยูฮยอนพูดขึ้นมา ท่าทางจะน้อยใจจริงจัง ที่เค้าพูดมาก็จริงแหละ เราสองรู้จักกันมานาน... ตั้งแต่วันแรกที่ฉันออดิชั่นเข้ามาที่นี่ แล้วเขาเพิ่งจะหายจากอุบัติเหตุรถคว่ำ ก่อนที่ฉันจะเดบิวท์ เราเป็นคนแปลกหน้าท่ามกลางสมาชิกโซนยอชีแดคนอื่นๆที่เขาสนิทด้วยอยู่แล้ว แต่เพราะยังงั้นล่ะมั้ง ความรู้สึกของเราเลยไม่ได้เริ่มที่พี่น้อง ก็ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มหันมามองฉันบ่อยๆ คอยให้คำแนะนำฉันในฐานะสมาชิกที่ถูกเพิ่มเข้ามาเหมือนอย่างที่เขาเคยเป็น โดยที่ไม่รู้ตัว มันก็กลายเป็นว่าฉันมองแต่ผู้ชายคนนี้ ตกหลุมรักผู้ชายคนนี้เข้าไปเต็มๆ แต่กว่าเราจะเริ่มคบกัน พวกเราก็ตกอยู่ในสถานะไอดอลแนวหน้าของวงการไปซะแล้ว ไอดอลที่มีกฏคอขาดบาดตายว่าห้ามมีแฟน เพราะงั้นสถานที่เดทของเราเลยวนเวียนอยู่แค่ในห้องซ้อมกับในตึกเอสเอ็ม แล้วก็นานมากกกกกว่าจะหาโอกาสอยู่กันสองต่อสองได้ จนกระทั่งสมาชิกในวงเริ่มเอะใจแล้วรู้เรื่องนั่นแหละ ทุกคนเลยช่วยกันเก็บความลับ แล้วก็หาโอกาสให้พวกเราได้มีเวลาร่วมกันมากขึ้น

                    มันก็ดีน่ะนะ... ถ้าไม่ใช่ว่ายัยพวกนั้นเห็นดีเห็นงามกับพี่คยูฮยอน จะจับฉันแฉเรื่องนี้ -*-

                    ฉันเลยต้องอาศัยความสามารถส่วนตัวชิ่งหนีพี่แกมาตลอด - -+

                    ไม่ว่าจะด้วยการสร้างกระแสคยูซอ ไอเดียใน MV SEOUL นั่นฉันเป็นคนเสนอให้จับมักเน่คู่มักเน่ แล้วไหนจะการสร้างเลิฟไลน์กับผู้ชายคนอื่นในรายการต่างๆ

                    แหม... ไม่ได้มีความสุขหรอกนะ ที่ทำน่ะ แต่เพื่อความอยู่รอดของชีวิตไอดอลต่างหากล่ะ

                    “ฉันรู้ค่ะ แต่ว่าเราเป็นไอดอลนะ สำหรับฉัน... ขอแค่ให้เราได้อยู่ด้วยกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ขอแค่มีพี่อยู่ฉันก็มีความสุขแล้วล่ะ” ฉันพูดอ้อนเขาเหมือนทุกครั้งแล้วเขาก็ใจอ่อนทุกที พี่คยูฮยอนขยี้ผมฉันเบาๆก่อนจะถือโอกาสหอมแก้ม อ๊าย เขินนะเนี่ย >\\\<

                    “เห็นหัวพวกเราหน่อยก็ดีนะมักเน่ =__=” พี่ชินดงพูดขึ้นมา เอ่อ... ลืมไปเลยว่าฉันอยู่ในห้องซ้อมของพี่ๆเอสเจ คนอื่นๆทำสีหน้าแบบ อยากวิ่งเข้ามากระทืบไอ้น้องเล็กเต็มแก่

                    “ไอ้คนที่เขียนคำขอแต่งงานลงบนปกอัลบั้มน่ะ ไม่ต้องมาบ่นเลย” ดูมัน! ถ้าฉันเป็นพี่ชินดงฉันกลิ้งทับจริงๆด้วย

                    “รับรองว่าถ้าแฟนแกไม่ใช่ซันนี่ ฉันว่าแกทำยิ่งกว่านั้นอีก” พี่เยซองช่วยเถียง แล้วไอ้คุณแฟนสุดหล่อฉันก็ยิ้มโหดๆ เฮ้ย... ท่าไม่ดีแล้ววุ้ย

                    “ต่อให้เป็นซันนี่ผมก็กล้า ผมจะประกาศให้โลกทั้งโลกรู้เลยว่าเราคบกัน!

     

     

                ประกาศให้ทั้งโลกรู้ว่าเราคบกัน...

                    ด้วยการไปร้องเพลงดูเอ็ทกับซอฮยอนใน SM World Tour

                    “มันบ่นซะไม่มีชิ้นดีเลยอ่ะ” พี่ซองมินโร่มาฟ้องฉันตั้งแต่แผนนี้เข้าที่ประชุม “มันแค่ไปบอกพี่ผู้จัดการว่า อยากร้องเพลงคู่กับโซนยอชีแดพอพูดงั้นปุ๊บทุกคนก็จับคู่คยูซอเลย”

                    “ก็คยูซอขายได้ตลอดนี่คะ ไม่เหมือนคยูซัน” ฉันพูดตอบกลับไป ทำไมฟังเหมือนดูประชดก็ไม่รู้ แต่ว่า... ก็นะ จนแล้วจนรอด ผ่านมาไม่รู้กี่เสตจ ฉันก็ไม่กล้าดูสองคนนั้นร้องเพลงคู่เต็มๆตาสักที

                    หึง? เปล่านะ ไม่หึงหรอก ซอฮยอนไม่ได้คิดอะไรกับพี่เค้าเลยสักนิด แถมยังรู้อยู่แล้วอีกต่างหากว่าเราคบกัน

                    แต่มันก็แค่อิจฉา... เห็นใครๆก็ว่าเค้าจับมือกัน มีโมเมนท์นู่นนี่ แถมแฟนๆให้การตอบรับดีอีกต่างหาก บางทีฉันก็อยากมีอะไรแบบนั้นบ้าง แต่แน่นอนว่าถ้าเอาอนาคตไอดอลของเราไปเสี่ยง ฉันยอมรูดซิปปิดปาก ทำเป็นไม่รู้จักเค้าไปเลยดีกว่า...

                    “ไง เรา งานนี้ตัวเต็งเลยนี่” พี่อีทึกเดินมาตบบ่าฉันกับยุนอาที่นั่งข้างกัน ตอนนี้เราแต่งตัวอยู่หลังเวทีในงาน SBS Song Festival ค่ะ พี่ทึกกับพี่ฮยอกกี้เป็นพิธีกรด้วย แล้วก็เดินร่อนทักรุ่นน้องไปทั่วเลย =__=

                    “แหม พี่ก็ งานนี้มัรุ่นน้องที่เด่นๆตั้งหลายวงนะคะ แถมพวกพี่เองก็ยอดขายเยอะกว่าเราอีกมั้ง?” ฉันตอบกลับไป

                    “อะไร? พี่ไม่ได้หมายถึงเรื่องรางวัลนี่หรอกนะ หมายถึงเรื่องละครเวทีของเธอต่างหาก”

                    “ละครเวที?” ยุนอาหันมามองฉันตาโต แน่นอนว่าฉันก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรไปมากกว่ากัน

                    “ก็เธอน่ะ เป็นตัวเต็งบทนางเอกละครเวทีเรื่องใหม่ที่ค่ายเราซับพอร์ตนี่... เรื่องอะไร Catch me if you can มั้ง?”

                    “หา!?” ฉันกับยุนอาร้องเสียงหลง ยังไม่ทันจะถามอะไร พี่คิบอมผู้จัดการวงเราก็เดินเข้ามา

                    “ซันนี่ พรุ่งนี้เดี๋ยวเธอไปแคสบทละครเวทีด้วยนะ อ้อ! ไปขอบคุณคยูฮยอนด้วย รายนั้นน่ะเชียร์บทนี้ให้เธอน่าดูเลย” พี่คิบอมตบหลังฉันที่ช็อคจนพูดอะไรไม่ออก ฉันอยากเล่นละครเวที แล้วฉันก็เคยบ่นกับเขาว่าอยากเล่นตั้งแต่ตอนแอบไปดูเขาเล่นเรื่องสามทหารเสือ

                    “เอ่อ... ที่พี่บอกว่าพี่คยูฮยอนเชียร์พี่ซันนี่นี่หมายความว่า?” ยุนอาหันไปถาม สายตาวิบวับแบบคาดหวังสุดๆ

                    “อื้อ เรื่องนี้คยูฮยอนเล่นเป็นพระเอกน่ะ”

                    นั่นไง ชัดเลย

                    หมอนี่หาเรื่องให้ฉันอีกแล้ว!

     

     

                ผมกำลังอารมณ์ดีสุดๆ เพราะก่อนจะมางานนี้ พี่ซึงฮวาน ผู้จัดการคนเดียวที่รู้ความลับของผมเพิ่งส่งข้อความมาบอกว่า ทีมงานละครเห็นด้วยกับไอเดียที่จะให้ซันนี่มาเล่นบทนางเอกในละครเวทีเรื่องล่าสุด แน่นอน พี่ซึงฮวานช่วยเชียร์สุดฤทธิ์ แถมยังพยายามยัดผมใส่ลงไปเล่นคู่กับซันนี่ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่นั่นก็แค่ห้ารอบ แต่ถึงงั้นผมก็ดีใจแล้วล่ะ

                    “ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะไอ้น้องเล็ก” พี่ดงเฮเอาข้อศอกสะกิดผม

                    “อ่ะ แน่นอน เป็นพี่ พี่จะไม่ดีใจเหรอ?” ผมยิ้มกว้างตอบกลับไป นอกจากจะทำให้ความฝันเธอเป็นจริงแล้ว ผมยังได้มีโอกาสใช้เวลาร่วมกับซันนี่ นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะได้ทำงานร่วมกันแบบออกนอกหน้านอกตาทั้งๆที่เราเดินเฉียดกันไปเฉียดกันมาหลายปีดีดักแล้ว

                    “โน่น มาโน่นแล้ว” ผมหันไปตามที่พี่ดงเฮบอกแล้วก็เห็น เจ้าหญิงของผมอยู่ในชุดเต็มยศสำหรับแสดงเพลง The boys สิก้าโบกมือให้ผมจากเวทีอีกฟาก ผมอยากมองซันนี่ใจจะขาดแต่ก็ทำได้แค่เหลือบมองไปทางอื่นใกล้ๆกับเธอ ทำเหมือนว่ามองฉากและบรรดาแฟนคลับ

                    ซันนี่กับเจสสิก้าเดินมาทางเรา แน่นอน เก้าอี้ข้างผมว่างอยู่ข้างตัว ถ้าเป็นปกติ ซันนี่จะไล่คนอื่นมานั่งข้างๆผม แต่คราวนี้เธอกลับเดินมานั่งเองโดยไม่ต้องให้ผมส่งสายตาวิงวอนแกมบังคับ

                    “ไง ฝีมือพี่สินะ เรื่องละครเวทีน่ะ” ซันนี่กระซิบบอกผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนเราทักกันธรรมดา แต่ผมรู้ว่าเธอแอบเคือง

                    “ไม่ดีใจเหรอที่เราได้เล่นด้วยกัน” ผมกระซิบตอบแกล้งทำเป็นเหม่อมองไปทางอื่น ซันนี่ทำแค่ตวัดตามองผมเคืองๆ แล้วกันกลับไปคุยกันต่อ จังหวะนั้นพี่ชีวอนก็เหวี่ยงเสื้อสูทข้ามหัวผมมาให้สองสาว ผมจิกตามองพี่แกอย่างหมั่นไส้แล้วก็ทำเป็นกรี๊ดกับความแมนของเค้า โดยมีซันนี่ที่นั่งข้างๆรับมุก

                    แน่นอน เรื่องความเกรียนเนี่ยขอให้บอกคู่เราเหอะ

                    เราสองคนนั่งดูการแสดงเงียบๆ ผมอยากจับมือซันนี่ใจแทบขาด แต่เธอกลับเล่นจุ๊กจิ๊กอยู่กับเจสสิก้าแล้วก็พี่ดงเฮ ด้วยความหมั่นไส้พี่ชายตัวดี ผมเลยแตะหน้าแข้งพี่แกทีนึงใต้โต๊ะ

                    “ทำมาหวงนะ ไอ้น้องเล็ก”

                    “ถ้าพี่มีแฟนผมจะทำมั่ง”

                    ซันนี่ได้ยินสิ่งที่ผมพูด แต่เธอทำนิ่ง... นิ่งจนผม หงุดหงิด ทำไมนะ ทั้งๆที่ผมอยู่ใกล้กับเธอแค่เอื้อม แต่ผมกลับจับมือเธอไม่ได้ กอดเธอไม่ได้ แสดงความเป็นเจ้าของเธอไม่ได้

                    ...การแสดงละครเวทีครั้งนี้แหละ ผมจะทำให้ทุกคนเห็น

                    เอาให้ทุกคนบนโลกรู้ไปเลยว่าคยูซันมีอยู่จริง!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×