คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CATCH ME IF YOU CAN : III
เล่นฉันซะแสบเชียวนะคะที่รัก -*-
คนสวยอยากจะกรี๊ดๆแล้วลงไปดิ้นอยู่กับพื้น ไอ้คุณแฟนบร้า T^T มันดันเชิญนักข่าวมาดูรอบซ้อมของเรา แล้วไม่บอกกันก่อนด้วย!
ไม่ต้องนับการสกินชิพแบบล้นหลามที่ไม่ได้มีในบท โอ๊ย! คนสวยอยากจะบ้า นี่มันต้องเป็นประเด็น เป็นประเด็นใหญ่เท่าโลกแน่ๆ!
เอ็งทำงี้ออกไปพูดกะนักข่าวเลยดีกว่าว่าเราเป็นแฟนกัน! -*-
“ทำไมเล่นแข็งๆแบบนั้นล่ะ ซุนคยู?” โจคยูฮยอน แฟน และศัตรูหมายเลขหนึ่งในตอนนี้ของฉันเดินเข้ามาโอบบ่า ต่อหน้าประชาชี แน่จริงจับฉันกดเลยเซ่!
“ฉันยอมโดนด่าว่าเล่นละครไม่เป็น ดีกว่าเกิดประเด็นเรื่องคบกับพี่” ฉันแยกเขี้ยวตอบหมอนั่นที่ทำหน้าตากวนบาทาสุดฤทธิ์
ยังไม่ทันที่เราจะได้กัดอะไรกันต่อ ทีมงานก็เชิญเราสองคนมานั่งปั้นหน้ายิ้มตอบคำถามสัมภาษณ์
“แหม ทำไมนั่งซะห่างกันขนาดนั้นล่ะคะ?” นักข่าวสาวคนหนึ่งที่ชื่อคิมอีนายิงคำถามแรกขึ้นมาเรียกเอาคนอื่นๆหัวเราะ ฉันยกมือขึ้นปิดปาก ขำนิดๆแบบมีมารยาทก่อนจะตอบออกไป
“ก็นอกจากแสดงละครแล้ว พี่คยูฮยอนเค้าเป็นสมาชิกซูจูคนเดียวที่ฉันสนิทด้วยน้อยที่สุดน่ะค่ะ^^”
หนึ่งแต้มฝั่งซุนคยู - -+
“แต่ผมว่าหลังจากละครเรื่องนี้แล้วเราคงซี้ปึ้กกันเลยล่ะครับ ^^”
ฮึ้ย... โดนสวนกลับพร้อมการลวนลามทางสายตา
“งั้น... เรามาเริ่มการสัมภาษณ์กันเลยดีกว่านะคะ” นักข่าวคนเดิมพูดขึ้นมาพร้อมกดปุ่มเครื่องอัดเสียง
คำถามแรกๆเป็นของพี่ผู้กำกับ เกี่ยวกับเรื่องการแคสฉันและพี่คยูฮยอนเข้ามาเล่นเป็นตัวเอก พี่เค้าตอบซะน่ารักเลยว่าคิดไม่ผิดที่เลือกเราสองคนเข้ามา แต่ไอ้คำสุดท้ายนี้มันเล่นเอาฉันแทบจุก
“สองคนนี้ถึงแม้จะร่วมงานกันเป็นครั้งแรก แต่เคมีเข้ากันสุดๆเลยครับ”
ทำร้ายยยยยยยยยยย!!! T^T
ส่วนยัยนักข่าวก็จดยิกเชียวนะ -*-
คำถามต่อๆมาเป็นของพี่คยูฮยอน เฮอะ... คิมกูราจูเนียร์ ระดับนี้พูดคำยิงมุกสามคำอยู่แล้ว เขากำลังเล่าความเป็นมาคร่าวๆของตัวละครแฟรงค์ อบาเนล จูเนียร์ อันที่จริงคือพี่แกสปอยล์มันทั้งเรื่อง =__=
“มีตรงไหนที่คิดว่าคาแรคเตอร์ตัวนี้คล้ายกับคุณบ้างมั้ยคะ?”
“อืม... คงจะเป็นเรื่องความรักมั้งครับ”
อุแม่เจ้า! คนสวยแทบตกเก้าอี้!
“ถึงแฟรงค์จะมีผู้หญิงมาเกาะแกะมากมาย แต่เค้าก็รักแบรนด้าคนเดียว เค้าหลอกคนอื่นๆมาก็เยอะ แต่เพียงคนเดียวที่เค้าพูดความจริงด้วยก็คือคนที่เค้ารักน่ะครับ ที่ผมพูดยังงี้ไม่ได้จะสื่อว่ามีแฟนหรืออะไรหรอกนะ แค่คิดว่าผมเอง ถ้ามีคนรัก ผมก็คงจะซื่อสัตย์กับเธอแบบนั้นเหมือนกัน”
ฆ่าเลยค่ะ! ฆ่าอีซุนคยูคนนี้ให้ตายไปเลย!!!
“แล้วบทแบรนด้าล่ะคะ?”
“อ๋อ สำหรับฉัน... คงเป็นเรื่องความเสียสละน่ะค่ะ ตอนฉากสุดท้ายของแบรนด้า เธอยอมปล่อยให้แฟรงค์หนีไปก่อนงานหมั้น ทั้งๆที่เจ็บปวด แต่ก็ยอมเสียสละเพื่อให้คนรักเดินต่อไปตามเส้นทางของตัวเอง ถ้าหากฉันมีความรัก ฉันก็หวังว่าฉันจะทำได้อย่างเธอค่ะ ^^” สีหน้าโจคยูฮยอนดูเหวอไปสนิท
ฮึ! ฉันก็บลัฟฟ์กลับได้เหมือนกันนะยะ!
การสัมภาษณ์จบลงอย่างสวยงามพร้อมๆกับที่การซ้อมสิ้นสุดลงด้วยเช่นกัน ฉันโบกมือลาทีมงาน แล้วเดินดุ่มๆ กลับไปขึ้นรถตู้ทันที หมอนั่นก็ทำอย่างเดียวกัน ชิ!
ตริ๊งๆ~
โทรศัพท์ของฉันดังขึ้นทันที แหมยังกับรู้คิวแน่ะ
“นี่เราจะทำสงครามกันใช่มั้ย?” เสียงนุ่มๆของพี่คยูฮยอนดังขึ้นมาทันทีที่ฉันรับสาย
“คงงั้นมั้ง? พี่เริ่มก่อนนี่”
“เธอนั่นแหละ กับแค่บอกคนอื่นว่าเราคบกัน เรื่องแค่นี้เอง”
เรื่องแค่นี้ เรื่องแค่นี้!! โจคยูฮยอน เรื่องแค่นี้เหรอ!!!???
“ย่าห์!!! นี่พี่รู้รึเปล่าว่าพูดอะไรออกมาน่ะ”
“อีซุนคยู เธอเป็นแฟนฉัน วันนึงในอนาคตเราจะแต่งงานกัน เพราะงั้น จะบอกวันนี้ มะรืนนี้ หรือเมื่อไหร่ คนทั้งโลกก็ต้องรู้อยู่ดี!”
ตรู๊ด... ตรู๊ด...
เขาวางสายไปแล้ว อ๊ากกกกกกกกกกกกกก กรีดร้องงงงงง!!! ไม่เคยมีใครบังอาจวางสายใส่ฉันทั้งๆที่ยังพูดไม่จบนะ!!
ฉันนั่งหงุดหงิดอยู่สักพัก แล้วก็นึกอะไรดีๆออก...
เอาซี้ อยากแฉก็แฉไปเลย
แล้วก็จะได้รู้ว่าอีซุนคยูคนนี้ไม่ยอมให้จับง่ายๆหรอก!
ผมโดนเอาคืน...
แบบว่าอย่างจังเลยด้วย
ในทีวี แฟนผม อีซุนคยูกำลังอี๋อ๋ออยู่กับอิมซึลองวง 2AM เฮ้ย! อะไรวะ! มีควงแขนกันด้วย ทำกับข้าวด้วยกันด้วย!!
“คยูฮยอนอา...รีโมท...จะหักแล้ว” พี่ซองมินทักผม นี่ผมกำลังทำอะไรเนี่ย? ผมกำรีโมทแน่นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“นายทะเลาะอะไรกับซันนี่รึเปล่า?” รยออุคหันมาถามแบบหวาดๆ ผมแค่ตวัดสายตาพิฆาตไป แล้วคุณเพื่อนสุดที่รักก็หันกลับไปก้มหน้าก้มตากินข้าวกับพี่ซองมินต่อ เสียงหัวเราะคิกคักของซันนี่ยังคงดังมาจากทีวี
ทนไม่ไหวแล้วเว้ย!!!
ผมกดโทรศัพท์หายัยตัวเล็กนั่น มันดังเป็นสิบๆครั้งเลยก่อนเธอจะรับสาย
“อื้อ ฮโยมินอ่า” เสียงเล็กๆตอบกลับมา เธอเมมเบอร์ผมไว้ด้วยชื่อฮโยมินวงทีอาร่าครับ และก็จะรับโทรศัพท์แบบนี้เวลาอยู่ต่อหน้าผู้จัดการหรืออยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ =__=;
“ซันนี่ บอกพี่มาว่าไอ้รายการชองชุนบุลแพนี่มันอะไร!”
“ใจเย็นๆสิ ฉันทำอะไรเมื่อไหร่?” น้ำเสียงดี๊ด๊าน่าหมั่นไส้นั่นยิ่งทำผมเดือดปุดๆ
“เราเคยคุยกันไว้แล้วนี่ว่าจะไม่มีเลิฟไลน์อีก ตั้งแต่รันนิ่งแมนกับซงจุงกิ ตั้งแต่ชองชุนบุลแพซีซั่นแรกกับซนโฮยอง ตั้งแต่ ตั้งแต่... ตั้งแต่เธอบอกว่าเธอรักพี่!”
“ขี้ตู่จังเลยนะ ฮโยมิน เธอยังเคยบอกอยู่เลยว่าชอบสไตล์การแรปของฮเยริม ^^~”
ผมงงกับคำพูดเธอไปพักหนึ่งแล้วก็นึกขึ้นได้ เธอหมายถึงฮเยริม--เลิฟไลน์ระหว่างผมกับมักเน่วงวันเดอร์ เกิร์ล รายการคัมทูเพลย์เมื่อปีมะโว้นั่น! ไอ้เลิฟไลน์ที่ไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่แตะปลายผม! แต่นี่ซันนี่ทั้งจับมือ ควงแขน ป้อนอาหารให้กัน มันเหมือนกันซะที่ไหนเล่า!!!
ผมยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไรเลย เธอก็ตัดบทขึ้นมาซะก่อน
“ไว้คุยกันต่อวันหลังแล้วกันนะ ฉันต้องไปทำงานต่อแล้ว บายฮโยมินนี่~”
ซันนี่วางสายใส่ผม! เฮ้ย!!!
เฮ้ยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!
แม่ว้อยยยยย!! หงุดหงิด โกรธ พาล ‘รมณ์เสีย -*-
“เฮ้ย! คยูฮยอน! อย่านะเฟ่ย นั่นผลิตภัณฑ์ของสตีฟ จ็อบส์ อย่านะเว่ยไอ้น้อง” พี่อึนฮยอกร้องเสียงหลง แล้วกว่าผมจะรู้ตัว ไอโฟนสุดที่รักก็เกือบโดนเขวี้ยงไปปะทะฝาห้อง
อิทธิพลจากอีซุนคยูแท้ๆ!
“ฮึ่ย!” ผมทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างหงุดหงิดแล้วขยี้หัวตัวเองแรงๆ
ได้... เล่นงี้ใช่มั้ย อีซุนคยู...
เกมมันไม่จบง่ายๆแค่นี้หรอกน่า!
ตาบ้านั่นต้องโกรธฉันชัวร์ป้าบ เจอแบบนั้นไปไม่โกรธยังไงไหวล่ะ
ฮึ! ช่วยไม่ได้ ก็อยากมาหาเรื่องกันก่อนนี่นา...
“เป็นอะไรไป ซันนี่ ถอนหายใจใหญ่แล้วนะ” แทยอนเงยหน้าขึ้นมาถามฉันระหว่างที่เรากำลังกินข้าวกันอยู่ ใช่ สำหรับคนอื่นน่ะเป็นการกินข้าว แต่สำหรับฉันน่ะ แค่นั่งเขี่ยถั่วงอกเล่น
“ตอบหน่อยซิ พี่คยูฮยอนไม่ดีตรงไหน”
คำถามของฟานี่เล่นเอาฉันอึ้งกิมกี่ ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว
“ก็ไม่ได้ไม่ดีตรงไหน”
“แล้วทำไมเธอถึงได้ไม่อยากให้เค้าเปิดเผยว่าคบกันอยู่”
“ถ้าเป็นเธอเธอกล้ารึไง?” ฉันสวนกลับ แต่เจสสิก้ากลับทิ้งตัวลงนั่งข้างฉันอีกฝั่ง
“ก็ไม่ได้กล้าไปมากกว่าเธอหรอก แต่ไอ้สิ่งที่เธอทำอยู่น่ะมันเรียกว่าเข้าขั้นวิตกจริตแล้วย่ะ มีอย่างที่ไหน เมมชื่อแฟนเป็นฮโยมินวงทีอาร่า”
อ้าวแหม... ใครๆก็รู้ว่าฉันกับฮโยมินสนิทกัน จะโทรหากันบ่อยก็ไม่แปลก มุกนี้ออกจะเนียน
“เหรอ ฉันวิตกจริต ในขณะที่เธอชวนแฟนไปกินข้าวแล้วโกหกออกรายการหน้าตาเฉยว่าไม่มีอะไรในกอไผ่เนี่ยนะ?”
“จริงๆฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธร้อยเปอร์เซ็นต์ซักหน่อย แค่บอกว่าไม่มีอะไรต้องปิดบังเพราะเราบริสุทธิ์ใจ แล้วก็บอกว่าฉันสนิทกับเขาเหมือนพี่ชายคนนึง” เจสสิก้าแลบลิ้นใส่ฉัน ฮึ! พี่แทคยอนสนิทกับพวกเราก็เพราะเป็นแฟนเจสสิก้าเนี่ยแหละ!
“ประเด็นคือ สิก้ากับพี่แทคยอนไม่ได้ปิดบังอะไร แต่ถ้าใครมาถามก็ตอบว่าไม่แค่นั้น เทียบกับสิ่งที่เธอทำกับพี่คยูฮยอนเนี่ย ถ้าฉันเป็นพี่เค้าฉันน้อยใจนะ เธอปิดบังซะยิ่งกว่าชู้อีก” ทิฟฟานี่สวดฉันยกใหญ่
“เธอไม่เห็นรึไงว่าปริมาณแอนตี้แฟนล้มหลามมากแค่ไหน แล้วคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราประกาศออกไปว่าคบกัน ฉันว่าพวกเราโดนบอยคอตแน่”
“คิดมากน่า ตอนฮาราเปิดตัวว่ามีแฟนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรสักหน่อย” แทยอนก็ช่วยยุเข้าด้วยอีกคน เจริญจริงๆ เพื่อนพวกนี้มีใครเข้าใจความเจ็บช้ำของซันนี่บ้างมั้ย T^T
“ไม่รู้ล่ะ ฉันจะหนีให้ถึงที่สุด ไม่ยอมโดนแฉง่ายๆหรอก” ฉันพูดพร้อมกับตบโต๊ะ ตั้งปณิธานแน่วแน่
“แต่ก่อนจะทำงั้นช่วยไปง้อแฟนเธอก่อนน่ะ พี่ทึกกี้ส่งข้อความมาหาฉันว่าที่รักเธอจะอาละวาดพังหอเอสเจอยู่แล้ว” เจสสิก้าจิ้มโทรศัพท์ในมือเปิดข้อความให้ดูเป็นหลักฐาน
งานงอกเว้ยเฮ้ย =__=
ฉันถอนหายใจ คว้าเกมดีเอสแล้วลุกจากโต๊ะกินข้าวเดินเข้าห้องนอนไปเงียบๆ
ฉันทำเกินไปจริงๆเหรอ? ที่ทำเนี่ยเพราะรักต่างหาก
ทำไมโจคยูฮยอนไม่เข้าใจฉันเอาซะเลยนะ!
ความคิดเห็น