ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    B2ST SHORTFICTION

    ลำดับตอนที่ #1 : บริษัทว่าจ้างฆ่า :

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 56


    บริษัทว่าจ้างฆ่า


    สภาพตึกร้างในกลางดึกที่มีไม้เลื้อยต่างๆเลื้อยไปเกี่ยวเกาะ สีหนังของตึกขึ้นสีเหลืองอ่อนๆแสดงถึงอายุตึกร้าง ที่อยู่ตากแดดตากฝนมาแรมปี


    ภายในตึกมืดมิดแต่คงไม่มีใครรู้ถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่ง เสียงลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ไม่ได้แสดงถึงความวิตกกังวลกับสภาพบรรยากาศรอบตัวเลยแม้แต่น้อย


    เพียงชั่ววินาที กลิ่นคาวของเลือดสดๆคละคลุ้งไปทั่วบริเวณแต่กลับไม่มีแม้แต่เสียงกรีดร้อง คร่ำครวญ..
    ไม่มีเสียงที่แสดงถึงความเจ็บปวดหรือทรมาน 


    แสงอาทิตย์ที่สาดส่องกระทบตา ราวกับบอกเวลาให้สิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ตื่นขึ้นจากห้วงนิทรา บ้างก็ออกไปหาอาหาร บ้างก็ออกไปล่าเหยื่อ


    มนุษย์ก็เป็นสิ่งมีชีวิตเฉกเช่นสัตว์น้อยใหญ่พวกนั้น แต่สิ่งที่บอกว่ามนุษย์แตกต่างจากสัตว์พวกนั้น คือมันสมองที่คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ เครื่องกลทันสมัยขึ้นมาใช้


    แต่ในสังคมใหญ่ๆ มักจะมีคนหลายประเภทที่น่าสนใจ


    คนโลภ...ที่เห็นใครมีอะไรก็อยากได้อยากมีจนต้องไปแย่งชิงมา


    คนเห็นแก่ตัว...ที่เห็นเรื่องของตัวเองสำคัญที่สุด


    คนที่ดูถูกคนอื่น...คนที่คอยเหยียบย่ำคนอื่นให้จมดิน ทำให้ตัวเองดูเหนือกว่าในเรื่องบางเรื่อง 

    เพราะอะไรน่ะหรอที่ผมบอกว่าคนพวกนี้น่าสนใจ


    เพราะพวกเขาน่ะ...คือเงินก้อนใหญ่สำหรับผมเลยล่ะ


    ผู้คนที่ไร้ค่า โดนสังคมรังเกียจ และเป็นเหมือนหนอนเน่าตัวเล็กๆที่เกิดอยู่ในผลแอปเปิลลูกหนึ่ง
    พวกเขาเหล่านี้น่ะ สร้างรายได้มหาศาลกับผมเลยล่ะ : )

     

     


    "บริษัท ยงกุน จำกัด ยินดีต้อนรับ"


    เสียงพนักงานต้อนรับดังขึ้นทันทีที่ผมเดินย่างกรายเข้ามาในบริษัทรับจ้างสืบหาคนหาย เพราะมีคนแนะนำมาว่าบริษัทนี้ทำงานได้รวดเร็ว เมื่อมีคนมาว่าจ้างหาญาติให้ได้สำเร็จหลายราย


    "เจอโยแล้วหรอคะ ! เจอแล้วจริงๆใช่มั้ย!?"


    เสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ตะโกนโหวกเหวกโวยวายด้วยความดีใจ ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง
    ถ้าผมว่างจ้างบริษัทนี้ผมจะเจอเขาแน่ๆใช่มั้ย เขาจะเป็นยังไงบ้าง จะสุขสบายดีรึเปล่า จะลืมผมรึยัง
    และ...

     

     

     


    ยังจะรักผมอยู่รึเปล่า

     


    "ใช่ครับพวกเราตามตัวคุณโยเจอแล้ว นั่นคือข่าวดี แต่ยังมีข่าวร้ายอีกเรื่อง.."


    "ข่าวร้าย ? สำหรับฉันคงไม่มีเรื่องไหนเลวร้ายเท่ากับการที่โยหายไปหรอกค่ะ"


    "ใช่อยู่ที่เราพบคุณโยแล้ว ในสภาพที่คุณโยไม่หายใจ ผมเสียใจด้วย"


    เมื่อพนักงานคนนั้นพูดจบ ก็ชูรูปถ่ายใบหนึ่งขึ้นมา ซึ่งเนื่องจากที่ตรงนี้ที่ผมอยู่ไม่ได้อยู่ใกลกับพนักงานคนนั้นมากนัก จึงทำให้ผมเห็นรูปในกระดาษใบนั้นอย่างชัดเจน


    ภาพที่ผมเห็น สภาพของศพนั้นนอนหงายและเปลือยเปล่า รอยแผลฉกรรจ์บางรอยที่ผมเห็นนั้นบางรอยไม่สามารถบอกได้ว่าคนๆนี้โดนอะไรมาบ้าง แขนช้างซ้ายที่ดูเหมือนถูกใช้เลื่อย เลื่อยจนเกือบจะขาดอยู่แล้วหักงอลงมาอยู่ข้างตัว แขนข้างขวาถูกตัดนิ้วที่มือทั้งหมด เลือดที่เกรอะกรังตรงข้อต่อที่เคยเป็นที่อยู่ของนิ้วทั้งห้า สร้างความสยองให้กับคนที่เห็น ลำตัวที่เหมือนถูกมีดแทงเข้าไปจนลึกจนเลือดทะลักออกมารอบนอกอยู่หลายแผล ต้นขาทั้งสองข้างเขียวเหมืิอนโดนค้อนปอนทุบเข้าไปอย่างแรงจนกระดูกแหลกละเอียด

     


    ทำไมสภาพศพมันน่าเวทนาขนาดนี้

     


    "ไม่...ใครทำร้ายโย..ฮือ.."


    ผู้หญิงคนนั้นที่พึ่งดีใจกับข่าวดีได้ไม่ถึงสิบนาที เมื่ิอเห็นภาพใบนั้นก็กรีดร้อง ร้องไห้บ้าคลั่งแล้วหมดสติไป


    "คุณรันโชใช่มั้ยคะ?" 

    "ใช่ครับ คุณคือ..?"


    "เดินตามมาทางนี้เลยค่ะ คุณยงกุนรอคุณอยู่"


    เดี๋ยวนะ แล้วทำไมพนักงานคนนี้ไม่ตอบคำถามผม...เออช่างเหอะ


    โถงทางเดินที่ผมเดินตามพนักงานเข้ามาสองข้างทางทาด้วยสีดำ และประดับไฟสีขาวไว้ตลอด สร้างบรรยากาศขนหัวลุกให้ผมหัวลุกได้เลย เพราะตั้งแต่ผมเดินกับพนักงานของบริษัทที่ผมกำลังจะว่าจ้างแล้ว ก็ไม่เห็นพนักงานคนไหนอีกเลย ไม่เห็นห้องทำงานของแผนกต่างๆ ทางหนีไฟ หรือแม้แต่ห้องน้ำ มันเป็นแค่ทางตรงๆ ที่มีทางบังคับแค่สองทางคือเดินหน้าต่อ และหันหลังกลับ 


    "คุณรันโชคะ ถึงแล้วค่ะ"

     


    "ขอบคุณครับ.." 


    ยังไม่ทันที่ผมจะเปิดประตูเข้าไป สิงที่พนักงานคนนั้นพูดออกมาทำให้ผมต้องละงักและจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองอีกครั้ง


    "อย่าถามอะไรที่มันไม่ใช่เรื่องของคุณ เพราะมันอาจขึ้นอยู่กับความเป็นความตายของคนที่คุณตามหาอยู่ โชคดีค่ะ"


    ในเมื่อคนนั้นพูดแบบนี้ ผมควรจะต้องไตร่ตรองความคิดและคำพูดของผมให้ดีก่อนรึเปล่า แล้วทำไมพนักงานคนนั้นถึงบอกว่ามันขึ้นอยู่กับความเป็นความตายของคนที่ผมกำลังตามหาอยู่ แล้วจะรู้ได้ยังไงในเมื่อผมยังไม่ได้บอกเขาเลยว่าจะตามหาใคร


    "คุณยืนอยู่หน้าห้องผมนานไปแล้วมั้ง เข้ามาซักที ผมรออยู่"


    เสียงนิ่งๆ บ่งบอกว่าเจ้าของห้องที่นั่งรออยู่นานแล้วนั้นไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไร ทำให้ร่างที่ยืนอยู่ต้องเปิดประตูเข้าไปทันที


    "เอ่อ ผมอยากให้คุณช่วยตามหาคนๆหนึ่งให้ผมหน่อยครับ"


    "ยุนดูจุนน่ะหรอ ?"


    "คุณรู้..?"


    "อย่าตอบคำถามด้วยคำถามสิ แต่ในเมื่อคุณอยากรู้ผมก็จะบอกให้ ตอนที่คุณโทรมานัดเจอผมพร้อมชื่อ คุณคิดว่าทางบริษัทเราจะไม่ตรวจหาประวัติของคุณรึไง ว่าเป็นใครมาจากไหน แล้วมีใครบ้างที่สำคัญกับคุณ ประวัติคุณน่ะดีใช้ได้ แต่ประวัติดูจุนนี่สิ ด่างพร้อยซะไม่มี..คุณยังอยากเจอดูจุนของคุณอยู่รึเปล่าล่ะ?"


    พูดจบคนตรงหน้าก็มองหน้านิ่งๆเพื่อรอฟังคำตอบ


    "ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง จะดีจะร้าย ผมก็ยังอยากเจอและพูดคุยกับเขาอีกครั้ง" ผมตอบกลับไปด้วยแววตาจริงจัง


    "งั้นตกลง ผมจะตามหาคนของคุณให้ แต่ทางบริษัทไม่รับประกันความเป็นความตายของคนของคุณนะครับ มันขึ้นอยู่ที่คุณและพระเจ้ากำหนด คุณสามารถมาที่นี่ได้ตลอดเวลาเพื่อมาฟังความคืบหน้า คุณเป็นคนพิเศษ และตอนนี้ขอขอบคุณที่มาใช้บริการ เชิญครับ" 


    เสียงนิ่งๆ เอ่ยประโยคสุดท้ายเป็นเชิงนัยๆว่าออกไปได้แล้ว 


    ผมเดินออกจากห้องนั้นมาด้วยความงุนงงปนสงสัย ทำไมทุกคนที่ผมคุยถึงเน้นเรื่องความเป็นความตายของดูจุนนัก ทำไมถึงบอกไม่รับประกันความปลอดภัยของดูจุน อีกอย่างในเมื่อทางบริษัทสืบประวัติผมได้ แล้วทำไมไม่สืบประวัติดูจุนด้วยล่ะ


    ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ


    ยิ่งสงสัย...ผมยิ่งไม่มีทางรู้

     

     

     


    "บอสคะ รายนี้จะเอายังไง ตายหรือรอด?"

     

     

     

     

     


    "ตาย"

     

     

     


    มนุษย์ทุกคนย่อมมีด้านที่เห็นแก่ตัวเพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเอง ไม่มีหรอก คนที่เห็นคนอื่นสำคัญกว่าตัวเอง มันไม่เคยมีอยู่ในโลกของคนที่ชื่อยงกุน 


    GAME START

     

     

     


    READY

     

     

     


    GO

     


    ยุนดูจุนเป็นเพียงผู้ชายโลภมากคนหนึ่ง ที่ติดอยู่ในโลกของการพนัน การพนันคือชีวิตทั้งหมดของดูจุน ทุ่มทั้งเงิน ทุ่มทั้งแรงกาย 


    เพื่อปรนเปรอความโลภของตน


    เพื่อสนองสิ่งที่ตนต้องการ 


    เพื่อตัวเอง...ดูจุนคนนี้ทำทุกอย่างเพื่ิอตัวเอง


    พ่อแม่ของดูจุนตายไปแล้ว จึงทำให้ดูจุนให้ชีวิตเสเพลได้มากกว่าเมื่อก่อน และดูจุนไม่เคยรู้สึกผิดหรือเสียใจที่พ่อแม่ของตนนั้นตาย 


    รู้สึกผิดอะไรน่ะหรอ....การขับรถฆ่าผู้ให้กำเนิดตัวเองยังไงล่ะ


    "เฮ้ย! จะจับกูไปไหน!! ปล่อยดิวะ!"


    ร่างของดูจุนถูกขากขึ้นรถตู้ติดฟิล์มมืดสีดำ ก่อนจะขับเคลื่อนตัวออกไปโดยไร้ซึ่งความสนใจจากคนรอบข้าง 


    "จับกูมาทำไม!! กูไม่มีเงินให้พวกมึงหรอกนะ!"


    รถยังคงขับไปเรื่อยๆ ผ่านซอกซอยต่างๆมากมาย ขับมาจนถึงทางเปลี่ยว ที่ทอดตัวยาวเข้าไปในป่าใหญ่ จนตอนนี้รถตู้ได้มาอยู่กลางป่า ต้นไม้น้อยใหญ่สีเขียวขจี และฝูงนกที่แตกฮือออกจากต้นไม้ เพราะตกใจเสียงรถยนต์


    ยุนดูจุนถูกโยนลงมาจากรถโดยไร้ความปราณี


    แต่...ไม่มีใครคนไหนหยิบปืนเพื่อที่จะมาฆ่าดูจุนแม้แต่คนเดียว
    ทำไมล่ะ ?


    "เอาชีวิตให้รอดละกันนะครับคุณเซียนพนัน ถ้าอยากรอดเร็วๆก็เข้าไปในตึกร้างที่อยู่ใจกลางป่าซะล่ะ" เมื่อคนขับรถพูดจบ พวกคนอื่นๆต่างส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาราวกับว่ามันคือเรื่องตลก


    "แค่เอามาทิ้งไว้กลางป่แล้วไปเนี่ยนะ? ปัญญาอ่อนจริงๆ"


    "ปากเก่งให้ได้ตลอดนะครับ บาย"


    ทันทีที่พูดจบรถก็เคลื่อนตัวออกไป ทิ้งให้ยุนดูจุนอยู่กลางป่าเพียงลำพัง แสงสว่างค่อยๆจางหายไป มีเพียงความมืดที่ค่อยๆโรยตัวเข้ามาช้าๆ จนในป่านั้นมืดสนิท ยุนดูจุนยังคงเดินไปโดยไร้จุดหมาย ไม่มีแม้แววตาหวาดกลัวความมืดมิดที่กำลังย่างกรายเข้ามา


    เสียงพุ่มหญ้าไหวจนเกิดเสียง ทำให้ดูจุนต้องหันไปมองอย่างอดไม่ได้ จะมีใครอยู่ที่นี่นอกจากเขารึเปล่า เสียงนกฮูกร้องดังระงมไปทั่วป่าเรียกความน่าสะพรึงกลัวให้ผู้ที่ขวัญอ่อนได้ง่ายๆ แต่กับดูจุนนั้นไม่ได้กลัวซักนิด 


    แค่เพียงอย่างน้อยที่ดูจุนจะเอะใจสักนิด...ว่ามีใครกำลังเดินตามหลังเขาอยู่...


    ฉึก


    "อึก...ใคร.."


    มีดที่ปักอยู่กลางหลังของดูจุนตอนนี้สร้างความเจ็บปวดและเรียกเลือดได้ไม่น้อยเลย เสือดสีแดงสดและกลิ่นคาวของโลหิตสีแดงนี้ สร้างความคึกคะนองให้กับคนที่นำมีดมาปักหลังดูจุนเสียจริง 
    ดูจุนที่ตกอยู่ในอาการตกใจ เมื่อได้สติจึงรีบวิ่งเข้าไปในป่าลึก


    วิ่งอย่างไร้จุดหมาย 


    วิ่งเพื่อเอาชีวิตรอด


    ขณะที่ดูจุนกำลังวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตโดยหารู้ไม่ว่ามีโลหะแหลมคมและยาว เสียบคาอยู่ระหว่างต้นไม้สองต้น ด้วยความไม่ระวังทำให้ช่วงหน้าแช้งของดูจุนถูกคมโลหะเหล็กนั้นอย่างจัง 


    "อ้ากกกกกก!!"


    ดูจุนหวีดร้องขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อนำมือไปสัมผัสบาดแผลก็รู้สึกถึงของเหลวสีแดงที่ไหลอยู่ แผลโลหะที่บาดลึกเข้าไปข้างในเพราะการที่ดูจุนวิ่งมาเร็งแล้วเจอกับโลหะคมแบบนี้ ทำให้แผลมันลึกจนเกือบถึงกระดูก

     


    'ถ้าอยากรอด ก็เข้าไปในตึกร้างกลางป่า'

     


    ทันทีที่นึกประโยคหนึ่งขึ้นได้ ดูจุนก็ลุกขึ้นและรีบวิ่งไปบริเวณที่ตนคิดว่าจะเป็นใจกลางป่า ความเจ็บจากบาดแผลสดๆ ทั้งกลางหลังและหน้าแข้งทำให้ดูจุนนั้นเจ็บเหลือเกิน แต่ในเมื่อต้องเอาชีวิตรอด ดูจุนจึงต้องฝืนวิ่งต่อไป


    แต่บางทีนะ ก็คงไม่มีใครรู้ชะตากรรมตัวเองหรอกจริงมั้ย 


    'ตึกร้างกลางป่า'


    'ตึกร้างกลางป่า'


    'ตึกร้างกลางป่า'


    ประโยคนี้ยังคงวิ่งวนอยู่ในหัวดูจุนไม่หยุด เมื่อไรค่ำคืนนี้จะผ่านไป เมื่อไรที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นสักที ผมไม่

    เคยตั้งตารอคอยแสงสว่างขนาดนี้มาก่อน
    พระเจ้า...ได้โปรดเถอะ ผมขอชีวิตของผมอีกวันเถอะครับ 


    เมื่อดูจุนพูดจบก็ผล็อยหลับไป..


    แสงแดดอ่อนๆบอกถึงชีวิตวันที่สองของดูจุนได้เริ่มต้นขึ้น ร่างกายที่มีบาดแผลและความเมื่อยล้าต้องการอาหารเพื่อบำรุงเพื่อไปยังตึกร้าง แต่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องของดูจุนเลย


    ดูจุนไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการกินและงีบหลับเป็นพักๆ พอพระอาทิตย์เขยิบขึ้นมาตรงกับหัวบ่งบอกว่าถึงเวลาที่จะไปหาตึกร้างกลางป่าสักที


    สองข้างทางที่ประดับไปด้วยต้นไม้ต่างๆที่ต่างความสูงกันไป ทางที่ดูจุนกำลังเดินอยู่ไม่ใช่ทางที่มีคนหรือสัตว์เดินผ่านบ่อย ทำให้เส้นทางที่เดินไปนั้นไม่ราบเรียบ มีทั้งพงไม้พงหญ้าเกะกะขวางทางเต็มไปหมด
    สิ่งที่ดูจุนคิดว่าเมื่อถึงตึกร้างแล้วจะรอด...บางทีมันอาจเป็นกับดักก็ได้นะ


    ในที่สุดยุนดูจุนก็เจอตึกร้างสภาพทรุดโทรมที่ตั้งตระหง่านอยู่ มีเพียงรั้วเหล็กล้อมรอบไว้ ดูจุนเดินเข้าไปสำรวจในตึกนั้น สภาพภายในตึกก็ไม่มีอะไรอย่างที่คิด


    จนเมื่อถึงเวลาพลบค่ำ ดูจุนที่นอนเล่นอย่างไร้ความกังวลเพราะคิดว่าเมื่อตึกร้างแล้วตนจะรอด

     


    ครืด ครืด

     


    เสียง...เสียงของอะไร ?

     


    ครืด ครืด

     


    ดูจุนที่นอนอยู่เริ่มหวาดระแวงจึงลุกขึ้นมานั่งแล้วมองไปรอบๆบริเวณที่ตนอยู่

     

     

     

     


    ครืดดด ครืดดด 

     

     

     

     


    เสียงที่ดังขึ้น และยังดังขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนจะเข้ามาใกล้ดูจุนมากขึ้นทุกขณะ


    เงาดำที่ปรากฎอยู่เบื้องหลังของดูจุนโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้ในตึกนี้ไม่ได้มีแค่ยุนดูจุนเพียงคนเดียว
    ทันใดนั้นเงาดำที่อยู่ข้างหลังดูจุนได้เงื้อมมือขึ้นพร้อมของมีคมในมือหมายที่จะปลิดชีวิตดูจุน เพียงเสี้ยววินาทีที่ดูจุนกำลังจะหันไปมอง ทำให้เงาดำเงานั้นต้องหยุดสิ่งที่จะทำและหายเข้าไปในความมืด

     


    สายตาที่ปรับได้กับความมืด กวาดสายตาไปเห็นขวดน้ำและกล่องอาหารอยู่ข้างหน้า ในไม่ช้าร่างของดูจุนก็เดินเข้าไปถือวิสาสะหยิบกินทันที


    "อา...ที่บอกว่ามาตึกร้างแล้วจะรอดเพราะงี้หรอ"


    กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง ยุนดูจุนที่มีความสุขได้ไม่นานกลับเงียบไป ..


    ไม่มีเสียงลมหายใจที่บ่งบอกถึงการมีชีวิตของดูจุนอีกต่อไป


    "นายคงทำเงินก้อนใหญ่ให้ฉันได้แน่ๆ..ยุนดูจุน"


    เสียงๆหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของดูจุน


    ผมยังคงเข้าไปบริษัทยงกุนอยู่ทุกๆวันเพื่อติดตามความเป็นไปของดูจุน วันนี้ก็เช่นกัน ผมกำลังเดินเข้าบริษัทยงกุนเพื่อรับรู้ข่าวของดูจุน


    "คุณรันโชครับ เราพบคุณดูจุนแล้ว"


    พนักงานชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผมและพูดขึ้น


    "จริงหรอครับ!? แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน!!?"


    พนักงานชายเดินนำผมเข้าไปยังเตียงเข็นเหมือนที่โรงพยาบาลใช้กัน แต่ทำไมถึงมีผ่าสีขาวคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าของคนที่นอนอยู่แบบนี้ล่ะ


    เหมือนคนตายเลย...


    "คุณดูจุนถูกวางยาในอาหาร ทำให้เสียชีวิตครับ"


    "ไม่...คุณดูไม่ผิดแน่นะครับว่าเขาตายแล้ว"


    ผ้าสีขาวถูกเปิดขึ้นหลังที่ผมพูดจบ ร่างที่นอนไร้วิญญาณอยู่บนเตียงนี้คือดูจุนจริงๆ
    แผลตรงหน้าแข้งทั้งสองข้างเหวอะหวะเน่าเฟะ แผลกลางหลังที่ถูกมีดแทงซะลึกจนน่าใจหาย
    ผมไม่มีโอกาสคุยหรือบอกรักเขาอีกแล้ว. . .


    ในชีวิตมนุษย์ทุกคนอาจจะต้องสูญเสียคนที่คุณรักไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง รักษาพวกเขาให้ดีๆ

     


    อ้อ..ถ้าญาติของคุณหาย อยากตามหาล่ะก็ บริษัทยงกุนยินดีให้บริการครับ :)

     

     

    ไร้แก่นสารอะเกน555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555 รันโชคือซึง ยงกุนคือจุนฮยองนะงึ้บๆ อ่านแล้วเม้นด้วยนะคะ  จิกกัดได้ตามแอคที่ให้ไว้หน้าบทความ55555555555555

     

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×