{B.A.P} It's Bangtwin's day
1 3 . 0 3 .1 4 ฟิคฉลองวันเกิดของเฮียค่ะ {2B}
ผู้เข้าชมรวม
342
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
It’s Bangtwin’s Day
Writer’s talk
ช้าไปนิดนึง แต่ก็สุขสันต์วันเกิดพี่บังนะคะ
ไรท์เมนพี่บัง รักผู้ชายคนนี้จริงๆ แฮ่ เขิน
แต่อันนี้เขียนเป็นทูบัง แต่ไม่ได้เน้นวายเท่าไหร่
แค่ชอบความสัมพันธ์ของฝาแฝดด้วย
อาจจะเป็นเพราะว่าตัวเองก็มีแฝดเหมือนกัน ฮา
หวังว่าจะชอบนะคะ : ] มีอะไรติดต่อทางทวิตได้เหมือนเดิม
> > @shaninnb
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
It’s Bangtwin’s Day
“สุขสันต์วันเกิดครับฮยอง” น้องเล็กของวงอย่างจุนฮงยื่นกล่องของขวัญของตัวเองให้เจ้าของวันเกิด
“ขอบใจนะจุนฮง” เขารับกล่องของขวัญนั้นมา กล่องทรงแบนขนาดประมาณฝ่ามือถูกห่อด้วยกระดาษสีเลือดหมู นิ้วเรียวค่อยๆเกาะเทปใสที่แปะไว้อย่างใจเย็น สอดนิ้วเข้าไป ล้วงออกมาได้เป็นเคสไอพอดทัช สีดำด้าน สกรีนลายเฉพาะตัวของแบรนด์เอาไว้
น้องชายคนเล็กจ้องหน้าเขาตาแป๋ว เหมือนเป็นเชิงถามว่าเขาชอบของขวัญของเจ้าตัวรึเปล่าเพราะถ้าเทียบกับของคนอื่นๆของที่จุนฮงให้นั้นแทบจะเทียบราคากับใครไม่ได้เลย เขายิ้มนิดหน่อยแล้วพยักหน้าให้ เจ้าของผมสีเงินเมื่อได้เห็นดังนั้นก็ยิ้มตามเช่นกัน
เขาพอใจกับของขวัญของจุนฮงมาก..... จุนฮงยังเด็กอยู่ พ่อแม่ยังเป็นคนจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้อยู่ เขาดีใจที่น้องไม่คิดจะซื้ออะไรที่เกินตัวมาเป็นของขวัญวันเกิดของเขา ซึ่งถ้าเป็นกรณีนั้น เขาคงจะเสียใจอยู่พอสมควร
เขานั่งมองน้องๆกับพี่คังที่กำลังคุยไปทานเค้กไปกันอยู่ แล้วมองของขวัญขนโต๊ะ... วันนี้พวกเขามีแฟนมีตติ้งที่ญี่ปุ่นถึงสองรอบ และในงานก็มีเซอร์ไพรส์จากแฟนคลับเหมือนกัน เมื่ออยู่ในต่างแดนกับได้ฉลองไปแล้วรอบนึง พวกเขาจึงเลือกที่จะซื้อเค้กมานั่งทานในห้องของโรงแรมเท่านั้น
ยงกุกมองที่โทรศัพท์สลับกับกองของขวัญบนโต๊ะ..... แว่นตาจากฮิมชาน รองเท้ากับหมวกจากแดฮยอนและยองแจ หมวกจากจงออบ.... ยังไม่รวบถึงกองของขวัญตรงโซฟาอีกตัวที่ได้มาจากแฟนคลับ.... ตั้งแต่เด็ก... เขาไม่ใช่คนที่ได้ของขวัญวันเกิดมากมาย พอมาเป็นนักร้องใต้ดินก็เริ่มได้เยอะขึ้นมาหน่อย จนกระทั่งเดบิวต์เป็นไอดอล.... ของขวัญและคำอวยพรที่ได้รับนั้นมีมากมาย และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย
. . . . แต่ตอนนี้เขายังรู้สึกเหมือนไม่ได้รับการเติมเต็ม . . . .
นิ้วเรียวเลื่อนปลอดล็อคหน้าจอไอพอดทัชของตน เลื่อนไปดูทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และแฟนคาเฟ่ที่มีข้อความและรูปภาพที่อวยพรเขาอย่างท่วมท้น ยังไม่รวมถึงข้อความที่ถูกส่งมาในโปรแกรมแชท ตั้งแต่ รุ่นพี่ เพื่อน เพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงพี่สาวของเขาเอง ทุกอย่างมันมากมาย... มากเกินกว่าที่เขาคิดไว้ด้วยซ้ำ
ยงกุกปิดตาลง
นาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่ม
.
.
.
.
.
. . . . ตั่งแต่เมื่อไหร่กันนะ . . . .
“ยงกุก!เที่ยงคืนแล้วนะ” แฝดคนพี่ก้มลงไปกระซิบข้างหูน้องชายของตนที่กำลังหลับอยู่ พร้อมกับเขย่าตัวเบาๆ
ยงกุกค่อยลืมตาขึ้น แล้วเอื้อมมือมาขยี้ตานิดของตน ก่อนจะเอามือดันผ้าห่มของตนไปอีกทางแล้วค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนฟูกนอน
เมื่อยงนัมเห็นว่าน้องของตนตื่นดีแล้วก็ยิ้มนิดหน่อยก่อนจะสั่งให้น้องชายของตนแบมือและหลับตา ยงกุกทำตามอย่างว่าง่าย แฝดคนพี่ดึงมือของแฝดคนน้องเข้ามาใกล้ ยัดก้อนกลมๆลงไปในมือของน้องชายตน
“สุขสันต์วันเกิดนะยงกุก” พูดแบบนี้ก่อนจะอนุญาตให้น้องชายของตนลืมตาขึ้นมา
แสงจันทร์ลอดผ่านม่านสีขาวสะอาดทอแสงมายังสิ่งของที่อยู่ในมือของยงกุก แม้จะไม่เห็นชัดนัก แต่สิ่งที่อยู่ในมือของเขา มันเป็นก้อนหินกลมเกลี้ยง ที่มีรอยถูกขูดเป็นตัวอักษรB แฝดคนน้องเงยหน้ามองไปที่พี่ชายของตนที่ถือก้อนหินรูปร่างคล้ายๆกับก้อนหินของตน มีรอยถูกขูดเป็นตัวBเช่นกัน ยงกุกยิ้ม
“สุขสันต์วันเกิดยงนัม”
เมฆเลื่อนมาบังแสงจันทร์ชั่วขณะ ก่อให้เกิดความมืดปกคลุมบรรยากาศ แต่เพียงครู่เดียว เมฆกลุ่มก้อนนั้นก็เคลื่อนตัวออกมา พระจันทร์สีนวลฉายแสงลงมาที่พวกเขาอีกครา ภายใต้แสงอันอบอุ่นนั้น ภาพนั้นปรากฎตรงหน้ายงกุก... ภาพขอยงนัมที่กำลังยิ้มอยู่
. . . สิ่งแรกที่เขานึกถึงในวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี . . .
นิ้วเรียวรีบใส่เสื้อนอนลายเสื้อสีส้มตัวเก่งก่อนจะวิ่งลงมาชั้นล่างเมื่อได้ยินเสียงของคุณปู่บอกว่ามีจดหมายมาถึงเขา วิ่งไปที่โต๊ะกินข้าว กวาดสายตาไปมอง หยิบซองจดหมายขนาดมาตรฐานสีขาว จ่าหน้าถึงตัวเขาด้วยลายมือที่คุ้นตา ยงกุกเดินไปหยิบกรรไกรมา ก่อนที่จะตัดขอบซองออก หยิบกระดาษในนั้นออกมา
ถึง ยงกุก
สุขสันต์วันเกิดนะ! ความจริงพ่อกับแม่บอกว่าจะกลับไปฉลองวันเกิดของเรากันที่นั่น แต่อยู่ดีๆพ่อก็ติดธุระ แม่เลยบอกให้เขียนจดหมายมาแทน แล้วก็มีของขวัญวันเกิดด้วย แต่พอเป็นจดหมายมันก็ส่งไปไม่ได้ ขอโทษนะ พยายามกะเวลาไว้ หวังว่าจะได้รับในวันเกิดพอดีนะ! อยู่ที่นั่นก็ต้องใจเรียน แล้วก็ดูแลตัวเองดีๆด้วย ถ้าปิดเทอมหน้าไม่มีอะไรผิดพลาด ฉันก็คงกลับไปแหละ มีความสุขมากๆนะ
ยงนัม
นิ้วเรียวลูบไปตามแผ่นกระดาษ อ่านทวนอีกรอบก่อนจะยิ้มออกมา เขาพับมันตามรอยเดิม สอดเข้าไปในซองก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้อง เปิดกล่องสแตนเลสสี่เหลี่ยมแล้ววางซองจดหมายสี่ขาวนั้นลงไปอย่างเบามือ
. . . ไม่ใช่จำนวนอายุที่เพิ่มขึ้น หรือของขวัญที่จะได้ . . .
หลังจากที่ไม่ได้ร่วมฉลองวันเกิดกับพี่ชายของตนมาหลายปี ในที่สุดปีนี้เขาก็ได้ฉลองกับพี่ยงนัมในที่สุด
บัง ยงกุกเข้ามาอยู่ในโซลได้สามอาทิตย์ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเปิดเทอมใหม่ ในโรงเรียนใหม่ของเขาที่โซล วันที่ห้าของอาทิตย์ที่สาม คือวันที่31 มีนาคม วันเกิดของเขากับพี่ เขาได้ฉลองด้วยกันก็จริง เพียงแต่ไม่ใช่ในแบบที่คิดเอาไว้
เอาตะเกียบเขี่ยต๊อปปกกิในจานของตัวเอง ก้มมองก้อนแป้งที่ถูกดันไปมา ท่ามกลางเสียงหัวเราะจากเด็กชายแปดคนในโต๊ะ ...วันนี้เป็นวันเกิดของเขากับพี่ยงนัม และแน่นอนว่าพี่ของเขาที่อยู่ในโซลมาหลายปีแล้ว ย่อมมีเพื่อนชวนกินเลี้ยงงานวันเกิด ต่างกับเขาที่เพิ่งเข้ามาอยู่ได้สามอาทิตย์ และยังไม่มีเพื่อนในโซลสักคน
อาจจะด้วยความที่อยากฉลองด้วยกัน หรือไม่อยากปล่อยน้องรออยู่บ้านคนเดียวในวันของพวกเขาทั้งสองคน ยงนัมจึงหอบเอายงกุกมาที่ร้านอาหารด้วย ตอนแรกเพื่อนของยงนัมกับยงกุกก็คุยกันปกติ แต่พอไปๆมาๆ บทสนทนาก็เริ่มออกไปสู้สิ่งที่ยงกุกไม่รู้จัก ชื่อผู้คนที่ไม่คุ้นหู เขาจึงเงียบไปเพราะไม่รู้จะคุยอะไร บวกกับไม่อยากขัดยงนัมกับเพื่อนด้วย
ต๊อปปกกิในจานยังถูกเขี่ยไปมา ใบหน้าของเจ้าของวันเกิดอีกคนก็ยังไม่ได้เงยขึ้นมา แม้ใบหน้าไม่ได้มีรอยยิ้มประดับอยู่... แต่ก็ไม่ได้มีสีหน้าไม่พอใจอะไรบนใบหน้านั้นเช่นกัน แวบแรก.... ยงกุกคิดว่าคงไม่มีใครสนใจเขาแล้ว จนกระทั่งรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นๆที่ลูบหัวเขาอยู่
ยงกุกเหลือตาไปมอง เจ้าของฝ่ามือนั้นลูบหัวของเขาโดยที่ไว้ได้หันหน้ามามอง ใบหน้านั้นยิ้มแสดงลักยิ้มที่เป็นข้อแตกต่างไม่กี่ข้อของพวกเขาออกมา และลักยิ้มนั่นเอง ทำให้ยงกุกเงยหน้าขึ้น ยิ้ม พยายามพูดคุยกับคนอื่นๆในโต๊ะอีกครั้ง วันของพวกเขา.. จะหงอยไม่ได้หรอกนะ
. . . แต่กลับเป็นคนๆหนึ่ง . . .
เสียงเพลงที่ดังก้องอยู่ในหูถูกเพิ่มความดังขึ้นเรื่อยๆจนเสียงเริ่มเล็ดออกมาจากหูฟังแบบสวมหัวอันนั้น... ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หรือด้วยเหตุผลอะไร ... เพื่อนของยงนัมไม่ชอบเขา...
ทั้งๆที่เขากับยงนัมหน้าตาเหมือนกัน สูงพอๆกัน น้ำเสียงเหมือนกัน วิธีการพูดก็เหมือนกัน แต่เขากับยงนัมกลับมีเพื่อนคนละกลุ่ม และดันเป็นสองกลุ่มที่ไม่ถูกกันเสียด้วย
แรกๆก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันมาก แต่นับวันกลุ่มของเขากับยงนัมก็เหมือนจะมีปัญหากันมากขึ้น เริ่มมีปากเสียง จนบางครั้งก็เกือบเลยเถิดไปถึงการทะเลาะ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับยงนัมเปลี่ยนไป กลับมาบ้านก็คุยกันเหมือนเดิม เปิดหนังที่ชอบดูตอนดึกๆของวันหยุดเหมือนเดิม
ปัญหามันเริ่มที่อาทิตย์ที่แล้ว.... อยู่ดีๆยงนัมก็หลบหน้าเขาที่โรงเรียน กลับบ้านมาก็ไม่พูดกัน ถามอะไรก็พูดคำตอบคำ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็ไม่อยู่บ้านเหมือนเคย จนกระทั่งวันนี้ที่เป็นวันเกิดของเขาสองคน ยงนัมออกจากห้องไปตั้งแต่เช้า ไม่มีการบอกกล่าวใดๆทั้งนั้น
เขาไปเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มเขา ยงนัมก็คงไปเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มตัวเอง ปกติเขาไม่ใช่คนขี้หงุดหงิด แต่วันนี้เขาหงุดหงิดมาก ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันของเขาสองคน แต่ทำไมยังทำตัวแบบนั้นอยู่อีก และหงุดหงิดที่สุดคือ นี่สองทุ่มแล้ว แต่ยงนัมยังไม่กลับมา คิดแล้วก็หันไปมองกล่องของขวัญของตนที่วางอยู่ตรงเคาน์เตอร์ห้องครัว . . . คงไม่จำเป็นแล้ว . . .
ร่างสูงลุกเดินไปที่เคาน์เตอร์ หมายจะหยิบกล่องสี่เหลี่ยมนั้นขึ้นไปเก็บบนห้อง เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูบ้านถูกเปิด แม้เขาหันหลังให้คนที่เพิ่งเข้ามา แต่จากเสียงฝีเท้า เขาก็รู้แล้วว่าเป็นใครที่เข้ามา
ร่างสูงยืนหันหลังให้คนที่เพิ่งเข้ามาใหม่อยู่ตรงนั้น หวังให้อีกคนเดินไปไกลๆหรือขึ้นห้องไปก่อนแล้วตัวเองจะเดินออกจากจุดนี่ไป . . . ไม่อยากเจอ . . . เสียงฝีเท้านั้นหยุดกึก แต่สักพักเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีก
เสียงฝีเท้านั้นห่างออกไปไกลแล้ว แต่ยงกุกยังอยู่ตรงนั้น กำมือแน่น มองกล่องของขวัญตรงหน้าด้วยสายตาที่อ่านอารมณ์ไม่ออก
เหนือกว่าความหงุดหงิดคือความเสียใจ.... ไม่ใช่ว่าไม่เคยทะเลาะ ไม่ใช่ว่าไม่เคยถูกเมิน ไม่ใช่ว่าไม่เคยถูกทำให้เสียความรู้สึก แต่ทั้งสามอย่างนั้นในตอนนี้มันคนละเหตุผลถ้าเป็นเหตุผลส่วนตัวเขาก็พอจะรับได้ แต่ถ้าเกิดเหตุผลนั้นมันไม่ได้ผิดจากที่เขาคิดไว้ ถ้าเหตุผลที่ยงนัมเมินเขาเป็นเพราะเพื่อนจริงๆ เขาคง.... เขาคงจะเสียใจ.... เสียใจมากๆ
‘ปึก’
รู้สึกถึงแรงตีเบาๆที่ไหล่ขวา ยงกุกหันไปมอง ภาพตรงหน้าคือพี่ชายฝาแฝดของเขากำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาอ่อนๆ และเมื่อเลื่อนสายตาลงไปดูถึงสิ่งใช้ตีก็เห็นมามันเป็นกล่องซีดีที่ติดโบว์เอาไว้... จะไม่ใช่อะไรเลยที่เป็นหนังที่เขาเคยบ่นกับยงนัมไว้ว่าอยากดู แต่ก็ไม่มีโอกาสไปดู แถมตอนที่แผ่นออก เขากับยงนัมก็ไม่พูดกัน จนลืมถึงเรื่องนี้ไป เลยไม่มีโอกาสไปซื้อมาดู
“ดูกันมั้ย?” เสียงทุ้มของคนเป็นพี่ดังขึ้น
“...” ยงกุกมองนิ่ง ไม่ตอบอะไร
“...” คนเป็นพี่ก็มองกลับด้วยสายตาเดียวกัน รอคำตอบจากคนเป็นน้อง
“คิดอะไรอยู่?” ยงนัมถาม มองเข้าไปในตาของน้อง ราวกับเค้นคำตอบ
“...” ยงกุกไม่ตอบ ทำเพียงแค่ถอนหายใจ แล้วหันกลับมามองของขวัญในมือของตน
“เลิกบ้าได้แล้ว... จะคิดว่าฉันไม่คุยกับนายเพราะเพื่อนฉันก็คิดก็ตามใจ นายจะคิดยังไงก็เรื่องของนาย แต่ฉันจะบอกว่ามันไม่ใช่”
“…” แฝดคนน้องยังไม่ตอบ เมื่อเห็นว่ายงกุกยังดูโกรธอยู่ ยงนัมจึงหันหลังกลับไป
โดยไม่คาดคิด ยงนัมรู้สึกถึงแรงดึงจากปลายเสื้อของตน แต่เขายังไม่ได้หันหลังกลับไป จึงมองไม่เห็นใบหน้าของน้องชายตัวเอง
“ระหว่างที่นายอาบน้ำ ฉันจะเปิดเครื่องเล่นรอไว้.....”
ยงนัมยักยิ้มมุมปาก
“แล้วก็จะรอฟังเหตุผลจากเจ้าของวันเกิดด้วย....”
. . . ซึ่งถ้าพูดให้ถูกก็คือ... อีกครึ่งหนึ่งของเขา . . .
นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน
วันที่ในหน้าปัดเลื่อนไปบอกวันที่เป็นวันสุดท้ายของเดือนสาม
โทรศัพท์ในหอดังขึ้น
ยงกุกที่อยู่ใกล้ที่สุดเดินไปรับ
“สวัสดีครับ”
[สุขสันต์วันเกิด] โดยไม่ต้องรู้ชื่อหรือหมายเลข เพียงแค่เสียงนี้ ยงกุกก็รู้แล้วว่าปลายสายเป็นใคร
“สุขสันต์วันเกิดเหมือนกัน”
[ไม่รู้จะได้ฉลองด้วยกันอีกทีเมื่อไหร่แล้วนะ]
“อืม”
[ตั้งใจทำงาน ดูแลตัวเองด้วยนะ]
“พี่ก็ด้วย..”
[อืม ไม่กวนแล้ว]
. . . บัง ยงนัม . . .
.
.
.
.
“ยงกุก.. ยงกุก!”
กระกริบตาเพื่อปรับแสง ก่อนจะเห็นใบหน้าของฮิมชานอยู่ตรงหน้า เขาจึงค่อยๆชันตัวขึ้นมาลุกนั่ง แล้วมองไปรอบๆ น้องๆกับพี่คังกำลังช่วยกันเก็บจานเค้กและแก้วน้ำกันอยู่
นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มครึ่ง
เขาลุกขึ้นยืน เอามือลูบหน้านิดหน่อย ก่อนจะมองไปที่นาฬิกาแล้วสลับกลับมาที่ไอพอดของตน ที่ยังไม่มีข้อความใดๆจากคนๆนั้น
“นายไปอาบน้ำเถอะ คนอื่นจะได้อาบบ้าง มันดึกแล้ว” ฮิมชานบอกกันร่างสูงตรงหน้า
ยงกุกมองไปนอกหน้าต่างแล้วส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเดินไปหยิบรองเท้ามาใส่ แล้วหยิบเสื้อโค้ทมาพาดบ่ากว้างของตน
“นายกับน้องอาบไปก่อนเลย... เดี๋ยวฉันขอไปเดินเล่นก่อน” พูดเสร็จก็เปิดประตูออกไปทันที ไม่มีใครทันที่จะท้วง
ร่างสูงเดินออกจากลิฟท์มาถึงตัวล็อบบี้ของโรงแรม ก้มมองหน้าปัดสีดำขลับนาฬิกาบนข้อมือของตัวเอง
จะหมดวันแล้ว . . .
เดินออกจากโรงแรมแล้วมองหน้าถนน ใกล้เที่ยงคืน แถมโรงแรมที่เขาพักก็ไม่ใช่ย่านที่มีคนพลุกพล่าน ติดจะเงียบด้วยซ้ำไป ซึ่งนั่นก็เป็นข้อดีที่ทำให้เขาออกมาเดินเล่นได้อย่างค่อนข้างสบายใจ
เมื่อกี้เขาคงฝันหรืออะไรไม่รู้........
. . . .แต่ที่เขารู้คือ ตลอด25ปีที่ผ่านมา
ยงนัมจะอวยพรเขาทุกครั้งไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะโกรธกัน หรือไม่ได้อยู่ด้วยกัน . . .
. . . แต่ยงนัมก็ไม่เคยลืม
มองโทรศัพท์แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่.. ถ้าโทรไม่ได้ อย่างน้อยๆก็น่าจะมีข้อความอะไรส่งมาบ้าง...
ยงกุกเสียบหูฟังเข้าหู... เปิดเพลงเบาๆแล้วแหงนหน้ามองฟ้า... ในขณะที่เดินลัดเลาะไปตามทาง ฮัมเพลงออกมาเบาๆแล้วหยิบโค้ทที่พาดอยู่บนบ่ามากางเพื่อจะสวม
.
.
.
‘แกร๊ง’
เหรียญเยนที่อยู่ในกระเป๋าโค้ทของเขาร่วงลง และไหลไปตามพื้นถนน ร่างสูงก้าวขาไปเพื่อจะก้มเก็บ แต่ทว่ามีอีกมือหนึ่งชิงเก็บไปก่อน
. . . ยงกุกเงยหน้าขึ้นมามอง
ใบหน้าที่ถอดแบบมาจากเขา . . .
. . . ดวงตาคมที่จ้องมองมาหา
ตุ๊กตาเสือสีส้มที่อยู่ในอ้อมแขน . . .
.
.
.
.
. . . ยงกุกยิ้ม . . .
‘ Happy birthday to our leader
and his twin. ‘
Fin.
ผลงานอื่นๆ ของ bloudalaire ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ bloudalaire
ความคิดเห็น