Shirudo school โรงเรียนลับซ่อนเงื่อน - นิยาย Shirudo school โรงเรียนลับซ่อนเงื่อน : Dek-D.com - Writer
×

    Shirudo school โรงเรียนลับซ่อนเงื่อน

    โรงเรียนแห่งหนึ่งที่สอนทั้งประถมและมัธยมเข้าด้วยกัน ทุกๆวันก็ปกติดีแต่วันหนึ่งกลับเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นทำให้นักเรียนส่วนใหญ่ถูกส่งไปยังอีกที่ และได้พบกับเด็กหญิงผู้เลวร้ายยิ่ง

    ผู้เข้าชมรวม

    332

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    332

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.ค. 62 / 18:20 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Say hiค่ะ โยคุนะคะ จะบอกว่าสำหรับคนที่ไม่เห็นปกคือปกยังไม่เสร็จนะคะ ถ้าเสร็จแล้วจะใส่ปกให้เจ้าค่ะ เนื่องจากโยคุก็ไม่ได้ถนัดวาดมากสักเท่าไรนะเจ้าค่ะ โยคุก็ขอฝากเรื่องนี้ด้วยนะเจ้าคะ แล้วก็สามารถติชมกันได้ตามสบายเลยนะเจ้า แต่ขอบอกไว้ตรงนี้ก่อนเลยนะเจ้าคะว่าอย่าพึ่งด่วนสรุปว่าพระเอกนางเอกเป็นใครหรือใครคู่กับใครนะเจ้าคะ แต่ถ้าต้องการให้คนนั้นคู่กับคนนี้ก็คอมเม้นต์ได้นะเจ้าคะเพราะโยคุจะพยายามแต่งบทพิเศษให้นะเจ้าคะ

    โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองใหญ่เมืองนี้มีผู้คนอยู่สองประเภทนั่นก็คือ หนึ่งคนธรรมดา และสองจอมเวทย์ ผู้คนสองประเภทนี้มักจะไม่กล้ามีเรื่องกันและอาศัยอยู่ร่วมกันในเมือง ปะปนกันไปจนเวลาล่วงเลยผ่านมานานนับพันๆปีจึงไม่สามารถดูออกได้ว่าใครเป็นประเภทใด โรงเรียนแห่งนี้จึงมีนักเรียนในโรงเรียนอยู่ปะปนกันไป แต่ทว่า โรงเรียนแห่งนี้ถึงจะดูธรรมดาแต่กลับมีความลับซ่อนอยู่ เหตุการณ์หนึ่งที่จะเกิดขึ้นในรอบห้าปีที่เรียกว่า'mansion hole'จะเป็นอันตรายกับนักเรียนทุกคน...
    .
    .
    .
    "ใกล้ถึงเวลาแล้วสิน้า~ ช่างเป็นเวลาที่... แสนสุขซะจริง ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!"
    เสียงอันน่าสพรึงกลัวก้องกังวานมาจากความมืดมิด หญิงสาวผมสีแดงที่ดูใสซื่อแต่ภายในดูน่ากลัวหัวเราะขบขันออกมาด้วยความสะใจและตื่นเต้น เธอหยิบมีดสั้นสีแดงขึ้นมมาพลางเอ่ยเรียกคนที่พึ่งเดินมาถึงหน้าห้องของเธอที่ทำสีหน้าเครียดแค้นประดุจโดนพรากคนสำคัญไป
    "พี่จ๋า ใกล้จะถึงแล้วนะ ครั้งนี้มันมาด้วยล่ะค่ะ ฮิฮิ"
    หญิงสาวในห้องตีเสียงซื่อ
    "งั้นสินะ คราวนี้... มันไม่รอดแน่"
    ผู้ที่ยืนอยู่ข้างนอกห้องเอ่ยขึ้นด้วยความแค้นแล้วนำจี้ห้อยคอเส้นหนึ่งขึ้นมา เขาค่อยๆเปิดฝาจี้ขึ้น เปิดออกมาก็พบกับรูปๆหนึ่งซึ่งเป็นรูปของเขาเอง กับผู้หญิงอีกคนที่ดูท่าว่าจะเป็นคนสำคัญของเขาที่เสียไปมิหนำซ้ำยังเป็นคนที่เขาเสียไปต่อหน้าต่อโดยไม่ใช่เพราะโรคภัยไข้เจ็บแต่กลับเป็นการถูกฆ่า...
    "ชั้นจะต้องแก้แค้นให้เธอให้ได้โชริ"

    "นี่ๆ ยะฮาริจังช่วยชั้นหน่อยได้มั้ยจ้ะ?"
    เสียงใสๆเอ่ยขึ้นพลางทำหน้าอ้อนวอน
    "นะจ๊าาา~~~"
    เจ้าของเสียงอ้อนวอนซ้ำอีกครั้งด้วยเสียงที่ละมุนขึ้นเรื่อยๆ
    "ก...ก็ได้ค่ะ แล้ว... จะให้ช่วยเรื่องอะไรงั้นหรอคะคุณอะไม?"
    ยะฮาริตอบหญิงสาวตรงหน้าอย่างอ้ำๆอึ้งๆ
    "ก็ซะกะนะคุงน่ะสิ ไม่ยอมช่วยงานกลุ่มเลยอ่ะ ทั้งที่พึ่งมาใหม่แท้ๆนะก็ยัง... ยังไงก็ช่างมันเถอะ! ยะฮาริจังก็ช่วยไปบอกคุราบิคุงให้เตือนพี่ชายเค้าทีละกันนะ! พอดีว่า...ชั้นไม่กล้าไปให้เข้าช่วยน่ะ..."
    อะไมกล่าวด้วยสีหน้าหงอยๆก่อนจะเดินไปหาอุสึคุชิน้องชายของเธอ ยะฮาริถึงจะไม่ค่อยอยากคุยกับคุราบิเท่าไหร่ก็จำใจต้องทำ แท้จริงแล้วคนบ้านนี้ก็ไม่ค่อยนิสัยดีเท่าไหร่ ใครๆก็รู้กันว่าตระกูลชาโดะไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนอื่นที่ไม่ใช่คนของตระกูลเดียวกัน และยิ่งเป็นตระกูลที่ขึ้นชื่อเรื่องความใจดีเอื้ออาทรนั้นแล้วก็ยิ่งไม่เป็นมิตรด้วย บางครั้งเห็นชักดาบมาฆ่าฟันกันก็มี เพราะเหตุนี้ตระกูลชาโดะจึงไม่ค่อยมีคนเข้าหาหรือมีเพื่อนสนิทมิตรสหายสักเท่าไหร่ ส่วนเวลาที่จะหาคู่ให้แก่ผู้ที่อยู่ในตระกูลชาโดะก็จะมีการหมั้นหมายไว้ให้ และแน่นอนว่าถึงไม่รัก ก็ต้องแต่ง ด้วยกฏนี้จึงทำให้ผู้ที่อยู่ตระกูลอื่นใจสลายกันเป็นอันยกใหญ่ แต่หากทั้งสองรักกันอยู่แล้วก็ถือว่าโชคดีไป แต่มันก็เป็นคู่ที่หายากระดับโลกเลยทีเดียว
    "เอ่อ... คุราบิคุง..."
    "ว่า"
    น้ำเสียงเยียบเย็นสุดแสนจะเย็นชาตอบเธอด้วยสีหน้านิ่งเงียบ
    'หยึย...ไม่ยุ่งดีกว่ามั้ยเนี่ย แต่ก็ช่างเถอะ ตอบว่าจะช่วยมาแล้วนี่นะ...'
    ยะฮาริคิดในใจพลางถอนหายใจ ตอนนี้เธอไม่มีทางให้เลือกจนต้องจำใจบอกไปไม่งั้นเธอคงโดนอะไมโกรธแน่
    "คิดว่า... ช่วยบอกพี่ชายของนายทีได้มั้ว่า..."
    "ว่าอะไร?"
    ยะฮาริกลืนน้ำลายตัวเองดังอึกแล้วถอนหายใจอีกครั้ง
    "เอ่อ... ว่า... ให้ช่วยทำงานกลุ่มหน่อย...น่ะ"
    สีหน้าของคุราบิหม่นขึ้นทันที
    'น..น่ากลัว!'
    ยะฮาริคิดในใจด้วยความหวาดกลัว
    "ก็แค่นั้น"
    คุราบิเอ่ยแล้วลุกขึ้นพรวดแล้วเดินไปหาซะกะนะทันที
    'โฮ่ย!!! เกือบตายแล้วชั้น...'
    ยะฮาริทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้ของตนแล้วฟุบหัวลงไปบนโต๊ะ
    "ขอบใจมากเลยนะจ้ะยะฮาริ เธอนี่สุดยอดจริงๆเลยจ้ะ"
    "ไม่เป็นไรค่ะคุณอะไม..."
    "เธอไม่กลัวเลยหรอนั่นน่ะ?"
    หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเสียงนี้ยืนอยู่ตรงหน้าต่าง เธอจ้องมองมาที่ยะฮาริ
    "กลัวสิจ้ะมักเก็ทสึจัง แต่ถึงยังไงก็เพื่อนกันนี่นะ..."
    "ถึงไอเจ้าหินสีชาดนั่นจะไม่ยอมรับเราเป็นเพื่อนก็ตามงั้นสิ?"
    ประโยคนี้ไม่ใช่เล่นๆเลยสำหรับทุกคน หินสีชาด... คำนี้ถึงจะเหมาะกับคุราบิก็ตามแต่มันก็ไม่สมควรที่จะเรียกแบบนั้น ขืนตระกูลชาโดะมาได้ยินเข้าคงจะซวยมากแน่ๆ ถ้าคนที่เรียกแบบนั้นไม่ใช่ตระกูลชั้นสูงแบบมังเก็ทสึ... ตระกูลคารุอิ ตระกูลคารุอิเป็นหนึ่งในตระกูลพิทักษ์เมืองระดับกลาง ตระกูลพิทักษ์เมืองจะมีสามชั้นด้วยกัน หากแต่ชั้นสูงยังไม่มีใครรู้ว่ามีตระกูลอะไรบ้าง หลายคนเคยสงสัยและพยายามค้นคว้าแล้วแต่กลับไม่พบ กลับพบแค่เพียงรูปๆหนึ่งที่มีเพียงคนสองคนที่ดูเก่าแก่ราวกับผ่านมาหลายร้อยปีแล้วเพียงเท่านั้น...

    "อย่าเรียกเค้าแบบนั้นสิมังเก็ทสึ"
    หญิงสาวสวมสร้อยอัญมณีสีขาวบริสุทธิ์ที่แสดงถึงความเป็นตระกูลเตนโนฮาเนะ ตระกูลหนึ่งในตระกูลพิทักษ์ชั้นระดับกลางที่เป็นมิตรสหายกับตระกูลคารุอิมานาน
    "อ้าวโทริจังกลับมาแล้วหรอจ้ะ?"
    อะไมกล่าวอย่างประหลาดใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้หนึ่งอาทิตย์โทริถูกส่งไปตรวจตราที่เขตคุเรียคาวะที่กำลังประสบปัญหาเรื่องปีศาจบุกอยู่ในช่วงนี้
    "กลับมาแล้วล่ะค่ะคุณอะไม ว่าแต่ว่าช่วงที่ชั้นไม่อยู่เนี่ยมีงานการบ้านอะไรบ้างงั้นหรอคะ?"
    เธอตอบแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยไปเรื่องงานทันที
    "ก็มีงานกลุ่มของวิชาประวัติศาสตร์ของอาจารย์มิจิน่ะจ้ะ"
    "เรื่องอะไรหรอคะ?"
    "เรื่องหลักแบบการปกครองในเมืองน่ะนะถ้าจำไม่ผิด"
    "เห? งั้นยะฮาริก็สบายเลยสิเนี่ยฉันเห็นเธอท่องมาตั้งนาน"
    โทริกล่าวด้วยสีหน้าคล้ายต้องการจะถามตามมาติดๆกัน
    "ก็คงจะไม่ขนาดนั้นมั้งจ้ะ ยังมีเรื่องการปกครองกับตระกูลผู้ดูแลอีก การปกครองน่ะพอได้อยู่ แต่ตระกูลผู้ที่ดูแลนี่สิแทบจะหาข้อมูลไม่ค่อยเจอเลย..."
    ยะฮาริกล่าวขึ้นมาพลางทำหน้าท้อแท้
    "เอาเถอะๆ งั้นเราพักเรื่องงานกันก่อนดีมั้ย ชั้นได้ยินมาว่าวันนี้เป็นวันอะไรสักอย่างนี่แหละ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดีหรือร้าย"
    มังเก็ทสึกล่าวแล้วครุ่นคริด สีหน้าของเธอชัดเจนมากเวลาจริงจัง ถึงตอนยิ้มจะไม่ค่อยมีใครสังเกตุเห็นก็เถอะ
    "ชั้นก็ได้ยินเค้าซุบซิบกันมาเหมือนกันแต่ไม่แน่ใจว่าวันอะไร"
    ในขณะที่อะไมพูดจบนั้นไม่นานนักบรรยากาศก็เปลี่ยนไป ทุกคนพากันแตกตื่นกันไปหมด ยะฮาริหันไปมองที่นาฬิกาในห้อง

    ขณะนี้เวลา 15:00 น. โรงเรียนนี้เลิกเรียน 14:30 น. และครูจะปล่อยให้นักเรียนกลับในเวลา15:00 น. แต่ทุกวันบรรยากาศมันไม่ใช่แบบนี้ ห้องพักรวมรักเรียนที่พวกเธอกำลังอยู่ก็เปลี่ยนสภาพเหมือนถูกทำลายให้ดูทรุดโทรมเสียหาย สีฟ้าด้านนอกดำทมึนประดุจอยู่อีกที่ หากไม่นับเสียงนักเรียนที่แตกตื่นกันแล้วนั้น ในอาคารเรียนมืดและเงียบสงัดมาก ภายนอกโรงเรียนจากที่เคยเป็นถนนและบ้านคนนั้นกลับกลายเป็นเสมือนป่าช้าที่มืดมิดไร้ที่สิ้นสุด

    --------------------------------------------------

    เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามได้ในบทที่ 1

    --------------------------------------------------

    ช่วง "คุยกับโยคุ"
    ชอบกันมั้ยเอ่ยเจ้าคะ เรื่องใหม่เจ้าค่ะ คอมเม้นต์คือกำลังใจของเรื่องนี้นะเจ้าคะ ถ้าชอบก็กรุณาfavouriteไว้ด้วยนะเจ้าคะรักรีดเดอร์ทุกคนนะเจ้าคะ//ส่งลิ้ตเติ้ลฮาร์ตไป

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น