คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Charpter 4
Charpter 4
เรียวอุคเดินเข้าไปหาร่างของเยซองที่นอนอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดของห้องพยาบาล วันนี้โชคดีที่คุณหมออีทึกเข้ามาดูแลความเรียบร้อยแทนครูฮีชอลที่เป็นครูประจำห้องพยาบาล เรียวอุคจ้องมองคนที่นอนหลับใบหน้าซีดเซียวก่อนจะหันไปมองใบหน้าของอีทึกที่ดูตกใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
“คุณแน่ใจเหรอ ว่าพี่เยซองเขาเป็นโรค...โรคหัวใจน่ะ”
“แน่สิ ผมเป็นถึงหมอที่จบมาจากมหาลัยชื่อดังนะคุณ”
อีทึกยืดตัวขึ้น เชิดหน้า แสดงความโอ้อวดออกมาทันที เรียวอุคไม่สนใจคำโอ้อวดของอีทึกเขาเดินเข้าไปใกล้ร่างที่หลับสนิท
“แล้วมีทางไหนเขาถึงจะหาย”
“เราคงต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลจริงๆอีกที แต่ผมคิดว่าเราอย่าเพิ่งบอกอะไรเขาตอนนี้เลย รอให้แน่ใจก่อนแล้วค่อยพูดจะดีกว่า หรืออาจจะให้เขาไปรู้ด้วยตัวเองมันอาจจะช่วยให้เขาทำใจได้เร็วกว่า”
อีทึกพูดยาว เรียวอุคหันดวงตาที่เย็นชาของตัวเองไปมองแล้วเดินเข้าไปใกล้ อีทึกส่งยิ้มหวานมาให้เขา
“ไหนคุณบอกว่าคุณเป็นหมอไง แล้วทำไมยังต้องไปตรวจอีก”
“พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจหรอก เอาเป็นว่าวันหยุดนี้คุณก็พาเขาไปตรวจสิ”
เรียวอุคทำท่าจะพูดต่อแต่เสียงครางเบาๆดังขึ้นมาจากบนเตียงทำให้เขาเงียบเสียงแล้วหันไปมอง เยซองส่งยิ้มให้อีทึกและเรียวอุค เขาค่อยๆยันตัวเองลุกขึ้น อีทึกรีบปรี่เข้ามาช่วยพยุง
“อย่าเพิ่งลุกสิ เดี๋ยวก็หน้ามืดไปอีกหรอก”
“ผมเป็นอะไรไปครับ”
อีทึกและเรียวอุคหันไปมองหน้ากัน เยซองยังยิ้มอยู่นิดๆ อีทึกหันมามองก่อนจะฝืนส่งยิ้มไปให้
“เป็นลมน่ะ”
“อ้อ”
อีทึกยอมรับว่าเขาไม่กล้าที่จะบอกความจริงที่เขาแน่ใจถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์ให้อีกคนรู้ เขาไม่กล้าทำลายรอยยิ้มที่น่ารักแบบนั้นได้ลง และดูเหมือนเยซองก็จะไม่ได้ติดใจอะไรแล้วด้วย
เรียวอุคเดินไปส่งเยซองที่ห้อง โชคดีที่ครูประจำวิชากำลังจะเข้าและจะว่าโชคดีอีกก็ได้ที่มันเป็นวิชาสุดท้ายของวันแล้ว เยซองโบกมือล่ำลาคนมาส่งแต่เรียวอุคกลับเดินล้วงกระเป๋าออกไปอย่างไม่สนใจ เยซองหุบยิ้มเล็กน้อยก่อนจะแยกเขี้ยวตามหลัง
“เย็นชาชะมัดเลย”
“ไปทำอะไรกับเจ้าเด็กนั่นมาตั้งนานสองนาน”
เมื่อมาถึงโต๊ะแล้วนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ซีวอนก็เอ่ยถามทันที เยซองมองใบหน้าคมก่อนจะหลบสายตา
อีกแล้ว เขาหลบสายตาของซีวอนอีกแล้ว ทั้งๆที่เย็นชาเหมือนกับเรียวอุคแต่ทำไม เขาถึงไม่กล้าสบตาคมนี่สักที
“นายไม่เคยคิดอยากจะพูดกับฉันเลยหรือไง”
ซีวอนสงสัยตัวเองจริงๆว่าทำไมต้องไปสนใจในสิ่งที่อีกคนจะทำด้วย ทั้งๆที่เขาออกจะเบื่อด้วยซ้ำที่ต้องมาคอยตามเจ้าคนซื่อๆนี่ ถ้าไม่ติดว่าฮยอกแจจะดูสนใจในเจ้าคนนี้ล่ะก็ ให้ตายเขาก็ไม่สนใจหรอก
“เรื่องของฉัน”
“หึ”
เสียงหัวเราะในลำคอของซีวอนทำให้เยซองรู้สึกเหมือนหัวใจตกวูบ เขาเหลือบสายตามองคนข้างๆที่นั่งวาดอะไรก็ไม่รู้อยู่ในสมุด
“นี่ๆเยซอง”
ซองมินสะกิดเรียกอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆตัวให้หันมามอง เยซองหยุดจดบนกระดานแล้วหันมามอง
“อะไรเหรอ”
“นายกับซีวอนน่ะ สนิทกันได้ยังไงเหรอ แล้วไปไหนมา”
เยซองชะงักแล้วเหลือบมองโครงหน้าครึ่งเสี้ยวของซีวอนที่ดูเหมือนตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง เยซองหันกลับมามองใบหน้าของซองมินอีกครั้ง
“ฉันไม่ได้สนิทอะไรกับเขาหรอกนะ แล้วฉันก็ไปห้องพยาบาลมา ฉันเป็นลมน่ะ สงสัยไม่ได้กินข้าว”
“เหรอ อืม...”
ซองมินรับคำและดูเหมือนอยากจะพูดอะไรต่อแต่เยซองก็หันหน้าไปจดงานบนกระดานต่อ เขาทำท่าคิดหนักไม่น้อย คนอย่างชเว ซีวอนเนี่ยนะจะยอมมาสนิทสนมกับเยซองเพื่อนของเขา มันดูเป็นไปได้ยากพอๆกับไก่ออกลูกเป็นแมวเลย
ซีวอนลากแขนของเยซองให้เดินผ่านโต๊ะของกลุ่มที่มีฮยอกแจนั่งอยู่ไปอย่างจงใจ เยซองเหลือบมองคนตัวสูงที่เป็นเหมือนรักแรกของเขา ฮยอกแจก็มองมาก่อนจะลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้ามาหา ซีวอนชะงักขาตัวเองทำให้เยซองต้องหยุดตาม
“น้องเยซองจะกลับแล้วเหรอครับ”
เยซองพยักหน้า ซีวอนส่ายหน้าน้อยๆแล้วเดินเข้ามาขวางคนทั้งคู่เอาไว้ ก่อนส่งยิ้มให้ฮยอกแจมันเป็นยิ้มที่เย้ยหยันอย่างถึงที่สุด
“บังเอิญเขามีฉันกลับด้วยแล้ว ขอทางด้วยครับ”
ฟังดูก็รู้ว่าซีวอนต้องการเย้ยหยันขนาดไหน ฮยอกแจไม่สนใจเขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธเอาไว้อย่างถึงที่สุด เยซองมองใบหน้าของซีวอนก่อนจะหันไปมองฮยอกแจ
“ทำไมนายพูดกับรุ่นพี่แบบนี้ ไม่จริงใจเอาเสียเลย”
“ยุ่งน่ะ”
ซีวอนเอื้อมมือมาหยิกจมูกของเยซองแล้วส่ายไปมาเบาๆ ฮยอกแจมองด้วยอารมณ์อย่างไรไม่ทราบได้แต่เขาไม่ชอบเอาเสียเลยกับการกระทำของซีวอน
“งั้นน้องเยซองกลับดีๆนะครับ เอาไว้คราวหน้าพี่จะไปส่งนะ”
ซีวอนลากเอาตัวของเยซองออกไป ฮยอกแจมองตามด้วยความเป็นห่วง เขาไม่รู้ว่าซีวอนกำลังจะทำอะไร แต่คนตัวเล็กที่ดูไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยจะต้องเสียน้ำตาอย่างแน่นอน
“ขึ้นมาสิ เดี๋ยวจะไปส่งให้ที่บ้าน”
“ไม่...ไม่เป็นไร ฉันกลับเองก็ได้”
เยซองเลี่ยงตัวออกไปแต่ซีวอนกลับคว้าเข้าที่ต้นแขนเล็ก
“บอกให้ขึ้นก็ขึ้นมาสิ หรือจะให้ฉันอุ้มขึ้นมานั่งเอง หืม?”
เยซองตัวสั่นระริกก่อนจะดิ้นไปมาแล้วพูดเสียงเบา
“ขึ้น ขึ้นก็ได้ ปล่อยสิ”
ซีวอนสะบัดคนตัวเล็กออก เยซองเดินขึ้นไปซ้อนท้ายจักรยานของอีกคน ซีวอนเริ่มออกแรงปั่นก่อนรถจักรยานของทั้งคู่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วพอตัว
“นายเป็นอะไรกับรุ่นพี่ฮยอกแจหรือเปล่า”
“เอ๋? เปล่านี่ ฉัน...ฉัน”
เยซองตอบเสียงอ้อมแอ้มขณะจับเสื้อที่เอวของซีวอนอยู่ ซีวอนดูท่าจะไม่พอใจเล็กน้อย เขาเหลือบมามองก่อนจะหันไปขี่จักรยานต่อ
...ฉันต้องทำให้มันชอบนายให้ได้ แล้วตอนนั้นแหละ ที่ฉันจะแย่งนายมาจากมัน มันจะต้องเจ็บมากกว่าฉันเป็นล้านเท่า...
เยซองเอ่ยขอบคุณซีวอนเบาๆแล้วโค้งตัวให้ก่อนจะขอตัวเข้าบ้าน ซีวอนรั้งแขนเล็กเอาไว้แล้วดึงเข้ามาใกล้ๆ
“พรุ่งนี้นายว่างหรือเปล่า”
“เอ๋?”
“....”
“เอ่อ...ฉัน ฉันมีงานต้องไปทำน่ะ ขอโทษนะ ไม่ว่าง...”
“เหรอ ช่างเหอะ ไปทำงานอะไรล่ะ ฉันไปด้วยได้มั๊ย”
เยซองเงยหน้าขึ้นสบตากับซีวอน มีช่วงหนึ่งที่เขาแอบเห็นความเหงาและความเศร้าในสายตาคู่นั้นก่อนที่มันจะกลับมาเย็นชาและว่างเปล่าดังเดิม
“นาย...ก็ได้ ไปสิ คนเยอะๆสนุกดีออก แต่ฉันจะไปห้องสมุดนะ”
ซีวอนพยักหน้าแล้วขึ้นจักรยานขี่ผ่านออกไป เขาแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย
...ฉันจะต้องล้วงความลับจากตัวของนายให้มากที่สุดเพื่อที่แผนของฉันจะได้ราบลื่นเป็นอย่างดี...
เยซองเมื่อเห็นว่าคนตัวสูงหายไปแล้วก็ถอนหายใจออกมา หมอนี่ท่าจะเพี้ยนแฮะ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายจะยังไงกันแน่นะ
เขาเปิดประตูบ้านเข้าไปก่อนจะเห็นหนุ่มร่างสูงโปร่งหน้าตาดีวิ่งออกมาหาเขา คนตัวสูงโผเข้ากอดเขาจนแน่น เยซองยังคงตกใจอยู่เลยทำอะไรไม่ถูก
“พี่เยซอง ผมคิดถึงพี่จัง”
เยซองเงยหน้ามองคนที่กอดตัวเอง ด้วยความที่เขาเตี้ยกว่าทำให้เขาโดนบังจนมิด คนกอดเขาผละตัวของเขาออกก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาทั้งๆที่ยังไม่หายตกใจ
“ทงเฮ”
“ครับ ผมเอง เสียใจนะที่พี่จำผมไม่ได้”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ แค่...”
“ได้สิ ยองมี ฉันจะดูแลเจ้าหลานตัวแสบอย่างดีเลยล่ะ เยซองเขาจะได้มีเพื่อนเล่นด้วย”
ทงเฮช่วยเยซองถือกระเป๋านักเรียนแล้วดันหลังคนเตี้ยกว่าให้เดินไปที่ห้องนั่งเล่น ทงเฮวางกระเป๋าลงบนโซฟาก่อนจะวิ่งไปกอดคุณป้าหรือแม่ของเยซองแน่นอย่างคิดถึง
“ต่อจากนี้ไปผมฝากตัวด้วยนะครับ”
ทงเฮพูดเสียงดังโค้งตัวให้คุณคิมที่มีศักดิ์เป็นลุงของเขา คุณป้าแม่ของเยซอง และคนสุดท้ายพี่เยซองที่เขารักเหมือนพี่ชายที่คลานตามกันออกมา ครอบครัวคิมจัดงานเลี้ยงฉลองต้อนรับทงเฮเล็กๆโดยมีเจ้าของงานและครอบครัวคิมเท่านั้น เยซองยิ้มก่อนจะตบที่นั่งข้างๆตัวเอง
“ต่อจากนี้ไปชีวิตของพวกเราคงจะมีแต่ความวุ่นวายสินะ”
เยซองแซวทงเฮเล่นแต่ทำเอาอีกคนคิดมากและงอนไปโดยปริยาย เยซองและพ่อแม่ของเขาหัวเราะเบาๆ ทงเฮอมลมจนแก้มป่องออกมา
“พี่ล้อเล่นน่า แล้วนี่นายย้ายมาอย่างนี้จะไปเรียนที่ไหน เขาไม่เปิดรับแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ก็แบบว่าแม่ของผมเขาใช้เส้นสายเล็กน้อยให้ผมเข้าเรียนที่เดียวกับพี่น่ะ”
เยซองพยักหน้าน้อยๆ ก็แม่ของทงเฮเป็นถึงผอ.ของโรงเรียนชื่อดังในต่างจังหวัดนี่นะ เพราะฉะนั้นเรื่องแค่นี้สบายๆอยู่แล้ว
“น้องสาวฉันบอกว่าเธอน่ะอยู่ที่นู่นซนมากเลยสินะ”
แม่ของเยซองพูดขึ้นจริงจังทำเอาทงเฮสะดุ้ง นั่งเงียบๆตัวลีบอยู่ข้างๆเยซอง
“ถ้ามาอยู่ที่นี่ จะซนไม่ได้หรอกนะ ฉันไม่ยอมแน่นอน แล้วอีกอย่างงานบ้านก็ต้องช่วยเข้าใจหรือเปล่า”
ทงเฮพยักหน้าระรัว เขากลัวคุณแม่ของพี่เยซองจะตาย ก็โดนดุมาตั้งแต่เล็กๆโทษฐานชวนพี่เยซองไปเล่นแล้วไม่ยอมบอกแถมยังกลับดึกอีก วันนั้นเป็นวันที่เขาเลิกเอาแต่ใจไปโดยถาวรเลยทีเดียว
“ยังกลัวป้าไม่เปลี่ยนเลยเหรอ เห็นแม่เราบอกว่าอยู่ที่นู่นกับแม่เขาแล้วเอาแต่ใจ แม่เราเลยไม่รู้จะทำยังไงเลยส่งเรามาหาป้า ให้ป้าช่วยดัดนิสัย”
“อ้อ ครับ”
ทงเฮแอบเคืองแม่ตัวเองเล็กน้อย ทำไมต้องส่งมาอยู่กับป้าจอมดุนี่ด้วยก็ไม่รู้ แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่ที่ว่าเขาจะได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่เยซอง พี่ชายที่แสนดีของเขา
“ทงเฮนอนกับเยซองได้หรือเปล่าลูก”
“อ้อ ครับ”
เยซองบอกลาคุณแม่ของตัวเองก่อนจะเดินไปหาซองมินที่หน้าประตูโดยมีทงเฮตามออกมาด้วยโดยอ้างว่าอยากไปเที่ยวโซล เยซองก็บอกแล้วว่าเขาจะไปห้องสมุดไม่ได้ไปเที่ยวไหน แต่ทงเฮก็ยังรั้น
“เด็กนี่ใครเหรอ น่ารักจัง”
“อ๋อ ลูกพี่ลูกน้องฝ่ายแม่ของฉันน่ะ ชื่อ ลี ทงเฮ”
“อ๋อ เหรอ สวัสดีจ้ะ พี่ชื่อลี ซองมินนะ”
ทงเฮพยักหน้ารับแล้วยิ้มกว้างไปให้อย่างสดใส เยซองกำลังจะเดินออกไปเพื่อเรียกรถแท็กซี่แต่กลับมีร่างเล็กๆร่างหนึ่งวิ่งมาขวางเอาไว้
“พี่เยซองครับ วันนี้ไปกับผมหน่อยสิ”
เรียวอุคพูดขึ้นโดยไม่มองสีหน้าของซองมินเลยสักนิด ทงเฮมองเรียวอุคตาไม่กระพริบ ใบหน้าที่หวานๆและคล้ายกับผู้หญิงทำให้เขาไม่อาจละสายตาออกไปจากใบหน้าหวานได้จริงๆ เขาอยากทำความรู้จักกับคนๆนี้เหลือเกิน แต่พอสบเข้ากับดวงตาเย็นชานั่น เขาก็ต้องสะดุ้งและส่ายหน้าไม่เอาทันที น่ากลัว น่ากลัวเกินไป
“ไปไหน เรียวอุค ไปไหน วันนี้พี่มีนัดกับซองมินนะ”
“ผมขอเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง เท่านั้นพอครับ”
“เอ่อ เอางั้นเหรอ”
“ครับ”
เยซองหันไปมองซองมินก่อนที่ซองมินจะพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจเท่าที่ควร
“ไปเถอะ ฉันจะไปกับทงเฮก่อนแล้วกัน แล้วเจอกันนะ”
ซองมินลากเอาทงเฮให้ตามไปด้วย ซึ่งทงเฮก็ยอมทำตามแต่โดยดี พวกเขาเดินสวนกับจักรยานคันหนึ่งที่มุ่งตรงมาทางพวกเขา ซีวอนจอดจักรยานข้างเรียวอุคและเยซองก่อนจะเดินลงมามอง
“ไหนบอกจะไปกับซองมิน แล้วนี่...เด็กเมื่อวาน”
“เราจะไปโรงพยาบาลกัน พี่เยซองต้องไปกับผม ไปตรวจเรื่องเมื่อวานที่พี่เป็นลมไป พี่ไม่รู้สึกแปลกๆเลยหรือไงที่อยู่ๆก็เจ็บหน้าอกขึ้นมา”
เยซองเบิกตากว้าง ทำไมเรียวอุคถึงรู้ว่าอยู่ๆเขาก็เจ็บหน้าอกขึ้นมาแล้วเป็นลมลงไป ซีวอนก็มองคนทั้งสองไปมาแล้วยักไหล่
“ฉันจะไปด้วย ถึงไม่ให้ไป ฉันก็จะไป”
โอ้!!!ทงเฮมาแล้ว ทีนี้ตัวละครหลักก็มากันครบแล้ว จะพยายามไม่ให้เศร้ามากละกัน
ซีวอนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเนอะ ตามอารมณ์ไม่ถูกกันเลยทีเดียว เรียวจังเย็นชาสุดๆ ท้าทายมาก
กับการแต่งเรียวจังให้เป็นอย่างนี้ เพราะปกติจะเห็นแต่มาแนวน่ารักๆ(ตามฟิคต่างๆ)
แต่พอมาเรื่องนี้ เย็นชาสุดๆ สาวกเรียวจังทำใจยอมรับได้มั๊ยเนี่ย>.<
ความคิดเห็น