ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love You Forever รักเธอชั่วนิรันดร์{WonYe,HaeRyeo}

    ลำดับตอนที่ #24 : Charpter 23

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 421
      0
      18 ต.ค. 53

    Charpter 23

     

    สายลมยามหนาวพัดมาแล้ว หิมะแรกของวันเขาว่าจะตกลงมาจากฟากฟ้าประมาณเที่ยงๆ เยซองกดหยุดเล่นเพลงในIpodแล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เขาจ้องมองท้องฟ้าที่มืดครึ้ม

    เขาไปโรงเรียนไม่ได้แล้ว ร่างกายของเขาทรุดลงทุกวัน

    ไหนหมออีทึกบอกว่าเขาร่างกายแข็งแรงมากกว่าครั้งก่อนทุกครั้งที่มาตรวจไง แล้วไหงร่างกายของเขาถึงทรุดลงๆแบบนี้ ต้องมาตรวจร่างกายทุกวันหลังจากเรียนเสร็จหรือไม่ก็ก่อนไปเรียนในตอนเช้า

    เยซองวางมือลงบนผ้าปูที่นอนแล้วหันหน้าไปมองท้องฟ้าที่เริ่มจะมีลูกอะไรกลมๆสีขาวๆตกลงมาแล้ว หิมะตกแล้ว...

    ครืด~!

    เขาไม่คิดจะหันไปดูสักนิดว่าใครกันที่เปิดประตูเข้ามา เขากำลังสนใจเจ้าหิมะลูกกลมๆอยู่

    ไม่หนาวหรือไง ทำไมถึงไม่ห่มผ้า

    เยซองอมยิ้มและไม่ได้ตอบอะไร เขาเอื้อมมือไปจับมือหนาที่หยิบผ้าห่มมาห่มให้เขา ก่อนหันหน้าไปมองอีกคนทั้งน้ำตา

    ฉันร้องไห้อีกแล้วล่ะซีวอน

    ...

    ฉันเริ่มจะกลัวขึ้นมาอีกแล้ว กลัวว่าจะทำใครหลายคนเสียใจ

    ...ฮยอกแจน่ะเหรอ

    ไม่ใช่ ฉันกลัว กลัวว่าจะทำนายเสียใจ

    ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งห้องช้าๆ ซีวอนมองเยซองที่กำลังจะคลี่ยิ้มแต่ก็ทำไม่ได้ เขารีบหันไปมองทางอื่นก่อนที่หยาดน้ำตาจะไหลลงมา

    แล้วไง ฉันไม่เห็นต้องเสียใจเพราะนายเลย ไม่เห็นจำเป็นเลย...สักนิด

    ซีวอนเดินไปยืนที่หน้าต่างแล้วมองลงไปยังพื้นด้างล่างของโรงพยาบาล หัวใจของเขาเจ็บแปลบเมื่อคิดว่าอีกไม่นานเยซองก็จะไม่อยู่กับเขาแล้ว จะไม่มีคนให้เขาคอยเช็ดน้ำตาให้อีกแล้ว ไม่มีรอยยิ้มที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้ ไม่มีร่างเล็กๆที่คอยอยู่เคียงข้าง ไม่มีใบหน้าหวานๆให้มองอีกต่อไป

    ซีวอนยกมือขึ้นจับที่กระจกแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาจะทำยังไงให้ยื้อเวลาอยู่กับเยซองได้อีกต่อไปนานๆ

    ซี...วอน ฉันอยากเล่นหิมะ

    คนโดนอ้อนหันไปมองคนบนเตียง เขาจำได้ว่าวันแรกที่แม่ของเยซองโทรมาบอกว่าเยซองต้องเข้านอนที่โรงพยาบาลและอีกนานกว่าจะได้ออกมันทำให้เขาหัวใจตกวูบและหวาดกลัวไปต่างๆนานา เขาไม่เป็นอันเรียนทั้งๆที่คิดว่าจะมาติวหนังสือให้เยซองเพราะเข้าช่วงสอบแล้ว แต่นี่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องไปนั่งติวคนเดียว เขายอมทิ้งการเรียนมาหลายวันโดยอ้างเยซองว่าโรงเรียนให้นักเรียนหยุดอ่านหนังสือสอบ ดูเหมือนคนตัวเล็กจะเชื่อสนิทใจเลยไม่ได้ว่าอะไร เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะหลอกเยซองไปได้อีกนานเท่าไหร่

    ได้มั๊ย ให้ฉันไปดูหิมะข้างนอกได้มั๊ย

    ...

    เยซองยังคงอ้อนเขาทั้งน้ำเสียงและแววตา คนตัวเล็กน้ำตาคลอหน่วยและพร้อมจะไหลทุกเมื่อถ้าหากว่าเขาไปขัดใจ ซีวอนพ่นลมหายใจออกมาเป็นควันขาวก่อนจะตามใจคนตัวเล็ก

    แค่แปบเดียวนะ

     

     

    เด็กๆในโรงพยาบาลที่ไม่น่าเป็นห่วงแล้วแต่ต้องเช็คดูอาการและคนไข้มากมายต่างพากันเดินออกมาดูหิมะแรกของฤดูที่ตกลงมาเพิ่มความหนาวของร่างกายให้มากยิ่งขึ้นไปอีก เยซองเอื้อมมือออกไปข้างหน้าก่อนหิมะจะตกลงมาบนมือ เขาชักมือกลับมาเพื่อมองมันก่อนจะยิ้มกว้าง หิมะสวยจริงๆ

    นายไม่หนาวเหรอ ฉันหนาวจะตาย

    ที่จริงแล้วซีวอนไม่ได้หนาวอย่างที่พูดแต่อย่างใด เขาแค่อยากจะหาข้ออ้างเพื่อให้ร่างเล็กกลับเข้าไปในห้องพักของตัวเองต่อ ได้ยินมาว่าคนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงจะไม่สบายและเป็นหวัดง่าย เขาไม่อยากให้เยซองเป็นหวัดเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะจากเขาไปเร็วยิ่งขึ้น

    ซีวอน ฉันอยากเห็นตุ๊กตาหิมะ

    ซีวอนปล่อยมือออกจากที่จับของรถเข็นเดินมามองหน้าของเยซองสายตาดุ เยซองทำสีหน้าหวาดกลัวก่อนจะอมยิ้ม เขาไม่กลัวซีวอนแล้ว เขาเก่งใช่มั๊ยล่ะ

    ฉันไม่กลัวซีวอนแล้ว ซีวอนชอบทำสายตาดุๆใส่ฉัน แต่ฉันก็ไม่กลัวเพราะที่จริงแล้วซีวอนใจดีมากๆเลย

    เมื่อรู้ว่าคนโดนดุรู้ทันแผนของตนแล้วก็ต้องทำสีหน้าเอือมๆแทน เจ้าตัวเล็กนี่ดื้อกว่าที่คิดอีกแฮะ

    ตุ๊กตาหิมะเป็นยังไง ฉันไม่เห็นเคยเห็นเลย

    เอ๋?

    ???

    นายไม่เคยเห็นเลยเหรอ ตุ๊กตาหิมะน่ะ ตุ๊กตาที่ใช้หิมะทำทั้งตัวและเอากิ่งไม้มาปักเป็นแขนไง นายไม่เคยเห็นเลยจริงๆน่ะเหรอ

    ซีวอนพยักหน้า อะไรกันเรื่องแค่นี้ต้องตกใจขนาดนี้เลยเหรอ

    นายจะหาว่าฉันบ้านนอกใช่มั๊ยล่ะ

    เปล่า แค่คิดว่าอย่างซีวอนน่ะจะไม่เคยเห็นได้ยังไง พ่อกับแม่...เอ่อ

    เยซองเงียบเมื่อพูดถึงเรื่องอ่อนไหวและกลายเป็นจุดด้อยของซีวอนไปแล้วออกมา เขาลืมไปได้ยังไงว่าซีวอนอ่อนไหวเรื่องครอบครัวขนาดไหน

    ก็อย่างที่เคยเล่าให้ฟัง พ่อกับแม่ของฉันเขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้ให้หรอก แม่ของฉันท่านจากไปก่อนที่ฉันจะทันได้เล่นตุ๊กตาหิมะเสียอีก

    ซีวอนเอามือไขว้หลังแล้วหันไปมองทางอื่น เขาไม่ชอบเลยสายตาที่ดูอ่อนโยนของเยซอง เพราะมันทำให้เขาหลงคนตัวเล็กนี่มากขึ้นไปทุกวันๆ

    งั้นเราไปเล่นกันดีมั๊ย ฉันจะทำให้ซีวอนตัวหนึ่ง เอาตัวใหญ่ๆเลย

    ซีวอนหันมามองรอยยิ้มที่ทำให้เขาหลงขึ้นไปทุกวันๆ เขาเดินเข้าไปใกล้ก้มตัวลงไปแล้วยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมอีกคนเล่น เขาส่งยิ้มไปให้เยซองอย่างที่ไม่เคยให้ใครมาก่อนนอกจากแม่ของเขา ยิ้มอย่างอ่อนโยนและออกมาจากจากในใจ

    เอาตัวใหญ่ๆเลยนะ

     

     

    ไม่ได้นะ ซีวอนจะต้องเอากิ่งไม้มาเสียบที่ตรงนี้

    เยซองที่ตัวเต็มไปด้วยผ้าพันคอ เสื้อกันหนาวห้าตัว กางเกงขายาวและแน่นอนว่ามันต้องทำให้ร่างกายของเยซองอบอุ่นตลอดเวลาอีกสามตัว มันทำให้เยซองดูอ้วนขึ้นมาจากเดิมและดูเทอะทะสร้างความลำบากในการขยับตัวของเยซอง ซีวอนอมยิ้มเมื่อเยซองจะล้มลงไปแล้วหลายครั้ง

    ซีวอนไม่น่าบังคับให้ฉันใส่เลย มันเทอะทะจัง

    เยซองว่าแล้วยกแขนเสื้อขึ้นมอง เขาก้มลงมองร่างกายตัวเองที่กลายเป็นตู้เสื้อผ้าเคลื่อนที่ไปแล้ว ซีวอนเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะดึงตัวของเยซองเข้ามาใกล้ๆจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจ

    ก็ถ้านายเป็นอะไรไปแล้วมันจะแย่

    ได้ผล เกมนี้ซีวอนชนะ เยซองหน้าแดงอย่างที่เขาวางแผนเอาไว้ แน่นอนว่าเขาได้กลิ่นหอมอ่อนๆมาจากตัวของเยซองและก็เริ่มบังคับตัวเองไม่ได้อีกแล้ว

    นี่!!”

    เสียงที่ดังขึ้นทำเอาซีวอนที่จับอยู่ที่ไหล่ของเยซองปล่อยมือออกก่อนจะถอยใบหน้ากลับไป เขาหัวใจเต้นแรงจนกลัวว่าอีกคนจะได้ยิน

    เยซอง ใครให้ออกมาข้างนอก

    คุณนายคิมจ้องมองเยซองด้วยสายตาเป็นห่วงแกมดุก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองซีวอนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาจ้องหน้าเพื่อนของลูกชายที่ไม่รู้ไปสนิทกันตอนไหนแต่เห็นเยซองเมมเบอร์เอาไว้ว่าเป็นคนสำคัญ

    เธอคงจะชื่อซีวอนสินะ

    คนโดนถามพยักหน้า คุณนายคิมเพียงแค่พยักหน้ารับแล้วจับเข้าที่แขนของเยซองก่อนจะออกแรงดึงให้เดินตามตัวเองไป

    กลับไปที่ห้องได้แล้ว ถ้าเป็นหวัดขึ้นมามันจะแย่

    แต่ผม...

    เยซองปรายสายตามองซีวอนคล้ายจะขอความช่วยเหลือแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล

    กลับได้แล้ว เร็วๆ

    เยซองต้องทำตามคำสั่งของผู้เป็นแม่เดินกลับไปยังห้องแต่ก็ไม่ยอมละสายตาไปจากซีวอนที่ยืนนิ่งอยู่และซากตุ๊กตาหิมะที่ยังไม่เสร็จ ซีวอนมองจนเยซองหายเข้าไปในโรงพยาบาลแล้วถอนหายใจออกมา เขาหันไปมองตุ๊กตาหิมะของเขาและเยซอง

    ซีวอน ฉันอยากเห็นตุ๊กตาหิมะ

    ซีวอนพ่มลมหายใจออกมาอีกครั้ง เขาหันไปมองหน้าต่างของห้องพักฟื้นเยซอง

    ฉันจะทำให้นายเอง

     

     

    แม่ของเยซองห่มผ้าห่มไปบนตัวของลูกชายปิดคลุมจนถึงหน้าอก เยซองหลับไปแล้วเพราะฤทธิ์ของยาและความอ่อนเพลีย เธอจ้องมองลูกชายที่หลับสนิทแล้วอดไม่ได้ที่จะคิดถึงอนาคตของตัวลูกชาย แต่เพียงแค่คิดว่าอนาคตจะไม่มีเยซองให้คอยกอดอีกแล้วเธอก็แทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ มือนุ่มที่โอบอุ้มเยซองมาตั้งแต่ออดแต่อ้อนลูบเบาๆที่กลุ่มผมของลูกชาย เธอสะอื้นเบาๆ

    เยซอง ฮึก ลูกต้องสู้ ต้องสู้ต่อไปนะ ฮือ

    เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลลงมามากว่านี้ ทั้งๆที่สัญญากับเยซองเอาไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้อีกต่อไปแต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องร้องออกมา เธอลูบกลุ่มผมของเยซองอีกครั้งก่อนจะผละออกไปยืนตรงเสาเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ไปมากกว่านี้

    ครืด~

    เสียงประตูเปิดออกทำให้เธอรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาและพยายามทำเสียงไม่ให้สั่น เธอหันไปมองคนมาใหม่ก่อนจะยิ้มออกมา

    ผมไม่รู้ว่าเยซองหลับไปแล้ว ขอโทษครับ

    ไม่เป็นไรจ้ะ

    เธอบอกเพื่อนของลูกชายเบาๆ ซีวอนดูจะงงไม่น้อยที่เห็นเธอพูดดีด้วยทั้งที่เมื่อกี้เพิ่งจะทำสายตาจิกกัดอยู่เลย ซีวอนโค้งตัวและทำท่าจะเดินออกไปแต่เธอกลับเรียกเอาไว้

    เดี๋ยวก่อน ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้มั๊ย

    เอ๋?

    ฉันอยากให้เธอช่วยฉันอย่างหนึ่ง แค่อย่างเดียวเท่านั้น นายจะยอมช่วยฉันได้หรือเปล่า

    ซีวอนทำท่าอึกอักที่จะตอบ คุณนายคิมหันหน้ามามองใบหน้าของเพื่อนลูกชาย ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาฉายแววอ่อนโยนและแข็งแกร่ง ซีวอนกำหมัดแน่นก่อนจะพยักหน้าตกลง

    ครับ เรื่องอะไรเหรอครับ

    ...เยซอง นายรู้อนาคตของเยซองแล้วใช่มั๊ย

    ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางหายนี่ครับ โรคหัวใจน่ะ...

    ใช่อย่างที่เธอพูด แต่ฉันไปอ่านหนังสือมาหลายเล่มแล้ว ยังไม่มีวิธีไหนที่จะทำให้โรคหัวใจหายขาดได้ ถ้าจะผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ รู้ใช่มั๊ยว่ามันเสี่ยงแค่ไหน

    ซีวอนไม่ตอบซึ่งคุณนายคิมรู้ดีว่าเพื่อนลูกชายฉลาดและหัวไวแค่ไหน บางที...เขาอาจจะรู้มาก่อนเธอนานแล้วก็ได้

    เยซองเขายิ้มได้อีกครั้งก็เพราะเธอนะ ช่วยอยู่ข้างๆเขา...จนกว่าจะถึงวันนั้นได้มั๊ย

    น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาของเธอ คุณนายคิมพยายามฉีกยิ้มให้ซีวอน ซีวอนไม่ได้ตอบอะไรและดูเหมือนเขาจะเริ่มไม่แน่ใจในอนาคตของเยซองอีกแล้ว

    ไม่ใช่เพราะกลัวเรื่องที่จะต้องดูแลอีกคน

    แต่กลัว...กลัวเรื่องที่คนตัวเล็กจะต้องจากเขาไปในสักวัน

    ทั้งๆที่คิดเอาไว้ว่าอาจจะมีทางรักษา แต่มันก็คงยาก แสงสว่างริบหรี่จนดับไปกับความมืดมิด

    ความหวัง...มันไม่ควรเกิดขึ้นมาเลย

    ...

    ครับ ผมจะอยู่จนกว่าจะถึงวันนั้น

    คุณนายคิมโค้งตัวขอบคุณหลายต่อหลายครั้ง น้ำตาไหลลงมามากกว่าเดิมด้วยความซึ้งใจ เธอหันไปมองลูกชายที่นอนหลับอยู่บนเตียงก่อนจะยิ้มและขอตัวไปทำงาน

    เดี๋ยวผมไปส่งแล้วกันนะครับ

    ซีวอนผายมือให้หญิงกลางคนเดินออกไปก่อนแล้วเดินตามออกไปโดยไม่ลืมปิดประตู

    สิ้นเสียง เปลือกตาของเยซองก็เปิดขึ้นมา เขาไม่ได้นอนหลับอย่างที่ใครๆเห็น เพียงแค่ไม่อยากจะเห็นน้ำตาของคนเป็นแม่อีกครั้งก็เท่านั้น

    วันเวลาของเขามันเริ่มสั้นลงไปเรื่อยๆ ถึงจะมีโอกาสหาย แต่ทำไมมันถึงริบหรี่นักก็ไม่รู้

    คนเราเกิดมา....เพื่ออะไรกันนะ?

    หลายคนคงเฝ้าหาคำตอบยามที่ตัวเองท้อแท้เช่นเขาเป็นต้น

    แต่ที่จริงแล้วมนุษย์ควรถามตัวเองต่างหากว่า

    ตั้งแต่เกิดมา เราทำอะไรเพื่อคนอื่นไปแล้วบ้าง...?

    ฮึก พ่อครับ แม่ครับ ทงเฮ ฉันขอโทษ ซีวอน....ฉันขอโทษ

    เยซองเลิกผ้าห่มขึ้นปิดหน้าแล้วร้องไห้ภายใต้ผ้าห่ม กอดตัวเองด้วยความเดียวดายและเศร้าใจ เขาจะเกิดมาทำไมถ้าหากว่าไม่เคยสร้างประโยชน์ให้ใครได้เลย

     

    - - - - - - - - >

    จัดไปกับวอนเย่ เยอะสะใจมั๊ยจ๊ะคนอ่านทุกคน

    กลับไปดูบันทึกน้ำตาหนึ่งลิตรหวังสร้างอารมณ์เศร้าๆ

    ดันกลายเป็นว่าร้องไห้จนตาบวม เจ็บตาไปหมดแล้ว

    ดูกี่ทีก็ร้อง เป็นเรื่องแรกที่ทำให้กวาร้องไห้มากมายขนาดนี้

    เอามาใช้กับฟิคเรื่องนี้ได้เยี่ยมสุดยอดเลย ภาพของนักแสดงที่ติดตาทำให้กวาบรรยายตัวละครได้

    แต่บรรยายไปๆมาๆกลับชะงักเพราะจะร้องไห้ โฮๆๆๆๆTOT
    แต่งเองร้องเอง อะไรจะเศร้าขนาดนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×