ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องสั้นของเย่(เคะ)ฉบับรีเควส

    ลำดับตอนที่ #95 : [SF 2JONG]ดูแลไม่ไหว[--END--](แก้อะไรเล็กน้อย)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 335
      1
      12 มี.ค. 53

    Title:ดูแลไม่ไหว

    Pairing: JONGHYUN x YESUNG [2JONG]

    Author:Sara_Pao

    Rating:PG

    Note:ตอนจบมาแล้วจ้า!!! ฟังเพลงไปด้วยจะได้อารมณ์มากยิ่งขึ้น(มั้งนะ= =;)(เนื่องจากเพลงมันไม่ขึ้น หรือเปล่า)



     

     

    สองปีแล้ว...ที่นายทิ้งฉันไว้ในคราวนั้น

    สองปีแล้ว...ที่นายไม่กลับมาหาฉันเลยสักครั้ง

    สองปีแล้ว...ที่นายทิ้งให้ฉันต้องอยู่อย่างเดียวดาย

    สองปีแล้ว...ที่นายหายสาบสูญไป

     

    สองปีแล้ว...ที่ฉันคิดถึงนายตลอดมา

    สองปีแล้ว...แต่ฉันไม่เคยลืมนายออกไปจากใจได้เลย

     

     

    เพราะฉัน...รักนาย

     

     

    ในคืนนั้นวันที่ผมรู้ว่าคนรักของผม คิม จงฮยอนเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะสุดท้าย ในตอนแรกผมคิดว่าเขาโกหกและต้องการอำผมเล่นๆ แต่สายตาที่เขามองมามันไม่ใช่แบบนั้นเขามองผมอย่างเศร้าสร้อย สายตาที่ดูเว้งว้างในความรู้สึกของผม

    มันทำให้ผมที่พยายามจะปฏิเสธความเป็นจริงต้องใจสลาย มือหนาของอีกคนที่เอื้อมมาจับที่แก้มของผมมันดูสั่นระริกเหมือนคนไม่มีแรง

    ในคืนนั้นผมและจงฮยอนต่างร้องไห้จนเราทั้งคู่หลับไปด้วยกัน...

    และผมก็ฝัน ฝันว่าผมเสียจงฮยอนไป เขาทิ้งผมไว้ตัวคนเดียวก่อนที่จะจากผมไป...แบบไม่มีวันหวนกลับ

    ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาในกลางดึกแล้วลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มผืนหนาห่มอยู่บนตัวของผมแต่ข้างๆกลับไม่มีใครเลย ผมมองฝ่าความมืดไปรอบๆตัวแต่ก็ไม่พบใครอีก ผมลุกขึ้นยืนก่อนที่จะวิ่งออกจากห้องไป

    จงฮยอน นายหายไปไหน

    ผมวิ่งไปตามชายหาดลมทะเลพัดเข้ามาปะทะกับใบหน้าจนผมผิดหน้าผิดตาไปหมดผมปัดมันออกลวกๆก่อนที่จะวิ่งไปเรื่อยๆ สายตาพยายามมองหาร่างของคนที่ผมคิดเอาไว้แต่ก็ไม่พบ

    ผมวิ่งห่างออกมาจากที่พักเรื่อยๆมาหยุดยืนหอบอยู่ที่หน้าสะพานไม้ สะพานนี้พวกชาวบ้านเอาไว้เดินเพื่อไปขึ้นเรือ ผมวิ่งขึ้นไปข้างบนเพื่อมองเรือที่เคยจอดนิ่งอยู่ที่ตรงหน้าสะพาน แต่มันหายไป หายไปอย่างไร้ร่องรอย

    ลมทะเลยังคงพัดมาอย่างต่อเนื่อง ผมค่อยๆทรุดนั่งลงบนสะพานไม้มือจับขอบราวสะพานแน่น

    จงฮยอน

    ผมตะโกนเรียกชื่อของอีกคนเสียงดัง ลมทะเลพัดอย่างต่อเนื่องก่อนที่มันจะทวีความรุนแรงขึ้นเหมือนพายุกำลังจะมา เสียงคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งดังจนผมได้ยินชัดเจนละอองน้ำกระเด็นสาดใส่หน้าของผม

    จง ฮึกฮยอน

    ผมสะอื้นออกมาเบาๆ มือที่เคยเกาะขอบราวสะพานค่อยไปตกลงมาช้าๆ

    นายอยู่ไหนน่ะจงฮยอน นายอยู่ที่ไหนน่ะฮึก ฮือๆ

    ผมร้องตะโกนราวกับคนบ้า ไม่มีเสียงตอบรับจากจงฮยอนพวกคุณคงคิดว่าผมโง่ที่มานั่งร้องไห้ต่อหน้าทะเล แต่เพราะทางที่จะออกจากเกาะนี้ได้ก็มีแค่ทางนี้เท่านั้นในตอนกลางคืนแบบนี้ รถประจำหมู่บ้านก็หมดไปแล้ว

    น้ำตาของผมไหลออกมามากกว่าเดิม

    จงฮยอน นายทิ้งฉันไปทำไม

    นายทิ้งฉันไปทำไม...นายทิ้ง ฮึก ฉันไปทำไม

    จงฮยอน นายมันคนหลอกลวง นายไม่เคยจริงใจกับฉันเลย

    ผมตะโกนออกมาอีกครั้งก่อนที่จะก้มหน้าลง น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ผมไม่คิดที่จะเช็ดมันออกไป

    ทำไมนายไม่ไว้ใจฉัน ทำไมนายถึงไม่ฝ่าฝันอุปสรรคไปพร้อมๆกับฉัน

    ผมตะโกนถามขึ้นมาอีกครั้งเงยหน้าขึ้นมองไปทั่วๆเหมือนมองหาใครอีกคนบนผืนฟ้า

    เหมือนกับ...อยากให้อีกคนได้ยิน

    ทำไมนายถึงเลือกที่จะทำแบบนี้ นายก็น่าจะรู้ อึกฮึกนายก็น่าจะรู้ดีฮือว่าฉันรักนายคนเดียว ฮือ

    ยิ่งพูดน้ำตามันก็ยิ่งไหลและก็ไหลออกมาเยอะกว่าเดิมด้วย ผมนั่งมองท้องฟ้าที่ดำมืดด้วยความรู้สึกปวดใจ

    จงฮยอน นายไม่เคยเชื่ออะไรในตัวของฉันเลย

    หลังจากนั้นผมก็พยายามที่จะลืมจงฮยอนไปจากใจของผม ไม่ว่าจะทำโดยการไปเที่ยวเตร่ในตอนกลางคืนและเอาแต่กินเหล้าในตอนเช้าจนเมามาย ทำตัวเหลวแหลกประชดจงฮยอนทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีทางที่ผมจะลืมเขาได้เลย มีแต่จะเจ็บปวดเพิ่มทั้งหายและจิตใจแต่ผมก็เลือกที่จะทำ

    ผมคบผู้ชายที่สนใจแต่ตัวของผมไปเรื่อยๆจนถึงขั้นเคยเกือบมีอะไรกัน แต่เพราะใบหน้าของจงฮยอนที่ลอยเข้ามาทำให้ผมตัดสินใจผลักคนที่เกือบจะมีอะไรกับผมออกไปแล้ววิ่งออกมาจากคอนโดของมัน

    ผมไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงต้องไปรักไอ้คนที่ไม่เคยรักผมด้วย ยิ่งคิดมันก็ยิ่งเจ็บเจ็บจนต้องระบายออกมาทางน้ำตา

    ผมร้องไห้คิดถึงคนที่ทิ้งผมไปทุกคืน เวลาจะนอนก็ต้องนึกไปถึงใบหน้าที่แสนอ่อนโยนนั่น ผมนอนไม่หลับมาหลายคืนเพราะเอาแต่นึกไปถึงเรื่องราวระหว่างผมและจงฮยอน

    ตอนที่เราเริ่มคบกันใหม่ๆเราหวานกันขนาดไหน

    ตอนที่เราเพิ่งจะทะเลาะกันในตอนแรกเราร้องไห้และห่างเหินกันยาวนานขนาดไหน

    ตอนที่เราจูบกันครั้งแรกมันหวานขนาดไหน

    ตอนที่เราออกมาอยู่ด้วยกัน...เรารักกันมากแค่ไหน

    ไม่สิ...เขาไม่เคยรักผมเลยต่างหาก เพราะไม่งั้นเขาคงไม่ทิ้งผมไป

    เขาคงไม่โกหกและปิดบังผมเรื่องโรคมะเร็งอะไรนั่นมานานขนาดนี้

     

    แต่ตอนนี้ผมทำใจได้มากขึ้นแล้ว แต่มันก็ยังลบคนที่ชื่อคิม จงฮยอนออกไปจากใจได้เสียที ผมเลิกทำตัวเหลวแหลกและกลับมาใช้ชีวิตตามเดิมยิ้มแย้มเหมือนคนปกติแต่มันเป็นยิ้มเศร้าๆและไม่เคยจริงในแทน

    น้องของผมเป็นคนแรกที่เขารู้ถึงการเปลี่ยนไปของผม

    พี่เยซอง

    ในวันหนึ่งเขาเรียกให้ผมไปหาเขาที่ห้องนอน ผมกลับมาอยู่บ้านของน้องชายผมและปิดบ้านนั้นไปโดยที่ไม่กลับไปอีกเลย

    ไม่ใช่ว่าอยากตัดขาด แต่ผมอยากจะเก็บมันไว้เป็นความทรงจำที่มีค่าของผม

    ผมสัญญากับตัวเองไว้แล้ว ถ้าเกิดวันไหนผมคิดถึงบ้านหลังนั้นผมก็จะกลับไปอีกครั้งและจะไปอยู่ที่นั่นอย่างถาวร ไปใช้บั้นปลายชีวิตในที่แห่งนั้น

    มีอะไรคิบอม

    เรื่องของจงฮยอน

    จงฮยอนเด็กกว่าคิบอมปีเดียวเขาเป็นรุ่นน้องที่ชอบมาหาคิบอมบ่อยๆก่อนที่เราจะเริ่มแอบชอบซึ่งกันและกัน

    ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...แต่ผมอยากให้พี่เข้าใจเขาใหม่

    เข้าใจว่าอะไร?

    ผมถามกลับ ใช่คิบอม..เข้าใจว่าอะไร เขาทิ้งฉันไปแบบไม่ใยดีแล้วจะให้ฉันเข้าใจว่าอะไรอีกถ้าไม่ใช่ว่าเขาหมดรักฉันแล้ว

    เขาไม่ได้ไม่รักพี่แล้ว

    เลิกพูดเถอะคิบอม

    ผมตัดสินใจพูดออกมาแล้วทำท่าจะเดินออกไปถ้าไม่มีมือมาจับข้อมือของผมเอาไว้

    ทำไมพี่ไม่ยอมคุยเรื่องนี้ ผมไม่ยอมให้พี่เข้าใจจงฮยอนผิดๆอีกแล้ว

    คิบอมพูดเสียงจริงจัง ผมได้แต่เงียบ

    เขาเป็นโรคมะเร้งเม็ดเลือดขาวระยะสุดท้ายจริงๆ

    เรื่องนั้นฉันรู้ แต่ทำไมเขาถึงไม่ยอมบอกพี่ ทำไมเขาถึงไม่ยอมให้พี่คอยอยู่เคียงข้างเขา ทำไม ทำไม ทำไม

    ผมตะโกนและเริ่มอาละวาด ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะลืมเรื่องนี้ออกไปจากใจแล้วแท้ๆ ทั้งๆที่ทำใจได้มาสองปีเต็มแล้วแท้ๆ

    พี่เลิกบ้าและฟังผมเสียที!!!”

    ผมมองคิบอมที่เขย่าตัวผมให้หยุดดิ้น ผมมองเขาทั้งน้ำตา

    จงฮยอนกำลังจะตายและเขาก็เพิ่งรู้เรื่องเช่นกัน เขาไม่อยากให้พี่ต้องเจ็บปวด เขาไม่อยากให้พี่ต้องเสียน้ำตาในวันงานของเขา

    คิบอมพูดเสียงดังฟังชัด ผมได้ยินเต็มสองรูหูสมองอื้อไปหมด

    เขาอยากให้พี่เจอคนที่ดีกว่าเขา เขาอยากให้พี่มีความสุขไม่ใช่ว่าร้องไห้ให้เขา

    คิบอมอธิบายเริ่มปล่อยมือที่จับต้อนแขนของผมออกไป เขาพยุงให้ผมมานั่งลงที่เตียงนอนของเขาก่อนที่จะจับไหล่ของผมเบาๆ

    ผมเองก็ผิดเหมือนกัน ผิดเองทั้งหมดทั้งๆที่รู้แต่ดันไม่ยอมบอกพี่ไป

    ฮึก แล้วมาพูดอะไรตอนนี้

    ผมเสหน้ามองออกไปทางอื่น ไม่อยากมองหน้าของคิบอมสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

    จงฮยอนรักพี่มากนะ ไม่งั้นเขาคงไม่ยอมเป็นฝ่ายเจ็บไปแบบนั้นหรอก

    แต่พี่เองก็เจ็บ

    จงฮยอนเจ็บกว่าพี่มากนะ เขาต้องกล้ำกลืนฝืนบอกเลิกพี่ทั้งๆที่เขารักพี่มากและอยากให้พี่อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป

    แล้วฮึก ทำไม...

    ก็อย่างที่ผมบอกเขารักพี่มาก และก็ไม่อยากให้พี่เสียใจเลยต้องตัดสินใจทำแบบนั้น

    คิบอมพูดเบาๆกับผมก่อนที่จะเอื้อมมือมาลูบหัวของผมเบาๆก่อนจะเดินออกไป

    คืนนี้ผมคงไปค้างบ้านไอ้คังนะพี่ นอนห้องผมก็ได้เพราะผมเพิ่งให้แม่บ้านเอาผ้าปูเตียงไปซัก

    คิบอมพูดแค่นี้ก่อนที่จะปิดประตูลงเบาๆ ผมร้องไห้เงียบๆอยู่คนเดียวนั่งทบทวนในสิ่งที่คิบอมพูดออกมา

    ผมไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อนว่าจงฮยอนเป็นโรครักษาไม่หาย เขาไม่เคยบอกผมเลยสักครั้งทำตัวยิ้มแย้มตลอดเวลาไม่มีท่าทีว่ากำลังป่วย

    ผมเองเมื่อเห็นว่าเขายังยิ้มได้ ยังเดินเหินได้ดีก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร

    จนวันนั้นมาถึง...

    ผมยอมรับว่าผมเองก็ไม่เคยใส่ใจเขามากนัก เอาแต่ทำงานเพื่อที่จะได้เอามารักษาเขาในวันที่เขาเคยเข้าโรงพยาบาลและต้องนอนที่นั่นเกือบๆสองอาทิตย์

    ผมเองมันก็โง่และผิดที่ไม่เคยใส่ใจอะไรในตัวของจงฮยอนเลย

    นายมันโง่จริงๆ จงอุน

    ผมเอนตัวลงนอนบนเตียงสีขาวสะอาดก่อนจะหลับตาลงช้าๆปกปิดดวงตาแห่งความเศร้าและม่านน้ำตาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

    พี่เยซองครับ

    ผมสะดุ้งน้อยๆเมื่อมีมือมาจับเข้าที่แก้มของผม ตาของผมค่อยๆลืมขึ้นมาช้าๆมองหาต้นเสียงปริศนา

    ใครน่ะ

    หมอกสีขาวมันปกคลุมรอบตัวผมจนมองอะไรไม่เห็น ที่นี่มันที่ไหนเนี่ยไม่ใช่ห้องของคิบอมนี่นา

    พี่เยซองครับ

    ผมมองไปหาต้นเสียงอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบใครรู้สึกได้ว่าตามันพร่ามัวไปหมด

    ผมอยู่ทางนี้ฮะ

    เสียงปริศนาค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆจนผมจับทิศทางของเสียงได้ ผมมองตรงไปยังแสงสีขาวนวลที่สว่างจ้าอยู่ตรงหน้าก่อนที่มันจะสว่างจัดจนผมต้องยกมือขึ้นมาปิดตาตัวเองเอาไว้

    ผมเอามืออกก่อนที่จะต้องเบิกตาโตด้วยความตกใจ

    จง...จงฮยอน

    เสียงของผมมันสั่นและควบคุมไม่ได้เมื่อมาเห็นคนที่ผมคิดถึงตลอดเวลาตรงหน้าแบบนี้

    นาย..นายจริงๆเหรอ

    ผมรีบวิ่งไปหาอีกคนก่อนที่จะกอดเข้าไปแต่สัมผัสได้ถึงความว่างเปล่า

    ไม่มีตัวตน วิญญาณ?

    พี่ครับ...ผมกลับมาหาพี่แล้ว

    จงฮยอน

    เสียงของผมแผ่วเบาในความรู้สึกอะไรบางอย่างมันจุกอยู่ที่ลำคอ

    นายจะกลับมาทำไม นายจะมาหาฉันอีกทำไมในเมื่อนายเลือกที่จะทิ้งฉันไปเอง

    ผมตะโกนใส่หน้าของเขา จงฮยอนยิ้มเศร้า

    ผมขอโทษครับ

    เลิกพูดคำนั้นสักที จะมาโกหกอะไรฉันอีก

    ผมไม่อยากจะเชื่อคำพูดนั้นอีกแล้ว คำพูดที่ไม่มีน้ำหนัก

    ผมขอโทษที่ทิ้งพี่ไป ผม...

    จงฮยอนเงียบไป

    นายหายสาบสูญไปไม่ใช่เหรอไง

    ผมถามขึ้นอีกครั้งจงฮยอนเพียงแค่แค่นยิ้มออกมาบางๆ

    ผมไม่ได้หายสาบสูญ แต่ผม....ตายไปแล้ว

    “!!!”

    พี่ครับ กลัวผมหรือเปล่า

    จงฮยอนเอื้อมมือเหมือนจะจับมือของผมแต่ผมดันชักมือหลบในทันที ผมไม่ได้กลัวเขาแต่มันเป็นเพราะสัญชาตญาณ

    พี่คงกลัวผมและเกลียดผมมาก

    ไม่ใช่นะ..แต่ฉัน

    ผมรู้จะพูดยังไงดี ผมไม่รู้จะทำยังไงดี

    ผมกำลังจะกลับมาหาพี่นะครับ

    กลับมา...หาฉัน

    จงฮยอนพยักหน้าให้ผมก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้

    ผมคิดถึงพี่ตลอดเวลา ผมกำลังจะมาอยู่กับพี่ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป....!!!”

    เสียงของจงฮยอนค่อยๆลอยหายออกไปทุกทีๆ จนมันบางเบาแล้วหายลับไป

    จงฮยอน!!!!”

    ผมตะโกนออกมาดังลั่น เหงื่อแย่งกันขึ้นผุดบนใบหน้าของผม

    ฝันบ้าอะไรเนี่ย

    ผมยกมือขึ้นกุมขมับแล้วบีบคลึงเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินออกจากห้องไป

    หิวน้ำชะมัด

    ผมเดินมาที่ห้องครัวก่อนที่จะเปิดประตูตู้เย็นออก

    ผมกำลังจะกลับมาหาพี่นะครับ

    ผมนึกไปถึงคำพูดในฝันเสียงนั่นเป็นของจงฮยอนไม่ผิดแน่ น้ำที่กำลังเทลงแก้วไหลล้นทะลักจนสัมผัสถึงมือของผม ผมตกใจเล็กน้อยและมองมาทที่แก้วน้ำก่อนที่จะวางมันลงแล้วเก็บขวดน้ำเข้าไปในตู้เย็น

    มันก็แค่ฝัน

    ผมบอกตัวเองเบาๆก่อนจะกระดกน้ำในแก้วเข้าไปอึกใหญ่แล้ววางแก้วน้ำลงบนโต๊ะกินข้าวก่อนจะเดินไปเพื่อเตรียมตัวเข้านอน

    พรุ่งนี้ยังมีงานให้ทำอีกนะ อย่าเอาแต่คิดเรื่องบ้าๆสิ

     

    ผมยอมรับเลยว่าผมนอนไม่หลับเมื่อคืน เอาแต่นึกไปถึงฝันบ้าๆนั่นตลอดเวลาที่หลับตาลง อะไรบางอย่างมันทำให้ผมต้องมานอนคิดมากไปมาถึงเรื่องฝันนั่น

    ผมคิดว่าจะไปปรึกษาคิบอมแต่เจ้านั่นก็ยังไม่กลับมาหรือบางทีก็อาจจะไปบริษัทแล้ว

    ผมทำงานให้กับบริษัทเพลงแห่งหนึ่งผมเป็นครูสอนร้องเพลงให้กับเด็กในค่ายของบริษัทนี้ ส่วนคิบอมก็มีหน้าที่ทำงานอยู่ที่ห้องอัดเสียง

    ผมเองก็ไม่ได้เสียงดีอะไรมากนักแต่ก็พอที่จะร้องเพลงได้ เจ้าของค่ายที่ผมทำงานอยู่เคยมาถามผมว่าอยากจะเป็นนักร้องหรือเปล่าแต่ผมปฏิเสธไป ไม่เอาหรอกครับถึงแม้ผมจะชอบร้องเพลงมากขนาดไหนก็ตาม

    ก๊อก ก๊อก

    ผมเคาะประตูห้องซ้อมสักพักเมื่อได้ยินเสียงเหมือนจะมีคนอยู่ข้างใน ใครกันมาแต่เช้าแบบนี้

    แต่ผลที่ได้รับคือความเงียบผมเอื้อมมือไปแตะที่ลูกบิดประตูใจเริ่มสั่นเล็กน้อย หวังว่าคงไม่ใช่พวกวิญญาณอะไรหรอกนะ

    ผมคิดก่อนที่จะหมุนลูกบิดในมือ

    ทำไรอ่ะพี่

    เสียงที่ดังขึ้นข้างหลังทำผมสะดุ้งเฮือกก่อนที่จะหันกลับไปมองทันที

    ไอ้คังอิน!!แล้ววันนั้นเป็นไงล่ะ ดันทะลึ่งไปเที่ยวทะเลแต่พัดหลงกับพวกเพื่อนๆดีนะที่ฉันผ่านไปเห็นไม่งั้นแกได้เป็นหมาข้างถนนแน่ๆ”

    ผมตะโกนเรียกชื่อเพื่อนร่วมงานของคิบอมก่อนจะถามเรื่องวันที่หมอนี่ไปเที่ยวทะเลกับผองเพื่อนแต่ดันหลงทางผมไปเจอเข้าก็เลยไปช่วยเอาไว้แต่ไม่คิดว่าจะเล่นน้ำหนักถึงขนาดเป็นไข้ไปได้ เจ้าหมอนี่ชอบเอาแต่แกล้งผมประจำเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้

    แหมๆแค่นี้ตกใจคิดถึงใครอยู่เหรอไง กิ๊กใหม่หรือจงฮยน

    ผมที่เคยยิ้มๆต้องหุบยิ้มลงทันทีเมื่อได้ยินชื่อหลัง คังอินเองก็เหมือนจะรู้ว่าเขาพูดอะไรผิดไปสักอย่างจึงพยายามหาเรื่องมาพูดใหม่

    คือพี่ ผมขอโทษนะ

    พวกคนในบริษัทต่างรู้ดีว่าผมไม่ชอบให้ใครพูดถึงชื่อของจงฮยอน

    นายรู้เรื่องของจงฮยอนหรือเปล่า

    คังอินส่ายหน้าไปมา แต่หมอนี่โกหกไม่เก่งเอาเสียเลย

    ฉันไม่เชื่อ

    คือผม...

    บอกพี่มา

    ผมรู้ก็แค่ว่าจงฮยอนไปเสียชีวิตในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใกล้ๆกับแถวบ้านพักของเขานั่นแหละ พวกที่โรงพยาบาลติดต่อไปที่บ้านของพ่อแม่เขาก่อนที่พวกญาติพี่น้องจะเอาศพกลับไปทำพิธีที่บ้านนอก

    ผมแทบทรุดแต่ยังดีที่เกาะขอบประตูเอาไว้ คำพูดในฝันเมือคืนดังเข้ามาในหัว

    ผมไม่ได้หายสาบสูญ แต่ผม....ตายไปแล้ว

    พี่เยซอง พี่เยซอง!!!”

    ฮะ

    ผมหันมามองทางคังอินด้วยความตกใจ เรียกซะเสียงดังเชียว

    เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมหน้าซีดๆ

    เปล่าๆ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่าถึงมาหาพี่ที่ห้องซ้อมแบบนี้

    คุณคิมบอกว่าจะมีเด็กฝึกหัดมาใหม่เห็นบอกว่าคนนี้อ่ะเสียงดีมากๆเลยนะ แต่คุณคิมบอกว่าอยากให้พี่ลองทดสอบเสียงดูก่อน

    อืม

    คุณคิมที่คังอินว่าก็คือเจ้าของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ เขามักจะให้ผมทดสอบเสียงของเด็กฝึกหัดทุกคนถ้าคนไหนพอที่จะฝึกต่อไปได้ก็ให้รับไว้แล้วส่งไปให้เขาทำสัญญา แต่ถ้าคนไหนไม่ไหวที่จะรับไว้ก็ให้เอาออกไปได้เลย ส่วนใหญ่ที่ผมเจอมักจะมีแต่คนที่เต้นเก่งๆเสียงดีจริงๆไม่ค่อยมีเท่าไหร่

    คังอินยิ้มให้ผมก่อนที่จะเดินจากออกไปผมหันไปมองประตูห้องซ้อมก่อนที่จะเปิดเข้าไปแต่ดันมีคนเปิดออกมาเสียก่อน

    ตุ้บ!

    พรึ่บ!!!

    เอกสารต่างๆในมือของคนที่ผมเดินชนปลิวว่อนไปมากลางอากาศ ร่างของผมล่วงเกือบจะถึงพื้นดีที่ได้มือของใครบางคนกอดผมเอาไว้

    เป็นอะไรหรือเปล่า

    เสียงที่ผมได้ยินทำผมตาโต ก่อนที่จะมองมาทางคนที่ช่วยผมเอาไว้

    จง..จงฮยอน!!!”

    ?

    นาย จงฮยอนจริงๆใช่มั๊ย

    ครับผมชื่อจงฮยอนเป็นเด็กฝึกใหม่ครับ คุณคงเป็นคุณครูเยซองใช่มั๊ย

    เขาดึงตัวของผมให้ลุกขึ้นมายืนตัวตรงก่อนที่จะโค้งตัวให้ผม ผมมองด้วยความงุนงง

    เด็กฝึกคนใหม่

    จงฮยอนจริงๆ ผมจำเขาได้แต่ทำไมเขาถึงทำเหมือนไม่รู้จักผมแบบนั้น

    ดวงตาที่แสนอ่อนโยนที่ชอบแอบมองผมจากที่ห่างไกล เสียงทุ้มนุ่มที่แสนจะไพเราะนั่น

    เขาจำผมไม่ได้!!!

    ครูครับ ครู

    จงฮยอนสะกิดแขนของผมเบาๆก่อนที่ผมจะมองไปที่จงฮยอน

    นาย..ชื่อจงฮยอนแน่เหรอ

    ฮะ ยังไงผมก้คงต้องฝากตัวด้วยนะฮะ

    เขาก้มหัวให้ผมอีกครั้ง

    เยซอง เจอแล้วใช่มั๊ยเด็กใหม่น่ะ

    ผมหันไปมองตามเสียงเรียกก่อนที่จะเจอเข้ากับคุณคิมประธานบริษัท ผมโค้งตัวให้เขาจงฮยอนเองก็เช่นกัน

    เด็กใหม่นี่น่ะจะมาร้องเพลงคู่กับเธอนะ

    เอ๋?

    ฉันขอโทษด้วย แต่ฉันอยากให้นายกับเด็กนี่ร้องเพลงคู่กันฉันคิดว่าจะเอาเธอทั้งคู่เป็นนักร้องคู่น่ะ เยซองขอร้องล่ะได้หรือเปล่า

    คำพูดที่เหมือนกับการบังคับนั่นจะให้ผมยังไงได้นอกจากตอบตกลง

    ขอบใจนะเยซอง เอาเป็นว่าฝากฝึกด้วยนะถ้าพวกเธอพร้อมเมื่อไหร่ฉันจะเดบิวต์ให้ทันที

    คุณคิมตบบ่าของผมเบาๆก่อนที่จะเดินไขว้หลังจากไป พนักงานที่ผ่านมาเห็นก้มหัวให้ทุกคนที่ท่านเดินผ่าน

    ยังไงผมก็ต้องฝากตัวด้วยนะครับ

    ผมมองไปที่จงฮยอนก่อนที่จะคว้าตัวของจงฮยอนมากอด ผมไม่สนแล้วว่าเขาจะเป็นจงฮยอนเดียวกับที่ผมคิดถึงมาตลอดหรือเปล่าแต่ยังไงหัวใจของผมก็มั่นใจว่าเขาคนนี้คือคนที่ผมรอตลอดมา

    คิม จงฮยอน นายกลับมาหาฉันแล้ว

    ผมกำลังจะกลับมาหาพี่นะครับ

    ผมคิดถึงพี่ตลอดเวลา ผมกำลังจะมาอยู่กับพี่ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป....

     


    THE END

     

    11/03/2553

    จบแล้ว ไม่ซึ้งและงงใช่ป่ะนักอ่านทั้งหลาย วันนี้โมโหกับเน็ตมากและการโหลดธีมคอม

    ฮ่วย!!จะโหลดยากอะไรนักหนา แต่ตอนนี้ก็ได้มาไว้ในครอบครองแล้ว(ฮิยะฮะฮ่า)

    ไปและที่รัก บอกก่อนๆตอนต่อไปคู่คุณเย่นะจ๊ะ และพอจบคู่นี้แล้วกวาจะพักSFสักพักนะแล้วกวาจะไปเน้นเรื่องF4แทนนะ รับรู้โดยทั่วกันนะครับ

    ปล.อ่ะนะตอนนี้ทุกคนคงรู้ข่าวเรื่องป๋ากันแล้วใช่มั๊ย ยังไงก็เชื่อมั่นในตัวของป๋าเอาไว้นะ

    กวาเชื่อว่าป๋าไม่เคยทอดทิ้งเอลฟ์ไปไหนหรอก ป๋าต้องกลับมาพร้อมกับเอสเจและพวกเขาก็จะยืนบนเวทีครบทั้ง13อีกครั้ง

    ถ้าว่างๆกวาจะเอารูปที่ทำมาแจกนะเยอะเกินเต็มเครื่องและ= =;
    ไปละเด็กๆ ฝันดีนะคร้าบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×