บันทึกกุหลาบสีน้ำเงิน - นิยาย บันทึกกุหลาบสีน้ำเงิน : Dek-D.com - Writer
×

    บันทึกกุหลาบสีน้ำเงิน

    บรรยายชีวิต หลบซ่อนไว้ภายใต้อักษรด้วยความหวัง หวังว่าสักวันเรื่องราวเหล่านี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้นักล่าฝันทุกคน จะได้เดินตามวิถีของตนเองสักที

    ผู้เข้าชมรวม

    237

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    237

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักสีเทา
    จำนวนตอน :  5 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  12 ม.ค. 64 / 16:53 น.
    e-receipt e-receipt
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บันทึกกุหลาบสีน้ำเงิน จะกล่าวถึงในวันที่“หมดไฟ” ก็คือ ไม่มีแรงทำบางสิ่งบางอย่างต่อไป ท้อ เหนื่อย ไม่อยากจะทำอะไร ส่งผลให้ตารางงานที่วางแผนไว้ไม่สำเร็จ ดังนั้น เราจะต้องมีวิธีปลดปล่อยความขยันให้กลับมาอีกครั้งให้ได้ จุดไฟให้กับตัวเอง
    เป็นการรวบรวมถ้อยคำ ผ่านประสบการณ์ผู้เขียนแล้วก็สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่องตามความเหมาะสม

    สวัสดีค่ะเพื่อนๆ หลังจากที่ห่างหายไปนาน (เนื่องจาก แต่งนิยาย แล้วมือไม่ถึง555+ นั่นคือ เขียนต่อไม่ได้) ก็กลับมาแล้วนะคะ มาพร้อมกับ ความอยากเขียนมาก มาก มากกก ที่หายไปก็ต้องขอโทษเพื่อนๆมากๆเลยนะ~ หลังจากนี้ ถึงแม้จะภาระกิจเพิ่มขึ้น แต่ก็จะมาอัพบ่อยๆ เขียนบ่อยๆ เพราะจะเดินสายนักเขียนเต็มตัวแล้วล่ะ (เทอมหน้า ก็จะเรียนจบ ป.ตรีแล้วนะ เย่!)

    สารบัญ

    1.หาแรงบันดาลใจ
    ไม่ว่า”แรงบันดาลใจจากตนเอง”หรือ”แรงบันดาลใจจากคนอื่น” ชอบอะไรก็ตามไปดู จมอยู่กับสิ่งที่ชอบไปก่อน ไม่ต้องสนใจคนอื่น ถ้าจะมีเสียงคนอื่นคอยขัดขวาง เราก็แอบๆดู 555+ ดูในสิ่งที่เรามีความสุข ปล่อยตัวเองให้ได้พักผ่อนบ้าง

    2.หาสิ่งใหม่ทำ
    ทั้งนี้ ไม่ได้หมายถึงให้ทิ้งสิ่งเก่า เพื่อไปทำสิ่งใหม่เลยนะ การที่เราได้ลองทำสิ่งใหม่เป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ พอได้ลองทำอะไรใหม่ๆ สังพัก เราจะมีไฟในการกลับมาสร้างสิ่งเดิมๆที่เคยท้อ เพราะว่าเราอาจจะลืมความเหนื่อยล้า ความน่าเบื่อไปแล้ว

    3.หาความรู้เพิ่ม
    เวลาเดินไปข้างหน้า หากเราหยุดอยู่กับที่ ไม่ได้พัฒนาตัวเอง ก็ถือได้ว่า เราเดินถอยหลังด้วยซ้ำ ฉะนั้น ความรู้ใหม่ๆ กติกา กฎต่างๆอาจจะเปลี่ยนแปลงไป ยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีเติบโตรวดเร็ว เรายิ่งต้องอัพเดทข่าวสาร อัพเดทความรู้สม่ำเสมอ หากเกิดปัญหาบางอย่าง จะได้แก้ไขได้รวดเร็วขึ้นนะ ????

    4.หางานอดิเรกที่สนใจ
    เคยไปถามหลายๆคน ว่า “มีงานอดิเรกอะไร?” มีบางส่วนตอบว่า “ไม่มีงานอดิเรกค่ะ” (แสดงว่าอาจจะมีสิ่งอื่นให้ความสุข อาจจะงานยุ่งไม่มีเวลาพักผ่อน)
    หลายคนตอบ “ฉันชอบนอนมากที่สุด” ซึ่งก็ไม่ได้แปลกอะไร ลองหางานอดิเรกที่อยากทำ ให้เวลากับตัวเองได้เที่ยวเล่นบ้าง บางอย่าง เครียดมากๆก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาได้หรอก

    5.ปิดหูชั่วคราว
    เสียงคนรอบข้างมักจะดังอยู่ในหัวเสมอ หลายๆครั้งก็บั่นทอดจิตใจ ทำให้ท้อได้เหมือนกัน (โดยเฉพาะเสียงของคนในครอบครัว และคนที่เรารัก) คนพูดอาจจะเป็นห่วง แต่ด้วยวิธีการสื่อสารที่อ้อมค้อม ทำให้เข้าใจผิด แล้วคนฟังก็เสียใจ รู้สึกไม่โอเค ดังนั้น ถ้าเราไม่สามารถเข้าใจคนข้างๆว่า”คำพูดต้องการจะสื่ออะไร?” ก็ขอแนะนำให้ ปิดหูชั่วคราว (ไม่ได้จะบอกว่า อย่าเชื่อฟังพ่อแม่ ส่วนตัวคิดว่า ถ้าฟังแล้วทำร้ายจิตใจตัวเอง คนพูดควรเปลี่ยนวิธีพูด เปลี่ยนคำพูด คิดว่าน่าจะไม่ได้ยากอะไรเกินความสามารถของมนุษย์ ให้นึกถึงใจเขาใจเรา)

    6.หาเวลา อยู่กับตัวเอง
    คนที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด ก็คือตัวเราเอง ก็จริงอยู่ ที่คนรอบข้างสามารถเข้าใจเราได้ เราอาจจะมีเพื่อนสนิท มีพี่น้องที่อยู่ด้วยกันตลอด แต่การที่คนอื่นเข้าใจเราได้ นั่นเป็นเพราะเราสื่อสารออกไปไม่ใช่หรอ? และคนสุดท้ายที่จะอยู่กับเราตลอดชีวิต ก็คือ”ตัวเราเอง” คนที่เข้าใจเรามากที่สุดก็คือ “เรา” นั่นหละ ยังไงก็อย่าลืมหาเวลาอยู่กับตัวเอง เพื่อหาคำตอบให้ได้ว่า “กำลังรู้สึกอะไร?” “ต้องการอะไร?”

    7.ใช้ชีวิต วันต่อวัน
    การมีเป้าหมายเล็กๆ ว่าจะทำงานสัก2-3 ชิ้น/วัน ก็ช่วยสร้างกำลังใจให้เราได้มากนะ ทำวันนี้ให้มันดีที่สุด ตามแผนที่วางไว้ก็ถือว่า สำเร็จใน1วันแล้วหละ
    และด้วยก้าวเล็กๆทีละก้าว ก็สามารถพาเราไปสู่เป้าหมายที่ดูแสนไกลได้

    8.หาเพื่อนร่วมทาง
    ต้องยอมรับเลยว่า “เพื่อนร่วมทาง”ช่วยผลักดันเยอะมากจริงๆ ยิ่งต้องอัพเดทความเคลื่อนไหวให้เพื่อนฟังบ่อยๆ งานที่ทำก็ต้องเร่งทำให้เสร็จเร็วขึ้น เวลามีปัญหา ต้องการกำลังใจ ก็มีเพื่อนร่วมทางนี่แหละช่วย
    ทั้งนี้ เพื่อนร่วมทางอาจจะมีเป้าหมายเดียวกัน หรือ คนละเป้าหมายก็ได้

    9.แข่งกับตัวเอง
    เมื่อ 4-5ปีก่อน เราคงมีฝีมือที่แตกต่างจากวันนี้ ความถนัดของเรา ประสบการณ์ของเรามากขึ้น ให้กำลังใจตัวเองมากๆ แล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเหนื่อยก็พักได้ ก็อยู่จุดๆเดิม ไม่ต้องไปแข่งกับใครหรอก เพราะจุดเริ่มต้นแต่ละคนไม่เท่ากัน แล้วถ้าได้ยินคำพูดยอดฮิต นั่นคือ “ทำไมลูกคนอื่นเขาทำได้?” “ดูลูกคนอื่นเขาสิ!” ก็ขอแนะนำข้อ5 อีกครั้งนะ ถ้าไม่สามารถโอเคจริงๆ ปิดหูไปเลย ไม่ต้องฟัง (เพราะฟังแล้วไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย)

    10.เดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ
    ไม่ว่าวันนี้ ใครจะอยู่หรือใครจะไป คนที่เคยเดินข้างๆจะค่อยๆหายไปหรือไม่? ยังไงซะ เราก็ต้องเดินหน้าต่อไป ทำตามฝันของตัวเองให้เป็นจริง ลองนึกถึงวันแรกที่มีความหวังเล็กๆ แล้วค่อยๆลงมือทำมาเรื่อยๆดูสิ ต้องขอบคุณความทรงจำเหล่านั้นจริงๆนะ ที่พาเรามาถึงจุดๆนี้

    หากรู้สึกกำลังหลงทาง หรือเดินทางผิดก็ไม่เป็นไรนะ เดินไปสู่เส้นทางใหม่ ค่อยๆนำทางตัวเองต่อไป เพราะชีวิตของเรา ก็มีเพียงเราเท่านั้นที่จะรู้คำตอบว่า ทางที่เดินมันใช่สำหรับเรารึป่าว?

    สุดท้ายนี้ หวังว่าสิ่งที่แบ่งปันมาทั้งหมด จะช่วยให้กำลังใจ สนับสนุนให้เพื่อนๆมีกำลังเดินตามความฝันของตัวเองนะ จับความฝันให้แน่นๆ ให้กำลังใจตัวเองเข้าไว้ ค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ แล้วสักวัน ความฝันก็จะกลายเป็นความจริง

    แล้วเจอกันใหม่ ครั้งหน้า

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น