คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ไกรทอง ตอน18 (แก้ไข)
นับจากวันที่ไม้เตลิดหนีไปเพราะโดนตะเภาทองตัดรอน ก็หายตัวเข้ากลีบเมฆไม่มีผู้ใดพบเห็นมันอีกเลย ทำให้คนทางบ้านร้อนใจเร่งส่งคนออกตามหากันจ้าระหวั่นจนแทบพลิกแผ่นดิน ด้วยไม่รู้ว่าน้องชายเป็นตายร้ายดีเช่นไร ถึงได้ตามหามันไม่เจอแม้แต่เงา
การที่ลูกชายคนเล็กของเศรษฐีขวานหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จึงเป็นเหตุให้ชาวบ้านต่างพากันเที่ยวโจษจันไปทั่วว่ามันคงจะฆ่าตัวตายประชดรักไปแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นมันก็ต้องมีการส่งข่าวกลับมาหาคนที่ในครอบครัวบ้างไม่ใช่หายตัวลึกลับไปแบบนี้
ยิ่งข่าวลือเล่าต่อปากกันมากเท่าไร มันก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องเล่าสนุกปากขึ้นตามลำดับ บ้างเรื่องก็ถูกเล่าเสริมเติมแต่งลงไปจนเป็นเรื่องสนุกไปของพวกชอบนินทา โดยลืมนึกถึงของคนที่เป็นห่วงว่าจะรู้สึกช้ำใจมากแค่ไหนเมื่อต้องมาได้ยินข่าวลือเสียๆหายๆเกี่ยวกับคนในครอบครัวที่หายตัวไป
เฮ้อ!เจ้าไม้มันหายหัวไปไหนของมันกันแน่วะ ส่งคนออกไปตามหาเท่าไร ที่ไหนก็ยังไม่ใครหามันพบ...ถ้ารู้ว่ามันจะดำดินหนีไปแบบนี้ วันนั้นข้าตามมันไปด้วยก็ดีหรอก
…โอย น้องข้าจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง จะอยู่กินยังไง จะเอาตัวรอดคนเดียวได้หรือไม่... ‘เป็นห่วงจริงโว้ย!’
ยิ่งคิดกังวลเด็กหนุ่มก็ยิ่งหมกมุ่นจนสองเท้าเดินวกไปวนกลับมาเหมือนเสือติดจั่น ขนาดเอาสมุดบัญชีมานั่งทำงานจิตใจก็ยังไม่ยอมสงบลง ถึงตาจะมองรายรับ รายจ่ายแต่ทว่าในหัวกลับนึกห่วงน้องชายคนเดียวที่หายตัวไปไม่ยอมคลาย จนในที่สุดก็ต้องยอมแพ้ปิดสมุดบัญชีลง....ไม่ทงไม่ทำมันแล้วงาน เป็นห่วงไอ้ไม้จนอกจะแตกตายอยู่แล้ว
หรือว่ามันจะฆ่าตัวตายประชดรักจริงตามที่ชาวบ้านเค้าลือกัน...ไม่!เป็นไปไม่ได้น้องกูไม่ใช่คนเยี่ยงนั้น...ถ้างั้นมันจะหายตัวไปได้ยังไง...ขนาดลองไปข่มขู่ถามจากพวกไอ้ไกรพวกมันก็ยังไม่รู้...โอ๊ย!ปานฉะนี้น้องกูจะเป็นอย่างไรบ้างเนี่ย!
ด้วยอารมณ์หงุดหงิดของเด็กหนุ่มเพิ่มมากขึ้น คนรอบข้างเลยต่างพากันระวังตัวอย่างหวาดกลัว ทุกคนยอมอดทนนั่งนิ่งไม่กล้าขยับมาก จนถึงขนาดจะหายใจแต่ละครั้งก็ยังลำบาก โดยเฉพาะกับ…“ไอ้เสา!!!” ที่เดี๋ยวนี้เริ่มมีอาการหวาดผวาทุกครั้งที่ได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อ
เสียงตวาดเรียกดังลั่นปานฟ้าผ่าของลูกพี่ ทำเอาเด็กหนุ่มรูปร่างผอมสูง แทบอยากจะกระโดดหนีลงจากเรือนไปเสียเดี๋ยวนี้ให้ไกลๆ แต่มันก็ทำไม่ได้ดั่งที่ใจมันนึกอยากจะทำ เพราะรู้ดีว่าลูกพี่คนโตนั้นโหดแค่ไหน เลยจำต้องทำหน้าเป็นวิ่งเข้ามาหาตีนลูกพี่อย่างคนที่ยอมรับชะตากรรมไม่กล้าหลีกหนี
“จะ...จ๊ะ...พี่เพลิง ฉันอยู่นี่จ๊ะ มีอะไรจะใช้หรือปล่าวจ๊ะ?”
“กูให้มึงไปตามหาน้องกู ได้เรื่องไปถึงไหนแล้ววะ ไหนลองบอกกูมาสิ” เพลิงยืนกอดอกรอฟังเบาะแสที่สั่งลูกน้องให้ไปทำ ว่ามันคืบหน้าหรือมีข่าวคราวมากน้อยแค่ไหนในการค้นหาน้องชาย
“ยะ...ยัง...ปะ...ไป...อึก...ไม่ถึงไหนเลยจ๊ะ ฉันส่งคนออกตามหาทุกที่ ที่พี่ไม้เคยไปหรือที่คิดว่าจะไป...ก...ก็ยังไม่เจอเลยจ๊ะ”
ตั่บ!!! ไอ้เสาถึงกับหน้าหงายจนร่างแทบจะลอยละลิ่วลงเรือนไปตามแรงตีนของลูกพี่
คำตอบที่ได้รับจากลูกน้องคนสนิทตรงหน้า เพิ่มอารมณ์เดือดดาลให้เพลิงทบขึ้นทวีคูณ เด็กหนุ่มยืนชี้หน้าตวาดใส่มันเสียงดังลั่นสามบ้านแปดบ้านด้วยความโมโห “ยังไปไม่ถึงไหน! มึงยังกล้าพูดคำนี้กับกูให้ได้ยินอีกเรอะ!!.....ไป!!! ไปให้พ้นหน้ากู! ไปให้พ้น!”
เสาต้องรีบหอบสังขารหนีหางจุกก้นกระโจนลงเรือนไปเมื่อเจอเสียงเกรี้ยวกราดของลูกพี่ ไม่ใช่แค่มันเท่านั้นบ่าวรับใช้คนอื่นๆที่ยังอยู่บนเรือนก็พากันนั่งอกสั่นขวัญแขวนไปตามๆกัน
สาธุ๊...ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้คุณเพลิงตามหาคุณไม้เจอด้วยเถอะเจ้าพระคุ๊ณ...ปกติยามดีคุณเพลิงนั้นดีใจหายแต่ยามร้าย ช่างน่ากลัวเหมือนปีศาจไม่มีผิด ถึงแม้จะมีนิสัยอันธพาลแต่กับคนในบ้านท่านก็มักจะใจดีด้วย ไม่เคยกดขี่หรือบังคับขืนใจใครให้เจ็บช้ำน้ำใจ เสียอย่างเดียวก็ตรงนิสัยใจร้อน และยังชอบกินเหล้าจนแทบกินข้าวแทนน้ำดูเป็นคนสำมะเลเทเมาในสายตาชาวบ้าน
“แต่ละคนเลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ มองอะไร!ไม่มีการไม่มีงานทำกันรึยังไง!”
“เอะอะเรื่องอะไรกันอีกเจ้าเพลิง เสียงดังไปถึงหน้าบ้าน ขนาดพ่อยังได้ยิน”
เศรษฐีขวานที่เพิ่งจะกลับมาพอเห็นท่าทางลูกชายคนโต...ไอ้ที่ถามคงไม่ถามอีกแล้วละมั้ง...นึกว่าเรื่องอะไรที่แท้ก็เรื่องเดิมๆ
“ไม่ต้องบอกพ่อพอจะรู้แล้วว่าเรื่องอะไร”
คนเป็นพ่อทรุดลงนั่งพิงหมอนเอนกายให้สบาย ยกน้ำชาจิบให้สบายอารมณ์เตรียมพร้อมรับมือกับอารมณ์ของลูกชายคนโตเต็มที่
“พ่อแล้วเรื่องเจ้าไม้ละว่ายังไง เราจะไปตามหาน้องที่ไหนอีกดี”
เพลิงรีบทิ้งตัวลงนั่งข้างพ่อเอ่ยปากอย่างร้อนใจตามนิสัยขี้ห่วงน้อง แต่เศรษฐีขวานนั้นยังไม่ยอมกล่าวอะไรนอกจากค่อยๆจิบชาไปเรื่อยๆจนหมดถ้วย
“ไปเมาอยู่ที่หมู่บ้านอื่นหรือปล่าว?”
“ลูกก็เคยคิดแบบนั้น หากแต่พอส่งคนออกไปตามทุกๆที่ที่มันเคยไปก็ยังหาไม่เจอ นี่เกือบจะสามเดือนแล้วนะพ่อ...เจ้าไม้ไม่เคยหายไปจากบ้านนานแบบนี้เลยนะ”
เศรษฐีขวานวางถ้วยชาปล่าวลงบนโต๊ะแล้วหยิบสมุดบัญชีมากางอ่านตรวจดูความเรียบร้อย ท่าทางไม่เป็นเดือดเป็นร้องของพ่อยิ่งเพิ่มความร้อนใจให้เพลิงจนนั่งแทบไม่ติด
“แค่สามเดือนเอง เจ้าไม้มันโตแล้วปล่อยไปเถอะถึงเวลามันก็คงกลับมาเอง”
ปัง!
เสียงกำปั้นกระทบโต๊ะไม้ดังสนั่นจนบ่าวไพร่ทั้งหลายสะดุ้งเฮือก ก้มหน้าก้มตารีบกระเถิบหนีไปนั่งตัวลีบกันอยู่ห่างๆอย่างรู้งาน
ผู้เป็นพ่อปรายตามองโต๊ะก่อนจะมองหน้าลูกชาย เมื่อเจอสายตาพิฆาตของพ่อจากที่ร้อนๆก็กลายเป็นเย็นลงโดยฉับพลัน
“เจ้าไม้มันก็เป็นลูกพ่อเหมือนกับเอ็ง แต่ลูกผู้ชายมันก็ต้องรู้จักดูแลตัวเองเพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และที่มันหายไปคงเพราะอยากจะหาที่เลียแผลใจตามประสาคนอกหัก ในเมื่อน้องมันอยากอยู่เงียบๆคนเดียวเอ็งจะเดือดร้อนหาพระแสงวิมานทำไมห๊ะ?”
“แต่น้องมันหายไปหลายวันลูกเป็นห่วงกลัวจะเกิดเรื่องร้ายๆกับมัน”
“เอ็งชอบตามใจน้องจนเคยตัวปล่อยๆไปบ้างเถอะ เผื่อมันจะเป็นผู้เป็นคนกับเขามั่ง”
เพลิงก้มหน้าบ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆว่า...น้องยังเด็ก...ถึงเสียงจะเบาแต่คนนั่งข้างกับได้ยินชัดเจน
บ๊ะ!ไอ้ลูกคนนี้ถึงมันจะชอบเที่ยวเกเรไปทั่วแต่เวลาที่ทำงานมันก็ยังจริงจังพอให้พึ่งพาได้ ผิดจากไอ้คนเล็กที่ถูกตามใจจนเคยตัวถึงได้เป็นเด็กไม่รู้จักโต...รู้อย่างนี้ตอนเด็กๆไม่ปล่อยให้เลี้ยงน้องแบบตามใจเสียก็ดี
“เด็กที่ไหนมันนะสิบแปดขวบแล้ว ไม่ใช่เด็กแล้วนะเจ้าเพลิง...แม้พูดแล้วจะเจ็บใจแต่ช่วยหัดดูอย่างไอ้ไกรกับไอ้ทองดำบ้างสิ พวกมันสองคนช่วยเหลือ ดูแลตัวเองได้ตั้งแต่ตัวเท่าเมี่ยงไม่ต้องเที่ยวพึ่งพาใครต่อใคร ผิดกับเจ้าไม้ลิบลับที่ยังเป็นเด็กไม่รู้จักโตสักที”
ถึงจะเกลียดขี้หน้าลูกไอ้ขุนเพียงใด แต่ตนนั้นก็ยอมรับว่าลูกชายของมันเก่งจริงฟที่สามารถดูแลตัวเองได้โดยไม่เดือดร้อนใคร ช่างต่างจากไอ้ลูกคนเล็กของเขานัก
“พ่อ!เอาน้องเราไปเปรียบกับไอ้พวกนั้นมันได้ยังไง ถึงเจ้าไม้จะทำอะไรไม่เป็นแต่ฉันก็สามารถเลี้ยงน้องได้นะพ่อไม่ต้องห่วง”
จบคำพูดของลูกชายคนโตทำเอาเศรษฐีขวานนึกอยากจะเป็นลมล้มตึงไปเสียเดี๋ยวนี้จริงๆ...ไอ้เพลิง ไอ้ลูกชายหัวแก้ว ชาวบ้านทั้งบางต่างพากันกลัว กันเกลียดเอ็งในความเป็นอันธพาล ชั่ว เลว นานัปการ แต่กลับมาตกม้าตายเรื่องรักน้องฉิบหาย พอบอกเหตุผลให้ฟังดันเสือกมาบอกว่าจะเลี้ยงน้องเอง...มึงไม่กระเตงมันเข้าเอวแล้วเรียกเจ้าไม้ว่าลูกเสียเลยละหึ...โอย ข้าควรจะดีใจไหมที่เอ็งมันรักน้องมากกกกก
“มึงก็เป็นแบบนี้...”
คนเป็นพ่อกำลังจะด่าเทศนาลูกสักสามรอบให้คำพูดมันแทงทะลุขี้หูเข้าไปเผื่อมันจะฉลาดขึ้นมากับเขาบ้าง ก็ดันถูกดึงความสนใจจากเสียงฝีเท้าที่วิ่งขึ้นมาบนเรือนพร้อมกับปากที่ตระโกนดีใจดังลั่น
“พี่เพลิง! เศรษฐีขวาน! ข่าวใหญ่จ๊ะ ข่าวใหญ่”
“ข่าวใหญ่อะไรของเอ็งไอ้เสา”
ไอ้เสายืนหอบหายใจพูดเสียงขาดๆหายๆว่า
“พะ...พี่ไม้...พี่ไม้”
พอได้ยินชื่อน้อง เพลิงเลยรีบร้อนลุกพรวดสองหูตั้งใจฟังข่าวด้วยหัวใจเต้นระรัว ว่าข่าวที่ลูกน้องมาบอกนั้นเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย
“เจ้าไม้ทำไม!?”
เด็กหนุ่มร่างสูง สูดลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วเร่งพูดออกมาทีเดียวให้จบ
“เจอพี่ไม้แล้วจ๊ะ”
เมื่อเสาพูดจบร่างของไม้ก็ก้าวขึ้นเรือนมาพอดิบพอดี สร้างความดีใจให้เพลิงและเศรษฐีขวานเมื่อเห็นมันกลับมาอย่างปลอดภัย แต่ทว่ารอยยิ้มดีใจทั้งหมดกลับมลายหายไปเมื่อได้เห็นสภาพเด็กหนุ่มชัดๆเต็มสองตา...เพราะแม้สภาพภายนอกจะไม่บุบสลาย หรือมีร่องรอยถูกทำร้ายปราฏให้เห็น แต่ทว่าใบหน้าของมันกลับขาวซีด แววตาไม่สดใสไร้ซึ่งชีวิตชีวา และมีท่าทีนิ่งเงียบไม่ยอมพูดจาดูผิดปกติ
“เจ้าไม้....”
ไม้เบี่ยงตัวหลบมือของพี่ชายที่ยื่นมาหาคล้ายกับไม่อยากให้ใครแตะต้องเนื้อตัวในตอนนี้
“ฉันเหนื่อย”
เด็กหนุ่มพูดสั้นๆแค่นี้แล้วเดินหนีเข้าห้องนอนไปไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น แม้กระทั่งพ่อของตนเองที่ยืนอยู่มันก็ยังไม่สนใจทักทาย
เศรษฐีขวานรับรู้ถึงอาการผิดปกติของลูกชายคนเล็ก จึงจับบ่าห้ามลูกชายคนโตเอาไว้ไม่ให้ตามไปรบกวนน้อง
“เจ้าไม้มาเหนื่อยๆให้พักเสียหน่อยเถอะ เผื่ออะไรๆมันอาจจะดีขึ้นมาก็ได้”
เพลิงแสดงท่าทีฮึดฮัดขัดใจแต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของพ่อ เลยทำได้แค่ยืนมองประตูห้องนอนของน้องชายอย่างนึกเป็นห่วง
แม้ใจนั้นร้อนอยากหาความจริงจากปากน้องชายไวๆ หากก็ต้องเชื่อคำเตือนพ่อที่ให้ข่มใจรอไม่กล้าผลีผลาม
‘เอาไว้ค่อยถามมันทีหลังก็ได้’
ความคิดเห็น