ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไกรทอง ชาละวันxไกรทอง (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #17 : ไกรทอง ตอนที่13 (แก้ไข)

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 58


    “ไอ้เด็กไม่มีพ่อ”
     
    คำสรรพนามแทนชื่อที่พวกเขาต่างพากันล้อเลียนทุกครั้งยามเมื่อพบปะหน้ากัน   เมื่อครั้งมันยังเป็นเด็กนานจนถึงทุกวันนี้   เหตุเพราะมันเป็นคนที่น่าหมั่นไส้ที่สุดนับแต่มันได้เริ่มเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้...มันก็ได้ความรักจากทุกคน  โดยเฉพาะพวกผู้ใหญ่ที่มักเอ็นดูมันเป็นพิเศษกว่าใคร
     
    พวกผู้ใหญ่ชอบชมว่ามันเป็นเด็กดีสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่าง  รวมทั้งคอยช่วยเหลือผู้อื่นอย่างไม่เคยเกี่ยงงอน...ยามเมื่อลูกๆหลานในหมู่บ้านทำตัวซุกซนพวกผู้ใหญ่ก็มักจะชอบเอามันมาเปรียบเทียบให้ได้ยินทุกครั้งให้แสลงหู
     
    น่ารังเกียจจริงๆตัวเองไม่มีพ่อไม่มีแม่แท้ๆแถมยังต้องอาศัยวัดอยู่อีกต่างหาก   ทำไมมันถึงได้รับความรักจากคนรอบข้างมากมายขนาดนี้
     
    ยามเป็นเพียงแค่เด็กพวกเขายังรู้สึกแค่เหม็นขี้หน้ามันเท่านั้น  หากแต่พอเติบใหญ่ขึ้นความรู้สึกทั้งหลายยิ่งเพิ่มพูนทวีรุนแรงมากขึ้น...จากไม่ชอบหน้า  เหม็นขี้หน้า  ไม่อยากพูดคุย  ไม่อยากมองหน้า   ตอนนี้กลายเป็นว่าอยากให้มันไปให้พ้นๆจากหมู่บ้านของพวกเราเสียที
     
    ...ไอ้ไกรทอง...
     
    บรรยากาศยามเช้าในหมู่บ้านยังคงสดชื่นสดใสคล้ายกับอารมณ์ของชาวบ้านในตอนนี้    ที่ล้วนพากันหอบลูกจูงหลานเดินเข้าวัดทำบุญตักบาตรตอนเช้าดั่งเช่นทุกวันไม่เคยขาด
     
    สาวๆที่พากันออกเรือนแล้วหลายคนรวมกลุ่มกันนำข้าวปลาอาหารทั้งคาวหวานใส่สำรับเพื่อจัดเตรียมเตรียมถวายพระ   ส่วนคนแก่ก็ต่างพากันจับจองพื้นที่ศาลาวัดนั่งคุยกันเป็นกลุ่ม  ปล่อยให้เหล่าเด็กน้อยและคนหนุ่มสาวที่ยังไม่ออกเรือนลงไปพูดคุยกันอยู่รอบบริเวณวัดอย่างคึกคักสนุกสนาน
     
    แต่แล้วเสียงหัวเราะคิกคักของหนุ่มๆสาวๆก็ต้องหยุดลง   ทันทีที่เห็นว่าใครย่างเท้าเข้ามาในพื้นที่บริเวณวัด....ตะเภาแก้ว  ตะเภาทอง  สองสาวฝาแฝดแห่งหมู่บ้านดงเศรษฐี
     
    ยิ่งวันนี้เป็นวันพระใหญ่สองศรีพี่น้องจึงบรรจงแต่งกายให้ดูสวยงามเป็นพิเศษ ทั้งคู่นุ่งโจงกระเบนผืนใหม่  ต่างกันเพียงแค่คนพี่สวมเสื้อแขนทรงกระบอกสีเขียวใบตองสด  ส่วนคนน้องได้สวมเสื้อแขนทรงกระบอกสีเหลืองอ่อน บนผมยาวประบ่าของสองนางถูกประดับแซมด้วยดอกชบาทัดหูคนละข้าง ทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างพาจ้องมองจนไม่ยอมกระพริบตา
     
    กิตติศัพท์ความงามสองสาวฝาแฝดเลื่องชื่อลือชาไปไกลตั้งแต่คุ้งเหนือจรดคุ้งใต้....ยามเมื่อดอกบัวงามทั้งสองเริ่มผลิดอกแย้มบานส่งกลิ่นหอมหวานฟุ้งกระจาย   ล่อให้เหล่าหมู่ภมรกรูเข้ามาใกล้เพื่อหาทางดอมดมกลิ่นหอมของดอกบัวคู่นี้ให้เสียชื่นใจ
     
    ชายใดบ้างที่ได้ยินและได้ยลโฉมสองนางจะไม่นึกละเมอเพ้อฝันอยากนำร่างอรชรแน่งน้อยของทั้งสองสาวงามมาตบแต่งโอบประคองไว้ในอ้อมแขนสูดดมกลิ่นกายสาวให้เสียชื่นใจ   แต่ทุกอย่างกลับติดขัดอยู่ที่ชายวัยกลางคนสูงใหญ่ตรงหน้านี้เท่านั้น
     
    เนื่องจากอาการหวงลูกสาวของแกนั้นเป็นสิ่งที่ขึ้นชื่อลือลาจนกลายเป็นที่น่าขยาดสำหรับพวกหนุ่มๆกลัดมันยิ่งนัก เพราะถ้าหากชายหน้าไหนแหลมหน้าเข้าไปดักเกี้ยวสองนางแบบสุ่มสี่สุ่มห้า  มีหวังได้โดนไม้ตระพรดในมือแกเพ่นกระบาลแยกเป็นเสี่ยงๆแน่... 
     
    ยกเว้นแต่กับไอ้เด็กหนุ่มสองคนนี้เท่านั้นที่ไม่กลัวกับนิสัยเฉียบขาดของเศรษฐีคำ   ซึ่งพวกมันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก.....ไอ้ไกรทองกับไอ้ทองดำ  เพราะคนหนึ่งคือลูกของเพื่อนสนิทจนถูกนับว่าเป็นหลานชายแท้ๆ  ส่วนอีกคนก็เป็นเพื่อนสนิทของหลานที่ตัวติดกันมาตั้งแต่เด็ก   
     
    “สวัสดีจ๊ะลุงคำ สวัสดีจ๊ะป้าทองมา”
     
    เศรษฐีคำกับนางทองมายกมือรับไหว้สองหนุ่มพร้อมกับส่งยิ้มเอ็นดูในความนอบน้อมของเด็กหนุ่มทั้งสองคน
     
    เจ้าสองคนนี้ครอบครัวเขาเห็นมาตั้งแต่เล็ก  ย่อมรู้นิสัยในใจคอกันดีว่านิสัยดีร้ายเช่นไร   โดยเฉพาะเจ้าไกรที่เดี๋ยวนี้เริ่มโตเป็นหนุ่มทั้งนิสัยและหน้าตา  ช่างถอดแบบไอ้ขุนหยั่งกับโขลกกันมา
     
    ...เห็นหน้าหลานแล้ว  ย่อมอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเพื่อนสนิท  ‘ไอ้ขุน  ลูกเอ็งมันโตเป็นหนุ่มแล้วนะ  เหมือนเอ็งสมัยก่อนไม่มีผิดจริงๆ’
     
    “เออๆไหว้พระเถอะ เอ็งสองคนมากันก็ดีแล้ว ...พาข้าไปหาหลวงตาหน่อยสิว่ะ  พอดีข้ามีธุระจะขอคำปรึกษาจากหลวงตาเสียหย่อย  ส่วนแก้วกับทองไปช่วยแม่จัดสำรับกับข้าวให้พร้อมสรรพก่อนหลวงตาจะขึ้นศาลานะลูก”
     
    “ไม่ต้องหรอกลูกสองคนนั่งเล่นเดินเล่นอยู่แถวนี้ให้สบายเถอะ  พอใกล้เพลาค่อยพวกลูกค่อยขึ้นไปหาพ่อกับแม่บนศาลา”  สตรีวัยกลางคนรีบเอ่ยออกปากแทนลูกสาว   ด้วยเพราะคนเป็นแม่ย่อมเข้าใจดีว่าลูกต้องการอะไร
     
    “มันจะดีเหรอแม่  ให้ลูกของเราไปนั่งเล่นบนศาลาก็ได้   ไม่เห็นจำเป็นต้องให้อยู่ข้างล่างเลย”
     
    นางทองมาผู้เป็นเมียถอนหายใจกับอาการหวงลูกสาวอย่างไม่เข้าใครออกใครของผู้เป็นผัวจนน่าหน่ายใจ
     
    “ดีแล้วจ๊ะพี่คำ  ข้างบนส่วนใหญ่มีแต่คนแก่ลูกขึ้นไปก็มีแต่จะพาลเบื่อเสียปล่าวๆ”
     
    “มันจะไปเบื่อ เบ่ออาไร้   สาวๆด้านบนที่ช่วยกันจัดสำรับกับข้าวด้านก็มี”  ตนเป็นพ่อยังไม่ยอมแพ้   พยายามดึงดันให้ลูกขึ้นไปอยู่บนศาลาเสียให้ได้
     
    “มันก็ใช่แต่สาวๆพวกนั้นเขามีลูกมีผัวกันหมดแล้วคำพูดคำจาล้วนหยาบโลน  ประเดี๋ยวลูกเราไปฟังเข้าจะแก่แดดแก่ลมกันพอดี  ข้างล่างเพื่อนสาววัยเดียวกันเยอะแยะออก”
     
    “แต่พ่อว่า...”  ก็ลูกสาวสวยปานนางสวรรค์ถึงเพียงนี้   พ่อที่ไหนอยากจะปล่อยให้คลาดสายตา   ยิ่งมีลูกสาวตั้งสองคนเลยต้องห่วงเป็นสองเท่า...แม่เข้าใจหัวอกพ่อบ้างไหม?
     
    “เฮ้อ!  ถ้าพี่คำเป็นห่วงลูกมากนัก   เราก็ให้พ่อไกรกับพ่อทองดำอยู่เล่นเป็นเพื่อนลูกสาวเราก็ได้”
     
    เมื่อได้ยินคำแนะนำของเมียรักเศรษฐีคำจึงนึกเห็นดีด้วย  เพราะถ้ามีเจ้าไกรกับเจ้าทองดำอยู่เคียงข้างลูกสาวทั้งสอง ตัวเองก็ย่อมสบายใจได้โดยไม่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลัง
     
    ส่วนสองศรีพี่น้องต่างมองพ่ออย่างลุ้นระทึก   เพราะใจของโฉมยงทั้งสองอยากจะนั่งเล่นรับลมแดดยามเช้าให้สดชื่นดีกว่าที่จะต้องไปนั่งเบื่อๆบนศาลาเหมือนทุกครั้งที่มาทำบุญที่วัด
     
    สุดท้ายเศรษฐีคำก็พยักหน้าตกลง   ยอมให้ลูกนั่งเล่นอยู่ลานวัดได้โดยอิสระ
     
    “งั้นแม่ช่วยเอาข้าวไปให้พวกผู้หญิงไปจัดสำรับนะ  ส่วนเอ็งทั้งสองคนไม่ต้องตามข้าขึ้นไปแล้ว  อยู่เล่นเป็นเพื่อนน้องข้างล่างเนี่ยแหละ  พอถึงเพลาค่อยพากันไปด้านบน”
     
    ลับหลังพ่อกับแม่แล้ว  ตระเภาทองรีบจูงมือพี่สาวไปนั่งเล่นอยู่ใต้ร่มโพธิ์อีกฟากหนึ่งโดยไว  โดยมีสองหนุ่มรีบจ้ำอ้าวเดินตามไปติดๆ
     
    “เฮ้อ!นึกว่าวันนี้เราสองคนจะต้องไปนั่งเบื่อด้านบนศาลาอีกแล้วเนอะพี่แก้ว”  แฝดน้องนั่งยิ้มสบายอกสบายใจอยู่ใต้ร่มเงาโดยที่เจ้าหล่อนไม่ต้องระวังหรือสำรวมกิริยามากนัก   เพราะที่นี่ก็มีแต่คนคุ้นเคยกันทั้งนั้น  ไม่มีผู้ใหญ่คอยจับผิดอยู่สักคน
     
    “น้องพูดเกินไป  ด้านบนก็ไม่เห็นจะน่าเบื่อขนาดนั้นสักน่อย”  ตระเภาแก้วรีบจุ๊ปากเอ่ยเตือนคำพูด คำจาน้องสาว   ถึงตรงนี้จะมีแค่พวกเรา  แต่หน้าต่างมีหู  ประตูมีช่อง  ยังไงก็ต้องระวังกันให้ดีอย่าเผลอเรอออกมา
     
    “ทำไมจะไม่เบื่อมีแต่คนแก่จะพูดคุยเล่นหัวกับใครเค้าไม่ได้...สู้นั่งคุยกับพี่ทองดำไม่ได้สนุกกว่ากันเยอะ”
     
    ตระเภาทองยังคงไม่ฟังเสียงพี่สาว   หันหน้าไปหาลูกคู่เจ้าประจำที่เล่นหัวกันมาตั้งแต่เด็กแทน  จนตระเภาแก้วกับไกรทองต้องส่ายหัวพร้อมกันกับความรั้นเล็กๆของเด็กสาว
     
     “จริงจ๊ะน้องตระเภาแก้วมีแค่พี่ทองดำคนเดียวรับรองไม่มีเหงาไม่มีเบื่อ”
     
    เมื่อสาวสวยหยอดมุกมาทองดำเลยรีบขานรับตบมุกหยอดกลับอย่างไม่ยอมน้อยหน้า  ด้วยเพราะทั้งเขากับไกรทองมีความสนิทสนมกับสองพี่น้องเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  ฉะนั้นยามพูดจาหยอกล้อใส่กันจึงเหมือนพวกเขากำลังพูดเล่นอยู่กับน้องสาวมากกว่าจะเป็นการพูดเกี้ยวพาราสี    จึงไม่แปลกที่เศรษฐีคำจะไม่หวงลูกสาวกับพวกเขา   แถมยังหัวเราะชอบใจด้วยซ้ำ
     
     “ถ้าพี่ทองดำพูดแบบนี้แสดงว่าต้องมีอะไรสนุกๆแน่เลยใช่ไหมจ๊ะ”  ตระเภาทองถามทองดำด้วยสายตาคาดหวัง  ว่าพี่ชายที่นิสัยทะเล้นคนนี้   จะมีอะไรมาให้พวกหล่อนแปลกใจเล่นเหมือนทุกครั้งยามที่ได้พบปะหน้า
     
     “ไม่มีจ๊ะ”
     
    “อ้าวไหนบอกว่าไม่มีเหงาไม่มีเบื่อ”
     
    ทองดำยังไม่ทันอ้าปากแก้ตัว   ก็ดันมีเสียงผู้อื่นพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน   จนทำให้บทสนทนาที่มีแต่เสียงหัวเราะต้องหยุดชะงักโดยพวกที่ไม่ได้รับเชิญ
     
    “ถ้าน้องตระเภาแก้วกับน้องตระเภาทองไม่อยากเบื่อก็ไปนั่งคุยกับพวกพี่ที่ท่าน้ำตรงนั้นได้นะจ๊ะ  รับรองว่าน้องทั้งสองคนจะต้องชอบแน่ๆ”
     
    กลุ่มคนกลุ่มใหญ่เยี่ยมกายเข้ามาใกล้แม้น้ำเสียงจะฟังอ่อนหวานแต่ท่าทางการเดินและแววตากับดูคุกคามข่มขู่ให้กระทำตามเสียมากกว่า   ตามนิสัยอันธพาลแก้ไม่หายของพวกมัน  
     
     “ไอ้เพลิง ไอ้ไม้   มึงสองคนมาทำอะไรแถวนี้ว่ะ”
     
    “อ้าว! ข้าเห็นน้องน้องตระเภาทองบ่นว่าเบื่อ ข้ากับพี่เลยอาสาจะพาไปหาอะไรทำแก้เบื่อไงวะไอ้ทองดำ”  เด็กหนุ่มใบหน้าคมสันคนน้องร้องย้อนใส่เด็กหนุ่มคู่อริทันควัน   ด้วยท่าทางกระสันอยากหาเรื่องเต็มแก่   ทำให้ไกรทองที่ยืนเงียบอยู่ข้างกัน  รีบกันเพื่อนรักให้ห่างออกมาก่อนที่จะมีเรื่องกันลุกลามใหญ่โตในเขตวัด
     
    “เห็นทีคงจะไม่ได้ว่ะไอ้ไม้  พอดีลุงคำฝากให้พวกข้าดูและน้องไม่ใช่พวกเอ็ง”
     
    ไอ้ไกร...มึงไอ้มารหัวใจ...ขวางหูขวางตากูนัก
     
    “มึงมันมีดีตรงไหนว่ะ  เศรษฐีคำถึงวางใจให้พวกมึงมาดูแลน้องตระเภาแก้วตระเภาทอง  ทั้งๆที่พวกมึงมันก็กระจอก” เมื่อน้องชายด่าจบ   เด็กหนุ่มหน้าคมสันผู้เป็นพี่รีบด่าสำทับอีกที   “มึงแค่เด็กวัด ไอ้ลูกกำพร้าไม่มีพ่อไม่มีแม่”
     
    ถ้าไม่มีมือของเพื่อนรักคอยฉุดรั้งไว้   ทองดำคงได้พุ่งหลาวไปฟาดปากพวกมันสักหมัดสองหมัดให้เลือดพวกมันกลบปากจนเที่ยวไปเห่าหอนใส่ใครไม่ได้อีก 
     
    “อย่าน่าไอ้ทองนี่มันในวัดนะเว้ย” ...ใช่ว่าไกรทองจะไม่รู้สึกโกรธกับคำด่าของสองพี่น้อง  แต่นี่มันคือเขตวัดหากพวกเขาจะมีเรื่องชกต่อยกันย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ....หากเป็นนอกเขตวัดก็ว่าไปอย่าง
     
    ยิ่งเห็นไอ้เด็กวัดมันไม่กล้าหือ  พวกมันล้วนยิ่งได้ใจเอ่ยวาจาท้าทาย  “แน่จริงมึงมาต่อยกับพวกกูสิวะไอ้ทองดำ... ดูโว้ยพวกเราขี้ขลาดเยี่ยงนี้ยังนึกสะเออะจะดูแลสาวๆมันน่าหัวเร่อจริงๆ”
     
    “หยุดด่าว่าคนอื่นเสียทีเถอะ”
     
    เพราะเห็นพี่ชายทั้งสองของตนโดนพวกอันธพาลกลุ่มนี้รุมด่า รุมว่า   ตระเภาทองจึงเกิดอาการทนไม่ไหวผุดลุกขึ้นมาเอ่ยปากห้ามปราม
     
    “เหตุใดน้องตระเภาทองจึงกล่าวว่าพวกพี่แบบนี้พี่แค่หยอกพวกมันเล่นเฉยๆ” เมื่อมองเห็นสาวงามที่ตนเองหมายปองออกตัวปกป้อง ไอ้ไม้ก็รีบเอ่ยปากประจบแก้ตัว
     
    “ด่าว่าผู้อื่นว่าเป็นคนไร้ครอบครัวแบบนี้รึคือการหยอกล้อ”  ตระเภาแก้วเริ่มเห็นท่าไม่ดีจึงรีบลุกขี้นดึงมือน้องสาวไว้  “นี่ก็ใกล้เพลาพระท่านขึ้นสวดแล้ว  ป่านฉะนี้พ่อกับแม่คงถามหาแย่แล้ว  พวกเราสี่คนรีบขึ้นไปบนศาลาดีกว่านะจ๊ะ”
     
    ขายังไม่ทันก้าวไปไหนก็ต้องหยุดชะงัก  เนื่องจากพวกตนกำลังโดนล้อมกรอบเอาไว้   ดั่งป้อมกำแพงสูงไร้ซึ่งทางหนี
     
    “พระท่านยังไม่ทันขึ้นศาลาเลย   ยังไม่ต้องรีบร้อนก็ได้นะจ๊ะน้องตระเภาแก้ว”
     
    ท่าทางรุ่มรามของเพลิงทำให้ตระเภาทองรีบกันพี่สาวไว้ด้านหลัง   โดยมีไกรทองเอากายป้องกันไว้ด้านหน้าและมีทองดำคุ้มกันอยู่ด้านหลัง  แต่ถึงอย่างไรน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟพวกเขามีแค่สองคนส่วนพวกมันมีกันเป็นสิบ   ผู้คนรอบกายต่างพากันไม่กล้าที่จะเข้ามาช่วยเนื่องจากนึกเกรงกลัวอิทธิพลของครอบครัวสองพี่น้อง
     
    ระหว่างที่ทั้งสี่คนกำลังจวนตัวจะมีเรื่องกันอยู่มะรอมมะร่อ  ทันใดนั้นก็มีตีนหนักๆของคนอื่นถีบใส่สีข้างเพลิงอย่างแรง   จนมันกระเด็นล้มลงก้นจ้ำเบ้าด้วยสภาพอเนจอนาถ
     
    “พี่เพลิง!” ไม้รีบปรี่เข้าไปพยุงพี่ชายของมันขึ้นมา...ไอ้หมอนี่เป็นใครกันถึงกับกล้าถีบพี่กูล้มได้
     
    ฝ่ายเพลิงที่ลุกขึ้นมาได้รีบทะลึ่งกายพรวดพราดเข้าไปหมายจะต่อยแก้แค้นกับเจ้าของตีนเมื่อตะกี้   หมัดยังไม่ทันได้ถึงตัวอีกฝ่ายร่างสูงก็มีอันต้องกระเด็นจากตีนหนาไปอีกรอบ   ซึ่งครานี้มันดันกระเด็นไปไกลจนล้มทับพรรคพวกของมันให้นอนกลิ้งลงไปกองกับพื้นด้วยกัน
     
    คนแปลกหน้าโคลงหัวจุ๊ปากด้วยความสมเพช  “ผู้หญิงเขาไม่สนใจแทนที่จะเข้าใจยังเสือกจะทำฉุดคร่า...พวกเอ็งนี่มันใจหมาเสียจริงเลย”
     
    เพลิงกับไม้รู้สึกหน้าชาดั่งถูกตบสักสิบฉาด.....ตั้งแต่เกิดมายังไม่ใครหน้าไหนกล้าด่าว่าพวกกูเป็นหมาเลยสักครั้ง  มึงเป็นใครถึงกล้ามาด่ากูสองคน
     
    “มึงว่าใครใจหมาวะ”
     
    คนแปลกหน้ามองเพลิงที่กำลังลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลแต่ยังไม่วายปากดีใส่เขา...รู้งี้ไม่น่าถีบมันเลย  น่าจะตบปากมันสักที สองทีถึงจะถูก
     
    “ก็เห็นๆกันอยู่เอ็งจะถามทำไมว่ะ”
     
    “มึง!!!”  เพลิงเงื้อหมัดพุ่งกายไปอีกรอบ  โดยมีไม้ตามสมทบ....หวังให้ปากที่ด่ามันแดงไปด้วยเลือดและฟันหลุดสักซี่  สองซี่ล้างอาย
     
    “หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้เพลิงไอ้ไม้!”
     
    เสียงห้ามตวาดลั่นดังมาจากบนศาลาทำเอาเพลิงกับไม้และพรรคพวกยืนง้างหมัดค้างไม่กล้าต่อย   เมื่อเห็นเศรษฐีคำยืนจังก้า  กำไม้ตะพดไว้แน่นด้วยท่าทางนักเลงเอาเรื่อง   แม้ตัวแกจะอายุมากแล้วแต่เพราะชายกลางคนเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่   ประกอบกับมีฝีมือทางด้านต่อสู้พอตัว  ไม่ว่าจะเป็นดาบหรือมวย  ขนาดนักมวยที่ว่าเก่งๆยังถูกแกสยบมานักต่อนักแล้ว ...พวกอันธพาลทั้งหลายพอได้ยินชื่อแกก็เกิดอาการกลัวจนขี้หดตดหาย
     
    ครั้นเห็นว่าพ่อยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลาพอดี  ตระเภาแก้วกับตระเภาทองเลยพากันวิ่งขึ้นไปหลบอยู่ข้างกายชายกลางคนทันที
     
    “พวกมึงไม่ต้องแก้ตัวอะไรทั้งนั้น  ขนาดกูอยู่บนศาลาพวกมึงยังกล้าเหยียบหัวกู   วันนี้ถ้ากูไม่เอาเรื่องพวกมึงให้ถึงที่สุด...อย่ามาเรียกกูว่าเศรษฐีคำโว้ย!”
     
    “ไปลูก...แก้ว ทองเข้าไปหาแม่ข้างในศาลา  มึงสามคนด้วย เจ้าไกร  เจ้าทองดำและมึงเจ้าคนแปลกหน้าตามกูมา ส่วนพวกมึงทุกคนคอยกูอยู่ข้างล่างนี่แหละ  อย่าคิดหนีไปไหนเชียวนะพวกมึง”
     
    ทองดำยิ้มเยาะเย้ยไอ้เพลิงกับไอ้ไม้อย่างสะใจ...พวกมึงเสร็จแน่...ต่างกับไกรทองที่แอบชำเลืองมองชายแปลกหน้าคนนี้ด้วยแววตาสงสัยและคุ้นเคย
     
    เหตุฉไนบรรยากาศของชายผู้นี้   ถึงทำให้เขาเกิดความรู้สึกคุ้นเคย...อยากรู้จัก  อยากพูดคุยด้วยมากมายขนาดนี้   
     
    ...พี่ชายเป็นใครกันแน่นะ
     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×