ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไกรทอง ชาละวันxไกรทอง (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #18 : ไกรทอง ตอนที่14 (แก้ไข)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.83K
      39
      19 เม.ย. 58

    เพราะเรื่องราวอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในวัดเมื่อคราวนั้นทำให้เศรษฐีคำไม่ยอมยกโทษให้สองคนพี่น้องเพลิงกับไม้อย่างเด็ดขาด   ถึงขนาดจะเพ่นกบาลเอาเลือดหัวพวกมันออกท่าเดียว   เลยเป็นเหตุให้หลวงตาคงต้องเข้ามาขอบิณฑบาตด้วยตนเองชายกลางคนจึงยอมความให้เรื่องราวจึงจบลงด้วยดี   แต่ก็ยังไม่วายด่าพวกมันเสียยกใหญ่โดยที่ไม่มีใครหน้าไหนกล้าห้าม   เมื่อด่าจนพอใจแล้วพ่อของเจ้าสองพี่น้องถึงค่อยให้บ่าวรับใช้เก็บศพลูกชายกลับบ้านไปแต่โดยดีไม่กล้าด่ากลับ

     

    ส่วนเจ้าคนแปลกหน้าที่เข้ามามีเรื่องในวัด  เศรษฐีคำก็ทำการสืบเท้าราวเรื่องโดยละเอียดจึงพอทราบว่าเจ้าหนุ่มคนนี้เป็นคนพเนจรไม่มีหลักแหล่ง  อาศัยอพยพย้ายถิ่นฐานหางานทำไปเรื่อยจนมาถึงที่หมู่บ้านดงเศรษฐีแห่งนี้

     

    รูปร่างหน้าตาเจ้าหนุ่มคนนี้ดูหน่วยก้านดี  โครงหน้าเรียวได้รูป   ผิวสีทองแดงทองคล้ายหม้อปั้นใหม่   หน้าตาก็คมเข้มห้าวหาญเอาเรื่อง   ช่างเหมาะเจาะกับร่างกายของมันที่หนากำยำแข็งแรงดั่งชายชาติทหาร.....เจ้านี่ดูท่าจะทำงานแข็งขัน   ได้ยินว่ามาหางานทำเพื่อเก็บเงินงั้นก็ให้มาทำงานกับข้าแล้วกัน  

      

    เศรษฐีคำเล็งเห็นว่าเจ้าหนุ่มนี่เป็นคนดีเคยยื่นมือเข้าช่วยเหลือลูกสาวและหลานชายของตนเอง  ประกอบกับเป็นคนดีมีฝีมือจึงได้อุปการะให้เข้ามาทำงานรับใช้ในบ้าน

     

    ซึ่งเจ้าคนแปลกหน้าก็ยินดีอย่างยิ่งได้งาน  แต่ทว่าชายหนุ่มกับขอทำงานแบบไปเช้าเย็นกลับ   ด้วยเหตุผลที่ว่าตนเองชอบอยู่แบบสันโดษเลยต้องการความเป็นส่วนตัวจึงไม่ค่อยอยากพักอยู่รวมกับคนหมู่มากเท่าใดนัก

     

    เศรษฐีคำก็เข้าใจว่าคนเรามีนิสัยแตกต่างกันไป   จึงตกลงตามคำขอชายหนุ่มและยกกระต๊อบท้ายหมู่บ้านให้เจ้าตัวได้อยู่อาศัย   แม้จะฟังดูไม่ค่อยน่าอยู่เสียเท่าไรแต่ตัวบ้านทำจากไม้เนื้อดีเลยยังคงแข็งแรงไม่ผุพัง  แค่ทำความสะอาดเสียหน่อยก็ใช้เป็นที่หลับนอนได้แล้ว

     

    เมื่อได้ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   ชายแปลกหน้าจึงค่อยบอกชื่อเสียงเรียงนามให้ชายกลางคนได้รับรู้ไว้แค่สั้นๆว่า...นัน...แค่นั้นไม่ยอมบอกประวัติเพิ่มเติมอีก

     

    ....เจ้าหนุ่มคนนี้ช่างเป็นคนที่มีแต่ปริศนามากมายนัก  เอาเถอะคนเราล้วนมีเหตุผลในตัวเอง  ไม่ยอมบอกก็ไม่เป็นไรขอแค่เป็นคนดีก็พอ

     

    มีสิ่งใดรึจ๊ะพี่คำ  ถึงได้มานั่งถอนหายใจแรงถึงเพียงนี้ นางทองมาที่นั่งจีบหมากจีบพลูอยู่ด้านข้าง  สังเกตเห็นผัวจิบชาไปถอนหายใจไป  ช่างดูแปลกวิสัยจนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม

     

    อืม...มันก็ไม่ค่อยมีอันใดสำคัญนักหรอกจ๊ะแม่  แค่พ่อรู้สึกว่าเจ้านันชื่อมันสั้นดูแปลกพิกล  จนหาความหมายของมันไม่ได้เลยสักนิด

     

    นางทองมานึกยิ้มขำกับความคิดอ่านของผัว   ที่เอาชื่อคนมาเป็นหัวข้อให้ขบคิด

     

    ชื่อนั้นอยู่ที่คนเขาตั้ง  ครั้นมันจะมีความหมายใดแฝงก็อยู่ที่คนนั้นตั้ง  เราไม่รู้สิจึงไม่แปลก

     

    เออ มันก็จริงอย่างที่แม่ว่าชื่อมันอยู่ที่คนเขาตั้ง เฮ้อ!ไอ้คำดันบ้านั่งนึกไปตีความเข้าเนอะแม่เนอะ

     

    เมียได้ยินคำผัวว่า  นางถึงกับเอามือป้องปากหัวเราะกิ๊กจนชายกลางคนรู้สึกเขินเล็กน้อย  ส่งเสริมให้บรรยากาศผ่อนคลายเป็นกันเองระหว่างผัวเมีย  ทำให้บ่าวรับใช้โดยรอบพากันแอบยิ้มกับการหยอกล้อกันของเจ้าบ้านทั้งสองคน   จวบจนชายกลางคนเอ่ยถามหาลูกสาวเพราะมองไม่เห็นสองคนพี่น้องมานวดขา  นวดแขนให้พ่ออย่างที่เคยทำเป็นประจำ

     

    ฉันให้ลูกแก้วกับลูกทองไปฝึกปั้นขลิบอยู่ในครัวกับพวกบ่าวไพร่   ตั้งแต่เกิดเรื่องราวในวัดคราวนั้น  ฉันยังไม่กล้าให้ลูกลงจากเรือนเลยจ๊ะ  ขนาดแค่สวนในบ้านฉันก็ยังไม่กล้าให้ลูกลงไปเดินเล่น   เพราะแค่นึกถึงใจมันก็สั่นไปหมดเลยจ๊ะพี่คำ

     

    อย่าว่าแต่แม่เลย   ฉันเองก็ยังหวาดผวาไม่หาย   นี่ขนาดพวกเราและผู้หลักผู้ใหญ่นั่งกันเต็มอยู่บนศาลา   พวกมันสองพี่น้องยังกล้ากำเหงล้วงคองูเห่า.....คิดแล้วยังเจ็บใจไม่หาย

     

    ยิ่งคิดเศรษฐีคำยิ่งนึกเจ็บใจ   แต่จะให้ตะโกนโวยวายก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก   ชายกลางคนจึงยกชาขึ้นมาดื่มเพื่อให้อารมณ์เย็นลง   โดยมีเมียนั่งพัดให้อย่างรู้ใจ

     

    นั่นสิจ๊ะถ้าไม่มีพ่อนันยื่นมือเข้ามาปกป้อง  ป่านฉะนี้ลูกสาวของเราคงจะขวัญเสียกันน่าดู   ดีไม่ดีเด็กหนุ่มสองคนนั้นอาจจะถูกรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสก็ได้


    อืม... จะว่าไปแล้ว   เจ้าสองนั่นมันเป็นยังไงบ้างจ๊ะแม่  ยังอยู่สบายกันดีใช่ไหม?  ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งหลายวัน ไม่รู้ป่านนี้ไปนึกคะนองกันอยู่เสียที่ไหนก็ไม่รู้


    นางทองมามองดูแววตาของผัวแล้วอดนึกอมยิ้มไม่ได้...นางไม่แปลกใจเลยที่ผัวจะนึกเอ็นเด็กหนุ่มสองคนนี้ หนึ่งอาจเป็นเพราะว่าไกรทองนั้นเป็นลูกของเพื่อนรักผู้ห่างหายไปนานหลายปีกว่าจะได้กลับมาพานพบกันอีกครั้ง  ส่วนทองดำก็เป็นเด็กมีน้ำใจคอยช่วยเหลือเล่นหัวกับหลานชายคนนี้มาโดยตลอด  ไม่สนใจขี้ปากและคำนินทาว่าร้ายจากคนขี้อิจฉาทั้งหลาย


    สบายดีจ๊ะพ่อไกรกับพ่อทองดำก็ยังหมั่นคอยช่วยงานหลวงตาที่วัดตามปกติ   เห็นส่งข่าวมาบอกว่าจะรอเข้ามาทำงานพร้อมกันกับพ่อนันนะจ๊ะ  เผื่อจะได้ช่วยสอนงานกันให้คล่อง


    เศรษฐีคำพยักหน้ารับรู้    เพราะแต่เดิมเด็กหนุ่มทั้งสองคนก็ไม่ใช่คนทำงานในบ้านของตน  นอกจากจะมาช่วยงานเป็นครั้งคราวแล้วแต่จะจ้าง  หรือไม่ก็มาช่วยงานกันเฉยๆโดยไม่เอาค่าแรงจนหลายครั้งที่คนเป็นลุงกับคนเป็นป้า  ต้องคอยหาเหตุผลให้ทั้งสองรับเงินค่าแรงเก็บไว้   ...ทั้งช่วยงานที่วัด  ทั้งคอยช่วยงานคนในหมู่บ้าน  ทั้งยังมาช่วยงานในบ้านตนอีก   ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่ขยันกันเสียจริงๆ


    ถึงจะคิดชื่นชมลูกชายของเพื่อนด้วยความภาคภูมิใจแต่ก็ยังไม่วายแอบถอนใจออกมา  ซึ่งนางทองมาก็เข้าใจดีรีบรินน้ำชาให้พร้อมเอ่ยกล่าวปลอบใจในความทุกข์ของผัว


    อย่าคิดมากเลยนะพี่คำคนเรามันก็อีหรอบนี้แหละ  เห็นใครโดนรักใครเอ็นดูไม่ได้  ก็พาลแต่จะเกลียดขี้หน้าเขาไปทั่ว  สักวันนะพี่คำเรื่องราวทุกอย่างมันคงจะดีขึ้นเอง


    ฉันไม่นึกคิดอย่างนั้นนะสิ   เจ้าเพลิงกับเจ้าไม้มันถอดนิสัยพ่อมันมาทุกกระเบียดนิ้ว  เล่นจงเกลียดจงชังกันจนถึงขนาดไอ้ขุนตาย  มันก็ยังยุส่งให้ลูกของมันมาเกลียดไอ้ไกร   แล้วยังไม่จบพวกมันสองพี่น้องดันเสือกมายุงแยงพวกหนุ่มๆในหมู่บ้านให้ตั้งข้อรังเกียจไอ้ไกรอีกทอด...ข้าห่วงนะแม่ถ้าสิ้นหลวงตา สิ้นพวกเราไปไอ้ไกรมันมีใครคอยช่วยเหลือค้ำจุนมันอีก...ข้าไม่อยากเห็นมันต้องระหกระเหินเร่ร่อนไปทั่วแค่นึกถึงข้าแทบนอนตายตาไม่หลับ


    เรื่องราวความบาดหมางทั้งหมดในหมู่บ้านเหตุใดผู้ใหญ่เช่นเขาจะไม่รู้...และไม่มีใครในหมู่บ้านหรอกที่จะไม่รู้ความจริง...ยิ่งของเจ้าไกรเป็นที่นึกรักเอ็นดูของคนในหมู่บ้านมันอยู่แล้ว เลยเป็นที่ขวางหูขวางตาหนักเข้าไปอีก หรือจะเป็นเพราะเขาที่นึกเอ็นดูมันออกนอกหน้านอกตาจนถึงขนาดให้มันได้อยู่ใกล้ชิดลูกสาวทั้งสองได้โดยไม่รู้สึกหวง   พวกหนุ่มๆรุ่นราวคราวเดียวกันเลยพากันจงเกลียดจงชังหนักกว่าตอนสมัยเด็กเสียอีก


    เอ็งจะเกลียดลูกไอ้ขุนไปถึงไหน....ถ้าเอ็งจะเกลียดมันเพราะเรื่องความรักในอดีต  เห็นทีคงจะไม่ใช่   ข้ารู้ว่าเอ็งตัดใจจากแม่ผกาได้นานแล้ว.....ถ้าฉะนั้นเป็นเพราะเหตุใด  เอ็งถึงต้องการขับไล่ไสส่งเจ้าไกรนัก


    ดูผิวเหลืองเรืองรองทองอุไร                             งามวิไลแลเล่ห์เทวดา

    ขนงเนตรเกศกรรณและกรแก้ม                         แลแฉล้มน่ารักเป็นนักหนา

    พิศวงหลงลืมกระพริบตา                                     เสน่หาปั่นป่วนรัญจวนใจ

    แม่เห็นหน้าพ่อไกรทีไรเป็นต้องนึกนึกกลอนบทชมโฉมศรีสุวรรณทุกที  ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพ่อไกรถึงได้ความรักความเอ็นดูจากสาวน้อยสาวใหญ่และผู้เฒ่าผู้แก่มากมายในหมู่บ้าน”  แม้จะรู้ว่าส่วนหนึ่งนั้นมาจากความเอาการงานของหลานชาย   แต่นางทองมาก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าความนิยมที่หลานชายได้รับนั้นมาจากหน้าตาและนิสัยที่สุภาพ    


    เอ...ถ้าเจ้าไกรเปรียบเหมือนศรีสุวรรณ  แล้วเจ้าทองดำละจ๊ะ  แม่จะเปรียบให้มันเหมือนกับนิทานวรรณคดีเรื่องไหน


    ดำเป็นเมี่ยงท่าทางบ้าบอปานนั้นคงไม่แคล้วเป็นเจ้าเงาะป่านะสิจ๊ะพี่คำ


    ไอ้เงาะป่าบ้าใบ้  ผมหยิก หน้ากร้อ คอสั้น ฟันขาว


    หึหึ...เจ้านั่นคงผิดแค่ผมไม่หยิก หน้าไม่กร้อ  คอมันไม่สั้น  มีแค่สีผิวเท่านั้นที่เหมือน  ไม่อย่างนั้นข้าคงนึกว่ามันเป็นเจ้าเงาะป่าในสังข์ทองเสียอีก


    พี่คำก็ว่าพ่อทองดำเกินไปนะจ๊ะ


    ทองดำเอ๊ย!  ขอข้าให้เอ็งอยู่เคียงข้างเจ้าไกร   เป็นเพื่อนรัก  เพื่อนแท้   เพื่อนตาย  ไม่มีทอดทิ้งกันไป  ตราบจนชั่วชีวิตของพวกเจ้าทั้งสองคนเถิดนะ


    จะว่าไปแล้ว  นับแต่เจ้านันย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในกระต๊อบท้ายหมู่บ้าน   ชาวบ้านทุกคนก็ยังคงดำเนินชีวิตไปตามปกติมีไม่มีใครมาใส่ใจมันมากมายเท่าใดนัก ถึงแม้จะสาวๆชะม้อยชม้ายตาหวานให้เป็นพักๆ  แต่ด้วยกระต๊อบมันแยกมาอยู่ท้ายหมู่บ้านและไม่ค่อยสุงสิงกับผู้คนมากนัก   ทำให้ไม่มีใครมาวุ่นวายให้รำคาญใจ   ซึ่งจะยกเว้นอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังสนใจมันไม่ยอมเปลี่ยน


    ...ไกรทอง...


    ปกตินิสัยของเด็กหนุ่มนั้นไม่ใช่คนชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องราวของชาวบ้านเท่าใดมากนัก  มีแค่รับรู้บ้างเป็นบางเรื่องแล้วแต่คนจะมาเล่าให้ฟัง  ก็แค่รับฟังเท่านั้นไม่ได้นึกสนใจอยากรู้ต่อ   ด้วยเพราะคำสอนของหลวงตาคงที่เคยบอกสอนมาแต่เล็กเกี่ยวกับการนินทา 


    อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ

    ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน

    แค่องค์พระปฎิมายังราคิน

    คนเดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา

    กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "พระอภัยมณี"


    แต่มีแค่ครั้งนี้เท่านั้นที่เด็กหนุ่มขอละเลยคำสั่งสอนของหลวงตา  เที่ยวทำตัวสอดแนมด้วยความอยากรู้เรื่องชายหนุ่มปริศนาให้มากกว่านี้...ว่าเป็นใคร   มาจากที่ไหนกันแน่    เพราะเขาค่อนข้างมั่นใจว่าชายหนุ่มผู้จะสามารถเฉลยในข้อสงสัยที่เขาอยากรู้และสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจมานานให้กระจ่างได้แน่นอน.....ซึ่งก็อยู่ที่ว่าอีกฝ่ายจะยอมพูดออกมาหรือไม่เท่านั้นเอง


    ทุกวันยามพอมีเวลาว่างจากการทำงาน  ไกรทองมักจะชอบมาแอบอยู่ใกล้ๆกระต๊อบของชายหนุ่ม   ซึ่งวันๆหนึ่งของนันนอกจากตื่นเช้าขึ้นมาหุงหาอาหาร ตกปลา  เก็บผักผลไม้มากินแล้ว    ยามเมื่ออยู่ว่างๆ  ไม่สานสุ่มไก่    สานตะกร้า  ก็สานแหไว้จับปลาไปตามเรื่องตามราวแล้วแต่ชายหนุ่มจะทำ


    ถึงอย่างนั้นไกรทองก็ยังคงหมั่นเพียรพยายามมาคอยแอบเมียงๆมองๆนันอยู่ตลอดทุกวัน  เผื่อว่าสักวันเขาจะสืบรู้ข้อมูลเพิ่มเติมได้จากชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้  จนวันนี้คนถูกแอบมองนึกทนไม่ไหววางมือจากการสานตะกร้า  กวักมือเรียกไกรทองที่หลบอยู่หลังพุ่มไม้หยอยๆ  ซึ่งเด็กหนุ่มก็พาซื่อยอมเดินออกมาจากที่ซ่อนเข้าไปหาชายหนุ่มแต่โดยดี


    เจ้านันตบแคร่ว่างข้างตัวเป็นการบอกนัยๆว่าให้เด็กหนุ่มนั่งลง


    เอ็งมีสิ่งใดจะพูดกับข้าหรือปล่าวน้องชาย


    ฉัน...เอ่อ...


    อ้ำ ๆอึ้ง ๆอยู่ได้มีอะไรจะพูดก็พูดมาตรงๆ


    อาจเป็นเพราะนันเป็นคนตรง  นิยมพูดจาฉาดฉานตรงไปตรงมา   พอมาเจอท่าทางลังเลไม่กล้าพูดของไกรทอง  คงจะทำชายหนุ่มรู้สึกขัดหูขัดตากับพฤติกรรมเช่นนี้


    สุดท้ายไกรทองก็รวมความกล้าสลัดความเกรงใจออกจากหัว   ยอมปริปากถามในสิ่งที่ตนอยากรู้  พี่ชายเป็นคนที่ไหนเหรอจ๊ะ


    ข้าจำได้ว่าข้าบอกทุกคนแล้วนะ  ว่าข้าเป็นคนพเนจรไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งหรอกนะ


    ระ...เหรอ


    ไกรทองจึงนิ่งเงียบไปสักพักจนเจ้านันนึกว่ามันกลายเป็นใบ้ไปเสียแล้ว


    เอ็งมาเพื่อถามข้าแค่นี้?”


    คือว่า...พี่ชายเคยมาที่หมู่บ้านนี้หรือปล่าว


    หึ!ข้าไม่เคยมาที่หมู่บ้านนี้หรอก...เพิ่งมาครั้งนี้ครั้งแรก


    งั้นรึ


    ท่าทางผิดหวังที่ถูกแสดงออกมาสร้างความแปลกใจให้เจ้านัน...มันพูดเหมือนเคยรู้จัก...หรือว่า  “น้องชาย...


    กูมาคิดบัญชีกับมึงไอ้คนแปลกถิ่น


    ยังไม่ทันถามให้รู้ความ   ไอ้พวกใจหมาพวกนี้ดันเสือกทะลึ่งมาเสนอหน้าให้เห็นอีก...ขัดจังหวะกูจริงๆนะพวกมึง  สงสัยยังไม่เข็ดกับฝ่าตีนของข้า   วันนี้เลยวิ่งโร่หาหาถึงที่เพื่อจะได้กินยำตีนอีกรอบ...ได้  ข้าจะจัดให้สมใจอยาก   คราวนี้จะให้นอนหยอดข้าวต้มกันเลยแหละ  จะได้เลิกมาวุ่นวายกับข้าเสียที!


    เมื่อเห็นว่ามีแขกมาเยือนทั้งทีเจ้าบ้านที่ดีอย่างนัน  จึงละจากเด็กหนุ่มข้างกายเพื่อเตรียมตัวออกโรง ต้อนรับขับสู้ให้เป็นอย่างดี...ชนิดที่พวกมันจะต้องจดจำไปจนวันตาย


    หือ? ครั้งนี้เตรียมตัวมาขนาดนี้เลยเรอะ   สงสัยเมื่อคราวที่แล้วตอนมีเรื่องกันครั้งแรก   พวกมันมีหมาหมู่สี่ห้าตัว  มาครั้งนี้เลยเล่นขนสมัครพรรคพวกมากันสิบกว่าคนเพื่อมาล้อมกันเอาไว้...สงสัยจะกลัวแพ้จัด


    ...หมาหมู่ก็ยังคงเป็นหมาหมู่วันยังค่ำ นิยมใช้คนจำนวนมากกว่าเข้าสู้พร้อมอาวุธครบมือเยี่ยงนี้  เขาไม่เรียกว่านักเลงหรอก  ใจไม่ถึงกลัวตายแบบนี้มันต้องเรียกว่าอันธพาลถึงจะถูกกว่า


    น้องชายเอ็งกลับบ้านกลับช่องไปก่อนไป   วันหลังค่อยมาเล่นกับข้าใหม่


    ไม่ได้หรอกคราวนี้พวกมันเยอะกว่า  พี่ชายคนเดียวสู้หมาหมู่ไม่ได้หรอกให้ฉันอยู่ช่วยด้วยดีกว่า


    ท่าทางพร้อมสู้ช่างผิดกับนิสัยขี้เกรงใจเมื่อครู่นี้อย่างกับคนละคน   เล่นเอานันรู้สึกแปลกใจเป็นครั้งที่สอง...เออ ไอ้เด็กคนนี้มันแปลกดีบทจะเงียบก็สงบเสงี่ยมเป็นสนิมสร้อย  พอบทจะสู้ก็พองขนเตรียมพร้อมสู้ไม่ถอยอย่างกับไก่ชนเจนสนาม


    ไม่ต้องน้องชายแค่ข้าคนเดียวเหลือก็แหล่ พวกมันทุกตัวไม่คนามือ คนาตีนข้าหรอกอย่าห่วง


    คำอวดตัวที่ไม่เบานักของชายหนุ่ม  ดังเข้าไปในหูและแทงทะลุเข้าไปในใจของหมาหมู่ทุกตัว  โดยเฉพาะตัวหัวหน้าสองตัว   ที่ถึงกับโกรธจัดในคำสบประมาณของศัตรู


    หนอย! มึงสองคนดันเสือกสะเออะยืนคุยเล่นกันไม่สนใจพวกกู   แค่มึงคนเดียวก็สามารถจัดการพวกกูได้งั้นเรอะ มันจะหยามน้ำหน้ากันเกินไปแล้ว...ดีพวกกูจะได้พวกมึงทีเดียวพร้อมกันสองคน


    ถ้ามึงมั่นใจว่าจะชนะ ...ถ้างั้น... พวกเราลุย!


    เมื่อลูกพี่ใหญ่เอ่ยประกาศศึกแล้ว  พวกลูกสมุนทุกคนไม่รอช้ารีบกรูเข้าไปล้อมกรอบนันกับไกรทองเอาไว้  ป้องกันไม่ใครใครเล็ดลอดหนีออกไปได้


    ดูท่าเอ็งจะกลับบ้านไม่ได้แล้วว่ะน้องชาย


    นันมองดูพวกหมาหมู่ด้วยสีหน้าสบายๆไร้กังวลกับจำนวนศัตรู...จุ๊จุ๊ ดูหน้าแต่ละคนสิกระเหี้ยนกระหือซะ...หน้าตลกชะมัด


    ไม่เป็นไรพี่ชายเพราะข้าจะได้สะสางบัญชีแค้นเหมือนกัน


    พอเจ้าตัวพูดจบแค่นั้นชายทางขวามือก็กระโจนพรวดมาทางไกรทองพอดี   ฝ่าตีนหนักๆกำลังดีจัดการถีบเข้าไปที่หน้าหมอนั่นเสียเต็มแรงจนกระเด็นลากเอาคนสามสี่คนลงไปนอนเล่นคลุกดินเป็นเพื่อนด้วยกัน


    เมื่อเห็นเพื่อนในกลุ่มถูกทำร้ายพรรคพวกที่เหลือคงไม่ต้องว่ากล่าวอะไรมากมายนัก  นอกจากจะ รีบเฮโลเข้าไปตะลุมบอนกับสองหนุ่มจนชุลมุนกันไปหมด  


    และเนื่องจากจำนวนคนที่เยอะกว่าเลยทำให้ไกรทองต้องพลาดท่าเสียทีโดนหมัดเสยบ้างไปสองสามหมัด  แต่ส่วนใหญ่แล้วฝ่ายศัตรูมักจะโดนเด็กหนุ่มเล่นงานเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น เตะก้านคอ เข่า ศอกต่อย เจาะยาง และกระทืบ  จนต้องนอนสลบเมือดกองเป็นศพไปแล้วหลายราย


    ฝ่ายนันไม่ต้องพูดถึง ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนให้เห็นสักขีดเดียวเพราะชายหนุ่มเล่นเอาแต่เตะก้านคอ  ถีบศัตรูตลอดไม่ยอมออกหมัดจัดการให้เสียเหงื่อ  เสียแรงโดยเปล่าประโยชน์....ช่วงขายาวก็อย่างงี้แหละได้เปรียบตลอดไม่มีเสีย


    ลูกน้องที่รวบรวมมาถูกเล่นงานเสียจนยับเยิน  จำนวนคนที่เริ่มน้อยลงจนเหลือเพียงแค่สี่ห้าคนเท่านั้นที่ยังคงพอต่อสู้ได้...จากความฮึกเหิมที่มีมาแต่แรกได้แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว  คนที่เหลือรอดมีท่าทางลังเลไม่กล้าเข้าสู้ให้เจ็บตัว  เดือดร้อนต้องให้เพลิงกับไม้ออกหน้าต่อสู้แทน...เพื่อรักษาเกีรยติในฐานะลูกพี่


    เพลิงเลือกเข้าไปท้าดวลกับไกรทอง   ในขณะที่ไม้เลือกเดินหน้าท้าสู้กับนันแทน


    มวยคู่เอกสองคู่เริ่มวางท่าหมัดหยั่งเชิงคู่ต่อสู้พร้อมลุย


    เริ่มจากไม้ที่รีบจู่โจมเข้าถีบก่อนแต่นันก็ยังสามารถหลบหลีกได้    แถมยังมีการโยกตัวซ้ายขวาเป็นเชิงหยอกเย้าคู่ต่อสู้ให้เสียสมาธิ   และได้ผลเมื่อไม้เริ่มคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่  ปล่อยหมัด ต่อย เตะชนิดไม่อยากให้ศัตรูได้มีโอกาสตั้งตัว   ซึ่งน่าเสียดายที่เจ้านันดันอ่านทางมวยออก   ชายหนุ่มโยกหลบหมัดไปทางนี้ที  ทางโน้นที เพื่อให้ศัตรูเหนื่อยแรงเล่น


    ทางไกรทองไม่น้อยหน้าถึงแม้ว่าขนาดลำตัวจะดูด้อยกว่าเพลิงเล็กน้อย  แต่เจ้าตัวกลับฉวยจุดด้วยให้เป็นจุดแข็งแสดงความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหวหลอกล่อคู่ต่อสู้อย่างมีชั้นเชิง    คอยอาศัยจังหวะอีกฝ่ายพลั้งเผลอจัดการปล่อยหมัด  ปล่อยอาวุธใส่แบบเน้นๆไม่มีการออมมือ    ต่อให้ศัตรูแข็งแกร่งกว่าแค่ไหนก็ต้องมีหมดแรงเป็นธรรมดา...ท้ายที่สุดเพลิงถึงกับล้มหงายนอนกองกับพื้นเสียงดังสนั่น   เมื่อเจอกับท่าเถรกวาดลานวัดของไกรทองเข้าไป


    ปั๊ก!


    เอ็งแพ้ข้าแล้วไอ้เพลิง


    ไม่!...คนที่ต้องยืนเยาะเย้ยมันต้องไม่ใช่มึงแต่เป็นกู


    มือหนึ่งของเพลิงกำเศษดินเอาไว้แล้วปาเข้าใส่หน้าไกรทอง   เมื่อสบโอกาสมันไม่รอช้ารีบกระโจนถีบใส่ร่างเด็กหนุ่มทันที   โดยมีลูกสมุนอีกสองคนเข้าไปช่วยรุมซ้ำ   ส่วนที่เหลือไปคอยช่วยไม้อีกทางหนึ่ง


    มึงต่างหากที่แพ้กูไอ้ไกร...เฮ้ย!พวกมึงสองจับไว้ให้ดีๆอย่าให้มันดิ้นหลุดไปได้


    หมัดหนึ่งต่อยเข้าทางแก้มขวาอีกหมัดต่อยเข้าทางแก้มซ้าย   ต่อยสลับกันอยู่อย่างนี้จนหน้าไกรทองมีเลือดไหลเต็มหน้า  แต่เพลิงยังไม่สะใจมัน.....


    กูโดนเศรษฐีคำทำกูเจ็บไว้เช่นไร   มึงต้องหนักกว่ากูเป็นร้อยเท่า


    ....เป็นช่วงจังหวะเดี่ยวกับที่นันต่อยหมัดใส่ไม้เต็มแรงจนมันตาเหลือกล้มลงไปพร้อมกับลูกสมุนอีกสามคนที่นอนสลบอยู่ก่อนหน้า...เพลิงถือกระชับท่อนไม้ขนาดใหญ่ไว้ในมือให้มั่นแล้วเงื้อขึ้นสุดแขนหวังฟาดใส่กบาลไอ้ไกรสุดกำลัง


    ...จังหวะเพียงเสี้ยวเดียวที่กบาลไอ้ไกรกำลังจะเลือดหัวออก  ฝ่าตีนหนักของใครคนอีกคนกระโดดถีบใส่สีข้างเพลิงเสียเต็มรักจนตัวมันปลิวกระเด็นไปจบทางตีนนันพอดิบพอดี   ซึ่งคงไม่ต้องพูดถึงชะตากรรมของไอ้คนขี้โกงหรอกว่าเป็นเช่นไร   เพราะมันได้ตายคาฝ่าตีนยักษ์ของชายหนุ่มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


    ไอ้ทองดำ


    หลังจากจัดการพวกคนที่เหลือเสร็จ  เด็กหนุ่มผิวดำรีบปรี่เดินเข้ามาดูอาการเพื่อนรักทันที...สภาพเลือดกบปาก  คิ้วแตก  รอยช้ำม่วงรอบตา  เล่นเอาทองดำอดจุ๊ปากไม่ได้


    คราวหลังจะไปไหนมาไหนหัดบอกข้าด้วย  เอ็งรู้ทั้งรู้ว่าไอ้สองตัวนั่นเป็นคนยังไงดันเสือกทะลึ่งมาที่นี่คนเดียวอีก...ดีนะว่าข้าสังหรณ์ใจเลยตามมาช่วยเอ็งเกือบไม่ทัน


    มุมปากที่เริ่มเจ็บเลยทำให้ไกรทองพูดอะไรมากไม่ได้นอกจากกุมมุมปากเอาไว้


    น้องชายรีบพยุงเพื่อนไปนั่งตรงแคร่นั่นก่อน  เดี๋ยวข้าจะไปหายูกหายามาทำแผลให้


    ทองดำช่วยพยุงปีกเพื่อนรักไปนั่งพักที่แคร่ตามที่นันสั่ง  โดยไม่สนใจพวกที่นอนสลบอยู่ตรงแถวนั้นแม้แต่นิดเดียว...ปล่อยๆให้พวกมันนอนตายกันอยู่ตรงนั่นแหละ   เดี๋ยวทำแผลให้ไอ้ไกรเสร็จค่อยไปหารถลากมาสักสองคัน   ใส่ศพพวกมันไปส่งที่บ้านให้ก็แล้วกัน   นี่ยังถือว่าข้าใจดีให้แล้วนะ


    สุดท้ายวันนี้นอกจากจะไม่ได้รู้ในเรื่องที่อยากรู้อะไรแล้ว    ไกรทองยังต้องมานั่งโอดโอยภายใต้ฝ่ามือหนักๆของคนสองคนที่พร้อมใจกันช่วยทำแผลให้เขาอย่างหนักมือ


    กูเพื่อนมึงนะเว้ยไอ้ทองดำเบาๆมือหน่อยสิว่ะ!”  ไกรทองร้องโวยวายออกมาเสียงดังลั่นเมื่อเจอกับการป้ายยาแบบไม่ยั้งมือของเพื่อนรัก  และการพอกยาแบบไม่ออมมือจากชายหนุ่ม


    หาเรื่องเจ็บตัวเองช่วยไม่ได้ทองดำหยักไหล่ไม่แยแสกดแผลหนักกว่าเดิมอีกเสียด้วยซ้ำ


    เฮ้ยๆน้องชายอย่าขยับตัวสิ  ข้าทำแผลลำบาก”  เพราะเห็นว่าเด็กหนุ่มทั้งขยับทั้งตะโกนไม่ยอมหยุด ชายหนุ่มเลยจัดการยึดแขนข้างหนึ่งเอาไว้ก่อนจะลงมือทำแผลให้


    มือคนรึมือควายว่ะเนี่ยมือหนักชิบหาย...โอ๊ย!!!...เบา...เบ๊า!

     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×