ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hey Guys! นายฝรั่งหล่อ มาเป็นพ่อของลูกฉันซะ! (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #19 : หยุด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.79K
      62
      14 ก.พ. 58

     

    19

    หยุด

     

                หลายวันผ่านไป

    7.55 PM

    เกือบจะหกโมงเย็นแล้วยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้เงียบมากกว่าเดิมอีก ผู้คนที่มาวิ่งออกกำลังกายหรือหาสถานที่สำหรับพักผ่อนหลังจากที่ชีวิตผ่านความยุ่งเหยิงมาแล้วทั้งวันต่างก็เริ่มทยอยกลับบ้าน เว้นเสียแต่หญิงสาวที่นั่งอยู่บนชิงช้าเก่าแก่ ทั้งที่ใบหน้านิ่งเฉยแต่สายตาสีดำสนิทคู่นั้นกลับเหม่อลอย นัยน์ตาคู่สวยช่างดูหดหู่จนใครที่เดินผ่านไปมารับรู้ได้ถึงความทุกข์นั้นด้วย ..

    ผู้หญิงที่น่าสงสารคนนั้น..ฉันเอง

    ฉันนั่งอยู่บนชิงช้าที่สวนสาธารณะแห่งนี้มาสักพักแล้วล่ะ และฉันก็ทำแบบนี้เป็นเวลาหลายวันแล้วด้วย หลังจากลับจากโรงเรียน เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วฉันจะออกมานั่งเล่นที่นี่

    อ๊ะ แต่ฉันไม่ได้หลบหน้าโรมิโอนะ แค่คิดว่า..มันสงบดี ก็เท่านั้น

    เฮ้อ! ให้ตายสิ หลายวันมานี้ฉันรู้สึกว่าสมองไม่ปกติเอาเสียเลย มันว้าวุ่นตลอดเวลา เพราะฉะนั้นฉันจึงอยากให้มันได้พักผ่อนบ้าง แต่เปล่าเลย .. ยิ่งอยู่คนเดียวเงียบๆ แบบนี้สมองก็ยิ่งทำงานหนักขึ้น อะไรต่อมิอะไรพรั่งพรูเข้ามาในหัวฉันเต็มไปหมดเลย T_T

                Rrrr Rrrr

    ‘Positive_LLL’

    โทรศัพท์ในมือฉันสั่นอย่างต่อเนื่อง ชื่อที่หน้าจอบอกว่าเป็นแอลนั่นเองที่สไกป์มาหา ด้วยความคิดถึงเพื่อนฉันจึงรีบกดรับเลยทันที

    [หายไปเลยนะแก]

    “หายไปไหน ฉันก็อยู่ที่เดิม -3-

    [ไม่เห็นโทรหาฉันเลย]

    “น่า อย่านอยด์เซ่” แล้วฉันก็ยิ้มออกเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสนิทที่ไม่ได้ยินมาแล้วหลายวัน รู้สึกเหมือนสิ่งที่กดทับอยู่ในใจหายไปประมาณยี่สิบเปอร์เซ็นต์เลยล่ะ

    คิดถึงประเทศไทยจังเลยแก”

    [เอ้าเฮ้ยยยย เป็นอะไรเนี่ย โฮมซิกเหรอ เสียงหงอยๆ นะเราอ่ะ]

    “คิดถึงแกจริงๆ นะ อยากกลับไทยแล้ว T_T

    [แกมีปัญหาอะไรใช่มั้ยซอล]

    “ก็เปล่า”

    [อย่าโกหกฉันเลย แกกับฉันเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว ทำไมแกเป็นอะไรแล้วฉันจะไม่รู้]

    “...”

    และไม่รู้ว่าทำไม ฉันถึงเงียบโดยอัตโนมัติ T_T

    [ยังอยู่ป่ะเนี่ย]

    “อยู่ๆ”

    [เฮ้อ ยัยไอรีนเอ้ยยย โดนฝรั่งหักอกใช่มั้ยเนี่ย] ปล.แอลก็รู้ชื่ออังกฤษของฉันเหมือนกันนะ เพราะฉันบอกเธอตั้งแต่แรกแล้วล่ะว่าจะใช้ชื่อนี้ระหว่างที่อยู่อเมริกา

    “...”

    [แกอ่ะ เอาแต่เงียบ เอางี้..ฉันไม่รู้นะเว้ยว่าแกเป็นอะไร แต่ฉันมีเรื่องๆ นึงจะเล่าให้แกฟัง มันอาจจะไม่เกี่ยวกันกับที่แกเป็นอยู่นะ แต่ฉันแค่อยากเล่าเฉยๆ]

    “ว่ามาเลย รอฟังอยู่”

    [มีชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรถเกิดเสียกะทันหัน ทันใดนั้นเองฝนก็เริ่มตกเกิดพายุอย่างรุนแรง เขาจึงตัดสินใจออกจากรถเพื่อหาคนมาช่วยแล้วเขาก็ไปเห็นวัดๆหนึ่งตั้งอยู่กลางภูเขา ถ้าเป็นใครเห็นแบบนี้ก็คงจะไปโบกรถขอความช่วยเหลือใช่มั้ย แต่ชายคนนี้ไม่ เขาพยายามจะปีนขึ้นไปด้วยตัวเอง]

                “อ่าฮะ..ไงต่อ”

                [เมื่อไปถึง เขาขออนุญาตพักแรมที่วัดนี้หนึ่งคืน ท่านเจ้าอาวาสก็สั่งให้เณรไปจัดห้องให้ชายหนุ่มได้พัก เมื่อชายหนุ่มหลับไป ก็เกิดเสียงประหลาดอย่างหนึ่งขึ้นตอนตีสาม เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาและได้ยินเสียงนี้เป็นเวลาสิบนาที เมื่อเสียงนี้เงียบไปแล้วจึงลุกออกจากเตียงและรีบวิ่งไปหาเจ้าอาวาส]

    “แอล แกจะเล่าเรื่องผีเหรอ - -

    [น่า ฟังต่อ .. ชายหนุ่มคนนั้นตั้งท่าถาม แต่หลวงพ่อก็บอกท่าเดียวว่า อาตมาบอกไม่ได้เพราะโยมไม่ใช่พระถึงแม้ว่าเขาจะเซ้าซี้แค่ไหน หลวงพ่อก็ตอบแต่แบบเดิม -*- ]

    “...”

                [เชื่อมั้ยว่าผู้ชายคนนี้ออกบวชจริงๆ แต่เวลานั้นเขาซึ้งในรสพระธรรมจนลืมเรื่องที่อยากจะถามไป แต่แล้ว..อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ได้ยินเสียงนั้นอีก.. ตอนนี้เขาเป็นพระแล้ว หลวงพ่อจึงสามารถบอกเขาได้ว่าเสียงนั้นคืออะไร..สยดสยองทีเดียว อยากรู้มั้ยล่ะ ว่ามันคืออะไร บรึ๋ย]

    “รีบบอกมาสิ O_O

    [คืองี้เว้ย .. ]

    “คืออะไรล่ะยะ”

    [ฉันบอกแกไม่ได้หรอก เพราะแกไม่ใช่พระ อยากรู้ก็ไปบวชสิ ยัยบ้า ฮ่าๆๆๆ ]

    “สาบานว่าแกเล่นมุก โว้ะ ฉันก็นั่งฟังตั้งนาน -*-

    [ก็ไม่อยากให้เครียด ฮ่าๆ ยิ้มๆ ไว้นะ แกไม่เหมาะเลยที่จะทำหน้าเศร้า ยิ้มไว้ๆ ^-^ ] ถึงแม้ไม่เป็นหน้าและได้ยินแค่เสียงแต่ตอนนี้ฉันก็นึกถึงสีหน้าของแอลได้ไม่ยากเลย คิดถึงแฮะ กลับไปจะชวนไปกินให้ตัวแตกไปเลย

    “ขอบใจแกมากนะเว้ย”

    [ขอบใจอะไรเรื่องแค่นี้ คิคิ อย่าเครียดเยอะก็แล้วกัน อย่างที่บอก อย่างแกมันต้องยิ้มเยอะๆ เว้ย ]

    นั่นสินะ .. ฉันมานั่งเศร้าทำไมเนี่ย ยิ้มเข้าไว้สิไอรีน เธอเคยเก่งกว่านี้ไม่ใช่เรอะ!!

     

     

    เฮ้อ! ตอนแรกก็พร้อมออกรบอยู่หรอกนะ แต่พอกลับมาที่บ้านแล้วคิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร ไฟที่เคยมีอยู่ในตัวก็หายไปทันที T_T

    เฮ้ อย่าเพิ่งคิดอะไรทั้งนั้นนะ ฉันไม่ได้กลัวเขาหรอก ไม่ได้หลบหน้าเขาด้วย

    จริงจริ๊งงงงง

    “ไปไหนมา”

    แงงงงงงง อุตส่าห์ว่าจะเดินทำตัวลีบๆ ขึ้นไปบนห้องอย่างปกติที่สุดแล้วนะ ทำไมหมอนี่ต้องมาเรียกดักไว้ด้วยล่ะ TT

    แต่ฉันไม่ตอบหรอก หยิ่ง!

    “เฮ้ ฉันถามทำไมไม่ตอบ” พอเห็นว่าฉันเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินเตรียมจะขึ้นบันไดขึ้นห้องอย่างเดียว โรมิโอที่ตอนแรกนั่งเงียบๆ อยู่บนโซฟาก็รีบวิ่งมาดักไว้ แล้วมีหรือที่ขายาวๆ ของเขาจะตามไม่ทันขาสั้นๆ ของฉัน

    “ฉันถามว่าไปไหนมา”

    “เรื่องของฉันสิ” ฉันตอบพลางก้มหน้า ไม่อยากมองเห็นหมอนี่ ไม่อยากสบตากับนัยน์ตาคู่นั้น ไม่อยากเห็นจมูก ริมฝีปาก ไม่อยากเห็นอะไรก็ตามที่เป็นนาย ไม่อยาก ไม่อยาก ไม่อยาก! >_<

    “เธอเป็นอะไร”

    “ปล่อยฉันนะ”

    “ตอบคำถามฉันมาก่อนสิ เธอเป็นอะไร ทำไมพักนี้ไม่ยอมคุยกับฉันเลย เป็นไรก็บอกดิวะ อย่าเงียบอย่างนี้ได้ป่ะ”

    “...”

    “เห็นมั้ย เธอก็เอาแต่เงียบ ไม่รู้เหรอว่าฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว!” โรมิโอเผลอขึ้นเสียงใส่ฉันโดยที่ไม่รู้ตัว เขาพยายามทำใจเย็นด้วยการสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และผ่อนมันออกมาช้าๆ จากนั้นจึงดึงฉันเข้าไปไว้ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั่น..

    “เธอโกรธอะไรฉันเหรอ บอกหน่อยได้มั้ย”

    “...”

    และไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันกลายเป็นคนอ่อนแอแบบนี้ เพราะแค่เพียงเขาพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าถามว่าเป็นอะไร เท่านั้นแหละ น้ำตาก็ทำท่าว่าจะไหลออกมาให้ได้เลย

    งี่เง่าจริงๆ

    “ไอรีน..”

    “นายจะให้ฉันพูดอะไรล่ะ”

    “พูดสิ่งที่เธออยากพูดสิ แค่พูดออกมา”

    “ฉันพูดได้ด้วยเหรอ?”

    “ทำไมถึงถามแบบนี้”

    “เปล่าหรอก”

    ฉันกำลังโกหกตัวเอง โกหกเขาด้วย ฉันพยายามบอกให้ตัวเองเข้มแข็ง ไม่คิดอะไร ทั้งๆ ที่สมองมันคิดไปแล้วต่างๆ นาๆ มากมาย

    ฉันเป็นตัวอะไรในสายตาของนาย?

    ก็ถ้าตอนนี้นายกับเคทเธอรีนคืนดีกันแล้ว.. ฉันมีสิทธิจะยืนอยู่ข้างๆ นายด้วยหรือไง มันไม่โหดร้ายกับฉันไปหน่อยเหรอ

    “ไอรีน”

    “...”

    “ร้องไห้เหรอ..ร้องไห้ทำไมวะ!” เขาก้มลงมามองหน้าฉันและพยายามจะเช็ดน้ำตาให้แต่นั่นยิ่งทำให้มันหลั่งไหลมามากกว่าเดิมซะอีก

    “เป็นอะไร บอกฉันสิ เกี่ยวกับฉันหรือเปล่า”

    “นายเลิกทำแบบนี้ได้มั้ย”

    “...” โรมิโอชะงักมือที่กำลังซับน้ำตาให้ฉันทันทีเมื่อจบคำฉัน

    “นายไม่สงสารฉันเหรอ”

    “...”

    “นายจะเล่นกับความรู้สึกของฉันเพื่ออะไร สนุกมากมั้ย ฉันดูตลกมากใช่หรือเปล่า”

    “...” เขาทำหน้าไม่เข้าใจ ..

    “ฉันดูตลกมากมั้ยที่ใจเต้นไปกับคำพูดหวานๆ  ตลกมากมั้ยที่เห็นฉันหน้าแดงเพราะจูบของนาย นายทำให้ฉันรู้สึกดีได้ ภูมิใจมั้ย”

    “...”

    “นายทำให้ฉันรู้สึกเหมือนว่า..ฉันอยู่จุดที่สูงที่สุด แล้วโดนผลักลงมา..ด้วยมือของนายเอง”

    พรึ่บ!

    อีกครั้งที่โรมิโอดึงฉันเข้าไปไว้ในอ้อมกอดของเขา

    “คิดอะไรมากมาย ไปฟังใครเขาพูดอะไรมาวะเนี่ย”

    “นี่ฉันไม่ได้โง่นะ!

    “ฉันชอบเธอ ยังต้องรู้อะไรอีก”

    “อย่ามาโกหกเลย นายมี..”

    “เอ่อ .. ขอโทษนะที่เข้ามาขัดจังหวะ ^^;

    “เคท..”

    อีกครั้งที่โรมิโอปล่อยฉันออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั่นเพื่อไปหาเคทเธอรีน เจ้าหญิงของเขา .. เคทเดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทีสบายๆ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะตกใจไม่น้อยที่มาเห็นคนของเธอกอดผู้หญิงที่ไหนไม่รู้อยู่

    แล้วฉันจะอยู่ตรงนี้อีกทำไมล่ะ .. มันหมดเวลาของเธอแล้ว ยัยผู้หญิงน่าโง่



    _____________________________________________________________________________________________________________________

     

    อาจจะไม่ค่อยอินเท่าไหร่นะคะ เรามือใหม่เพิ่งฝึกหัดเขียนฉากดราม่าค่ะ และเราก็รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ยากมากๆ เลย T_T 
    ปล. ขอบคุณธีมสวยๆ จาก SHALUNLA น้า

    CR.SHL
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×