คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : หยุด
19
หยุด
หลายวันผ่านไป
7.55 PM
เกือบจะหกโมงเย็นแล้วยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้เงียบมากกว่าเดิมอีก ผู้คนที่มาวิ่งออกกำลังกายหรือหาสถานที่สำหรับพักผ่อนหลังจากที่ชีวิตผ่านความยุ่งเหยิงมาแล้วทั้งวันต่างก็เริ่มทยอยกลับบ้าน เว้นเสียแต่หญิงสาวที่นั่งอยู่บนชิงช้าเก่าแก่ ทั้งที่ใบหน้านิ่งเฉยแต่สายตาสีดำสนิทคู่นั้นกลับเหม่อลอย นัยน์ตาคู่สวยช่างดูหดหู่จนใครที่เดินผ่านไปมารับรู้ได้ถึงความทุกข์นั้นด้วย ..
ผู้หญิงที่น่าสงสารคนนั้น..ฉันเอง
ฉันนั่งอยู่บนชิงช้าที่สวนสาธารณะแห่งนี้มาสักพักแล้วล่ะ และฉันก็ทำแบบนี้เป็นเวลาหลายวันแล้วด้วย หลังจากลับจากโรงเรียน เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วฉันจะออกมานั่งเล่นที่นี่
อ๊ะ แต่ฉันไม่ได้หลบหน้าโรมิโอนะ แค่คิดว่า..มันสงบดี ก็เท่านั้น
เฮ้อ! ให้ตายสิ หลายวันมานี้ฉันรู้สึกว่าสมองไม่ปกติเอาเสียเลย มันว้าวุ่นตลอดเวลา เพราะฉะนั้นฉันจึงอยากให้มันได้พักผ่อนบ้าง แต่เปล่าเลย .. ยิ่งอยู่คนเดียวเงียบๆ แบบนี้สมองก็ยิ่งทำงานหนักขึ้น อะไรต่อมิอะไรพรั่งพรูเข้ามาในหัวฉันเต็มไปหมดเลย T_T
Rrrr Rrrr
‘Positive_LLL’
โทรศัพท์ในมือฉันสั่นอย่างต่อเนื่อง ชื่อที่หน้าจอบอกว่าเป็นแอลนั่นเองที่สไกป์มาหา ด้วยความคิดถึงเพื่อนฉันจึงรีบกดรับเลยทันที
[หายไปเลยนะแก]
“หายไปไหน ฉันก็อยู่ที่เดิม -3- “
[ไม่เห็นโทรหาฉันเลย]
“น่า อย่านอยด์เซ่” แล้วฉันก็ยิ้มออกเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสนิทที่ไม่ได้ยินมาแล้วหลายวัน รู้สึกเหมือนสิ่งที่กดทับอยู่ในใจหายไปประมาณยี่สิบเปอร์เซ็นต์เลยล่ะ
“คิดถึงประเทศไทยจังเลยแก”
[เอ้าเฮ้ยยยย เป็นอะไรเนี่ย โฮมซิกเหรอ เสียงหงอยๆ นะเราอ่ะ]
“คิดถึงแกจริงๆ นะ อยากกลับไทยแล้ว T_T “
[แกมีปัญหาอะไรใช่มั้ยซอล]
“ก็เปล่า”
[อย่าโกหกฉันเลย แกกับฉันเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว ทำไมแกเป็นอะไรแล้วฉันจะไม่รู้]
“...”
และไม่รู้ว่าทำไม ฉันถึงเงียบโดยอัตโนมัติ T_T
[ยังอยู่ป่ะเนี่ย]
“อยู่ๆ”
[เฮ้อ ยัยไอรีนเอ้ยยย โดนฝรั่งหักอกใช่มั้ยเนี่ย] ปล.แอลก็รู้ชื่ออังกฤษของฉันเหมือนกันนะ เพราะฉันบอกเธอตั้งแต่แรกแล้วล่ะว่าจะใช้ชื่อนี้ระหว่างที่อยู่อเมริกา
“...”
[แกอ่ะ เอาแต่เงียบ เอางี้..ฉันไม่รู้นะเว้ยว่าแกเป็นอะไร แต่ฉันมีเรื่องๆ นึงจะเล่าให้แกฟัง มันอาจจะไม่เกี่ยวกันกับที่แกเป็นอยู่นะ แต่ฉันแค่อยากเล่าเฉยๆ]
“ว่ามาเลย รอฟังอยู่”
[มีชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรถเกิดเสียกะทันหัน ทันใดนั้นเองฝนก็เริ่มตกเกิดพายุอย่างรุนแรง เขาจึงตัดสินใจออกจากรถเพื่อหาคนมาช่วยแล้วเขาก็ไปเห็นวัดๆหนึ่งตั้งอยู่กลางภูเขา ถ้าเป็นใครเห็นแบบนี้ก็คงจะไปโบกรถขอความช่วยเหลือใช่มั้ย แต่ชายคนนี้ไม่ เขาพยายามจะปีนขึ้นไปด้วยตัวเอง]
“อ่าฮะ..ไงต่อ”
[เมื่อไปถึง เขาขออนุญาตพักแรมที่วัดนี้หนึ่งคืน ท่านเจ้าอาวาสก็สั่งให้เณรไปจัดห้องให้ชายหนุ่มได้พัก เมื่อชายหนุ่มหลับไป ก็เกิดเสียงประหลาดอย่างหนึ่งขึ้นตอนตีสาม เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาและได้ยินเสียงนี้เป็นเวลาสิบนาที เมื่อเสียงนี้เงียบไปแล้วจึงลุกออกจากเตียงและรีบวิ่งไปหาเจ้าอาวาส]
“แอล แกจะเล่าเรื่องผีเหรอ - - “
[น่า ฟังต่อ .. ชายหนุ่มคนนั้นตั้งท่าถาม แต่หลวงพ่อก็บอกท่าเดียวว่า ‘อาตมาบอกไม่ได้เพราะโยมไม่ใช่พระ’ ถึงแม้ว่าเขาจะเซ้าซี้แค่ไหน หลวงพ่อก็ตอบแต่แบบเดิม -*- ]
“...”
[เชื่อมั้ยว่าผู้ชายคนนี้ออกบวชจริงๆ แต่เวลานั้นเขาซึ้งในรสพระธรรมจนลืมเรื่องที่อยากจะถามไป แต่แล้ว..อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ได้ยินเสียงนั้นอีก.. ตอนนี้เขาเป็นพระแล้ว หลวงพ่อจึงสามารถบอกเขาได้ว่าเสียงนั้นคืออะไร..สยดสยองทีเดียว อยากรู้มั้ยล่ะ ว่ามันคืออะไร บรึ๋ย]
“รีบบอกมาสิ O_O “
[คืองี้เว้ย .. ]
“คืออะไรล่ะยะ”
[ฉันบอกแกไม่ได้หรอก เพราะแกไม่ใช่พระ อยากรู้ก็ไปบวชสิ ยัยบ้า ฮ่าๆๆๆ ]
“สาบานว่าแกเล่นมุก โว้ะ ฉันก็นั่งฟังตั้งนาน -*- “
[ก็ไม่อยากให้เครียด ฮ่าๆ ยิ้มๆ ไว้นะ แกไม่เหมาะเลยที่จะทำหน้าเศร้า ยิ้มไว้ๆ ^-^ ] ถึงแม้ไม่เป็นหน้าและได้ยินแค่เสียงแต่ตอนนี้ฉันก็นึกถึงสีหน้าของแอลได้ไม่ยากเลย คิดถึงแฮะ กลับไปจะชวนไปกินให้ตัวแตกไปเลย
“ขอบใจแกมากนะเว้ย”
[ขอบใจอะไรเรื่องแค่นี้ คิคิ อย่าเครียดเยอะก็แล้วกัน อย่างที่บอก อย่างแกมันต้องยิ้มเยอะๆ เว้ย ]
นั่นสินะ .. ฉันมานั่งเศร้าทำไมเนี่ย ยิ้มเข้าไว้สิไอรีน เธอเคยเก่งกว่านี้ไม่ใช่เรอะ!!
เฮ้อ! ตอนแรกก็พร้อมออกรบอยู่หรอกนะ แต่พอกลับมาที่บ้านแล้วคิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร ไฟที่เคยมีอยู่ในตัวก็หายไปทันที T_T
เฮ้ อย่าเพิ่งคิดอะไรทั้งนั้นนะ ฉันไม่ได้กลัวเขาหรอก ไม่ได้หลบหน้าเขาด้วย
จริงจริ๊งงงงง
“ไปไหนมา”
แงงงงงงง อุตส่าห์ว่าจะเดินทำตัวลีบๆ ขึ้นไปบนห้องอย่างปกติที่สุดแล้วนะ ทำไมหมอนี่ต้องมาเรียกดักไว้ด้วยล่ะ TT
แต่ฉันไม่ตอบหรอก หยิ่ง!
“เฮ้ ฉันถามทำไมไม่ตอบ” พอเห็นว่าฉันเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินเตรียมจะขึ้นบันไดขึ้นห้องอย่างเดียว โรมิโอที่ตอนแรกนั่งเงียบๆ อยู่บนโซฟาก็รีบวิ่งมาดักไว้ แล้วมีหรือที่ขายาวๆ ของเขาจะตามไม่ทันขาสั้นๆ ของฉัน
“ฉันถามว่าไปไหนมา”
“เรื่องของฉันสิ” ฉันตอบพลางก้มหน้า ไม่อยากมองเห็นหมอนี่ ไม่อยากสบตากับนัยน์ตาคู่นั้น ไม่อยากเห็นจมูก ริมฝีปาก ไม่อยากเห็นอะไรก็ตามที่เป็นนาย ไม่อยาก ไม่อยาก ไม่อยาก! >_<
“เธอเป็นอะไร”
“ปล่อยฉันนะ”
“ตอบคำถามฉันมาก่อนสิ เธอเป็นอะไร ทำไมพักนี้ไม่ยอมคุยกับฉันเลย เป็นไรก็บอกดิวะ อย่าเงียบอย่างนี้ได้ป่ะ”
“...”
“เห็นมั้ย เธอก็เอาแต่เงียบ ไม่รู้เหรอว่าฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว!” โรมิโอเผลอขึ้นเสียงใส่ฉันโดยที่ไม่รู้ตัว เขาพยายามทำใจเย็นด้วยการสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และผ่อนมันออกมาช้าๆ จากนั้นจึงดึงฉันเข้าไปไว้ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั่น..
“เธอโกรธอะไรฉันเหรอ บอกหน่อยได้มั้ย”
“...”
และไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันกลายเป็นคนอ่อนแอแบบนี้ เพราะแค่เพียงเขาพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าถามว่าเป็นอะไร เท่านั้นแหละ น้ำตาก็ทำท่าว่าจะไหลออกมาให้ได้เลย
งี่เง่าจริงๆ
“ไอรีน..”
“นายจะให้ฉันพูดอะไรล่ะ”
“พูดสิ่งที่เธออยากพูดสิ แค่พูดออกมา”
“ฉันพูดได้ด้วยเหรอ?”
“ทำไมถึงถามแบบนี้”
“เปล่าหรอก”
ฉันกำลังโกหกตัวเอง โกหกเขาด้วย ฉันพยายามบอกให้ตัวเองเข้มแข็ง ไม่คิดอะไร ทั้งๆ ที่สมองมันคิดไปแล้วต่างๆ นาๆ มากมาย
ฉันเป็นตัวอะไรในสายตาของนาย?
ก็ถ้าตอนนี้นายกับเคทเธอรีนคืนดีกันแล้ว.. ฉันมีสิทธิจะยืนอยู่ข้างๆ นายด้วยหรือไง มันไม่โหดร้ายกับฉันไปหน่อยเหรอ
“ไอรีน”
“...”
“ร้องไห้เหรอ..ร้องไห้ทำไมวะ!” เขาก้มลงมามองหน้าฉันและพยายามจะเช็ดน้ำตาให้แต่นั่นยิ่งทำให้มันหลั่งไหลมามากกว่าเดิมซะอีก
“เป็นอะไร บอกฉันสิ เกี่ยวกับฉันหรือเปล่า”
“นายเลิกทำแบบนี้ได้มั้ย”
“...” โรมิโอชะงักมือที่กำลังซับน้ำตาให้ฉันทันทีเมื่อจบคำฉัน
“นายไม่สงสารฉันเหรอ”
“...”
“นายจะเล่นกับความรู้สึกของฉันเพื่ออะไร สนุกมากมั้ย ฉันดูตลกมากใช่หรือเปล่า”
“...” เขาทำหน้าไม่เข้าใจ ..
“ฉันดูตลกมากมั้ยที่ใจเต้นไปกับคำพูดหวานๆ ตลกมากมั้ยที่เห็นฉันหน้าแดงเพราะจูบของนาย นายทำให้ฉันรู้สึกดีได้ ภูมิใจมั้ย”
“...”
“นายทำให้ฉันรู้สึกเหมือนว่า..ฉันอยู่จุดที่สูงที่สุด แล้วโดนผลักลงมา..ด้วยมือของนายเอง”
พรึ่บ!
อีกครั้งที่โรมิโอดึงฉันเข้าไปไว้ในอ้อมกอดของเขา
“คิดอะไรมากมาย ไปฟังใครเขาพูดอะไรมาวะเนี่ย”
“นี่ฉันไม่ได้โง่นะ!”
“ฉันชอบเธอ ยังต้องรู้อะไรอีก”
“อย่ามาโกหกเลย นายมี..”
“เอ่อ .. ขอโทษนะที่เข้ามาขัดจังหวะ ^^; “
“เคท..”
อีกครั้งที่โรมิโอปล่อยฉันออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั่นเพื่อไปหาเคทเธอรีน เจ้าหญิงของเขา .. เคทเดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทีสบายๆ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะตกใจไม่น้อยที่มาเห็นคนของเธอกอดผู้หญิงที่ไหนไม่รู้อยู่
แล้วฉันจะอยู่ตรงนี้อีกทำไมล่ะ .. มันหมดเวลาของเธอแล้ว ยัยผู้หญิงน่าโง่
_____________________________________________________________________________________________________________________
อาจจะไม่ค่อยอินเท่าไหร่นะคะ เรามือใหม่เพิ่งฝึกหัดเขียนฉากดราม่าค่ะ และเราก็รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ยากมากๆ เลย T_T
ปล. ขอบคุณธีมสวยๆ จาก SHALUNLA น้า
ความคิดเห็น