เรื่องของ เจอรี่...ผู้มองโลกในแง่ดีตลอดเวลา.. - เรื่องของ เจอรี่...ผู้มองโลกในแง่ดีตลอดเวลา.. นิยาย เรื่องของ เจอรี่...ผู้มองโลกในแง่ดีตลอดเวลา.. : Dek-D.com - Writer

    เรื่องของ เจอรี่...ผู้มองโลกในแง่ดีตลอดเวลา..

    ผู้เข้าชมรวม

    746

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    746

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 พ.ค. 52 / 00:00 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เจอร์รี่เป็นผู้จัดการของร้านอาหารแห่งหนึ่งในอเมริกา
      เขามักจะอารมณ์ดีอยู่เสมอและมักจะมีมุมมองต่อเหตุการณืต่างในแง่ดี

      เวลาที่มีใครถามเขาว่าเขาทำอย่างนั้นได้อย่างไร

      เขามักจะตอบว่า “ ถ้าผมสามารถเป็นอะรที่ดีกว่านี้ได้ ผมอยากจะมีฝาแฝด!”

      พนักงานเสริ์ฟในร้านอาหารที่เขาทำงานอยู่หลายคนออกจากงาน ไปพร้อมกับเจอร์รี่ เมื่อเขาย้ายงาน
      เพื่อจะได้ติดตามเขาไปจากร้านหนึ่งไปยังอีกร้านหนึ่ง

      สาเหตุทั้งหมดก็มาจากการเป็นคนมองโลกในแง่ดีและทัศนคติของเจอร์รี่
      เขาเป็นผู้ผลักดัน เป็นคนที่ให้กำลังใจผู้อื่นได้อย่างดีเยี่ยม

      ถ้ามีลูกน้องคนไหนเจอกับเรื่องแย่ๆมา เจอร์รี่จะอยู่กับเขาเสมอ
      พร้อมทั้งแนะนำลูกน้องคนนั้น ให้ได้มองเห็นด้านดีๆหรือสิ่งที่เรา
      สามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องราวแย่ๆที่เกิดขึ้น

      ....วันหนึ่งฉันถามเจอร์รี่ว่า

      “ฉันไม่เข้าใจ! คนเราจะมองโลกในแง่ดีอยู่ตลอดเวลาได้ยังไง คุณทำได้ยังไงนะ”

      เจอร์รี่ตอบว่า

      “ ทุกๆเช้า ผมตื่นขึ้นมา พร้อมกับบอกตัวเองว่า ผมมีทางเลือกสองทางสำหรับวันนี้
      ผมเลือกที่จะมีอารมณ์ดีตลอดทั้งวันก็ได้ หรือจะมีอารมณืเสียๆตลอดทั้งวันก็ได้เหมือนกัน
      ซึ่งผมมักจะเลือกิอารมณ์ดี

      บางครั้งก็มีเหตุการณ์แย่ๆเกิดขึ้น เราก็สามารถเลือกได้นี่นาว่า
      เราจะเป็นเหยื่อของเหตุการณ์นั้น หรือว่าเลือกที่จะเรียนรู้มัน ผมมักเลือกที่จะเรียนรู้
      ทุกครั้งที่มีบางคนมาติมาบ่นอะไร มีทางเลือกให้เราเลือกได้ว่าจะยอมรับเสียงเหล่านั้น
      หรือว่าจะมองหาด้านดีของชีวิต ผมเลือกอย่างหลัง”

      “แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ” ฉันแย้ง

      “ ใช่ ไม่ง่ายเลย” เจอร์รี่กล่าว

      “ ชีวิตล้วนเต็มไปด้วยทางเลือก
      เมื่อคุณตัดสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกไปแล้ว ทุกสถานการณ์ต่างก็มีทางเลือกของมัน
      คุณเลือกได้ว่าจะตอบสนองกับเหตุการณ์นั้นอย่างไร
      คุณเลือกได้ว่าจะให้ผู้ครอบข้างมีผลกับความรู้สึกของคุณได้อย่างไร
      คุณเลือกที่จะมีอารมณ์ดีหรือแย่ก็ได้

      มันเป็นทางเลือกว่าคุณจะใช้ชีวิตของคุณอย่างไร”

      หลายปีต่อมา ฉันได้ข่าวมาว่า เจอร์รี่ได้ทำบางอย่างที่คุณคาดไม่ถึง
      ว่ามันจะเกิดขึ้นในธุรกิจการทำร้านอาหาร

      เขาลืมล็อคประตูด้านหลังของร้านในเช้าวันหนึ่ง และถูกปล้นโดยโจรสามคนที่มีอาวุธ ระหว่างที่เจอร์รี่กำลังพยายามเปิดเซฟ มือของเขาสั่นเนื่องจากความตื่นเต้น ทำให้เกิดพลาด

      โจรพวกนั้นยิงเขา

      โชคยังดีที่มีคนพบและนำเขาส่งโรงพยาบาลอย่างทันท่วงที หลังจากการผ่าตัดที่ยาวนานถึง 18 ชั่วโมงและการดูแลรักษา ในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด
      เจอร์รี่ก็ได้ออกจากโรงพยาบาล พร้อมทั้งเศษกระสุนในร่างกาย

      ฉันพบเจอร์รี่ 6 เดือนหลังจากเหตุการณ์นั้น เมื่อฉันถามว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง

      เขายังคงตอบว่า “ถ้าผมเป็นอะรที่ดีกว่านี้ได้ ผมจะเป็นฝาแฝด อยากดูแผลเป็นของผมมั้ย”

      ฉันตอบปฏิเสธ

      แต่กลับถามเขาถึงสิ่งที่ผ่านเข้ามาในความรู้สึกเขาหลังจากที่โจรพวกนั้นออกไป

      “อย่างแรกที่ผมคิด คือผมไม่ได้ล็อคประตูหลังของร้าน และหลังจากที่โดนยิง และผมล้มลงบนพื้น ผมก็ยังคงจำได้ว่า ผมมีสองทางเลือกนี่นา มีชีวิตต่อไปหรือว่าตายเสียในตอนนั้น ผมเลือกที่จะอยู่ต่อไป”

      “คุณไม่กลัวเหรอ” ฉันถาม

      เจอร์รี่เล่าต่อ
      “เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยแพทย์ทำหน้าที่อย่างดีมาก พวกเขาคอยบอกว่าผมจะปลอดภัย แต่เมื่อพวกเขาเข็นผมเข้าไปในห้องฉุกเฉิน และผมได้เห็นความกดดันบนใบหน้าของหมอและพยาบาล

      ตอนนั้นล่ะที่ผมเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆ ในสายตาของพวกเขา มันเต็มไปด้วยคำพูดที่ว่า ‘ เขาตายแล้ว ‘ ผมรู้ทันทีว่าผมต้องทำอะไร ผมต้องแสดงปฏิกิริยาอะไรซักอย่างให้พวกเขารู้ว่าผมยังอยู่ “

      " คุณทำอย่างไร”

      “ อืม...มีนางพยาบาลคนนึงตะโกนถามผมว่า ผมแพ้อะไรหรือเปล่า ผมตอบว่า มี... นางพยาบาลและหมอต่างก็หยุดทำงานรอฟังคำตอบจากผม ผมหายใจลึกๆและตอบว่า ‘ กระสุน!’

      หลังจากที่พวกเขาหัวเราะ ผมบอกพวกเขาว่า ผมเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ โปรดช่วยรักษาผมอย่างคนมีชีวิต
      ไม่ใช่คนตาย”

      เจอร์รี่ใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกขอบคุณความสามารถของหมอ
      แต่มันก็เป็นเพราะทัศนคติต่อชีวิตอันแสนจะน่าทึ่งของเขาด้วย ฉันได้เรียนรู้จากเขาว่า
      ทุกๆวันคุณมีทางเลือกของชีวิต คุณเลือกที่จะรักหรือว่าเกลียดชีวิตของคุณเองก็ได้
      สิ่งเดียวที่เป็นของคุณจริงๆ และไม่มีใครสามารถนำมันไปจากคุณได้ ก็คือความคิดและทัศนคติของคุณเอง

      เพราะฉะนั้นถ้าคุณสามารถใส่ใจกับมันได้ อย่างอื่นในชีวิตของคุณก็จะง่ายดายมากขึ้น
      ที่มา : admin

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×