แผ่นดินเป็นจราจลครั้งนี้ หาผู้ใดคิดทำนุบำรุงไม่
ถ้าชีวิตข้าพเจ้าตายก็ตายเสียเถอด
ขอให้ท่านอยู่รอดจะได้คิดการทำนุบำรุงสืบไป
(ตอนที่5:โจหองช่วยโจโฉตอนตามตีตั๋งโต๊ะ พาโจโฉหนีข้ามแม่น้ำสำเร็จ)
ภรรยาเหมือนเสื้อผ้า
ขาดหรือหายไปก็หาไหม่ได้
พี่น้องเหมือนแขนซ้ายขวา
ขาดแล้วยากที่จะต่อได้
(ตอนที่12:เตียวหุยหนีลิโป้ไปหาเล่าปี่แล้วคิดฆ่าตัวตาย)
อันคำโบราณกล่าวไว้ว่า
ผู้จะตั้งตัวเป็นใหญ่
ถึงจะมีบ้านเมืองได้ก็เอาแต่ชัยชนะเท่านั้น
ผู้ใดเป็นเสี้ยหนามก็ทำอันตรายผู้นั้น
มิได้ทำอันตรายแก่บุตรภรรยาและราษฎรทั้งปวง
(ตอนที่17:บิต๊กกล่าวแก่ลิโป้ ตอนที่ลิโป้ตีเมืองเสียวพ่ายของเล่าปี่แตก)
อันธรรมดาการศึกนั้น
ถ้าจะว่าสิ่งใดกับแม่ทัพนายกอง
จงประมาณการให้แน่นอนก่อนจึงว่า
(ตอนที่23:เตียวเลี้ยวทัดทานกวนอูดูฝีมืองันเหลียงก่อนออกรบ)
อันธรรมดาพี่น้องกันนั้น
อุปมาเหมือนหนึ่งแขนซ้ายแขนขวา
เหตุใดท่านจะมาคิดใจเบาตัดแขนซ้ายขวาเสียนั้นไม่ควร
(ตอนที่ 29:อองสิ้วเข้าห้ามปรามอ้วนถำมิให้รบด้วยอ้วนซง)
อันคำโบราณกล่าวไว้ว่า
ธรรมดาเป็นข้าท้าวบ่าวพระยา
ให้ตั้งใจจงรักภักดีต่อนาย
ถ้าเจ้านายนั้นมีความสุขก็พลอยสบายด้วย
แม้มีทุกข์ร้อนก็พงให้ทรมาณกายลำบากด้วยจึงจะควร
(ตอนที่ 30: โจโฉชวนซินเบ้งมาอยู่ราชการด้วย)
อันฮกหลงกับฮองซูสองคนนี้
ถ้าได้เป็นที่ปรึกษาด้วยแต่ผู้ใดผู้หนึ่ง
ก็อาจสามารถจะคิดปราบปรามศัตรูแผ่นดินให้สงบได้
(ตอนที่32: เล่าปี่สนทนากับสุมาเต็กโช)
ซึ่งจะเอาความคิดแลปัญญาข้าพเจ้าไปเปรียบนั้นไกลนัก
ตัวข้าพเจ้าอุปมาเหมือนหนึ่งกาจะมาเปรียบพญาหงส์นั้นไม่ควร
อนึ่งม้าอาชามีกำลังน้อย หรือจะมาเปรียบพญาราชสีห์ได้
อันคนนี้มีปัญญาลึกซึ้งกว้างขวางนัก
อาจสามารถที่จะหยั่งรู้การในแผ่นดินแลอากาศเป็นเอกอยู่แต่ผู้เดียว
ซึ่งจะหาผู้ใดเปรียบเสมอสองนั้นมิได้
(ตอนที่ 33:ชีซีกล่าวแนะนำขงเบ้งแก่เล่าปี่)
อันธรรมดาว่าสงคราม
จะหมายเอาชนะฝ่ายเดียวไม่ได้
ย่อมแพ้บ้างชนะบ้าง
(ตอนที่33:โจโฉว่าแก่โจหยินตอนถูกชีซีตีแตก)
ตัวเรานี้อุปมาเหมือปลาเกลือกอยู่บนดอน
ซึ่งได้ขงเบ้งมาไว้นี้เหมือนเราเกลือกลงมาถึงน้ำได้
(ตอนที่35:เล่าปี่ว่าแก่เตียวหุยให้เชื่อใจขงเบ้ง)
แต่ธรรมดานกทั้งปวงซึ่งตกฟองในรัง
แม้ว่ารังทำลายแล้วฟองนั้นก็ตกแตก
มิอาจสามารถจะตั้งอยู่ได้
(ตอนที่36:บุตรขงหยงว่าแก่คนใช้ เมื่อรู้ว่าบิดาขงหยงถูกโจโฉสั่งฆ่า)
แลเล่าปี่ปลงธุระไว้ให้แก่เราให้รักษาบุตร๓รรยา
มาให้เสียหายในท่ามกลางกองทัพฉะนี้ดูมิควรนัก
จำจะอุตสาห์ตีฝ่าเข้าไปหาครอบครัวเล่าปี่ให้จงได้
ถึงมาตรว่าจะตายในท่ามกลางสงครามก็ตามเถิด
แม้มืได้ครอบครัวเล่าปี่ จะเอาหน้าไปไว้แห่งใด
(ตอนที่37:จูล่งควานหาอาเต๊ากับภรรยาเล่าปี่ตอนทัพโจโฉไล่ตีทัพเล่าปี่)
แลบุญอาเต๊าที่จะได้เป็นกษัตริย์นั้น
จึงเผอิญให้จูล่งฆ่านายกองใหญ่เสียได้ถึงสองนาย ทหารเอกห้าสิบคน
โลหิตติดเกราะแลข้างม้าดุจหนึ่งรดด้วยน้ำครั่ง
(ตอนที่37:จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า)
อันตัวข้าพเจ้านี้ถึงตายก็จะเอาโลหิตทาแผ่นดินไว้ให้ปรากฎ จะขอสนองคุณท่าน
(ตอนที่37:จูล่งพาอาเต๊าไปให้เล่าปี่)
เล่าปี่ครั้งนี้อุปมาเหมือนปลาขังอยู่ในถัง เสือตกอยู่ในหลุม
ถ้าแลจะละเสียให้เล็ดลอดหนีไปได้บัดนี้
ก็เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยปลาลงในมหาสมุทร
(ตอนที่37:โจโฉว่าแก่ทหารทั้งปวงให้ยกทหารเข้าตีเล่าปี่)
อันคำโบราณกล่าวไว้ว่า
ธรรมดาเกิดมาเป็นชาย
แม้จะแสวงหาเจ้านายซึ่งจะเป็นที่พึ่งนั้น
ก็ให้พิเคราะห์ดูน้ำใจเจ้านายซึ่งโอบอ้อมอารีเป็นสัตย์เป็นธรรม
จึงให้เข้าอยู่ด้วย
แล้วให้ตั้งใจทำราชการโดยสัตย์ซื่อสุจริต
ให้เห็นฝีมือเป็นบำเหน็จไว้จึงจะได้ความสุขสืบไป
ประการหนึ่งให้มีน้ำใจทำไมตรีแก่ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงเก่าแก่ไว้อย่าให้ขาด
แม้มาตรว่าจะมีภัยสิ่งใดมาถึงตัว
ก็จะเผอิญให้มีผู้ช่วยแก้ไขพ้นจากอันตรายได้
ถ้าจะคิดการใดเล่าก็จะสำเร็จ
(ตอนที่40:จิวยี่ว่าแก่เจียวก้าน)
การที่คิดไว้ก็เตรียมไว้พร้อมสรรพ
ยังขาดอยู่ก็แต่ลมตะวันออก
(ตอนที่41:ขงเบ้งว่าแก่จิวยี่)
อันธรรมดาผู้เป็นน่ยทัพนายกองจะทำการสงคราม
ถ้าแพ้ก็อย่าเพ่อเสียใจ แม้ได้ชัยชนะก็อย่าเพิ่งทะนง
(ตอนที่45:เตียวเลี้ยวเตือนสติแก่นายทหารทั้งปวง)
เกิดมาเป็นชายถึงจะตายในท่ามกลางศึกก็อย่าเสียดายชีวิต
ชอบจะคิดการให้ถึงขนาด
(ตอนที่45:ไทสูจู้กล่าวแก่เตียวเจียวก่อนตาย)
เล่าปี่อุปมาเหมือนมังกรอยู่ในหนอง
แต่กำเนิดมายังไม่พบน้ำลึก
บัดนี้ได้เมืองเกงจิ๋วมีกำลังมากขึ้น
เหมือนมังกรออกได้ถึงทะเลใหญ่
(ตอนที่46:โจโฉรู้ข่าวว่าเล่าปี่ได้เมืองเกงจิ๋วแล้ว)
อันธรรมดาเกิดเป็นชาย
เมื่อปราถนาจะเป็นใหญ่
แม้ได้ทีที่ไหนก็จะทำการที่นั่น
อันจะคิดรั้งรออยู่กลัวแต่ความนินทาฉะนี้
นานไปเมื่อหน้าเป็นของคนอื่นแล้ว
จะคิดทำการต่อภายหลังก็จะมิได้ความเดือดร้อนเสียใจอยู่หรือ
(ตอนที่ 49: เตียวสงให้เล่าปี่ไปเอาเมืองเสฉวน)
อันธรรมดานกจะทำรัง
ก็ย่อมแสวงหาซึ่งพุ่มไม้ชัฎ
จะได้ทำรังอยู่เป็นสุข
ถึงลมพายุใหญ่จะพัดหนักมา
ก็มิได้เป็นอันตราย
ผู้เป็นลูกน้องจะหานาย
ให้พิเคราะห์ดูผู้มีน้ำใจโอบอ้อมอารี
มีสติปัญญานำพาไปได้รอดไม่วอดวาย
(ตอนที่52: ลิอิ๋นขอเข้าทำการอยู่ด้วยเล่าปี่))
ด้วยคำโบราณกล่าวไว้ว่า
ฝ่ายทหารผู้จะเป็นแม่ทัพแม่กอง
แม้จะยกไปทำสงครามแห่งใด ตำบลใด
ให้บำรุงทแกล้วทหารแลเครื่องศัตราวุธให้พร้อมเป็นสง่าแล้ว
จึงจะยกไปเป็นธรรมดา
ฝ่ายพลเรือนเล่าก็ให้ให้มีน้ำใจโอบอ้อมอารีแก่อาณาประชาราษฎร์ให้อยู่เย็นเป็นสุข
แล้วทำนุบำรุงบ้านเมืองไว้ให้เป็นสง่า
แลเนื้อความสองประการนี้ผู้ใดทำได้
จึงจะคิดอ่านตั้งตัเป็นใหญ่ได้
(ตอนที่53:โปหั้นกล่าวทัดทานโจโฉมิให้ตีกังตั๋ง)
ที่มา : น้องชาญ
เจ้าของบทความ : ไม่ทราบชื่อ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น