บอกฉันที - บอกฉันที นิยาย บอกฉันที : Dek-D.com - Writer

    บอกฉันที

    อยากเปลี่ยนวันนี้ให้เป็นเช่นวันวาน

    ผู้เข้าชมรวม

    99

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    99

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 พ.ค. 57 / 22:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น







    ต้าร์เพื่อนรัก

     

           แกคงสบายดีนะ ฉันคิดว่ามันคงต้องเป็นอย่างนั้น ในตอนต้นของจดหมายที่ฉันเลือกใช้คำนั้นเพราะฉันรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ฉันก็ไม่รู้ว่าแกจะมีความรู้สึกอย่างนั้นไหม หรือ “เคย” รู้สึกบ้างหรือเปล่า แต่ฉันรู้สึกอย่างนั้นตลอดมา

     

           แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ช่วงที่ผ่านมาถึงได้รู้สึกแปลก ๆ ฉันรู้สึกเข้าหน้าแกไม่ติด และก็สัมผัสได้ว่าแกเองก็ดูเหมือนไม่ค่อยอยากจะพูดกับฉันด้วยเหมือนกัน มันอาจจะถึงทางตันของมิตรภาพของเราแล้วหรือเปล่าฉันก็ไม่รู้ แต่ฉันก็อยากให้จดหมายนี้ได้บอกความรู้สึกกับแก เพราะกลัวว่าหากสักวันที่ฉันอาจไม่อยู่แล้ว ฉันก็อาจจะไม่ได้พูดมันออกไปฉันก็เฝ้าคิดทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา คิดถึงสิ่งดี ๆ ที่เราเคยทำร่วมกัน      มันเจ๋งมาก คิดถึงทีไรฉันก็อมยิ้มอยู่คนเดียว มันสนุกและก็ฮาสุด ๆ แต่ฉันก็เศร้าใจทุกครั้งอีกเช่นกันว่า วันคืนเหล่านั้นมันคงย้อนกลับมาอีกไม่ได้แล้ว

     

           ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร แต่ก็คิดทบทวนถึงความเลวร้ายที่มีในตัวเองที่ฉันเคยไม่สนใจความรู้สึกของแก ไม่รู้สิ ตอนนั้นที่หอพัก ที่ฉันทำให้แกโมโหจนแกถึงกับด่าฉันต่อหน้าคนมากมายด้วยถ้อยคำที่ไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้าว่าฉัน มันเจ็บมาก บอกตรง ๆนะ  เจ็บจนจุกอยู่ข้างใน แต่ก็ต้องแสดงออกมาว่าไม่เป็นอะไร ยังยิ้มได้ ยังหัวเราะแบบที่จะทำให้แกเจ็บใจที่สุด เพราะคิดว่าทำแบบนั้นแกก็จะยิ่งเดือดแค้น มันเป็นการแก้แค้นว่ะ  แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็กลับไปร้องไห้คนเดียว  ร้องเยอะมาก เสียใจที่สุดที่มันเป็นอย่างนั้น ถ้าย้อนกลับไปได้ก็จะไม่ทำ ถ้าย้อนกลับไปได้ฉันก็จะพูดดี ๆ กับแก ฉันไม่รู้ว่าช่วงนั้นแกเจออะไรมาบ้างก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันก็มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในชมรม มีการเปลี่ยนโครงสร้าง มีการเปลี่ยนผู้นำ ชมรมเดิม ๆก็จะไม่เป็นเหมือนเดิม จะไม่มี เน  บาส ต้าร์ แบบเดิม ๆ  ไม่มีรุ่น 45  แบบเดิม ๆ หลาย ๆอย่างก็เปลี่ยนไป

     

    ตอนนั้นฉันเองก็ทำตัวไม่ถูก แต่จำได้ว่ารับงานมาตัวหนึ่งเป็นการตัดต่อซาวด์ แต่ก็ทำเองไม่เป็น ตอนนี้คงมีแต่แกที่เป็นที่พึ่งพาได้ ฉันไม่ได้คิดอะไรให้กว้างพอ คิดแค่ว่าถ้าเป็นงานของชมรมแล้วทุกคนก็ต้องร่วมมือ คิดว่าวิญญาณแบบนี้ทุกคนต้องมี แต่ไม่ได้คิดถึงจิตใจของคนอื่น มันก็เลยรวนไปหมด แล้วช่วงนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจแกด้วย แกดูซึมเศร้า เก็บตัว นอนนาน ๆ ไม่ค่อยจะรับปากอะไรง่าย ๆ แต่ฉันก็ถือสิทธิ์ที่แกเคย

    แมซเซสบอกกับฉันว่า “มีอะไรให้ช่วยก็บอก” รู้ไหม คำนี้คำเดียวมันทำให้ฉันมีความหวังมากนะ มันรู้สึกถึงความเป็นเพื่อนที่สนิทใจ รู้สึกว่า บางทีฉันก็อาจจะเป็นเพื่อนที่สำคัญกับแกอยู่บ้าง ฉันยังจำมันได้อยู่เสมอเลย

     

     แต่พอเหตุการณ์นั้นมันผ่านไป ฉันก็พยายามจะเฝ้ามองดูชีวิตของแก อยากที่จะคอยให้กำลังใจแก แต่มันก็ติดอยู่ที่ว่าฉันเองเป็นผู้หญิง ฉันไม่อยากให้คนอื่น ๆ มองว่าฉันต้องการมากกว่านั้น มันรู้สึกว่าอีโก้ตัวเองมันสูงว่ะ ไม่อยากเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ต้องมาล้มเพราะเรื่องของความสัมพันธ์ ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่คิดนะ ฉันมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากผู้หญิงทั่ว ๆ ไปหรอก แต่แค่มันแปลกไปนิดเท่านั้นเอง อาจเป็นพวกกรุ๊ป AB มั้ง  ฉันก็เลยบอกกับแกว่าฉันน่าจะเป็นผู้ชาย ถ้าฉันเป็นผู้ชาย อะไร ๆ มันก็คงไม่ค้างคาแบบนี้ ฉันคงจะกล้าพูดเปิดแบบเปิดอกกับแก กล้าเคลียร์แบบตรง ๆ ไปเลย

     

           แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น ยิ่งเวลานานเข้าไปเรื่อย ๆ เราก็เหมือนยิ่งห่างจากความเป็นเพื่อนไปทุกที แกเองก็เริ่มมีสังคมใหม่ ตามโครงสร้างการดูแลของแก ไปทางสายผู้ชายในกลุ่มพี่กานต์ ไปกับกลุ่มของโต้ง ฉันเองก็ไปทางสายผู้หญิง แทบไม่เคยจะเจอหน้าแก จนกระทั่งแม่ของแกเสีย แกก็ยิ่งดูห่างไกลฉันไปอีก ความเสียใจมันคงทำให้แกเริ่มห่างจากผู้คน ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันเป็นห่วงแกมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพื่อน ๆ เขาก็เตรียมตัวไปช่วยงานกัน ฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่อยากจะไป แม้รู้ดีว่าถึงไปก็อาจจะช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่มันกลับยิ่งพลาดไปหมดเมื่อฉันเองที่เป็นคนทำอะไรไม่คิด ฉันคิดว่าแกคงเสียใจมาก และก็อาจไม่มีหลักคิดไปสักพัก ฉันจึงใช้แมสเสสส่งข้อความถึงแก เนื้อหามันก็มีแต่เรื่องของพระเจ้าที่จะเฝ้าดูแลแกทุกย่างก้าว เช็ดซับน้ำตาของแกทุกหยด ปลอบประโลมใจแกเมื่อแกอ่อนล้า และประคองแกเมื่อต้องสูญเสีย แต่มันพลาดที่ถ้อยคำเหล่านั้นดันมาในช่วงที่แกต้องเจออะไรที่มันหนักอึ้ง และมันเยอะเกินไป เยอะจนแทบอ๊วก  ถ้ามันมาสักวันละสามเวลา  ปรากฏว่าแกพิมพ์แมสเสสตอบกลับมาด่าฉัน  มันช็อคมากในตอนนั้นเสียใจมาก เสียใจที่ความหวังดีมันไม่ได้ช่วยอะไร ก็เลยไม่ไปช่วยงานเพราะคิดว่า ขืนฉันไปแกคงได้ปรี๊ดแตกแน่ อย่างน้อยก็ช่วยให้แกไม่ต้องนึกถึงสิ่งที่ฉันทำ แต่ตอนอยู่ที่กรุงเทพ ฉันเองก็ไม่ได้มีความสุขเลย มันก็คิดนะว่าป่านนี้เพื่อน ๆ ที่ เหมารถตู้ไปเขาจะไปถึงไหนกันแล้ว ไปถึงงานคงช่วยล้างจาน เสิร์ฟน้ำกันแน่ ๆ แต่มากกว่านนั้นคงได้เจอหน้าแก ได้ให้กำลังใจแก คงจะไม่มีคำพูดโง่ ๆ แบบฉันแน่ ๆ  แต่มาวันนี้ฉันได้รู้แล้วว่า คนที่กำลังสูญเสียนั้นมันยากที่จะเข้าใจอะไร เอะอะ ก็มีแต่พระเจ้า พระเจ้า แบบนั้นใครหน้าไหนก็คงรับไม่ไหว ขนมหวานมันอร่อยมากก็จริง แต่ถ้ากินมากไปมันก็เป็นโทษเหมือนกัน แต่รู้ตอนนี้มันก็คงสายไปแล้ว คงเกินที่ฉันจะกลับมาแก้ไขได้ ฉันเองก็ได้แต่เสียใจ ตอนนั้นแมสเสสทุกอย่างที่มันเกี่ยวข้องกับแกรวมถึงเบอร์โทรของแก ฉันก็ลบออกไปหมด มันไม่อยากจำ ฉันพยายามตัดมันออกจากความคิด  จนสุดท้ายชีวิตฉันมันก็เดินไปตามทางของมัน ฉันเองก็เริ่มทำงานอยู่สักพักพอเรียนจบก็มาเรียนต่อที่อุทัย

     

           ชีวิตที่อุทัยมันเริ่มขึ้นด้วยความรู้สึกเหงาจริง ๆ นะ ไม่มีเพื่อน ไม่มีกลุ่ม มีแต่คนแก่เฝ้าโบสถ์อยู่สองสามคน ฉันก็มาเริ่มทุกอย่างใหม่หมด อยู่ไปนานเข้ามันก็คิดถึงเพื่อน ๆ ขึ้นมา โดยเฉพาะแก เพราะว่ากับเพื่อนคนอื่น ๆ แชทไปเขาก็แชทกลับ แต่กับแกมันเหมือนโยนก้อนหินลงน้ำทะเล โยนไปแล้วก็ไม่มีทางรู้เลยว่าจะหาเจออีกหรือเปล่า ไม่รู้แกจะตอบหรือเปล่า แต่ฉันก็ทำนะ ลองติดต่อแกทางเฟสบุ๊ค แต่ก็ไม่มีวี่แวว จนสุดท้ายได้ไปเจอแกที่งานแต่งงานของไอ้เปิ้ล ฉันดีใจมากนะที่ได้เจอ แต่ก็อีกนั่นแหละ สุดท้ายก็ไม่ได้คุยเหมือนเดิม แกก็ยังคงอยู่กับกลุ่มของแกส่วนฉันก็ต้องช่วยใบชาวิ่งงานให้เปิ้ล ฉันเองอยากคุยกับแกมากนะ อย่างน้อยจะได้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ถามไถ่ทุกข์สุขก็ยังดี แต่พอหันมาอีกทีแกก็ไปกับโต้งแล้ว มันก็เลยต้องปล่อยให้เป็นไปแบบนั้น

     

     ยังจำได้ว่าครั้งหนึ่งพี่กานต์เคยพาไปกินพิชซ่าที่ซีคอน ฉันไม่คิดว่าจะได้เจอแก แต่จู่ ๆ ก็ได้เจอ มันดีใจมากก็เลยรีบคุยถามไถ่แกซะใหญ่ แต่ไม่รู้แกจะรู้ไหมว่ามันโคตรดีใจเลย มันคิดถึงมากๆ แล้วก็อยากรู้ว่าแกจะสบายดีไหม แล้ววันนั้นฉันก็กลับบ้าน ฉันแม่งโคตรมีความสุขเลย แต่สุดท้ายมันก็ผ่านไป  ไปๆ มาๆ เราก็ไม่ได้เจอกันอีกเหมือนเดิม ไม่ได้คุย ๆไม่ได้แม้แต่ติดต่อกัน
     

           ครั้งหนึ่งเคยไปสอนเต้นให้กับเพื่อนพี่จุ๊ฟฟี่ที่ทำงานของพี่เค้าในซีคอน ก็ดีใจที่จะได้เจอกันจะได้กลับมาทำงานร่วมกันเหมือนแบบเดิมได้คุย ได้ปรึกษา ได้หัวเราะ แต่ก็ผิดคาด เพราะต่างคนก็ต่างทำงานแล้วก็แยกกันกลับทั้ง ๆ ทีสอนคลาสเดียวกัน ห้องเดียวกันแท้ ๆ พอรู้ว่าเป็นอย่างนี้ วันต่อมา ฉันก็เลยไม่อยากกลับพร้อมแก ก็เลยเลี่ยงไปเดินเล่นในห้างแทนเพราะคิดว่า  พอแกกลับไปแล้วฉันค่อยลงไปที่ป้ายรถเมล์ทีหลัง เป็นอยู่อย่างนี้จนงานจบ มันหน่วงว่ะ พูดบอกกันสักนิดได้ไหมว่าฉันทำอะไรที่ไม่ถูก ฉันจะได้เปลี่ยน แล้วความเป็นเพื่อนมันจะได้ไม่จบลงแบบนั้น ฉันเองก็อยากให้เรากลับมาเป็นเพื่อนซี้กันเหมือนเดิม

     

           ไม่รู้ว่าแกคิดแบบนั้นหรือเปล่า แต่ฉันคิด ในตอนนั้นฉันคิดว่าแกเป็นเพื่อนที่ฉันสนิทมากที่สุด หลายคนอาจคิดว่าฉันสนิทกับบาส มาก แต่เอาเข้าจริง ๆนอกจากเรื่องละครเวที ฉันเองก็ไม่ค่อยได้อยู่ในกลุ่มด้วยกัน แต่มันอาจสนิทเพราะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่ฉันกลับรู้สึกสนิทกับแกมากกว่าบาส อย่างน้อย ๆ ฉันก็ไปไหนมาไหนกับแกบ่อยกว่าใคร บางทีก็ทำงานด้วยกันดึกดื่น ทำบ้างเล่นบ้าง แต่ฉันก็รู้สึกว่าอยากมีเพื่อนแบบนี้ ไม่ต้องเคร่งเครียดกับกฏเกณฑ์มากก็ได้ แต่ให้มีความเป็นเพื่อนแบบตอนอยู่มัธยม ที่เฮไหนเฮนั่นอะไรแบบนี้

     

    ไม่รู้ว่าข้อความยาวเหยียดแบบนี้แกจะได้อ่านมันหรือเปล่า แต่มันก็อยากส่งให้แก อยากให้มันเคลียร์ อยากให้มิตรภาพมันกลับมา แกช่วยบอกฉันหน่อยว่ามันเกิดอะไร ช่วยหน่อยนะ ฉันยังคิดถึงแกตลอด ยังรักและเป็นห่วงแกเหมือนเดิม

     

    อยากให้แกเป็นเพื่อนรักของฉันตลอดไป

    เนหอาห์

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×