ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักแม่…เติมเท่าไรก็ไม่เต็ม

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 < วันอังคารแล้วน๊า... ^_^ >

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 19
      0
      5 พ.ย. 48

    “หาว...คุณแม่ขา เดี๋ยวหนูแต่งตัวแล้วจะลงไปกินข้าวนะคะ” ฉันง่วงจะแย่อยู่แล้ว

    แต่ก็ต้องรีบตื่น ไม่งั้นสายแน่เลย

        ฉันเดินลงบันไดอย่างงัวเงีย แต่ก็แต่งตัวเสร็จแล้ว

        “มีอะไรกินบ้างคะ”

        “แกงจืดหมูสับแล้วก็นมสดนะจ๊ะ” โห...นมอีกแล้ว ฉันเป็นคนตัวเล็ก

    แม่กับพ่ออยากให้สูงเลยให้กินนมทั้งวันเลย

        ฉันรีบกินข้าวเพราะกลัวไปบอกทำความเคารพไม่ทัน

    แต่พอไปถึงโรงเรียนออดก็ยังไม่ขึ้น ทันเวลาพอดี

        “สวัสดีค่ะคุณแม่ คุณพ่อ” ฉันบอกลาคุณพ่อและคุณแม่แล้วเดินออกมา

        “หวัดดีเอม” ฉันทักเอม

        “หวัดดีจ้ะ ไอซ์” เอมทักตอบ

        “วันนี้มีเรียนอะไรบ้างน๊า...” ฉันถามเอม

        “วันนี้มีเรียนไทย คณิต อังกฤษ วิทย์ สังคม แล้วก็พละ” เอมตอบฉันด้วยเสียงอันมั่นใจ

        -ออด- เฮ้...เรียกอีกแล้ว เฮ้อ ไปเข้าเรียนก่อนนะ

        “นักเรียนเคารพ” “สวัสดีค่ะคุณครู” พอบอกทำความเคารพเสร็จ คุณครูก็เริ่มสอน

        “อ้าว...นักเรียนวันนี้ครูจะสอนเรื่องการสร้างประโยค และชนิดของประโยคนะจ๊ะ

    และวันนี้ครูจะให้นักเรียนฝึกจดนะจ๊ะ ย่อใจความสำคัญให้ได้ และจดเร็ว ๆ ไม่ต้องจดทุกตัวอักษรนะ”

    ครูพูด แต่หลังจากนั้นครูก็เริ่มสอน ฉันจดจนนิ้วหงิก ผิดกับเอม เธอทำเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ

    เธอต้องฝึกมาอย่างดีแน่เลย พอครูพูดไปได้สักพักก็มีเสียงพูดขึ้น

        “คุณครูคะ พูดเร็วอย่างนั้นจะจดทันได้ยังไงล่ะคะ คนนะคะไม่ใช่หุ่นยนต์จะได้จดทัน”

    นราวัลย์เอ่ยปากว่าคุณครูอย่างไม่สนใจว่าคนที่เค้าว่าอยู่นั้นเป็นครู

    ฉันอยากรู้จังว่าตอนที่นราวัลย์สอบเข้าเธอเข้ามาได้ไง สงสัยจะเส้น

        แม่ของฉันเคยสอนว่า \"การว่าพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์หรือผู้มีพระคุณ

    เป็นการกระทำที่บาปมาก และเป็นสิ่งที่คนดีเค้าไม่ทำกัน

    ดังนั้นคนที่กระทำแบบนี้แสดงว่าเป็นคนที่ถูกเอาใจมากเกินไป เราจึงไม่ควรที่จะทำแบบนั้น\"

        เป็นไงล่ะ อย่าอิจฉาแล้วกันที่ฉันมีแม่ดีขนาดนี้ ฮีโร่ในดวงใจฉันมีแค่ 2 คนเท่านั้นแหละ

    ให้ทายเอามั๊ย แต่ใบ้ให้เลยนะว่าไม่ใช่ ซุปเปอร์แมน แบทแมน หรือ

    สไปเดอร์แมน ตอบเร็ว ติ๊กต่อก...ติ๊กต่อก... เฉลยเลยนะ

    ฮีโร่ของฉันคือ หม่ามี๊วูแมน กะ ปะป๊าแมน เจ๋งมั๊ย อิ๊ ๆ อ๊ะ...จะนอกเรื่องแล้วกลับไปก่อน

        “ไอซ์รู้มั๊ย ปีที่แล้วเราอยู่โรงเรียนเดียวกับมีมี่ด้วยแหละ” เอมกระซิบบอกฉัน

        “ใครหรอ...มีมี่อ่ะ” ฉันสงสัย

        “ก็นราวัลย์ไง แถมอยู่ห้องเดียวกันด้วย” เอมบอก

        “นราวัลย์...ครูถามจริงเถอะ คุณยังเห็นครูเป็นครูอยู่หรือปล่าว

    ต้องให้ครูโทรคุยกับผู้ปกครองเธอมั๊ย” น่าน...สะใจมาก...

        “ไม่ต้องหรอกค่ะ เพราะยังไงคุณพ่อกับคุณแม่เค้าไม่ว่าหรอกค่ะ

    แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่รู้ว่าหนูไม่ได้เป็นหัวหน้าห้อง คงจะบินกลับมาจากสหรัฐเดี๋ยวนี้แน่เลยค่ะ” น่ารำคาญชะมัด

    คนอะไรกล้าเชิดหน้าเถียงครูฉอด ๆ เลย

        “งั้นสงสัยครูจะเป็นครูของเธอไม่ได้ ไปห้องฝ่ายปกครองกับครู ครูจะขอลงโทษเธอ 2 กรณี”    

        “2 กรณีได้ยังไงคะ” นราวัลย์ถาม

        “กรณีที่ 1 เธอเถียงครู กรณีที่ 2 เธอทำให้เพื่อนเสียการเรียน

    เพื่อนทุกคนต้องมาฟังสิ่งแย่ ๆ จากเธอคนเดียว แทนที่เพื่อนเค้าจะได้รับความรู้กัน

    เค้ากลับต้องเรียนตามเพื่อนห้องอื่นไม่ทัน แค่นี้คงพอใช่มั๊ย อ้าวนักเรียนอ่านในหนังสือรอก่อนนะ

    เดี๋ยวครูพาเพื่อนไปฝ่ายปกครองก่อนนะคะ” ครูพูดแค่นี้แล้วก็พานราวัลย์ไปห้องฝ่ายปกครอง    

        “เอมว่าแล้ว ว่าทำไมมีมี่ถึงไม่ได้เป็นหัวหน้าห้อง นิสัยอย่างนี้นี่เอง

    แต่ก่อนมีมี่ไม่เห็นเป็นอย่างนี้เลยสงสัยคบเพื่อนแย่” อันที่จริงก็เป็นอย่างนั้นแหละ

    เพราะมีมี่ไปสนิทกับเพื่อนคนนึง ซึ่งนิสัย...ไม่อยากพูด เดี๋ยวจะบาป เพราะนินทาคนอื่น เอาเป็นว่านิสัยไม่ดีก็แล้วกัน

        “นี่หัวหน้ากับรองหัวหน้า จะไม่คิดดูแลลูกน้องเลยใช่ไหม

    หรือเพราะว่าเพื่อนฉันไปห้องฝ่ายปกครองแค่นี้ มีเรื่องเม้าท์แล้วหรอ”

    น่าน...อายุยืนจริง พูดถึงก็มาเชียว แล้วเจ๊เค้าก็เว้าไปโน้น เฮ้อวันนี้ทั้งวัน

    ยัยนราวัลย์ทำให้เสียหมดเลย ครูเลยบอกว่าจะตัดคะแนนห้อง เฮ้อ... –ออด- เฮ้...หมดเวลาแล้วดีจังเลย

        “ไอซ์เราไปก่อนนะ วันนี้เรามีเรียนพิเศษ บ๊าย...บาย...” เอมพูด

        “บ๊าย...บาย...จ้ะ” ฉันตอบรับ

        ฉันเดินลงบันไดมาเรื่อย ๆ จนมายืนรอแม่ตรงที่ ๆ นัดไว้ –เอี๊ยด-

    เสียงรถของบ้านฉันเบรค ฉันโดดขึ้นรถแล้วกล่าวกับพ่อกับแม่ว่า

        “สวัสดีค่ะ คุณแม่ คุณพ่อ”

        “เป็นไงลูก วันนี้เรียนสนุกมั๊ย” พ่อถามฉัน

        “ก็ดีค่ะพ่อ แต่เสียอารมณ์นิดหน่อย”

        “ทำไมล่ะจ๊ะ” แม่ถามบ้าง

        “แม่จำได้มั๊ยคะ คนที่หนูเล่าให้ฟังตอนนั้นที้เลือกตั้งหัวหน้าห้องอ่ะค่ะ

    คนที่ชื่อนราวัลย์ไง วันนี้ เค้าว่าครูฉอด ๆ ๆ เลย”

        “เนี่ยลูกก็จำไว้นะจ๊ะว่าอย่าทำตัวแบบนี้ เราเห็นเค้าทำไม่ดี

    เราก็ไม่ต้องทำตามเค้า อย่าลืมนะ ว่าการว่าครูบาอาจารย์หรือผู้มีพระคุณเป็นการกระทำที่บาปมากเลยนะ”

         เห็นมั๊ยล่ะแม่ฉันดีเลิศขนาดไหน ตอนนี้ใน Melody Diary

    ของฉันมีคำสอนของแม่เต็มไปหมดเลยแหละ และฉันก็เชื่อแม่ตลอดเลยด้วย

        เฮ้อ...ถึงบ้านแล้ว มีเวลาทำอะไรสนุก ๆ เยอะแยะเลย ทั้งซ้อมเปียโน

    ซ้อมปิโคโล ร้องคาราโอเกะ ดูวีดิโอ ดูซีดี กินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา เขียนไดอารี่

    เล่นคอมพิวเตอร์ เขียนบทความส่งเน็ต ฯลฯ เป็นไง สิ่งที่ฉันอยากจะทำมีเยอะมั๊ยล่ะ

    แล้วเป็นไงส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับดนตรีทั้งนั้นเลยและที่ฉันชอบที่สุดคือ ปิโคโล

    เพราะมันเป็นเครื่องเป่าที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด มีเสียงสูง แหลม พกพาสะดวก

    ฉันเลยชอบมันมาก แล้วพวกคุณชอบเล่นดนตรีเหมือนฉันมั๊ยล่ะ

    ถ้าไม่ชอบคุณก็ลองเลือกเครื่องดนตรีที่ตรงใจคุณสักอย่างสิคุณจะรู้เอง

        พูดกันมากแล้ว ตอนนี้ได้เวลาที่ฉันจะเขียน Melody Diary สุดที่รักของฉันแล้วไปแล้วนะ



    ^_^      ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~       ^_^  

        \"การว่าพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์หรือผู้มีพระคุณ เป็นการกระทำที่บาปมาก

    และเป็นสิ่งที่คนดีเค้าไม่ทำกัน ดังนั้นคนที่กระทำแบบนี้แสดงว่าเป็นคนที่ได้รับการเอาใจมากเกินไป

    เราจึงไม่ควรที่จะทำแบบนั้น\"

        มันก็คงจะจริงนะเพราะกรรมมันติดจรวด ปรู๊ดเดียวก็มาแล้วดูสิ ที่นราวัลย์ต้องเข้าฝ่ายปกครองก็เพราะกรรมที่เธอก่อไว้ไง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×