ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผู้ชายใต้เงาจันทร์

    ลำดับตอนที่ #2 : แล้ววันหนึ่ง ..

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12
      0
      1 มิ.ย. 46



                        รถยุโรปคันงามสีเงินแล่นเข้ามาจอดที่ลานหน้าบ้านอย่างช้า ๆ

            คีรินละความสนใจจากนึกคิด มองร่างที่กำลังก้าวเดินเข้ามาหาหล่อน ทุกอย่างยังคงเป็นเขาคนเดิม

    ไม่เปลี่ยนแปลง ความเรียบง่ายและเงียบงันยังคงแฝงไปด้วยความลึกลับในความคิด ยากจะคาดเดา

            “ เป็นไงบ้าง “   ภูชิชย์เอ่ยถามคีริน ก่อนทรุดร่างลงบนเก้าอี้อีกตัวตรงข้ามหล่อน

            “ ก็ดี “   หล่อนตอบคำถามสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

            ภูชิชย์พยักหน้าแสดงการรับรู้ ก่อนเงียบไปครู่หนึ่ง เขามองดูภรรยาของเขาแปลกไปกว่าทุกครั้ง

    เพราะทุกครั้งที่เขากลับบ้าน หล่อนจะต้องซักถามถึงเหตุผลที่เขาหายไป แต่วันนี้ …

            “ รินไม่ถามผมเหรอ ผมหายไปไหนมา “

            คีรินเจ็บแปลบในหัวใจขึ้นมาทันที เขาจำได้แค่สิ่งที่หล่อนเคยบ่นให้ฟังแค่นั้นนะหรือ … ทำไมเขาไม่ถามถึง

    ลูกของหล่อนบ้างเล่า .. ลูกของหล่อนที่เป็นลูกของเขาด้วย

            หล่อนจ้องเขาเขม็ง ก่อนจะยิ้มที่มุมปากอย่างเย้ยหยัน

            “ สำคัญถึงขนาดที่ฉันจะต้องถามด้วยเหรอ เวลาเกือบเดือนฉันก็ไม่เคยคิดว่าคุณหายไปไหน เพราะฉันรู้ไง

    ว่าคุณก็อยู่ที่บ้านของเมียน้อยของคุณนั่นแหละ “

            ภูชิชย์เริ่มสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวภรรยาของเขา  คีรินเปลี่ยนไปทั้งกริยาและการพูดจา  หล่อนไม่เคย

    ใช้คำแทนตัวเองว่า ฉันหรือคุณ กับเขา … มันทำให้เขารู้สึกห่างเหินอย่างบอกไม่ถูก

            เขานิ่งไปนานพอสมควร … ก่อนลุกขึ้นและจะก้าวเดินจากที่ตรงนั้น

            “ แทงใจดำน่ะสิ “  คีรินทอดเสียงหนักเพื่อย้ำให้เขาได้รับรู้  ภูชิชย์หยุดเดิน

            “ รินคิดมาก “

            “ ฉันไม่ได้คิดมาก แต่ฉันคิดมามากต่างหาก “  คีรินเดินไปยังตรงหน้าเขา

            ความน้อยใจมันประดังเข้ามาเหมือนคลื่นลูกใหญ่กระทบฝั่ง  ฝั่งที่บอบบางและอ่อนไหว …. มันจะทาน

    แรงกระทบได้ฤา .. ไม่ไหวแล้วนะ  น้ำตาของคีรินไหลรินอาบแก้มเป็นทางยาว หล่อนไม่สนใจว่าเขาจะมองหล่อนเช่นไร ..

    แค่ตอนนี้หล่อนอยากให้เขาได้รับรู้ว่า หล่อนเสียใจ

            “ เวลาทำให้คุณเปลี่ยน  เปลี่ยนทุกอย่าง แม้กระทั่งตัวฉัน “  หล่อนเอ่ยถึงตัวเองทีไร อดสมเพชในชะตาชีวิต

    เหลือเกิน … ชีวิตที่คือความฝันเพียงช่วงเวลา

            “ ผมไม่เข้าใจ “  ภูชิชย์ยังเฉยเหมือนเดิม

            สายตาของเขาที่มองภรรยาในขณะนี้ อยากให้หล่อนได้รับรู้ว่า เขาไม่เคยเปลี่ยนอะไรทั้งสิ้น เขายังเหมือนเดิม

    ทุกอย่างก่อนชีวิตแต่งงานและหลังแต่งงาน วันนี้  นาทีนี้  เขาก็ยังเป็นเขา

            แต่หล่อนล่ะ หล่อนเปลี่ยนไปมากไม่เหมือนคีรินคนก่อนที่เขาเคยรู้จัก มันเพราะอะไร

            “ ฉันคิดว่าคุณเข้าใจ เรากำลังมีลูกนะ ฉันอยากให้คุณเอาใจใส่ฉันบ้าง วันนี้ฉันเป็นยังไง รู้สึกอะไร  

    ฉันไม่ได้เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น  แต่ฉันคิดในส่วนของความน่าจะเป็น .. มันน่าจะเป็นเช่นนั้นไม่ใช่เหรอ  แต่นี่ .. คุณไม่เคยมี

    เวลาให้ฉันเลย  ฉันไม่ใช่ตุ๊กตาที่คุณจะนำมาตั้งไว้ที่บ้าน จะจับให้นั่งตรงนี้ ยืนตรงนั้น หรือเก็บไว้ในห้องโชว์  แต่นี่ฉันเป็นคนนะ “

            “ ผมทำงาน รินก็รู้ “

            “ ถ้ายี่สิบสี่ชั่วโมงมันคือชีวิตคุณ  คุณก็น่าที่จะเลือกมันมาร่วมทางเดินชีวิตมากกว่าฉัน “

        

                                     แก้วที่ร้าวนับวันจะยิ่งร้าวหนักขึ้นทุกที คงไม่มีวันที่จะประสานรอยร้าวนั้นให้เรียบลงรอยดังเก่า

    คงได้แต่เพียงคอยว่าวันหนึ่งวันใด มันจะแตกสลายลงเท่านั้น ….

        

                        คีรินก็เช่นกัน หล่อนรู้ว่าชีวิตคู่ของหล่อนกำลังปริร้าวเหมือนแก้วบางใส  รอวันเวลาที่รอยร้าวนั้นจะแตก

    สลายลง … มันจะไม่ใช่แตกเป็นเสี่ยง ๆ แต่มันจะแตกละเอียด ไม่เหลือร่องรอยของความรู้สึกใดใดให้จำจดในความทรงจำ

    อีกเลย  วันเวลาที่รอคอยนั้น จะอีกนานเท่าไหร่ แล้วหัวใจดวงนี้ จะทนได้ฤา ….

            จากฝันเบื้องฟ้า

            ทอดสู่สายธาราลงเบื้องต่ำ

            เมฆขาวปุยนุ่นน่าสัมผัสในสายตาของเด็กสาว

            แท้จริงคือความว่างเปล่าที่น่ากลัวนัก รสสัมผัสได้แค่การมองเห็น

            ไร้ความรู้สึกที่ซึมซับ อบอุ่น ดังเคยฝัน

            

            ความกดดันในความคิดแทบทุกอย่างกำลังกลั่นแกล้งหล่อนอย่างไร้ความปราณี

            ไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้อีกแล้วใช่มั้ย



            สายเลือกที่ฟูมฟักทนุถนอมดังแก้วเจียรไนอันหวงแหน กำลังจะออกมารับรู้ชะตาชีวิตจากผู้สร้างให้เขาเกิด

    มันคงจะเลวร้ายสำหรับเขา .. แต่หากจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อวัฎจักรแห่งโลกและชีวิตต้องดำเนินไปตามกฎเกณฑ์ที่ต้องเป็น

    แม้ว่าหล่อนอยากให้ทุกอย่างหยุดลงตรงนี้  จบลงเดี๋ยวนี้  บัดนี้  ก็ตามที

            ไม่นานแล้วสินะ

            พยานแห่งรักจะลืมตามองโลก

            โลกที่จะไม่มีพ่อ …

            คีรินพยายามลืมเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านมา เพื่อคลายความเครียดที่สะสม  ถ้าขืนหล่อนต้องเครียดหนัก

    ไปกว่านี้ หล่อนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูก  ลูกที่คือความหวัง ความตั้งใจและความรักของหล่อนคนเดียว

            ร่างอุ้ยอ้ายเดินลงจากรถแท๊กซี่บริเวณประตูหน้าบ้านด้วยความระมัดระวัง คีรินเพิ่งกลับจากทำบุญที่วัด

    โดยมีสาวใช้เดินประคองอย่างช้า ๆ

            คีรินแปลกใจนักเมื่อเห็นรถยุโรปของภูชิชย์จอดอยู่ที่ลานหน้าบ้าน

            เขากลับมาทำไมเช้านี้  น่าสงสัย

            ม่านสีครีมที่หน้าต่างห้องนอนถูกเปิดออกเล็กน้อย แสดงว่าเขานอนอยู่ในห้องอย่างนั้นหรือ

            เขาไม่สบายหรืออย่างไร

            แม้คีรินจะมีอคติกับเขา แต่ภายใต้นั้นยังมีเยื่อใยอยู่บาง ๆ คีรินบอกให้สาวใช้นำข้าวของไปเก็บในห้องครัว

    และเตรียมกาแฟขึ้นไปให้ภูชิชย์

            “ เขาจะเป็นอะไรหรือเปล่า “  หล่อนคิดอยู่ในใจ ภูชิชย์ไม่เคยกลับบ้านในตอนเช้าอย่างนี้ แล้วทำไมวันนี้          

            คีรินก้าวเดินขึ้นไปยังห้องนอนของหล่อนอย่างช้า ๆ หล่อนหยุดที่หน้าห้องก่อนตัดสินใจเคาะประตูเพื่อมารยาท

            มารยาทของภรรยาที่แสนดีที่มีต่อสามีสุดที่รัก

            พลันสายตาหยุดชะงักที่ขอบประตูซึ่งแง้มอยู่

            “ เขาไม่ได้ล๊อคประตู “

            หล่อนค่อย ๆ ผลักประตูเบา ๆ ก่อนเยื้องกายเข้าไปในห้องนั้น



            ห้องที่เคยเป็นของหล่อนและเขาในวันแต่งงาน

            แต่นานมาแล้ว … เหมือนกาลครั้งหนึ่ง

            เตียงนอนขนาดใหญ่ตรงหน้าคลุมไว้ด้วยผ้าแพรสีเงินนุ่มอ่อน ปักฉลุด้วยลูกไม้จากช่างฝีมือที่เลือกสรร

    ความนุ่มนวลเมื่อได้สัมผัสชวนหลับไหลได้นานเท่านาน .. หล่อนรู้

            ก็หล่อนเคยได้รับรู้ถึงรสสัมผัสนั้นด้วยความอบอุ่นมาแล้วนี่

            หากจะมีสองมือของเขามาตะกรองกอดด้วยรักอีกสักนิด .. เช่นวันวาน    

            โลกทั้งโลก .. มันก็คือฝันอันสวยงามยามนิทรา ดีดีนี่เอง



            เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจที่ร้าวเจ็บของคีริน เมื่อสองสายตามองไปยังเบื้องหน้า  ภาพของภูชิชย์

    นอนกอดหญิงสาวคนหนึ่งบนเตียงนั้น … เตียงของหล่อนและเขาเท่านั้นมิใช่หรือ … หญิงสาวนอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอด

    ของภูชิชย์ ดูเธอช่างมีความสุขเหลือเกิน คงเหมือนอยู่ในความฝันอย่างที่หล่อนเคยได้รู้สึกมาก่อน  แต่ครั้งนี้ เธอคงไม่รู้หรอกว่า

    ความสุขที่เธอรู้สึกขณะนี้ มันกำลังประหารความรู้สึกทุกอย่างของหล่อน อย่างไร้ความปราณี … หล่อนผู้เป็นเมียของเขา

            ร่างที่ตะลึงงันไปชั่วขณะกำลังจะทรุดลงตรงหน้าประตูนั้น  คีรินหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมบทสรุปที่แน่ชัด

    ภูชิชย์หมดสิ้นรักให้หล่อนแน่แล้ว .. หากเป็นเมื่อก่อนหล่อนคงกรีดร้องและทวงสิทธิ์ความเป็นเมียของเขา แต่ขณะนี้ เดี๋ยวนี้

            “ ไม่ ไม่ ฉันต้องไม่เสียใจ “  หล่อนบอกกับตัวเองอย่างนั้น

            เรี่ยวแรงที่มีอยู่มันไม่มีเหลือพอที่จะพยุงร่างนั้นแล้ว  คีรินเบือนหน้าจากภาพเบื้องหน้า หล่อนหลับตาและ

    ควบคุมสติ อารมณ์ ที่กำลังปรวนแปรอย่างหนัก  อารมณ์สองอารมณ์กำลังปะทะกันอย่างรุนแรง

            “ ฉันจะไม่เสียใจ ฉันจะไม่เสียใจ “

            คิดอย่างนั้นแล้วไย .. ทำไมหัวใจมันหวิวหวิว

            “ แต่เขาเป็นสามีของฉันนะ ฉันเป็นเมียเขา ลืมไปแล้วหรือคีริน ฉันเป็นเมียเขา “

            เมีย … เมียที่เขาไม่รัก

            คีรินลืมตาขึ้นอย่างยากเย็นเพื่อสู้กับความจริง ณ เบื้องหน้า หล่อนสะกัดกั้นอารมณ์สองอารมณ์นั้นอย่าง

    หนักหน่วง  ท่วงทีเมินเฉยต่อภาพที่เห็นเหมือนหล่อนมิได้รู้สึกอะไร … หากความจริงที่ได้รับ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นด้วยผลสรุป

    ของตัวมันเอง

            จะเสียใจไปใยเล่า …  เมื่อเขาไม่รัก

            จะโกรธเคืองไปใย … เมื่อหัวใจดวงนี้ไม่มีสิทธิ์

            “ สมเพชตัวเองเหลือเกินนะคีริน “

            หล่อนถอนหายใจยาว … คล้ายดังว่าปลดปล่อยความรู้สึกทุกอย่างออกไปจากชีวิต  

    น่าแปลกนัก !  ไม่มีน้ำตาแม้สักหยดไหลรินเหมือนแต่ก่อน





            *******************************************************************************





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×