ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เกมของนายพอล
                  นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะต้องเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกับเด็กคนที่เล่นเกมที่ผ่าน ๆ มา
                  “ เอาล่ะ ”
                  เขาพูดกับตัวเองแล้วขับยานไปลงที่ดาวที่ใกล้ที่สุด เมื่อเขาขับยานจนใกล้จะถึงพื้นซึ่งเป็นบริเวณป่าแล้วเขาก็เห็นกลุ่มเด็กสองคนกำลังวิ่งหนีมอนสเตอร์ (สัตว์ประหลาดนานาชนิด) อยู่ เขาเล็งปืนไปที่เหล่ามอนสเตอร์
                  “ ตูมมม! ”
                  ร่างของมอนสเตอร์ทั้งหมดกระจุยเป็นชิ้น ๆ เขานำยานลงจอดแล้วลงจากยาน
                  “ นายเจ๋งมากเลย ”
                  หนึ่งในสองคนบอก
                  “ ฉันชื่ออาร์ม ”
                  “ ส่วนฉันชื่อโทนี่ ”
                  “ ฉันชื่ออเล็กซ์ ยินดีที่ได้รู้จัก ”
                                                            .....................................................................
                  อเล็กซ์ อาร์ม และโทนี่ได้ขึ้นยานอวกาศแล้วบินออกจากป่าเข้าไปในเมือง พวกเขาลงจากยานแล้วไปถามผู้ชายที่กำลังจะเดินไปซื้อของ
                  “ ขอโทษครับ เมืองนี้คือเมืองอะไรเหรอครับ ”
                  อเล็กซ์ถาม
                  “ เมืองนี้คือเมืองไวเซอร์ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของดาวอโครนาแห่งนี้ และนายกรัฐมนตรีก็ทำงานและอาศัยอยู่ที่ดาวดวงนี้อีกด้วย ”
                  “ ท่านมีชื่อว่าอะไรเหรอครับ “
                  “ นาย พอล โคลลี่ ”
                  “ แล้วท่านทำงานอยู่ที่ไหนเหรอครับ ”
                  “ บนตึกที่สูงที่สุดของเมืองนี้น่ะ หาได้ไม่ยากหรอก ”
                  อเล็กซ์มองไปรอบ ๆ หาไม่ยากจริง ๆ เพราะตึกที่สูงที่สุดนั่นสูงกว่าห้างสรรพสินค้าตั้งห้าเท่า
                  “ ขอบคุณมากครับ ”
                                                              .....................................................................
                  อเล็กซ์ขับยานไปที่ตึกนั้นแล้วลงจอดหน้าตึก มีผู้ชายใส่ชุดสีดำทั้งชุดสามคนออกมาหาพวกเขา
                  “ กระผมชื่อเบอร์นี่ เป็นคนรับใช้ของท่านนายกรัฐมนตรีพอล โคลลี่ ท่านนายกรัฐมนตรีรอพวกท่านอยู่แล้วครับ เชิญพวกท่านเข้าไปข้างใน ”
                  ทั้งสามคนทำหน้างง แต่ก็ตามเบอร์นี่เข้าไปข้างในตึก ยานข้างนอกถูกนำไปจอดในที่จอดยานข้าง ๆ ตึก
                  เบอร์นี่พาพวกเขาเข้าไปในลิฟท์แล้วไปที่ชั้นที่ 50 เมื่อลิฟท์เปิด ก็มีประตูเหล็กขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าของอเล็กซ์ เบอร์นี่นำนาฬิกาข้อมือขึ้นมาแล้วกดปุ่ม ภาพของคนคนซึ่งน่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ปรากฏขึ้นมา
                  “ กระผมกับพวกเด็กอยู่หน้าประตูแล้วครับ ขอให้ท่านช่วยเปิดประตูด้วย ”
                  “ โอเค ”
                  “ ครืด ”
                  ประตูเหล็กเปิดออก ปรากฏโต๊ะรูปวงกลมมีเก้าอี้ล้อมรอบอยู่ตรงหน้าของอเล็กซ์ มีนายกพอลนั่งอยู่ด้านในสุด
                  “ เชิญนั่ง ”
                  นายกพูด อเล็กซ์รู้สึกเสียววาบ เขาเข้ามาในเมืองนี้ได้ไม่ทันไรก็ได้เจอผู้นำสูงสุดของดาวดวงนี้ซะแล้ว
                  เด็กทั้งสามคนนั่งลง
                  “ ทำไมถึงเรียกพวกเรามาเหรอครับ ” อาร์มถามปากสั่น
                  “ ฉันเรียกพวกเธอมาตั้งแต่เธออยู่ในโลกแห่งความจริงแล้ว ” ทั้งสามคนอ้าปากค้าง “ฉันเองแหละที่ทำให้พวกเธอหลุดเข้ามาอยู่ในโลกแห่งเกม ฉันเรียกพวกเธอเพราะพวกเธอทั้งสามมีความสามารถในการเล่นเกม ”
                  “ ทำไมเหรอครับ ”
                  “ เพราะตอนนี้ได้เกิดสงครามขึ้นระหว่างเคทานอลกาแล็คซีของเรา กับซีเนอร์กาแล็คซี อาณาจักรแห่งความมืด ถ้าพวกมันชนะเราก็จะไม่มีอุปสรรคอะไรขวางทางมันได้ แล้วมันก็จะเปลี่ยนโลกแห่งเกมให้เป็นโลกแห่งความมืดมิดตลอดกาล “
                  “ แล้วทำไมต้องเป็นพวกเราด้วยครับ ”
                  “ เพราะฉันลองคำนวณความสามารถของนักเล่นเกมทั่วโลกของพวกเธอแล้ว ผลสรุปก็คือพวกเธอเป็นนักเล่นเกมที่เก่งที่สุด อเล็กซ์ ชำนาญทางด้านเครื่องบินและยานอวกาศ อาร์ม ชำนาญทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ส่วนโทนี่ชำนาญทางด้านการวางแผนการรบ ถ้ามีพวกเธอเราก็ยังมีสิทธิ์ที่จะชนะพวกซีเนอร์กาแล็คซีได้ ”
                  “ หมายความว่าพวกมันเก่งมากหรือครับ ”
                  “ เก่งที่สุดในจักรวาลด้วยซ้ำไป พวกมันมีแบล็คกันที่มีกระสุนเยอะและมีความเร็วมากกว่า  แบล็คกันทั่วไป มีเหล่ากองทัพมอนสเตอร์แห่งความมืดที่ร้ายกาจ มอนสเตอร์บางตัวสูงกว่าสิบเมตร แถมมีความทนทานสูงกว่ามอนสเตอร์ทั่วไป บางตัวเป็นตัวเล็กแต่ความเร็วสูง พริบตาเดียวก็ฆ่าทหารฝ่ายเราได้เป็นสิบแล้ว ” เด็กทั้งสามคนกลืนน้ำลายดังอึก
                  “แต่ก่อนหน้านี้ พวกเธอต้องมีอาวุธของตัวเองเสียก่อน ”
นายกพอลกดปุ่มที่นาฬิกาของตน
                  “ ครืด ” 
                  อเล็กซ์สะดุ้ง กำแพงที่อยู่ข้างห้องเปิดออก เป็นห้องห้องหนึ่งที่ใหญ่พอสมควร
                  “ ตามฉันมา ” นายกพอลพูดแล้วเดินเข้าไปข้างในห้องนั้น
                  เด็กทั้งสามเดินเข้าไปข้างใน พวกเขาอ้าปากค้างและตาลุกวาวเมื่อเห็นอาวุธมากมายอยู่ในห้องนี้
                  “ สุดยอด! กัลกาโต้ กำจัดศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในรัศมี 10 เมตร ”
                  “ หรือรูเน็ท ยิงกระสุนไฟได้ทีละสิบนัด ”
                  “ และวอร์เร็ท กระสุนแบบดาวกระจาย ตอนยิงจะมีหนึ่งนัด แล้วจะแยกออกเป็นสองนัด แล้วแต่ละนัดจะแยกไปเป็นอีกสี่นัดอีกที ”
                  “ แล้วนี่ปืนอะไรครับ ” อเล็กซ์ถามแล้วชี้ไปที่ปืนกระบอกหนึ่ง ซึ่งเป็นปืนขนาดเล็กที่มีสีใสขนาดใหญ่ แต่น้ำหนักเบา
                  “ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ” นายกรัฐมนตรีตอบ
                  “ ถ้างั้นผมลองเลือกปืนนี้ดูก็แล้วกัน ”
                  ส่วนอาร์มเลือกบานาน่ากัน และโทนี่ก็เลือกฟรีสกัน
                  เมื่อทุกคนเลือกปืนของตนได้แล้วนายกก็พาทั้งสามคนกลับไปยังห้องแล้วปิดห้องเก็บอาวุธ
                  “ เสียดายอ่ะ ” อาร์มพูดกับอเล็กซ์
                  “ เช่นกัน ”
                  เมื่อทั้งหมดกลับมานั่งที่ของตัวเองแล้วนายกก็เริ่มพูดต่อ
                  “ ตอนนี้ขอให้พวกท่านเดินทางตามหาคริสตัลทั้งห้าสี เพราะคริสตัลแต่ละสีจะช่วยเพิ่มพลังให้แก่ปืนของพวกท่านทุกคน ขอให้นำนาฬิกาที่ผมให้ติดตัวไปด้วย ” แล้วนายกก็มอบนาฬิกาให้คนละเรือน “ เมื่อกระสุนหมดให้กดปุ่มตรงกลาง แล้วกระสุนก็จะกลับมาเต็มอีกครั้ง นาฬิกาเรือนนี้ยังสามารถติดต่อถึงกันได้อีกด้วย นอกจากนั้นแล้วการตามหาคริสตัลห้าสีเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะมันจะเป็นเบาะแสในการตามหาคริสตัลสีเงิน เพื่อนำพวกท่านกลับไปยังโลกแห่งความจริงอีกครั้ง เราจะให้พวกท่านพักผ่อนก่อนหนึ่งคืน แล้วพรุ่งนี้จะเริ่มออกเดินทางทันที ตอนนี้เล่นเกมก่อนมั้ย ” 
                  “ มีเกมด้วยหรือครับ ” อเล็กซ์ถาม
                  “ มีสิ แต่เป็นเกมเหมือนจริงเพราะที่นี่เป็นโลกแห่งเกม เป็นการฝึกซ้อมไปในตัวด้วยนะ ”
                  “ ว้าว! ต้องเล่นอยู่แล้วครับ ” อาร์มพูด
                                                                      .....................................................................
                  ตอนนี้ทุกคนอยู่ในชุดพร้อมรบและกำลังจะเข้าไปในห้องเล่นเกม ข้างในห้องมีพื้น ผนังและเพดานเป็นสีดำ และมีเก้าอี้อยู่สามตัว ในเก้าอี้แต่ละตัวที่แว่นตาอยู่
                  “ ขอให้ท่านนั่งเก้าอี้ รัดเข็มขัดและใส่แว่นด้วย เกมจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อผมกดสวิทช์ที่ห้องข้าง ๆ ”
                  เบอร์นี่พูดแล้วเขาก็เดินไปห้องข้าง ๆ พวกอเล็กซ์รีบไปนั่งเก้าอี้ รัดเข็มขัด แล้วใส่แว่น มีเสียงของเบอร์นี่ออกมาจากที่หนีบหู
                  “ 3  2  1 ”
                  “ 0! ”
                  ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสนามรบที่เป็นพื้นที่โล่งกว้าง พวกเขามีกำลังพลอยู่ประมาณ 500 คน และแล้ว ฝ่ายศัตรูเริ่มวิ่งเข้ามา เสียงม้า เสียงรถถัง และเสียงเท้า กลบความเงียบไปหมดสิ้น
                  “เฮฮฮฮฮ!”
                  ทหารทั้งหมดพุ่งถาโถมเข้าหากัน มีทหารคนหนึ่งเล็งปืนไปที่ทหารของฝ่ายอเล็กซ์
                  “ ตูมมม! ”
                  หัวของทหารกระเด็นไปตกข้าง ๆ อาร์มพอดี อาร์มยิงบานาน่ากันขึ้นไปบนฟ้า
                  “ ตูม! ”
                  กระสุนสีเหลืองที่ดูคล้ายกล้วยออกมาจากปืน กระสุนลอยขึ้นไปบนฟ้าแล้วเปลือกของกระสุนก็ลอกออก กระสุนพุ่งลงที่แดนของศัตรู
                  “ บรึ้มมม! ”
                  ร่างของทหารฝ่ายศัตรูขาดกระเด็นไปเป็นชิ้น ๆ
                  “ ยะฮู้! ”
                  ทางฝ่ายโทนี่ เขากำลังยิงปืนนำแข็งอย่างแม่นยำ ร่างของศัตรูกลายเป็นน้ำแข็งแล้วก็แตกไปเป็นชิ้น ๆ มีข้อความขึ้นมาที่นาฬิกา มันเป็นข้อความจากอาร์ม
                  “ ฉันรอนายอยู่กลางสนามนะ ” 
                  “ ได้เลย! ” โทนี่รีบกำจัดศัตรูที่เหลืออีกสองสามคนแล้วรีบวิ่งไปที่กลางสนามรบทันที
                  ตอนนี้ผู้คนในสนามรบเริ่มเบาบางลงแล้ว
                  “ เฮ้ ฉันมาแล้ว ” อเล็กซ์กับอาร์มเห็นโทนี่มาแต่ไกล
                  “ ทะลวงศัตรูให้หมดไปเลย ไหนแสดงความสามารถของปืนของนายหน่อย ”
                  อเล็กซ์กดไกปืนค้างไว้ประมาณสองสามวินาทีแล้วปล่อยออก เกิดลำแสงสีเขียวออกมาจากปากกระบอกปืนแล้วแสงนั้นก็พุ่งตรงไป แล้วก็เลี้ยวขึ้น พุ่งซิกแซกไปมา เลี้ยวลง เลี้ยวไปทางซ้าย แล้วมันก็ไปโดนศัตรูคนแล้วคนเล่า โดยที่ไม่โดนมหารของฝ่ายอเล็กซ์เลย ในที่สุดลำแสงก็หมดฤทธิ์ แต่ก็กำจัดศัตรูไปได้หลายคนเหมือนกัน
                  “ ว้าว!สุดยอดปืน ” อาร์มและโทนี่พูดขึ้นมาพร้อมกัน
                  “ ถ้าไม่กดค้างมันก็จะเป็นลำแสงตรง ๆ ไปเลย ”
                  อเล็กซ์ อาร์ม และโทนี่เกาะกลุ่มกันตรงกลางสนามรบแล้วกำจัดศัตรูไปเรื่อย ๆ ในที่สุดผู้ที่เหลืออยู่ในสนามรบเหลือไม่ถึงห้าสิบคน โดยที่มีทหารฝ่ายของอเล็กซ์เหลือเพียงเก้าคนเท่านั้น
                  “ รู้สึกฝ่ายเราจะอ่อนไปนิด ๆ นะ ” โทนี่พึมพำ
                  “ ไม่นิดเลยละ มากด้วย ” อาร์มพูดแทรกขึ้นมา
                  ตอนนี้เหลือพวกเขาสามคนเท่านั้น กับทหารของศัตรูอีกประมาณสิบห้าคน
                  “ เอายังไงดี ” อเล็กซ์ถามโทนี่
                  “ ปืนของนายไง นายชาร์จนาน ๆ เลยนะ เดี๋ยวพวกเราจะยิงถ่วงเวลาเอาไว้ก่อน
                  อเล็กซ์กดไกค้างเอาไว้ และโทนี่กับอาร์มคอยยิงปืนกันอเล็กซ์เอาไว้
                  พวกเขาไม่ทันเห็นว่ามีศัตรูคนหนึ่งเล็งปืนไปที่ด้านหลังของพวกเขา
                  “ ตูม! ”
                  กระสุนปืนไปโดนโทนี่ เขาล้มลง ตอนเขาล้มนั้นเขาได้ยิงปืนน้ำแข็งไปทางด้านหลังของตัวเอง กระสุนไปโดนศัตรูอย่างแม่นยำแล้วศัตรูคนนั้นก็กลายเป็นน้ำแข็งแล้วแตกสลายไป
                  “ โทนี่! ”
                  “ พร้อมหรือยังเพื่อน ” อาร์มถามอเล็กซ์
                  “ โอเค ”
                  “ ตูม! ”
                  “ เอาล่ะ ”
                  เขาพูดกับตัวเองแล้วขับยานไปลงที่ดาวที่ใกล้ที่สุด เมื่อเขาขับยานจนใกล้จะถึงพื้นซึ่งเป็นบริเวณป่าแล้วเขาก็เห็นกลุ่มเด็กสองคนกำลังวิ่งหนีมอนสเตอร์ (สัตว์ประหลาดนานาชนิด) อยู่ เขาเล็งปืนไปที่เหล่ามอนสเตอร์
                  “ ตูมมม! ”
                  ร่างของมอนสเตอร์ทั้งหมดกระจุยเป็นชิ้น ๆ เขานำยานลงจอดแล้วลงจากยาน
                  “ นายเจ๋งมากเลย ”
                  หนึ่งในสองคนบอก
                  “ ฉันชื่ออาร์ม ”
                  “ ส่วนฉันชื่อโทนี่ ”
                  “ ฉันชื่ออเล็กซ์ ยินดีที่ได้รู้จัก ”
                                                            .....................................................................
                  อเล็กซ์ อาร์ม และโทนี่ได้ขึ้นยานอวกาศแล้วบินออกจากป่าเข้าไปในเมือง พวกเขาลงจากยานแล้วไปถามผู้ชายที่กำลังจะเดินไปซื้อของ
                  “ ขอโทษครับ เมืองนี้คือเมืองอะไรเหรอครับ ”
                  อเล็กซ์ถาม
                  “ เมืองนี้คือเมืองไวเซอร์ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของดาวอโครนาแห่งนี้ และนายกรัฐมนตรีก็ทำงานและอาศัยอยู่ที่ดาวดวงนี้อีกด้วย ”
                  “ ท่านมีชื่อว่าอะไรเหรอครับ “
                  “ นาย พอล โคลลี่ ”
                  “ แล้วท่านทำงานอยู่ที่ไหนเหรอครับ ”
                  “ บนตึกที่สูงที่สุดของเมืองนี้น่ะ หาได้ไม่ยากหรอก ”
                  อเล็กซ์มองไปรอบ ๆ หาไม่ยากจริง ๆ เพราะตึกที่สูงที่สุดนั่นสูงกว่าห้างสรรพสินค้าตั้งห้าเท่า
                  “ ขอบคุณมากครับ ”
                                                              .....................................................................
                  อเล็กซ์ขับยานไปที่ตึกนั้นแล้วลงจอดหน้าตึก มีผู้ชายใส่ชุดสีดำทั้งชุดสามคนออกมาหาพวกเขา
                  “ กระผมชื่อเบอร์นี่ เป็นคนรับใช้ของท่านนายกรัฐมนตรีพอล โคลลี่ ท่านนายกรัฐมนตรีรอพวกท่านอยู่แล้วครับ เชิญพวกท่านเข้าไปข้างใน ”
                  ทั้งสามคนทำหน้างง แต่ก็ตามเบอร์นี่เข้าไปข้างในตึก ยานข้างนอกถูกนำไปจอดในที่จอดยานข้าง ๆ ตึก
                  เบอร์นี่พาพวกเขาเข้าไปในลิฟท์แล้วไปที่ชั้นที่ 50 เมื่อลิฟท์เปิด ก็มีประตูเหล็กขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าของอเล็กซ์ เบอร์นี่นำนาฬิกาข้อมือขึ้นมาแล้วกดปุ่ม ภาพของคนคนซึ่งน่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ปรากฏขึ้นมา
                  “ กระผมกับพวกเด็กอยู่หน้าประตูแล้วครับ ขอให้ท่านช่วยเปิดประตูด้วย ”
                  “ โอเค ”
                  “ ครืด ”
                  ประตูเหล็กเปิดออก ปรากฏโต๊ะรูปวงกลมมีเก้าอี้ล้อมรอบอยู่ตรงหน้าของอเล็กซ์ มีนายกพอลนั่งอยู่ด้านในสุด
                  “ เชิญนั่ง ”
                  นายกพูด อเล็กซ์รู้สึกเสียววาบ เขาเข้ามาในเมืองนี้ได้ไม่ทันไรก็ได้เจอผู้นำสูงสุดของดาวดวงนี้ซะแล้ว
                  เด็กทั้งสามคนนั่งลง
                  “ ทำไมถึงเรียกพวกเรามาเหรอครับ ” อาร์มถามปากสั่น
                  “ ฉันเรียกพวกเธอมาตั้งแต่เธออยู่ในโลกแห่งความจริงแล้ว ” ทั้งสามคนอ้าปากค้าง “ฉันเองแหละที่ทำให้พวกเธอหลุดเข้ามาอยู่ในโลกแห่งเกม ฉันเรียกพวกเธอเพราะพวกเธอทั้งสามมีความสามารถในการเล่นเกม ”
                  “ ทำไมเหรอครับ ”
                  “ เพราะตอนนี้ได้เกิดสงครามขึ้นระหว่างเคทานอลกาแล็คซีของเรา กับซีเนอร์กาแล็คซี อาณาจักรแห่งความมืด ถ้าพวกมันชนะเราก็จะไม่มีอุปสรรคอะไรขวางทางมันได้ แล้วมันก็จะเปลี่ยนโลกแห่งเกมให้เป็นโลกแห่งความมืดมิดตลอดกาล “
                  “ แล้วทำไมต้องเป็นพวกเราด้วยครับ ”
                  “ เพราะฉันลองคำนวณความสามารถของนักเล่นเกมทั่วโลกของพวกเธอแล้ว ผลสรุปก็คือพวกเธอเป็นนักเล่นเกมที่เก่งที่สุด อเล็กซ์ ชำนาญทางด้านเครื่องบินและยานอวกาศ อาร์ม ชำนาญทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ส่วนโทนี่ชำนาญทางด้านการวางแผนการรบ ถ้ามีพวกเธอเราก็ยังมีสิทธิ์ที่จะชนะพวกซีเนอร์กาแล็คซีได้ ”
                  “ หมายความว่าพวกมันเก่งมากหรือครับ ”
                  “ เก่งที่สุดในจักรวาลด้วยซ้ำไป พวกมันมีแบล็คกันที่มีกระสุนเยอะและมีความเร็วมากกว่า  แบล็คกันทั่วไป มีเหล่ากองทัพมอนสเตอร์แห่งความมืดที่ร้ายกาจ มอนสเตอร์บางตัวสูงกว่าสิบเมตร แถมมีความทนทานสูงกว่ามอนสเตอร์ทั่วไป บางตัวเป็นตัวเล็กแต่ความเร็วสูง พริบตาเดียวก็ฆ่าทหารฝ่ายเราได้เป็นสิบแล้ว ” เด็กทั้งสามคนกลืนน้ำลายดังอึก
                  “แต่ก่อนหน้านี้ พวกเธอต้องมีอาวุธของตัวเองเสียก่อน ”
นายกพอลกดปุ่มที่นาฬิกาของตน
                  “ ครืด ” 
                  อเล็กซ์สะดุ้ง กำแพงที่อยู่ข้างห้องเปิดออก เป็นห้องห้องหนึ่งที่ใหญ่พอสมควร
                  “ ตามฉันมา ” นายกพอลพูดแล้วเดินเข้าไปข้างในห้องนั้น
                  เด็กทั้งสามเดินเข้าไปข้างใน พวกเขาอ้าปากค้างและตาลุกวาวเมื่อเห็นอาวุธมากมายอยู่ในห้องนี้
                  “ สุดยอด! กัลกาโต้ กำจัดศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในรัศมี 10 เมตร ”
                  “ หรือรูเน็ท ยิงกระสุนไฟได้ทีละสิบนัด ”
                  “ และวอร์เร็ท กระสุนแบบดาวกระจาย ตอนยิงจะมีหนึ่งนัด แล้วจะแยกออกเป็นสองนัด แล้วแต่ละนัดจะแยกไปเป็นอีกสี่นัดอีกที ”
                  “ แล้วนี่ปืนอะไรครับ ” อเล็กซ์ถามแล้วชี้ไปที่ปืนกระบอกหนึ่ง ซึ่งเป็นปืนขนาดเล็กที่มีสีใสขนาดใหญ่ แต่น้ำหนักเบา
                  “ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ” นายกรัฐมนตรีตอบ
                  “ ถ้างั้นผมลองเลือกปืนนี้ดูก็แล้วกัน ”
                  ส่วนอาร์มเลือกบานาน่ากัน และโทนี่ก็เลือกฟรีสกัน
                  เมื่อทุกคนเลือกปืนของตนได้แล้วนายกก็พาทั้งสามคนกลับไปยังห้องแล้วปิดห้องเก็บอาวุธ
                  “ เสียดายอ่ะ ” อาร์มพูดกับอเล็กซ์
                  “ เช่นกัน ”
                  เมื่อทั้งหมดกลับมานั่งที่ของตัวเองแล้วนายกก็เริ่มพูดต่อ
                  “ ตอนนี้ขอให้พวกท่านเดินทางตามหาคริสตัลทั้งห้าสี เพราะคริสตัลแต่ละสีจะช่วยเพิ่มพลังให้แก่ปืนของพวกท่านทุกคน ขอให้นำนาฬิกาที่ผมให้ติดตัวไปด้วย ” แล้วนายกก็มอบนาฬิกาให้คนละเรือน “ เมื่อกระสุนหมดให้กดปุ่มตรงกลาง แล้วกระสุนก็จะกลับมาเต็มอีกครั้ง นาฬิกาเรือนนี้ยังสามารถติดต่อถึงกันได้อีกด้วย นอกจากนั้นแล้วการตามหาคริสตัลห้าสีเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะมันจะเป็นเบาะแสในการตามหาคริสตัลสีเงิน เพื่อนำพวกท่านกลับไปยังโลกแห่งความจริงอีกครั้ง เราจะให้พวกท่านพักผ่อนก่อนหนึ่งคืน แล้วพรุ่งนี้จะเริ่มออกเดินทางทันที ตอนนี้เล่นเกมก่อนมั้ย ” 
                  “ มีเกมด้วยหรือครับ ” อเล็กซ์ถาม
                  “ มีสิ แต่เป็นเกมเหมือนจริงเพราะที่นี่เป็นโลกแห่งเกม เป็นการฝึกซ้อมไปในตัวด้วยนะ ”
                  “ ว้าว! ต้องเล่นอยู่แล้วครับ ” อาร์มพูด
                                                                      .....................................................................
                  ตอนนี้ทุกคนอยู่ในชุดพร้อมรบและกำลังจะเข้าไปในห้องเล่นเกม ข้างในห้องมีพื้น ผนังและเพดานเป็นสีดำ และมีเก้าอี้อยู่สามตัว ในเก้าอี้แต่ละตัวที่แว่นตาอยู่
                  “ ขอให้ท่านนั่งเก้าอี้ รัดเข็มขัดและใส่แว่นด้วย เกมจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อผมกดสวิทช์ที่ห้องข้าง ๆ ”
                  เบอร์นี่พูดแล้วเขาก็เดินไปห้องข้าง ๆ พวกอเล็กซ์รีบไปนั่งเก้าอี้ รัดเข็มขัด แล้วใส่แว่น มีเสียงของเบอร์นี่ออกมาจากที่หนีบหู
                  “ 3  2  1 ”
                  “ 0! ”
                  ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสนามรบที่เป็นพื้นที่โล่งกว้าง พวกเขามีกำลังพลอยู่ประมาณ 500 คน และแล้ว ฝ่ายศัตรูเริ่มวิ่งเข้ามา เสียงม้า เสียงรถถัง และเสียงเท้า กลบความเงียบไปหมดสิ้น
                  “เฮฮฮฮฮ!”
                  ทหารทั้งหมดพุ่งถาโถมเข้าหากัน มีทหารคนหนึ่งเล็งปืนไปที่ทหารของฝ่ายอเล็กซ์
                  “ ตูมมม! ”
                  หัวของทหารกระเด็นไปตกข้าง ๆ อาร์มพอดี อาร์มยิงบานาน่ากันขึ้นไปบนฟ้า
                  “ ตูม! ”
                  กระสุนสีเหลืองที่ดูคล้ายกล้วยออกมาจากปืน กระสุนลอยขึ้นไปบนฟ้าแล้วเปลือกของกระสุนก็ลอกออก กระสุนพุ่งลงที่แดนของศัตรู
                  “ บรึ้มมม! ”
                  ร่างของทหารฝ่ายศัตรูขาดกระเด็นไปเป็นชิ้น ๆ
                  “ ยะฮู้! ”
                  ทางฝ่ายโทนี่ เขากำลังยิงปืนนำแข็งอย่างแม่นยำ ร่างของศัตรูกลายเป็นน้ำแข็งแล้วก็แตกไปเป็นชิ้น ๆ มีข้อความขึ้นมาที่นาฬิกา มันเป็นข้อความจากอาร์ม
                  “ ฉันรอนายอยู่กลางสนามนะ ” 
                  “ ได้เลย! ” โทนี่รีบกำจัดศัตรูที่เหลืออีกสองสามคนแล้วรีบวิ่งไปที่กลางสนามรบทันที
                  ตอนนี้ผู้คนในสนามรบเริ่มเบาบางลงแล้ว
                  “ เฮ้ ฉันมาแล้ว ” อเล็กซ์กับอาร์มเห็นโทนี่มาแต่ไกล
                  “ ทะลวงศัตรูให้หมดไปเลย ไหนแสดงความสามารถของปืนของนายหน่อย ”
                  อเล็กซ์กดไกปืนค้างไว้ประมาณสองสามวินาทีแล้วปล่อยออก เกิดลำแสงสีเขียวออกมาจากปากกระบอกปืนแล้วแสงนั้นก็พุ่งตรงไป แล้วก็เลี้ยวขึ้น พุ่งซิกแซกไปมา เลี้ยวลง เลี้ยวไปทางซ้าย แล้วมันก็ไปโดนศัตรูคนแล้วคนเล่า โดยที่ไม่โดนมหารของฝ่ายอเล็กซ์เลย ในที่สุดลำแสงก็หมดฤทธิ์ แต่ก็กำจัดศัตรูไปได้หลายคนเหมือนกัน
                  “ ว้าว!สุดยอดปืน ” อาร์มและโทนี่พูดขึ้นมาพร้อมกัน
                  “ ถ้าไม่กดค้างมันก็จะเป็นลำแสงตรง ๆ ไปเลย ”
                  อเล็กซ์ อาร์ม และโทนี่เกาะกลุ่มกันตรงกลางสนามรบแล้วกำจัดศัตรูไปเรื่อย ๆ ในที่สุดผู้ที่เหลืออยู่ในสนามรบเหลือไม่ถึงห้าสิบคน โดยที่มีทหารฝ่ายของอเล็กซ์เหลือเพียงเก้าคนเท่านั้น
                  “ รู้สึกฝ่ายเราจะอ่อนไปนิด ๆ นะ ” โทนี่พึมพำ
                  “ ไม่นิดเลยละ มากด้วย ” อาร์มพูดแทรกขึ้นมา
                  ตอนนี้เหลือพวกเขาสามคนเท่านั้น กับทหารของศัตรูอีกประมาณสิบห้าคน
                  “ เอายังไงดี ” อเล็กซ์ถามโทนี่
                  “ ปืนของนายไง นายชาร์จนาน ๆ เลยนะ เดี๋ยวพวกเราจะยิงถ่วงเวลาเอาไว้ก่อน
                  อเล็กซ์กดไกค้างเอาไว้ และโทนี่กับอาร์มคอยยิงปืนกันอเล็กซ์เอาไว้
                  พวกเขาไม่ทันเห็นว่ามีศัตรูคนหนึ่งเล็งปืนไปที่ด้านหลังของพวกเขา
                  “ ตูม! ”
                  กระสุนปืนไปโดนโทนี่ เขาล้มลง ตอนเขาล้มนั้นเขาได้ยิงปืนน้ำแข็งไปทางด้านหลังของตัวเอง กระสุนไปโดนศัตรูอย่างแม่นยำแล้วศัตรูคนนั้นก็กลายเป็นน้ำแข็งแล้วแตกสลายไป
                  “ โทนี่! ”
                  “ พร้อมหรือยังเพื่อน ” อาร์มถามอเล็กซ์
                  “ โอเค ”
                  “ ตูม! ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น