ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ทะเลาะ
ฌอนเดินเข้าไปยังห้องครัวที่สุดจะสะอาด  และเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างสุดยอด  ซึ่งเป็นฝีมือของป้า  ทุกซอกทุกมุมของบ้านหลังนี้แสนจะสะอาด  เป็นระเบียบซึ่งก็ต้องยกความดีให้กับป้าเมดิธเพียงผู้เดียว
      ห้องครัวเป็นทั้งห้องครัวและห้องกินข้าวไปในตัว  ลุงนั่งรออยู่ที่หัวโต๊ะแล้ว  ส่วนป้ากำลังวางจานใบสุดท้าย  ส่วนเอมมินี่เธอยังไม่ลงมา  และถึงเธอจะลงมาเธอก็ไม่ยอมกินข้าวร่วมโต๊ะกับฌอนอยู่ดี
          “ว้าวน่ากินจังเลยฮะป้า”ณอนบอกพลางทำจมูกฟุดฟิดเพื่อดมกลิ่น  เอมมินี่ค่อยๆย่างกรายลงบันไดมา    เด็กสาวบิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้าน
          “แม่คะ    พ่อคะ”เธอหันซ้ายหันขวามองลุงกับป้า  แล้วใช้หางตามองมาทางฌอน 
“ไว้กินกันเสร็จเมื่อไร  ช่วยบอกหนูด้วยนะคะ    หนูไม่อยากร่วมโต๊ะกับใครแถวนี้”เอมมินี่ใช้น้ำเสียงดูแคลน  พลางมองที่ฌอนอย่างจงเกลียดจงชัง  เธอกระทืบเท้าปึงปังออกไปจากครัว
          “หยุดเดี๋ยวนี้นะ”ลุงคำราม  ชี้นิ้วมาที่เอมมินี่  เอมมินี่หยุดทันที  “เดินกลับเข้ามา”ลุงสั่งเสียงเฉียบ  เอมมินี่ทำท่าจะเดินไป  “บอกให้กลับเข้ามา”ลุงคำรามเสียงดังขึ้นอีก  เหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมา  ใบหน้าอูมๆของลุงกลายเป็นสีแดง  ป้าและฌอนตกใจ  เอมมินี่หยุดพลางก้มหน้าหันมา  “ถ้าพ่อเห็นว่าไอ้เด็กข้างถนนที่พ่อเก็บมามันสำคัญกว่าหนู    พ่อก็อย่ามาห้ามหนูสิ”เอมมินี่ตะโกนกลับอย่างเดือดแค้น    ป้ารีบวิ่งไปหาเอมมินี่  “เอมมี่  หนูอย่าพูดอย่างนั้นสิ”ป้าบอกพลางโอบกอดเอมมินี่ไว้
            “แม่ก็เหมือนกัน  รักมันมากใช่มั้ย”เอมมินี่ตวาด  ส่งสายตาอาฆาตมาทางฌอน    ฌอนรู้สึกไม่ดีเลย   
          “เอมมี่”ป้าเรียกอย่างเศร้าใจ  น้ำตาใสๆไหลรินออกจากแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน    เอมมินี่สะบัดตัวออกจากอ้อมกอดของป้า  “หนูไม่เชื่อ  ต่อไปนี้หนูจะไม่เชื่อใครอีกแล้ว”เอมมินี่ตะโกนทั้งน้ำตา  แล้ววิ่งขึ้นบันไดไป
         
          “เอมมี่”ป้าร้องเรียก    ฌอนเดินเข้ามาปลอบป้าอย่างเป็นห่วง  “ช่างเขา  นั่งเถอะ”ลุงบอกอย่างไม่ใส่ใจ    ฌอนประคองป้านั่งลง    “จอห์น  แล้วเอมมี่ล่ะ”ป้าถาม  พลางเช็ดน้ำตา
        “ช่างเขาเถอะเมดิธ  เดี๋ยวอีกไม่นานเขาก็หายโกรธ    เด็กอะไรเอาแต่ใจที่สุด”ลุงพูดแล้วตัก
สเต็กเนื้อกวางใส่จานให้ป้า
       
        อาหารเย็นมื้อนี้เริ่มด้วยบรรยากาศที่เลวร้าย  ถึงแม้อาหารฝีมือของป้าจะอร่อยมากเพียงใดแต่ก็กินไม่ลง  ไม่เสียงพูดคุยกัน  ปกติแล้วฌอนจะลงมากินหลังจากที่เอมมินี่กับลุงกินกันเสร็จแล้ว    ส่วนป้าจะคอยนั่งดู    แล้วรอกินพร้อมกับฌอน  แต่วันนี้เพราะ มีสเต๊กเนื้อกวางสูตรพิเศษของป้า  ลุงจึงอยากให้ทุกคนอยู่กันอย่างพร้อมหน้า
            “ผมขอตัวก่อนนะครับ”ฌอนบอกแล้วเดินขึ้นบ้านไป 
            ฌอนเปิดประตูห้องนอนของเขา    ห้องนอนของเขาเป็นห้องใต้หลังคา  ตอนที่ลุงกับป้าให้เขาเลือกระหว่างห้องที่อยู่ริมสุดชั้นล่างที่ปัจจุบันกลายเป็นห้องทำงานของลุง  กับห้องใต้หลังคา  เขาเลือกเอาห้องใต้หลังคา  ถึงแม้ว่าห้องที่อยู่ชั้นล่างจะใหญ่กว่า  เขาก็ยืนยันที่จะเอาห้องนี้    ซึ่งตอนนี้มีแค่เตียงหนึ่งเตียงอยู่ติดกับหน้าต่าง  เด็กหนุ่มมักจะมองออกไปนอกหน้าต่างนี้
ในยามค่ำคืน  เขาชอบที่จะมองดูดาวที่ข้างนอกหน้าต่างนี้    ช่างมีความสุขเสียเหลือเกิน....
มีโต๊ะที่ตั้งคอมพิวเตอร์  ที่เขาใช้เล่นเกมส์อยู่ทุกวันนี้นั่นแหละ    แล้วก็มีแค่ตู้เสื้อผ้า  ที่เต็มไปด้วยสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่รอบๆ    ซึ่งฌอนเป็นคนติดมันเองตอนที่เขาอายุเจ็ดขวบ
            เด็กหนุ่มเดินไปที่เตียง  นั่งลงแล้วมองออกไปทางหน้าต่างด้วยสายตาที่อ้างว้าง  ในยามราตรีจะมีลมเย็นๆพัดโชยเข้ามาทางหน้าต่าง  มันช่างเย็นสบายเป็นที่สุด    เขาเหลือบตามองนาฬิกาเรืองแสงที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง    ตอนนี้ห้าทุ่มแล้ว  เขาล้มตัวลงนอนช้าๆ  พลางคิดถึงเช้าวันใหม่ที่กำลังจะมาถึง   
          ฌอนตื่นขึ้นท่ามกลางเสียงนกที่เกาะอยู่บนต้นแอปเปิ้ลต้นใหญ่ที่ลุงปลูกไว้ในสวน  มันส่งเสียงร้องทักทายกัน  เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส    อาจจะสำหรับบางคน  แต่มันไม่ใช่สำหรับฌอนเขายังไม่รู้ว่าเอมมินี่จะเป็นยังไงบ้าง
        “ป้าครับ  แล้วเอมมี่ล่ะ  เขาหายโกรธหรือยัง”ฌอนถามป้าที่กำลังง่วนทำอาหารเช้าอยู่              “ยังไม่ลงมาเลย”ป้าตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“ผมไปตามให้เอามั้ยครับ”ฌอนถามพลางเปิดโทรทัศน์
“ไม่เป็นไรจ๊ะ”  ป้าบอก  แล้วเดินออกมาจากครัว  ป้าวางผ้ากันเปื้อนที่ใช้ทำอาหารไว้ที่โต๊ะกินข้าว
“เอมมี่ล่ะ”ลุงถาม(เพราะลืมไปว่าทะเลาะกัน)ขณะที่ลงบันไดมา  ป้ามองหน้าลุงอย่างงงๆ
“ดีแล้วไม่ต้องลงมา”ลุงพูดแก้ตัว    ป้าแอบหัวเราะชอบใจเบาๆ  ทำให้ฌอนอดยิ้มไม่ได้
“กินข้าวสิมัวหัวเราะอะไร”  ลุงบอก    ตอนนี้หูของลุงแดงหมดแล้ว
      ห้องครัวเป็นทั้งห้องครัวและห้องกินข้าวไปในตัว  ลุงนั่งรออยู่ที่หัวโต๊ะแล้ว  ส่วนป้ากำลังวางจานใบสุดท้าย  ส่วนเอมมินี่เธอยังไม่ลงมา  และถึงเธอจะลงมาเธอก็ไม่ยอมกินข้าวร่วมโต๊ะกับฌอนอยู่ดี
          “ว้าวน่ากินจังเลยฮะป้า”ณอนบอกพลางทำจมูกฟุดฟิดเพื่อดมกลิ่น  เอมมินี่ค่อยๆย่างกรายลงบันไดมา    เด็กสาวบิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้าน
          “แม่คะ    พ่อคะ”เธอหันซ้ายหันขวามองลุงกับป้า  แล้วใช้หางตามองมาทางฌอน 
“ไว้กินกันเสร็จเมื่อไร  ช่วยบอกหนูด้วยนะคะ    หนูไม่อยากร่วมโต๊ะกับใครแถวนี้”เอมมินี่ใช้น้ำเสียงดูแคลน  พลางมองที่ฌอนอย่างจงเกลียดจงชัง  เธอกระทืบเท้าปึงปังออกไปจากครัว
          “หยุดเดี๋ยวนี้นะ”ลุงคำราม  ชี้นิ้วมาที่เอมมินี่  เอมมินี่หยุดทันที  “เดินกลับเข้ามา”ลุงสั่งเสียงเฉียบ  เอมมินี่ทำท่าจะเดินไป  “บอกให้กลับเข้ามา”ลุงคำรามเสียงดังขึ้นอีก  เหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมา  ใบหน้าอูมๆของลุงกลายเป็นสีแดง  ป้าและฌอนตกใจ  เอมมินี่หยุดพลางก้มหน้าหันมา  “ถ้าพ่อเห็นว่าไอ้เด็กข้างถนนที่พ่อเก็บมามันสำคัญกว่าหนู    พ่อก็อย่ามาห้ามหนูสิ”เอมมินี่ตะโกนกลับอย่างเดือดแค้น    ป้ารีบวิ่งไปหาเอมมินี่  “เอมมี่  หนูอย่าพูดอย่างนั้นสิ”ป้าบอกพลางโอบกอดเอมมินี่ไว้
            “แม่ก็เหมือนกัน  รักมันมากใช่มั้ย”เอมมินี่ตวาด  ส่งสายตาอาฆาตมาทางฌอน    ฌอนรู้สึกไม่ดีเลย   
          “เอมมี่”ป้าเรียกอย่างเศร้าใจ  น้ำตาใสๆไหลรินออกจากแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน    เอมมินี่สะบัดตัวออกจากอ้อมกอดของป้า  “หนูไม่เชื่อ  ต่อไปนี้หนูจะไม่เชื่อใครอีกแล้ว”เอมมินี่ตะโกนทั้งน้ำตา  แล้ววิ่งขึ้นบันไดไป
         
          “เอมมี่”ป้าร้องเรียก    ฌอนเดินเข้ามาปลอบป้าอย่างเป็นห่วง  “ช่างเขา  นั่งเถอะ”ลุงบอกอย่างไม่ใส่ใจ    ฌอนประคองป้านั่งลง    “จอห์น  แล้วเอมมี่ล่ะ”ป้าถาม  พลางเช็ดน้ำตา
        “ช่างเขาเถอะเมดิธ  เดี๋ยวอีกไม่นานเขาก็หายโกรธ    เด็กอะไรเอาแต่ใจที่สุด”ลุงพูดแล้วตัก
สเต็กเนื้อกวางใส่จานให้ป้า
       
        อาหารเย็นมื้อนี้เริ่มด้วยบรรยากาศที่เลวร้าย  ถึงแม้อาหารฝีมือของป้าจะอร่อยมากเพียงใดแต่ก็กินไม่ลง  ไม่เสียงพูดคุยกัน  ปกติแล้วฌอนจะลงมากินหลังจากที่เอมมินี่กับลุงกินกันเสร็จแล้ว    ส่วนป้าจะคอยนั่งดู    แล้วรอกินพร้อมกับฌอน  แต่วันนี้เพราะ มีสเต๊กเนื้อกวางสูตรพิเศษของป้า  ลุงจึงอยากให้ทุกคนอยู่กันอย่างพร้อมหน้า
            “ผมขอตัวก่อนนะครับ”ฌอนบอกแล้วเดินขึ้นบ้านไป 
            ฌอนเปิดประตูห้องนอนของเขา    ห้องนอนของเขาเป็นห้องใต้หลังคา  ตอนที่ลุงกับป้าให้เขาเลือกระหว่างห้องที่อยู่ริมสุดชั้นล่างที่ปัจจุบันกลายเป็นห้องทำงานของลุง  กับห้องใต้หลังคา  เขาเลือกเอาห้องใต้หลังคา  ถึงแม้ว่าห้องที่อยู่ชั้นล่างจะใหญ่กว่า  เขาก็ยืนยันที่จะเอาห้องนี้    ซึ่งตอนนี้มีแค่เตียงหนึ่งเตียงอยู่ติดกับหน้าต่าง  เด็กหนุ่มมักจะมองออกไปนอกหน้าต่างนี้
ในยามค่ำคืน  เขาชอบที่จะมองดูดาวที่ข้างนอกหน้าต่างนี้    ช่างมีความสุขเสียเหลือเกิน....
มีโต๊ะที่ตั้งคอมพิวเตอร์  ที่เขาใช้เล่นเกมส์อยู่ทุกวันนี้นั่นแหละ    แล้วก็มีแค่ตู้เสื้อผ้า  ที่เต็มไปด้วยสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่รอบๆ    ซึ่งฌอนเป็นคนติดมันเองตอนที่เขาอายุเจ็ดขวบ
            เด็กหนุ่มเดินไปที่เตียง  นั่งลงแล้วมองออกไปทางหน้าต่างด้วยสายตาที่อ้างว้าง  ในยามราตรีจะมีลมเย็นๆพัดโชยเข้ามาทางหน้าต่าง  มันช่างเย็นสบายเป็นที่สุด    เขาเหลือบตามองนาฬิกาเรืองแสงที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง    ตอนนี้ห้าทุ่มแล้ว  เขาล้มตัวลงนอนช้าๆ  พลางคิดถึงเช้าวันใหม่ที่กำลังจะมาถึง   
          ฌอนตื่นขึ้นท่ามกลางเสียงนกที่เกาะอยู่บนต้นแอปเปิ้ลต้นใหญ่ที่ลุงปลูกไว้ในสวน  มันส่งเสียงร้องทักทายกัน  เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส    อาจจะสำหรับบางคน  แต่มันไม่ใช่สำหรับฌอนเขายังไม่รู้ว่าเอมมินี่จะเป็นยังไงบ้าง
        “ป้าครับ  แล้วเอมมี่ล่ะ  เขาหายโกรธหรือยัง”ฌอนถามป้าที่กำลังง่วนทำอาหารเช้าอยู่              “ยังไม่ลงมาเลย”ป้าตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“ผมไปตามให้เอามั้ยครับ”ฌอนถามพลางเปิดโทรทัศน์
“ไม่เป็นไรจ๊ะ”  ป้าบอก  แล้วเดินออกมาจากครัว  ป้าวางผ้ากันเปื้อนที่ใช้ทำอาหารไว้ที่โต๊ะกินข้าว
“เอมมี่ล่ะ”ลุงถาม(เพราะลืมไปว่าทะเลาะกัน)ขณะที่ลงบันไดมา  ป้ามองหน้าลุงอย่างงงๆ
“ดีแล้วไม่ต้องลงมา”ลุงพูดแก้ตัว    ป้าแอบหัวเราะชอบใจเบาๆ  ทำให้ฌอนอดยิ้มไม่ได้
“กินข้าวสิมัวหัวเราะอะไร”  ลุงบอก    ตอนนี้หูของลุงแดงหมดแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น