ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : just started
    “.. แล้วทุกอย่างในชีวิตฉันก็ไม่เหมือนเดิม  หลังจากที่พ่อจากเราไป
ฉันต้องทิ้งทุกอย่างที่ผ่านมา และใช้ชีวิตใหม่ กับสังคมใหม่
ที่พ่อเลือกไว้ให้เรา
..
    “ ทุกอย่างที่ฉันมี ที่เป็นของฉัน ฉันขอยกให้ปริพนธ์ และ มายาวี ลูกของฉัน และให้แม่ของพวกเขาดูแลจนกว่าลูกฉันจะบรรลุนิติภาวะ ที่จะครอบครองมันได้ด้วยตัวของเขาเอง  พ่อรู้ว่าลูกอาจจะไม่ชอบทางที่พ่อเคยเดิน  แต่ขอให้พ่อได้ไถ่โทษที่เคยทำไว้  มันเป็นอำนาจของลูกที่จะจัดการเรื่องมรดกอื่นๆ แต่ ‘ เรื่องนั้น ’ พ่อขอร้องให้ลูกทำด้วยตัวเอง  ”
    ข้อความ..ที่กำหนดอนาคตของฉัน และพี่ชาย  ฉันไม่รู้เหตุผล ว่าทำไมพ่อถึงเลือกให้เรา เป็นผู้ครอบครองทุกอย่าง  ทั้งที่มีคนหลายคน  ฝันอยากจะได้มัน  ทำไมพ่อถึงได้ยกมันให้กับคนที่ไม่เคยอยากได้อย่างฉัน .
    “ ไม่มีทาง  ฉันไม่รับเด็ดขาด  เรื่องอะไรลูกของฉันจะต้องไปพัวพันกับเรื่องสกปรกแบบนั้น ”
เสียงแม่โวยวาย เมื่อทนายความอ่านพินัยกรรมที่พ่อทิ้งไว้จบ
    “ ผมแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น  ทุกอย่างเป็นสิทธิ์ของลูกคุณ ทำไมไม่ถามความสมัครใจพวกเค้าดูก่อนล่ะครับ”  ทนายความแย้งขึ้น
    “ ไม่ต้องถามก็รู้  ลูกฉันไม่ใช่พวกจิตใจโหดเหี้ยม  ชอบมีความสุขบนความทุกข์ของคนเป็นร้อยๆ ยังไงซะ ฉันก็ไม่รับคำขอโทษของเขาด้วยวิธีนี้  ฉันเลี้ยงลูกมาคนเดียวได้ตั้ง 20 ปี พวกเขาก็มีความสุข ถึงเราจะจน..แต่เราก็ไม่อยากรวย ด้วยความทุกข์ของคนอื่น”  แม่ฉันยังคงเถียงไม่เลิก
    “  ถามดู ไม่ดีกว่าหรือ” ทนายพูดเพียงเท่านั้น และยื่นเอกสารมาทางฉันและพี่ชาย  ถ้าฉันเซ็น ก็หมายความว่าชีวิตฉันที่ผ่านมา จะเป็นแค่อดีตที่ไม่มีค่าแก่การจดจำ  แต่ถ้าไม่ ความสุขสบายที่ฉันต้องการ มันก็จะไม่ใช่ของฉันอีกต่อไป . 2 ทางที่อยู่ข้างหน้า  ฉันต้องตัดสินใจเลือก
    “ คุณหนู  แค่เซ็นชื่อตรงนี้  พ่อคุณก็จะสบายใจแล้วนะครับ”
    “ อย่ามัวชักช้าได้มั๊ย  อย่ามาทำเล่นตัวเลยน่า รู้ว่าพวกแกอยากได้จนตัวสั่น” เสียงของใครที่ฉันไม่เคยแม้แต่เห็นหน้า  แต่ก็พอเดาออกว่า ไม่ใช่ญาติ ก็คงเป็นฐานะเดียวกับแม่ฉัน (เมียน่ะ) ฉันรู้ว่าการที่พ่อยกทุกอย่างให้ฉัน กับ พี่  มันคงทำลายความฝันของหลายๆคนในที่นี้  แต่ฉันก็ไม่เคยสนใจความรู้สึกของใครนอกจากตัวเองอยู่แล้ว  และตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันต้องพยายามเป็นคนดี ต้องสร้างเกราะปิดบังความจริงไว้ภายใน  มีเพียงพี่ชายฉันคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ .  ตอนนี้ฉันคิดว่า เขาก็คงสับสนเช่นเดียวกัน 
    เหตุการณ์หลังจากนั้น มันก็ได้เปลี่ยนชีวิตฉันไปอย่างสิ้นเชิง ”
    มายาวีเริ่มบันทึก Dairy หลังจากที่ทุกอย่างในชีวิตของเธอ เริ่มจะเปลี่ยนแปลงไป  โดยที่ตัวเธอเองไม่เคยคาดคิดมาก่อน แต่เหตุการณ์หลังจากนั้น .
“  บอกได้ไหม ว่าถ้าผมเซ็น จะเกิดอะไรขึ้น”  ปริพนธ์เอ่ยถามทนายความ
    “  คุณหนูก็จะกลายเป็นคุณปริพนธ์  ไม่ใช่คนที่ผ่านมา และกิจการทุกอย่าง รวมทั้งเอ่อ..คุณก็รู้..ทุกอย่างก็จะเป็นของคุณ กับคุณมายาวี”
    “ น้ำหน้าอย่าง 2 คนนี้น่ะเหรอ  ที่คุณพ่อยกทุกอย่างให้น่ะ  หึ  มันคงมาถึงวาระล่มจมของทุกๆอย่างแน่ๆ”  ชายหนุ่มร่างสูง ผมสีน้ำตาลเข้ม พูดขึ้น
    “ คิดว่าตัวเองเป็นใคร  ถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้”
    “ แล้วเธอล่ะ ทำเป็นเล่นตัวอยู่ได้  ถ้าอยากได้ก็รีบๆรับสิ  หรือว่ากลัวจนไม่กล้าทำอะไร” เขายังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
   
“ ถ้าฉันรับ  แน่ใจนะว่าฉันมีอำนาจจัดการเรื่องทุกอย่างได้  รวมทั้งการไล่ใครออกจากบ้านหลังนี้”
มายาวี หันไปถามทนาย
    “ ครับ ทุกอย่างเป็นสิทธิ์ของคุณ..ตามที่ท่านได้บอกไว้” 
    “ มายาวี อย่าเชียวนะ”  เสียงผู้เป็นมารดาดังขึ้นเบื้องหลังของเธอ
    “ ตกลง ฉันจะเซ็น”  มายาวีพูดอย่างเด็ดเดี่ยว แล้วเซ็นชื่อลงในเอกสารที่ทนายความยื่นให้  ในตอนนี้เหลือเพียงปริพนธ์เท่านั้น  ซึ่งหากเขาตกลง ทุกอย่างก็จะสมบูรณ์  แต่ถ้าเขาไม่ ทุกอย่างก็จะถือเป็นโมฆะ
    “ ฉันก็คงไม่ยอมให้น้องสาวของฉันเผชิญชะตากรรมเรื่องนี้ แค่คนเดียวหรอกนะ”  ปริพนธ์พูด พลางเซ็นชื่อต่อจากมายาวี
    “ ทำไมลูกถึงเป็นแบบนี้ทั้งสองคนเลย” น้ำเสียงผิดหวังของผู้เป็นมารดาดังขึ้น
    “ แม่รู้มั๊ย  ว่าที่ผ่านมา วีต้องทำเป็นคนดี  ต้องเสแสร้งว่าเราสบาย ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว  แต่วันนี้ แม่จะให้วีปฏิเสธทุกอย่างที่วีคิดว่าตัวเองควรจะได้  ทุกอย่างที่ควรจะเป็นของวีตั้งแต่ต้น  วีไม่มีทางปฏิเสธแน่  ขอบคุณนายมากนะ ที่ทำให้ฉันอยากครอบครองทุกอย่าง” หล่อนหันไปพูดกับ ชายหนุ่มคนเมื่อซักครู่อย่างผู้ชนะ
    “ แม่ครับ  ไม่เห็นว่าแม่จะต้องยุ่งอะไรเลย  แค่แม่ดูแลแทนเราไม่กี่ปีเองนี่ครับ  ไม่ได้ยุ่งยากซักหน่อย”  ปริพนธ์พูดขึ้น
    “ ลูกกำลังจะกลายเป็นคนเลว”
    “ ไม่มีคำว่าเลว หรือ ดี หรอกค่ะแม่  มันมีแค่แพ้  กับชนะเท่านั้น ที่จะทำให้เราได้อำนาจมา  อำนาจที่ผู้อ่อนแอ ไม่สามารถไขว่คว้ามันได้”  มายาวีหันหลังจากไป หลังจากวันนี้  เธอจะกลายเป็นอีกคนหนึ่ง เธอต้องเดินในทางสายใหม่ที่ผู้เป็นพ่อเลือกไว้ให้  การทำตามใจผู้ใหญ่เช่นนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบก็ตาม    แต่ครั้งนี้  ถือเป็นข้อยกเว้นสำหรับมายาวี และ ปริพนธ์
    “ ไม่นึกเลยนะวี  ว่าการที่พ่อทำเรื่องเลวๆไว้กับแม่  มันจะให้ความสบายกับเราแบบนี้” ปริพนธ์พูดกับน้องสาวในวันหนึ่ง  เขาจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะ มายาวีและเขาไม่ต้องการให้ผู้เป็นแม่ มาข้องเกี่ยวกับสิ่งที่เขา และ น้องสาวกำลังจะทำ 
    “  วันนี้ ชั้นจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยซักที  ชั้นเข้ามาอยู่บ้านนี้หลายวันแล้วเหมือนกัน  แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างในบ้านนี้ มันจะยังไงๆอยู่นะ  ชั้นขอประกาศกับทุกคนว่าใครที่คิดจะอยู่บ้านนี้ต่อไป  อย่าได้ทำตัวให้ชั้นรำคาญ  แต่ถ้าใครคิดว่าตัวเองแน่ ชั้นก็ไม่ขอร้องให้อยู่ที่นี่หรอกนะ  โดยเฉพาะคุณชายวายุ” มายาวีออกคำสั่งจัดการทุกอย่างภายในบ้าน  ซึ่งผู้เป็นแม่ไม่มายุ่งเกี่ยวแม้แต่น้อย  เธอหันหลังให้พวกเขาทันทีที่เธอและพี่ชายเซ็นชื่อในพินัยกรรม และก้าวเข้าสู่ความสงบในบั้นปลายชีวิต
    “ ทำไม  ชั้นอยู่ที่นี่มาก่อนที่เธอจะมา  เพราะฉะนั้น  สิทธิ์ที่ชั้นจะอยู่ก็มีพอๆกับเธอ  อีกอย่าง พี่ชายเธอก็แบ่งกิจการส่วนนึง มาให้ชั้นแล้ว..ถ้าชั้นออกไป  ไม่กลัวว่าชั้นจะยักยอกเงินของเธอหรอจ๊ะ น้องสาว”
ชายหนุ่มตอบ ด้วยมาดกวนๆ
    “ ก็ลองดูสิ  นึกว่าชั้นไม่มีปัญญาจัดการกับนายรึไง” มายาวีเชิดหน้าตอบอย่างท้าทาย
    “ พี่วิน  มัวทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ  ไหนบอกว่าจะพาเมออกไป DINNER ไงคะ เมรอพี่วินตั้งนานแล้วนะ  อ้าว  คุณหนูมายาวี อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  ไม่ทันได้มอง” เสียงแหลมสูง ดังมาแต่ไกล ก่อนที่เจ้าของเสียงจะวิ่งมา เกาะแขนวายุ
    “  สงสัยตาเธอคงจะบอดใช่มั๊ย ถึงได้ไม่เห็นชั้น  แล้วนายก็เหมือนกัน  ถ้าเอาเวลาไปสนองความต้องการให้ใครบางคนอย่างเดียวล่ะก็  อย่าลืมนะว่าชั้นมีสิทธิ์ที่จะเรียกทุกอย่างคืนมา  รวมทั้งไล่ใครบางคนออกไปจากที่นี่”  ประโยคสุดท้าย หล่อนหันไปพูดกับเมวิกา โดยเฉพาะ
    “ แหม  ทำมาเป็นวางอำนาจ  พวกคนที่ไม่เคยมีอะไรดีๆแบบนี้ พอได้มาหน่อย ก็ทำเป็นเบ่ง นึกว่าทุกคนต้องยอมแกหมดรึไง มายาวี”  เมวิกาพูด
    “ สำหรับชั้นน่ะ มันก็ไม่เชิง  แต่สำหรับใครบางคน  ชั้นว่าควรจะเจียมกะลาหัว ว่าตอนนี้ใครอยู่ในฐานะอะไร  แล้วถ้าชั้นเป็นเธอ ชั้นจะรีบหุบปาก แล้วก็ไสหัวออกจากตรงนี้ไป ก่อนที่จะไม่มีที่ซุกหัวนอกนะเมวิกา  แล้วก็จูงสัตว์เลี้ยงของเธอไปด้วยนะ”  มายาวีพูดก่อนเดินจากไป  โดยมีสายตาของวายุ มองตามอย่างนึกสนุก  เขามีความคิดที่จะเอาชนะใจสาวน้อยคนนี้ให้ได้  ไม่ว่าวิธีใดก็ตาม 
    “ พี่วิน” เมวิกาเรียก จึงทำให้เขารู้สึกตัวอีกครั้ง  หากแต่ก็ยังมองตามมายาวีไม่คลาดสายตา 
    “ มองมันทำไม  เมเกลียดนังนั่น  ทำไมคุณลุงถึงยกให้มันนะ  แค่มันเห็นหน้าเมครั้งแรกวันนี้ มันก็มาวางอำนาจกับเมแล้ว  พี่วินอย่าทนเลยนะคะ” เมวิกาทำเสียงอ้อน
    “ แต่พี่ว่า ทางที่ดีเมอย่าสนใจเรื่องนี้ดีกว่านะ  มันเป็นเรื่องในครอบครัวของพี่น่ะ พวกเราจัดการกันเองได้” วายุตอบอย่างรำคาญ  และตัดปัญหาโดยการพาเมวิกาออกไปข้างนอก 
    ฝ่ายปริพนธ์นั้น  เขาเริ่มเข้าไปดูกิจการที่พ่อของเขาเป็นเจ้าของ  และควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง จนมายาวีอดรู้สึกชื่นชมในความสามารถของพี่ชายตัวเองไม่ได้
    “ พี่ไม่ได้ทำทุกอย่างหรอก  คาสิโนที่อยู่นอกเขตเรา พี่ก็ให้วายุทำนะ  ส่วนในเขตพี่ค่อยมาดูเอง เพราะมันไว้ใจไม่ค่อยได้เท่าไหร่”
    “ พี่พนธ์  แล้วเรื่องพวกมาเฟียปลายแถวนั่นล่ะ”
    “ เออใช่  พี่ลืมไปเลย”
“ งั้น  วีขอจัดการเอง  คงไม่ยากเท่าไหร่  ขอดูหน่อยแล้วกันว่าพวกมันเคยไปอัดใครมาบ้าง”
    “ เธอแน่ใจเหรอวี” ปริพนธ์พูดอย่างเป็นห่วง  เขาไม่อยากให้น้องสาวได้รับอันตรายจากงานที่เสี่ยงเช่นนี้  แต่เขาก็ต้องใจอ่อน เมื่อเห็นสีหน้าออดอ้อนของเธอ และยอมให้เธอควบคุมสิ่งสำคัญที่สุด ที่พ่อทิ้งไว้ให้ 
    “ งั้นพี่ช่วยเรียกพวกนั้นทุกคน ไปที่ไนต์คลับ ที่พี่กับนายวายุจะไปวันนี้แล้วกัน”
    “ ทุกอย่างที่ฉันมี ที่เป็นของฉัน ฉันขอยกให้ปริพนธ์ และ มายาวี ลูกของฉัน และให้แม่ของพวกเขาดูแลจนกว่าลูกฉันจะบรรลุนิติภาวะ ที่จะครอบครองมันได้ด้วยตัวของเขาเอง  พ่อรู้ว่าลูกอาจจะไม่ชอบทางที่พ่อเคยเดิน  แต่ขอให้พ่อได้ไถ่โทษที่เคยทำไว้  มันเป็นอำนาจของลูกที่จะจัดการเรื่องมรดกอื่นๆ แต่ ‘ เรื่องนั้น ’ พ่อขอร้องให้ลูกทำด้วยตัวเอง  ”
    ข้อความ..ที่กำหนดอนาคตของฉัน และพี่ชาย  ฉันไม่รู้เหตุผล ว่าทำไมพ่อถึงเลือกให้เรา เป็นผู้ครอบครองทุกอย่าง  ทั้งที่มีคนหลายคน  ฝันอยากจะได้มัน  ทำไมพ่อถึงได้ยกมันให้กับคนที่ไม่เคยอยากได้อย่างฉัน .
    “ ไม่มีทาง  ฉันไม่รับเด็ดขาด  เรื่องอะไรลูกของฉันจะต้องไปพัวพันกับเรื่องสกปรกแบบนั้น ”
เสียงแม่โวยวาย เมื่อทนายความอ่านพินัยกรรมที่พ่อทิ้งไว้จบ
    “ ผมแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น  ทุกอย่างเป็นสิทธิ์ของลูกคุณ ทำไมไม่ถามความสมัครใจพวกเค้าดูก่อนล่ะครับ”  ทนายความแย้งขึ้น
    “ ไม่ต้องถามก็รู้  ลูกฉันไม่ใช่พวกจิตใจโหดเหี้ยม  ชอบมีความสุขบนความทุกข์ของคนเป็นร้อยๆ ยังไงซะ ฉันก็ไม่รับคำขอโทษของเขาด้วยวิธีนี้  ฉันเลี้ยงลูกมาคนเดียวได้ตั้ง 20 ปี พวกเขาก็มีความสุข ถึงเราจะจน..แต่เราก็ไม่อยากรวย ด้วยความทุกข์ของคนอื่น”  แม่ฉันยังคงเถียงไม่เลิก
    “  ถามดู ไม่ดีกว่าหรือ” ทนายพูดเพียงเท่านั้น และยื่นเอกสารมาทางฉันและพี่ชาย  ถ้าฉันเซ็น ก็หมายความว่าชีวิตฉันที่ผ่านมา จะเป็นแค่อดีตที่ไม่มีค่าแก่การจดจำ  แต่ถ้าไม่ ความสุขสบายที่ฉันต้องการ มันก็จะไม่ใช่ของฉันอีกต่อไป . 2 ทางที่อยู่ข้างหน้า  ฉันต้องตัดสินใจเลือก
    “ คุณหนู  แค่เซ็นชื่อตรงนี้  พ่อคุณก็จะสบายใจแล้วนะครับ”
    “ อย่ามัวชักช้าได้มั๊ย  อย่ามาทำเล่นตัวเลยน่า รู้ว่าพวกแกอยากได้จนตัวสั่น” เสียงของใครที่ฉันไม่เคยแม้แต่เห็นหน้า  แต่ก็พอเดาออกว่า ไม่ใช่ญาติ ก็คงเป็นฐานะเดียวกับแม่ฉัน (เมียน่ะ) ฉันรู้ว่าการที่พ่อยกทุกอย่างให้ฉัน กับ พี่  มันคงทำลายความฝันของหลายๆคนในที่นี้  แต่ฉันก็ไม่เคยสนใจความรู้สึกของใครนอกจากตัวเองอยู่แล้ว  และตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันต้องพยายามเป็นคนดี ต้องสร้างเกราะปิดบังความจริงไว้ภายใน  มีเพียงพี่ชายฉันคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ .  ตอนนี้ฉันคิดว่า เขาก็คงสับสนเช่นเดียวกัน 
    เหตุการณ์หลังจากนั้น มันก็ได้เปลี่ยนชีวิตฉันไปอย่างสิ้นเชิง ”
    มายาวีเริ่มบันทึก Dairy หลังจากที่ทุกอย่างในชีวิตของเธอ เริ่มจะเปลี่ยนแปลงไป  โดยที่ตัวเธอเองไม่เคยคาดคิดมาก่อน แต่เหตุการณ์หลังจากนั้น .
“  บอกได้ไหม ว่าถ้าผมเซ็น จะเกิดอะไรขึ้น”  ปริพนธ์เอ่ยถามทนายความ
    “  คุณหนูก็จะกลายเป็นคุณปริพนธ์  ไม่ใช่คนที่ผ่านมา และกิจการทุกอย่าง รวมทั้งเอ่อ..คุณก็รู้..ทุกอย่างก็จะเป็นของคุณ กับคุณมายาวี”
    “ น้ำหน้าอย่าง 2 คนนี้น่ะเหรอ  ที่คุณพ่อยกทุกอย่างให้น่ะ  หึ  มันคงมาถึงวาระล่มจมของทุกๆอย่างแน่ๆ”  ชายหนุ่มร่างสูง ผมสีน้ำตาลเข้ม พูดขึ้น
    “ คิดว่าตัวเองเป็นใคร  ถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้”
    “ แล้วเธอล่ะ ทำเป็นเล่นตัวอยู่ได้  ถ้าอยากได้ก็รีบๆรับสิ  หรือว่ากลัวจนไม่กล้าทำอะไร” เขายังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
   
“ ถ้าฉันรับ  แน่ใจนะว่าฉันมีอำนาจจัดการเรื่องทุกอย่างได้  รวมทั้งการไล่ใครออกจากบ้านหลังนี้”
มายาวี หันไปถามทนาย
    “ ครับ ทุกอย่างเป็นสิทธิ์ของคุณ..ตามที่ท่านได้บอกไว้” 
    “ มายาวี อย่าเชียวนะ”  เสียงผู้เป็นมารดาดังขึ้นเบื้องหลังของเธอ
    “ ตกลง ฉันจะเซ็น”  มายาวีพูดอย่างเด็ดเดี่ยว แล้วเซ็นชื่อลงในเอกสารที่ทนายความยื่นให้  ในตอนนี้เหลือเพียงปริพนธ์เท่านั้น  ซึ่งหากเขาตกลง ทุกอย่างก็จะสมบูรณ์  แต่ถ้าเขาไม่ ทุกอย่างก็จะถือเป็นโมฆะ
    “ ฉันก็คงไม่ยอมให้น้องสาวของฉันเผชิญชะตากรรมเรื่องนี้ แค่คนเดียวหรอกนะ”  ปริพนธ์พูด พลางเซ็นชื่อต่อจากมายาวี
    “ ทำไมลูกถึงเป็นแบบนี้ทั้งสองคนเลย” น้ำเสียงผิดหวังของผู้เป็นมารดาดังขึ้น
    “ แม่รู้มั๊ย  ว่าที่ผ่านมา วีต้องทำเป็นคนดี  ต้องเสแสร้งว่าเราสบาย ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว  แต่วันนี้ แม่จะให้วีปฏิเสธทุกอย่างที่วีคิดว่าตัวเองควรจะได้  ทุกอย่างที่ควรจะเป็นของวีตั้งแต่ต้น  วีไม่มีทางปฏิเสธแน่  ขอบคุณนายมากนะ ที่ทำให้ฉันอยากครอบครองทุกอย่าง” หล่อนหันไปพูดกับ ชายหนุ่มคนเมื่อซักครู่อย่างผู้ชนะ
    “ แม่ครับ  ไม่เห็นว่าแม่จะต้องยุ่งอะไรเลย  แค่แม่ดูแลแทนเราไม่กี่ปีเองนี่ครับ  ไม่ได้ยุ่งยากซักหน่อย”  ปริพนธ์พูดขึ้น
    “ ลูกกำลังจะกลายเป็นคนเลว”
    “ ไม่มีคำว่าเลว หรือ ดี หรอกค่ะแม่  มันมีแค่แพ้  กับชนะเท่านั้น ที่จะทำให้เราได้อำนาจมา  อำนาจที่ผู้อ่อนแอ ไม่สามารถไขว่คว้ามันได้”  มายาวีหันหลังจากไป หลังจากวันนี้  เธอจะกลายเป็นอีกคนหนึ่ง เธอต้องเดินในทางสายใหม่ที่ผู้เป็นพ่อเลือกไว้ให้  การทำตามใจผู้ใหญ่เช่นนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบก็ตาม    แต่ครั้งนี้  ถือเป็นข้อยกเว้นสำหรับมายาวี และ ปริพนธ์
    “ ไม่นึกเลยนะวี  ว่าการที่พ่อทำเรื่องเลวๆไว้กับแม่  มันจะให้ความสบายกับเราแบบนี้” ปริพนธ์พูดกับน้องสาวในวันหนึ่ง  เขาจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะ มายาวีและเขาไม่ต้องการให้ผู้เป็นแม่ มาข้องเกี่ยวกับสิ่งที่เขา และ น้องสาวกำลังจะทำ 
    “  วันนี้ ชั้นจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยซักที  ชั้นเข้ามาอยู่บ้านนี้หลายวันแล้วเหมือนกัน  แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างในบ้านนี้ มันจะยังไงๆอยู่นะ  ชั้นขอประกาศกับทุกคนว่าใครที่คิดจะอยู่บ้านนี้ต่อไป  อย่าได้ทำตัวให้ชั้นรำคาญ  แต่ถ้าใครคิดว่าตัวเองแน่ ชั้นก็ไม่ขอร้องให้อยู่ที่นี่หรอกนะ  โดยเฉพาะคุณชายวายุ” มายาวีออกคำสั่งจัดการทุกอย่างภายในบ้าน  ซึ่งผู้เป็นแม่ไม่มายุ่งเกี่ยวแม้แต่น้อย  เธอหันหลังให้พวกเขาทันทีที่เธอและพี่ชายเซ็นชื่อในพินัยกรรม และก้าวเข้าสู่ความสงบในบั้นปลายชีวิต
    “ ทำไม  ชั้นอยู่ที่นี่มาก่อนที่เธอจะมา  เพราะฉะนั้น  สิทธิ์ที่ชั้นจะอยู่ก็มีพอๆกับเธอ  อีกอย่าง พี่ชายเธอก็แบ่งกิจการส่วนนึง มาให้ชั้นแล้ว..ถ้าชั้นออกไป  ไม่กลัวว่าชั้นจะยักยอกเงินของเธอหรอจ๊ะ น้องสาว”
ชายหนุ่มตอบ ด้วยมาดกวนๆ
    “ ก็ลองดูสิ  นึกว่าชั้นไม่มีปัญญาจัดการกับนายรึไง” มายาวีเชิดหน้าตอบอย่างท้าทาย
    “ พี่วิน  มัวทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ  ไหนบอกว่าจะพาเมออกไป DINNER ไงคะ เมรอพี่วินตั้งนานแล้วนะ  อ้าว  คุณหนูมายาวี อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  ไม่ทันได้มอง” เสียงแหลมสูง ดังมาแต่ไกล ก่อนที่เจ้าของเสียงจะวิ่งมา เกาะแขนวายุ
    “  สงสัยตาเธอคงจะบอดใช่มั๊ย ถึงได้ไม่เห็นชั้น  แล้วนายก็เหมือนกัน  ถ้าเอาเวลาไปสนองความต้องการให้ใครบางคนอย่างเดียวล่ะก็  อย่าลืมนะว่าชั้นมีสิทธิ์ที่จะเรียกทุกอย่างคืนมา  รวมทั้งไล่ใครบางคนออกไปจากที่นี่”  ประโยคสุดท้าย หล่อนหันไปพูดกับเมวิกา โดยเฉพาะ
    “ แหม  ทำมาเป็นวางอำนาจ  พวกคนที่ไม่เคยมีอะไรดีๆแบบนี้ พอได้มาหน่อย ก็ทำเป็นเบ่ง นึกว่าทุกคนต้องยอมแกหมดรึไง มายาวี”  เมวิกาพูด
    “ สำหรับชั้นน่ะ มันก็ไม่เชิง  แต่สำหรับใครบางคน  ชั้นว่าควรจะเจียมกะลาหัว ว่าตอนนี้ใครอยู่ในฐานะอะไร  แล้วถ้าชั้นเป็นเธอ ชั้นจะรีบหุบปาก แล้วก็ไสหัวออกจากตรงนี้ไป ก่อนที่จะไม่มีที่ซุกหัวนอกนะเมวิกา  แล้วก็จูงสัตว์เลี้ยงของเธอไปด้วยนะ”  มายาวีพูดก่อนเดินจากไป  โดยมีสายตาของวายุ มองตามอย่างนึกสนุก  เขามีความคิดที่จะเอาชนะใจสาวน้อยคนนี้ให้ได้  ไม่ว่าวิธีใดก็ตาม 
    “ พี่วิน” เมวิกาเรียก จึงทำให้เขารู้สึกตัวอีกครั้ง  หากแต่ก็ยังมองตามมายาวีไม่คลาดสายตา 
    “ มองมันทำไม  เมเกลียดนังนั่น  ทำไมคุณลุงถึงยกให้มันนะ  แค่มันเห็นหน้าเมครั้งแรกวันนี้ มันก็มาวางอำนาจกับเมแล้ว  พี่วินอย่าทนเลยนะคะ” เมวิกาทำเสียงอ้อน
    “ แต่พี่ว่า ทางที่ดีเมอย่าสนใจเรื่องนี้ดีกว่านะ  มันเป็นเรื่องในครอบครัวของพี่น่ะ พวกเราจัดการกันเองได้” วายุตอบอย่างรำคาญ  และตัดปัญหาโดยการพาเมวิกาออกไปข้างนอก 
    ฝ่ายปริพนธ์นั้น  เขาเริ่มเข้าไปดูกิจการที่พ่อของเขาเป็นเจ้าของ  และควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง จนมายาวีอดรู้สึกชื่นชมในความสามารถของพี่ชายตัวเองไม่ได้
    “ พี่ไม่ได้ทำทุกอย่างหรอก  คาสิโนที่อยู่นอกเขตเรา พี่ก็ให้วายุทำนะ  ส่วนในเขตพี่ค่อยมาดูเอง เพราะมันไว้ใจไม่ค่อยได้เท่าไหร่”
    “ พี่พนธ์  แล้วเรื่องพวกมาเฟียปลายแถวนั่นล่ะ”
    “ เออใช่  พี่ลืมไปเลย”
“ งั้น  วีขอจัดการเอง  คงไม่ยากเท่าไหร่  ขอดูหน่อยแล้วกันว่าพวกมันเคยไปอัดใครมาบ้าง”
    “ เธอแน่ใจเหรอวี” ปริพนธ์พูดอย่างเป็นห่วง  เขาไม่อยากให้น้องสาวได้รับอันตรายจากงานที่เสี่ยงเช่นนี้  แต่เขาก็ต้องใจอ่อน เมื่อเห็นสีหน้าออดอ้อนของเธอ และยอมให้เธอควบคุมสิ่งสำคัญที่สุด ที่พ่อทิ้งไว้ให้ 
    “ งั้นพี่ช่วยเรียกพวกนั้นทุกคน ไปที่ไนต์คลับ ที่พี่กับนายวายุจะไปวันนี้แล้วกัน”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น