ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Notitled

    ลำดับตอนที่ #1 : just started

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14
      0
      18 ก.ค. 46

        “.. แล้วทุกอย่างในชีวิตฉันก็ไม่เหมือนเดิม  หลังจากที่พ่อจากเราไป…ฉันต้องทิ้งทุกอย่างที่ผ่านมา และใช้ชีวิตใหม่ กับสังคมใหม่…ที่พ่อเลือกไว้ให้เรา……..

        “ ทุกอย่างที่ฉันมี ที่เป็นของฉัน ฉันขอยกให้ปริพนธ์ และ มายาวี ลูกของฉัน และให้แม่ของพวกเขาดูแลจนกว่าลูกฉันจะบรรลุนิติภาวะ ที่จะครอบครองมันได้ด้วยตัวของเขาเอง  พ่อรู้ว่าลูกอาจจะไม่ชอบทางที่พ่อเคยเดิน  แต่ขอให้พ่อได้ไถ่โทษที่เคยทำไว้   มันเป็นอำนาจของลูกที่จะจัดการเรื่องมรดกอื่นๆ แต่ ‘ เรื่องนั้น ’ พ่อขอร้องให้ลูกทำด้วยตัวเอง  ”



        …ข้อความ..ที่กำหนดอนาคตของฉัน และพี่ชาย  ฉันไม่รู้เหตุผล ว่าทำไมพ่อถึงเลือกให้เรา เป็นผู้ครอบครองทุกอย่าง  ทั้งที่มีคนหลายคน  ฝันอยากจะได้มัน  ทำไมพ่อถึงได้ยกมันให้กับคนที่ไม่เคยอยากได้อย่างฉัน….

        “ ไม่มีทาง  ฉันไม่รับเด็ดขาด  เรื่องอะไรลูกของฉันจะต้องไปพัวพันกับเรื่องสกปรกแบบนั้น ”

    เสียงแม่โวยวาย เมื่อทนายความอ่านพินัยกรรมที่พ่อทิ้งไว้จบ

        “ ผมแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น   ทุกอย่างเป็นสิทธิ์ของลูกคุณ ทำไมไม่ถามความสมัครใจพวกเค้าดูก่อนล่ะครับ”  ทนายความแย้งขึ้น

        “ ไม่ต้องถามก็รู้   ลูกฉันไม่ใช่พวกจิตใจโหดเหี้ยม  ชอบมีความสุขบนความทุกข์ของคนเป็นร้อยๆ ยังไงซะ…ฉันก็ไม่รับคำขอโทษของเขาด้วยวิธีนี้  ฉันเลี้ยงลูกมาคนเดียวได้ตั้ง 20 ปี พวกเขาก็มีความสุข ถึงเราจะจน..แต่เราก็ไม่อยากรวย ด้วยความทุกข์ของคนอื่น”  แม่ฉันยังคงเถียงไม่เลิก

        “  ถามดู ไม่ดีกว่าหรือ” ทนายพูดเพียงเท่านั้น และยื่นเอกสารมาทางฉันและพี่ชาย  ถ้าฉันเซ็น ก็หมายความว่าชีวิตฉันที่ผ่านมา จะเป็นแค่อดีตที่ไม่มีค่าแก่การจดจำ  แต่ถ้าไม่…ความสุขสบายที่ฉันต้องการ มันก็จะไม่ใช่ของฉันอีกต่อไป…. 2 ทางที่อยู่ข้างหน้า  ฉันต้องตัดสินใจเลือก

        “ คุณหนู   แค่เซ็นชื่อตรงนี้  พ่อคุณก็จะสบายใจแล้วนะครับ”

        “ อย่ามัวชักช้าได้มั๊ย  อย่ามาทำเล่นตัวเลยน่า รู้ว่าพวกแกอยากได้จนตัวสั่น” เสียงของใครที่ฉันไม่เคยแม้แต่เห็นหน้า  แต่ก็พอเดาออกว่า ไม่ใช่ญาติ ก็คงเป็นฐานะเดียวกับแม่ฉัน (เมียน่ะ) ฉันรู้ว่าการที่พ่อยกทุกอย่างให้ฉัน กับ พี่  มันคงทำลายความฝันของหลายๆคนในที่นี้  แต่ฉันก็ไม่เคยสนใจความรู้สึกของใครนอกจากตัวเองอยู่แล้ว  และตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันต้องพยายามเป็นคนดี ต้องสร้างเกราะปิดบังความจริงไว้ภายใน  มีเพียงพี่ชายฉันคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ ….  ตอนนี้ฉันคิดว่า…เขาก็คงสับสนเช่นเดียวกัน  

        เหตุการณ์หลังจากนั้น…มันก็ได้เปลี่ยนชีวิตฉันไปอย่างสิ้นเชิง ”

        มายาวีเริ่มบันทึก Dairy หลังจากที่ทุกอย่างในชีวิตของเธอ เริ่มจะเปลี่ยนแปลงไป  โดยที่ตัวเธอเองไม่เคยคาดคิดมาก่อน…แต่เหตุการณ์หลังจากนั้น….

    “  บอกได้ไหม ว่าถ้าผมเซ็น จะเกิดอะไรขึ้น”  ปริพนธ์เอ่ยถามทนายความ

        “  คุณหนูก็จะกลายเป็นคุณปริพนธ์  ไม่ใช่คนที่ผ่านมา และกิจการทุกอย่าง รวมทั้งเอ่อ..คุณก็รู้..ทุกอย่างก็จะเป็นของคุณ กับคุณมายาวี”

        “ น้ำหน้าอย่าง 2 คนนี้น่ะเหรอ  ที่คุณพ่อยกทุกอย่างให้น่ะ   หึ   มันคงมาถึงวาระล่มจมของทุกๆอย่างแน่ๆ”  ชายหนุ่มร่างสูง ผมสีน้ำตาลเข้ม พูดขึ้น

        “ คิดว่าตัวเองเป็นใคร  ถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้”

        “ แล้วเธอล่ะ ทำเป็นเล่นตัวอยู่ได้  ถ้าอยากได้ก็รีบๆรับสิ  หรือว่ากลัวจนไม่กล้าทำอะไร” เขายังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

        

    “ ถ้าฉันรับ  แน่ใจนะว่าฉันมีอำนาจจัดการเรื่องทุกอย่างได้  รวมทั้งการไล่ใครออกจากบ้านหลังนี้”

    มายาวี หันไปถามทนาย

        “ ครับ ทุกอย่างเป็นสิทธิ์ของคุณ..ตามที่ท่านได้บอกไว้”  

        “ มายาวี…อย่าเชียวนะ”  เสียงผู้เป็นมารดาดังขึ้นเบื้องหลังของเธอ

        “ ตกลง…ฉันจะเซ็น”  มายาวีพูดอย่างเด็ดเดี่ยว แล้วเซ็นชื่อลงในเอกสารที่ทนายความยื่นให้  ในตอนนี้เหลือเพียงปริพนธ์เท่านั้น  ซึ่งหากเขาตกลง ทุกอย่างก็จะสมบูรณ์  แต่ถ้าเขาไม่…ทุกอย่างก็จะถือเป็นโมฆะ

        “ ฉันก็คงไม่ยอมให้น้องสาวของฉันเผชิญชะตากรรมเรื่องนี้ แค่คนเดียวหรอกนะ”  ปริพนธ์พูด พลางเซ็นชื่อต่อจากมายาวี

        “ ทำไมลูกถึงเป็นแบบนี้ทั้งสองคนเลย” น้ำเสียงผิดหวังของผู้เป็นมารดาดังขึ้น

        “ แม่รู้มั๊ย  ว่าที่ผ่านมา วีต้องทำเป็นคนดี  ต้องเสแสร้งว่าเราสบาย ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว  แต่วันนี้ แม่จะให้วีปฏิเสธทุกอย่างที่วีคิดว่าตัวเองควรจะได้  ทุกอย่างที่ควรจะเป็นของวีตั้งแต่ต้น  วีไม่มีทางปฏิเสธแน่   ขอบคุณนายมากนะ ที่ทำให้ฉันอยากครอบครองทุกอย่าง” หล่อนหันไปพูดกับ ชายหนุ่มคนเมื่อซักครู่อย่างผู้ชนะ

        “ แม่ครับ   ไม่เห็นว่าแม่จะต้องยุ่งอะไรเลย  แค่แม่ดูแลแทนเราไม่กี่ปีเองนี่ครับ  ไม่ได้ยุ่งยากซักหน่อย”  ปริพนธ์พูดขึ้น

        “ ลูกกำลังจะกลายเป็นคนเลว”

        “ ไม่มีคำว่าเลว หรือ ดี หรอกค่ะแม่   มันมีแค่แพ้  กับชนะเท่านั้น ที่จะทำให้เราได้อำนาจมา  อำนาจที่ผู้อ่อนแอ ไม่สามารถไขว่คว้ามันได้”  มายาวีหันหลังจากไป…หลังจากวันนี้  เธอจะกลายเป็นอีกคนหนึ่ง เธอต้องเดินในทางสายใหม่ที่ผู้เป็นพ่อเลือกไว้ให้   การทำตามใจผู้ใหญ่เช่นนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบก็ตาม    แต่ครั้งนี้  ถือเป็นข้อยกเว้นสำหรับมายาวี และ ปริพนธ์

        “ ไม่นึกเลยนะวี  ว่าการที่พ่อทำเรื่องเลวๆไว้กับแม่  มันจะให้ความสบายกับเราแบบนี้” ปริพนธ์พูดกับน้องสาวในวันหนึ่ง   เขาจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะ มายาวีและเขาไม่ต้องการให้ผู้เป็นแม่ มาข้องเกี่ยวกับสิ่งที่เขา และ น้องสาวกำลังจะทำ  

        “  วันนี้ ชั้นจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยซักที  ชั้นเข้ามาอยู่บ้านนี้หลายวันแล้วเหมือนกัน  แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างในบ้านนี้ มันจะยังไงๆอยู่นะ  ชั้นขอประกาศกับทุกคนว่าใครที่คิดจะอยู่บ้านนี้ต่อไป  อย่าได้ทำตัวให้ชั้นรำคาญ  แต่ถ้าใครคิดว่าตัวเองแน่ ชั้นก็ไม่ขอร้องให้อยู่ที่นี่หรอกนะ  โดยเฉพาะคุณชายวายุ” มายาวีออกคำสั่งจัดการทุกอย่างภายในบ้าน  ซึ่งผู้เป็นแม่ไม่มายุ่งเกี่ยวแม้แต่น้อย  เธอหันหลังให้พวกเขาทันทีที่เธอและพี่ชายเซ็นชื่อในพินัยกรรม…และก้าวเข้าสู่ความสงบในบั้นปลายชีวิต…

        “ ทำไม   ชั้นอยู่ที่นี่มาก่อนที่เธอจะมา  เพราะฉะนั้น  สิทธิ์ที่ชั้นจะอยู่ก็มีพอๆกับเธอ  อีกอย่าง พี่ชายเธอก็แบ่งกิจการส่วนนึง มาให้ชั้นแล้ว..ถ้าชั้นออกไป  ไม่กลัวว่าชั้นจะยักยอกเงินของเธอหรอจ๊ะ น้องสาว”

    ชายหนุ่มตอบ ด้วยมาดกวนๆ

        “ ก็ลองดูสิ  นึกว่าชั้นไม่มีปัญญาจัดการกับนายรึไง” มายาวีเชิดหน้าตอบอย่างท้าทาย

        “ พี่วิน   มัวทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ  ไหนบอกว่าจะพาเมออกไป DINNER ไงคะ เมรอพี่วินตั้งนานแล้วนะ  อ้าว   คุณหนูมายาวี อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  ไม่ทันได้มอง” เสียงแหลมสูง ดังมาแต่ไกล ก่อนที่เจ้าของเสียงจะวิ่งมา เกาะแขนวายุ

        “  สงสัยตาเธอคงจะบอดใช่มั๊ย ถึงได้ไม่เห็นชั้น  แล้วนายก็เหมือนกัน  ถ้าเอาเวลาไปสนองความต้องการให้ใครบางคนอย่างเดียวล่ะก็   อย่าลืมนะว่าชั้นมีสิทธิ์ที่จะเรียกทุกอย่างคืนมา  รวมทั้งไล่ใครบางคนออกไปจากที่นี่”  ประโยคสุดท้าย หล่อนหันไปพูดกับเมวิกา โดยเฉพาะ

        “ แหม  ทำมาเป็นวางอำนาจ  พวกคนที่ไม่เคยมีอะไรดีๆแบบนี้ พอได้มาหน่อย ก็ทำเป็นเบ่ง นึกว่าทุกคนต้องยอมแกหมดรึไง มายาวี”  เมวิกาพูด

        “ สำหรับชั้นน่ะ มันก็ไม่เชิง  แต่สำหรับใครบางคน  ชั้นว่าควรจะเจียมกะลาหัว ว่าตอนนี้ใครอยู่ในฐานะอะไร  แล้วถ้าชั้นเป็นเธอ ชั้นจะรีบหุบปาก แล้วก็ไสหัวออกจากตรงนี้ไป ก่อนที่จะไม่มีที่ซุกหัวนอกนะเมวิกา   แล้วก็จูงสัตว์เลี้ยงของเธอไปด้วยนะ”  มายาวีพูดก่อนเดินจากไป  โดยมีสายตาของวายุ มองตามอย่างนึกสนุก  เขามีความคิดที่จะเอาชนะใจสาวน้อยคนนี้ให้ได้  ไม่ว่าวิธีใดก็ตาม  

        “ พี่วิน” เมวิกาเรียก จึงทำให้เขารู้สึกตัวอีกครั้ง  หากแต่ก็ยังมองตามมายาวีไม่คลาดสายตา  

        “ มองมันทำไม  เมเกลียดนังนั่น  ทำไมคุณลุงถึงยกให้มันนะ  แค่มันเห็นหน้าเมครั้งแรกวันนี้ มันก็มาวางอำนาจกับเมแล้ว  พี่วินอย่าทนเลยนะคะ” เมวิกาทำเสียงอ้อน

        “ แต่พี่ว่า ทางที่ดีเมอย่าสนใจเรื่องนี้ดีกว่านะ  มันเป็นเรื่องในครอบครัวของพี่น่ะ พวกเราจัดการกันเองได้” วายุตอบอย่างรำคาญ  และตัดปัญหาโดยการพาเมวิกาออกไปข้างนอก  

        ฝ่ายปริพนธ์นั้น   เขาเริ่มเข้าไปดูกิจการที่พ่อของเขาเป็นเจ้าของ  และควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง จนมายาวีอดรู้สึกชื่นชมในความสามารถของพี่ชายตัวเองไม่ได้

        “ พี่ไม่ได้ทำทุกอย่างหรอก  คาสิโนที่อยู่นอกเขตเรา พี่ก็ให้วายุทำนะ  ส่วนในเขตพี่ค่อยมาดูเอง เพราะมันไว้ใจไม่ค่อยได้เท่าไหร่”

        “ พี่พนธ์  แล้วเรื่องพวกมาเฟียปลายแถวนั่นล่ะ”

        “ เออใช่  พี่ลืมไปเลย”

    “ งั้น  วีขอจัดการเอง  คงไม่ยากเท่าไหร่  ขอดูหน่อยแล้วกันว่าพวกมันเคยไปอัดใครมาบ้าง”

        “ เธอแน่ใจเหรอวี” ปริพนธ์พูดอย่างเป็นห่วง  เขาไม่อยากให้น้องสาวได้รับอันตรายจากงานที่เสี่ยงเช่นนี้  แต่เขาก็ต้องใจอ่อน เมื่อเห็นสีหน้าออดอ้อนของเธอ และยอมให้เธอควบคุมสิ่งสำคัญที่สุด ที่พ่อทิ้งไว้ให้  

        “ งั้นพี่ช่วยเรียกพวกนั้นทุกคน ไปที่ไนต์คลับ ที่พี่กับนายวายุจะไปวันนี้แล้วกัน”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×