ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คทาวิเศษแห่งอเดนเลีย

    ลำดับตอนที่ #4 : กลิ่นอาย...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11
      0
      21 ก.พ. 47

    ตอนที่ ๔ กลิ่นอาย...





    “ข้าไม่ต้องการให้มีสงครามนะ”แมคซิลล่ายังคงย้ำเจตนารมณ์เดิม



    “เงียบ แมคซิลล่า เจ้าไม่รู้อะไรเลย”กษัตริย์โพเซอร์ตะโกนดั่งเสียงกัมปนาท



    “ท่านพ่อ เราอยู่อย่างนี้ก็เป็นสุขดีแล้ว เหตุใดเล่าต้องทำสงครามเพื่อเป็นจ้าวโลก”



    “เจ้านี่ไม่สมควรเกิดเป็นลูกข้าเลย”



    “เรื่องนั้นข้าก็คิดเช่นกัน เราอยู่อย่างสงบมันก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว”



    “หยุดนะ แมคซิลล่า ถ้าเจ้ายังจะขวางข้า ข้าคงต้องตัดหางปล่อยวัดเจ้า”



    “ข้ายินดีให้ท่านพ่อทำ ข้าไม่อยากเป็นพวกชอบทำสงคราม ข้าต้องการให้บ้านเมืองสงบ ร่มเย็น และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป ข้าขอขัดขวางท่าน ท่านพ่อ”



    “ทหาร”องค์กษัตริย์เรียก “พาเจ้าหญิงไปขังไว้บนหอคอยทางทิศตะวันออก”



    “ท่านพ่อ ทำแบบนี้กับข้าไม่ได้นะ”



    “ทำไมไม่ได้เล่า ข้าเป็นราชา ข้าเป็นพ่อเจ้า อีกอย่างข้าว่าเจ้าเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวให้กับ นีเลซ กษัตริย์แหงแอลรีวันได้แล้ว”



    “ท่านพ่อ บังคับข้าไม่ได้นะ”เจ้าหญิงร้อง



    “เอาตัวไปขังไว้”



    ทหารพาตัวเจ้าหญิงแมคซิลล่าไปที่หอคอยทิศตะวันออก ซึ่งเป็นที่พักผ่อนของเจ้าหญิงอยู่แล้ว แต่คราวนี้เธอดันถูกขังเสียนี่



    ทางด้านกษัตริย์นีเลซแห่งแอลรีวัน เขาดีใจเป็นยิ่งหนักที่จะได้แต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งแรคดแลนด์ ถึงแม้จะมีเชื้อสายปีศาจก็ตามที่ แต่เจ้าหญิงก็สวยมาก ความสวยของเธอสามารถลบคำว่าปีศาจออกไปได้



    “เตรียมงานแต่งงานเอาไว้ให้พร้อมล่ะ”กษัตริย์นีเลซกล่าว



    “ได้เลยขอรับ”อิมแพร์คนสนิทรับคำบัญชาและออกจากห้องไป



    “เจ้าดีใจกับข้าหน่อยสิที่ข้าจะได้แต่งงานน่ะ น้องสาวของข้า”กษัตริย์พูดกับน้องสาว



    “ยินดีด้วย พี่ข้าท่านจะได้ครอบครองอเดนเลียรวมทั้งคทาวิเศษนั่นด้วย”ซาวานีกล่าว



    “ใช่แล้วซาวานี ข้าจะเป็นใหญ่เพียงผู้เดียว ข้าจะได้ยืนเคียงข้างเจ้าน้องสาวข้า รวมทั้งเจ้าสาวของข้า ข้าช่างเป็นผู้โชคดีเหลือเกิน”



    ...............................    ....................................



    มอลฟาขยับตัวลุกขึ้น ส่วนแซนนินยังนอนไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย มอลฟาเอื้อมมือไปปลุกเธอ เขาเขย่าตัวเธอไปมา



    “ตื่นได้แล้ว”มอลฟาเรียก



    “อย่ายุ่งน่า”แซนนินส่งเสียงงัวเงียกลับมา



    “ถ้าไม่ตื่นเนี่ย ข้าคงต้องให้เจ้าทำอาหารในเช้านี้ให้ข้ากินเสียแล้วล่ะ”มอลฟาบอก



    “ข้าตื่นแล้ว”แซนนินลุกขึ้นทันที



    “ดี จะได้ไปต่อ”



    “จะจับข้าจริงๆเหรอ”



    “มันเป็นหน้าที่ของข้านี่”มอลฟาบอก “แล้ว...ข้าชื่อ...มอลฟา”



    “มอล...ฟา...”แซนนินทวนคำเบาๆ



    ทั้งสองเดินทางต่อไปผ่านแม่น้ำที่ไหลอย่างไม่ย้อนกลับ นกน้อยส่งเสียงร้องอย่างแจ่มใสในยามเช้าที่มีกลิ่นอายแห่งความสงบไปทั่วป่า ลำธารที่น่าลงเล่นน้ำเสียยิ่งกว่าอะไรแซนนินได้แต่มองอย่างเสียดาย



    “มอลฟา”แซนนินเรียก



    “อะไรอีกล่ะ”



    “ข้าหิว”



    “หิว ไว้ไปกินในคุกแล้วกันนะ”มอลฟาบอก ‘แดกดัน จริงนะ’แซนนินคิด



    “โอ้ย หิว หิวจริงๆนะ”



    “เรื่องของเจ้าสิ ไม่ใช่เรื่องของข้า”



    “นี่หาอะไรกินหน่อยไม่ได้เหรอไง”



    “เจ้าก็หยิบเอาเองสิ อยู่บนหัวเจ้าน่ะ”



    แซนนินเงยหน้าขึ้นไป ผลสีแดงสดชนหัวเธอ มันคือต้นแอปเปิ้ล ผลแอปเปิ้ลชนหัวเธอพอดี แซนนินเงยหน้าขึ้นเก็บทีละผลตามทางที่เดินไป



    “อย่อยดีอัง ท่านอินไอมอ่ะ” (อร่อยดีจัง ท่านกินไหมล่ะ) แซนนินยื่นแอปเปิ้ลให้มอลฟา เนื่องจากอาหารอยู่เต็มปากการพูดจึงทำได้ยากสักหน่อย



    “ไม่ข้าไม่หิว เจ้ากินเถอะ”



    “อามใอ” (ตามใจ)



    “อีกประมาณสองสามชั่วโมงก็ถึงพระราชวังแล้ว”มอลฟารายงาน



    “...”คำพูดนั้นทำให้แซนนินทานแอปเปิ้ลไม่ลงทั้งที่มันอร่อยถ้ากลืนลงคออย่างยากลำบาก เหมือนการกินอาหารนั้นเธอไม่เคยรู้วิธีมาก่อน



    เวลาผ่านไปมีแต่ความเงียบ แซนนินหมดสนุกกับการเดินทางออกมาไกลขนาดนี้ เธอเกิดอาการซึมเศร้าทันที ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบบุคคลในหมู่บ้านของเธอ แต่เธอโตมาจากที่นั่นเธอรักที่นั่น เธอรู้สึกแย่ที่จากที่นั่นมา และการจากมานี่ไม่ใช่ว่าเธอจะมาเที่ยว แต่เธอโดนคุมขัง ต่อจากนี้ประมาณสองสามชั่วโมงเธอก็จะไม่ได้กลับบ้านอีก ทำให้เธอคิดถึงสายน้ำที่เธอเคยไปนั่งโยนก้อนหินใส่และสัตว์น้อยใหญ่ริมหมู่บ้าน ความซึมเศร้าของแซนนินดูเหมือนจะแผ่รังสีออกไปทั่วทำให้นกน้อยที่เคยร้องเพลงพากันเงียบไปเสียหมด ป่าเต็มไปด้วยความเงียบเหงา ลมพัดผ่านใบหน้าไปเอื่อยๆ แต่ไม่ได้พาความสุขมาให้ผู้ที่กำลังนั่งอยู่บนหลังม้าเสียเท่าใดนัก



    ในที่สุดสพินนิ่งม้าที่องอาจก็พามอลฟาและแซนนินมาถึงหน้าพระราชวัง แซนนินลงจากม้า มอลฟาเอาตัวเธอเข้าไปในปราสาท



    “จะพาไปไหน”แซนนินถามอย่างไม่รู้สึกรู้สาและเย็นชาในถนัดตา



    “เจ้าก็รู้ เจ้ามาที่นี่ทำไมล่ะ”มอลฟาตอบ



    มอลฟาพาแซนนินลงบันไดที่ปูลาดด้วยหินอ่อน แต่เมื่อลงไปลึกๆแล้ว กลิ่นสาบรุนแรงของคุกใต้ดินก็เข้าจมูกเธอ จนเธอยังต้องเอามืออุดจมูกไว้พร้อมกับกับไอออกมาเล็กน้อย มอลฟาหันมามอง



    “อยู่ไปเดี๋ยวก็ชิน”มอลฟาบอก



    กลิ่นสาบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อเดินลงไปลึกๆ จนแซนนินถามว่า “จะลงไปถึงไหน”



    “ก็จนกว่าจะถึงใต้สุดของปราสาทนั่นแหละ”มอลฟาตอบ อันที่จริงเขาก็สงสารเธออยู่เหมือนกัน เธอเพิ่งจะสิบหก แต่ต้องมาอยู่คุกใต้ดินที่เต็มไปด้วยนักโทษที่น่ากลัวทั้งนั้น แล้วยังมีกลิ่นสาบเลือดแบบนี้ แต่เขาช่วยอะไรเธอไม่ได้เพราะว่านี่คือสิ่งที่เจ้าชายสั่งมา ถ้าจะว่าไปอีริคเองก็มีประสบการณ์ถูกกักบริเวณที่นี่มาแล้ว เขาก็น่าจะเข้าใจอยู่หรอกนะว่ามันเลวร้ายแค่ไหน มอลฟาชำเลืองดูแซนนิน เพิ่งเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่าแซนนินมีท่าทีกลัวอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาเดินมาถึงที่ขังนักโทษทั้งหลายแล้วในที่สุด ลูกกรงที่กว้างมากพอที่จะเอามือออกมาได้ กำแพงหินเย็นๆข้างหลัง คบไฟตามทางเดิน ทางเดินก็แคบมาก และยังมีความมืด มืดเสียจนแซนนินยังกลัวถึงจะมีคบไฟ ตามทางแล้วก็จริง แต่เธอยังคงกลัว และเมื่อเดินเข้าไป นักโทษทั้งหลายไม่ว่าชายหญิงก็เอามือออกมานอกลูกกรงพยายามจะจับขาแซนนินกับมอลฟา แซนนินโดนชายแก่คนหนึ่งจับขาของเธอไว้ เขาเป็นคนที่น่ากลัวมากที่สุดเท่าที่แซนนินเคยเห็น ฟันของเขาหักไปหลายซี่ ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตาเต็มไปด้วยบาดแผล



    “ปล่อยข้านะ”แซนนินร้อง มอลฟาหันมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น



    “ปล่อยเธอซะ ถ้าเจ้าไม่อยากตาย”มอลฟาพูดเสียงเข้ม ชายแก่แค่นหัวเราะและปล่อยขาเธอ“อยู่ใกล้ๆข้าไว้”มอลฟากำชับ แซนนินเดินเข้ามาประชิดตัวมอลฟา



    นักโทษทั้งหลายไขว่คว้าโหยหาอิสรภาพ เสียงร้องของพวกเขาบาดหูของแซนนิน นั่นทำให้เธอกลัวมากขึ้น แซนนินเดินตามมอลฟาอย่างประชั้นชิดเธอจับด้านหลังเสื้อคลุมของเขาแน่นมีเหงื่อผุดขึ้นตามใบหน้า



    “โทษของข้าหนักขนาดต้องมาอยู่ที่นี่เลยหรือ”แซนนินถามเสียงสั่น



    “เป็นคำสั่งที่ขัดไม่ได้”มอลฟาบอก “ข้าไม่อยากให้เจ้าอยู่ที่นี่หรอกนะ ข้ารู้ว่าเจ้ากลัว ใครที่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่มักจะเป็นบ้า ถูกขังลืมและโยนกุญแจห้องทิ้ง ลูกกรงกับผนังร่ายเวทกำกับไว้ไม่ ให้หนีไปได้อย่างเด็ดขาดต่อให้เจ้าใช้เวทได้ก็เถอะ”



    “แล้วข้าล่ะ ข้าต้องอยู่ที่นี่จนตายเลยเหรอ”แซนนินเสียงสั่นมากขึ้น



    “อันนั้นข้าไม่รู้หรอกนะ”มอลฟาหันมามองเธอแล้วลูบหัว



    “ท่าน ข้าขอร้องล่ะให้ข้าทำอะไรก็ได้ แต่อย่าให้ข้าอยู่ที่นี่เลยนะ”



    “ข้าไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ”



    “ข้ากลัว ข้ายอมรับ ขอร้องช่วยข้าที”แซนนินพูดไปร้องไห้ไป “ข้าอยากกลับบ้าน ถึงข้าจะไม่ชอบที่นั่นก็เถอะ” มอลฟาหยุดเดินและหันมาหาเธอ แซนนินเข้าไปหาเขาทันทีและเกือบจะกระโดดกอดเขาเพราะว่ามีนักโทษชายคนหนึ่งกำลังเขย่าลูกกรง



    “หยุดเดี๋ยวนี้”มอลฟาสั่ง เขาดึงแซนนินหันหลังกลับและเดินกลับไปทางเก่า



    “ท่านจะพาข้าไปไหน”



    “เจ้าอยากอยู่ที่นี่ หรืออยากอยู่ข้างนอก”มอลฟาถามเขาเริ่มไม่เข้าใจตัวเองเข้าไปทุกที ‘นี่ข้าทำอะไรอยู่ เราสมควรจะยัดเธอใส่ห้องขัง แต่ทำไมข้าทำไม่ลงแบบนี้ล่ะ’ เขาคิด



    “ต้องข้างนอกสิ”



    “หยุดร้องไห้ได้แล้ว”



    “หยุดแล้ว”แซนนินบอกแต่เสียงของเธอยังคงสั่นเครือ



    “ไม่ยุติธรรมนี่”เสียงนักโทษหญิงชราคนหนึ่งดังลอดออกมา “ท่านมอลฟา ท่านพ่ายแพ้ต่อน้ำตาผู้หญิงงั้นหรือ ไม่สมเป็นจอมเวทที่เคยตามจับโจรร้ายเลยนะ”  



    “เจ้าไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย”มอลฟาหันไปตะคอกใส่



    “มีคนเคยทำแบบเดียวกับแม่หนูคนนั้นแต่ท่านไม่เห็นสนใจเลยนะ หรือท่านเกิดความคิดสงสารคนเป็นขึ้นมา ไม่น่าเชื่อ เมื่อก่อนท่านทำให้คนอื่นพลัดพรากจากกัน พลัดพรากหลายคนจากครอบครัว แต่คราวนี้ท่านหัดสงสารเป็น ข้าอยากจะหัวเราะจริงๆ”นักโทษส่งเสียงหัวเราะแบบบ้าๆบอๆใส่ทั้งสองคน



    “ไปเถอะ”มอลฟาพูด ดึงแซนนินออกไป



    .................................    .....................................



    “มอลฟา ข้าได้ข่าวมาจากเจ้าหญิงแมคซิลล่าว่า...”อีริคพูดไม่ทันจบเมื่อเห็นว่ามอลฟาพาผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา



    “ไม่... ไม่ได้ เธอเพิ่งจะสิบหกเองนะอีริค ในนั้นน่ากลัวขนาดไหนท่านก็รู้ ตอนเด็กๆท่านเคยถูกทำโทษให้อยู่ในนั้นตั้งสองอาทิตย์ ท่านก็รู้ดี”มอลฟาพูขึ้นก่อนที่อีริคจะทันถามอะไร



    “เรื่องนั้นช่างเถอะ เรื่องจอมโจรด้วย มีเรื่องสำคัญยิ่งกว่าตอนนี้”อีริคบอก



    “อะไร”



    “เจ้าหญิงแมคซิลล่าผู้รักความสงบ โดนขังอยู่บนพอคอยทิศตะวันออกนางแอบส่งจดหมายมาหาเราโดยใช้นกพิราบสื่อสาร”



    “เกิดอะไรขึ้นที่แรคดีแลนด์”แซนนินเผลอถามขึ้น



    อีริคและมอลฟาหันมามองเธอ



    “ข้า...ข้าขอโทษข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะมายุ่ง ข้ายืนฟังเฉยๆก็ได้”แซนนินพูดอย่างหวาดๆ มันก็น่าหวาดอยู่ไม่ใช่หรือ



    “เป็นคำถามที่ดีว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น”มอลฟาเห็นด้วย



    “และมีอีกว่ากษัตริย์โพเซอร์กับกษัตริย์นีเลซติดต่อกันมากขึ้นกว่าเดิม และที่แมคซิลล่าเพื่อนเราโดนขังก็เพราะว่าไม่ยอมแต่งงานกับนีเลซ”



    “แปลกมาก ที่จู่ๆพ่อจะขังลูกแค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้”แซนนินเสนอความเห็นอย่างลืมตัว



    “นั่นสิ เรื่องแค่นี้เอง”อีริคเห็นด้วย



    “เจ้าชายขอรับ”ข้ารับใช้คนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา



    “มีอะไรรึดอนนิช”อีริคถาม



    “แย่แล้วขอรับ ปีศาจหลายตัวเลยขอรับบุกเข้ามาที่ปราสาทขอรับ”เขาพูด



    “ปีศาจ”ทั้งสามคนพูดพร้อมกัน



    “แล้วประชาชนล่ะ”อีริคถาม



    “โดนเล่นงานขอรับ”



    “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”มอลฟาบอก



    “ท่านจะไปไหนน่ะ”แซนนินถาม



    “ก็ออกไปฆ่าปีศาจไงล่ะ”มอลฟาตอบ



    “ข้าไปด้วย”แซนนินบอก



    “มีเจ้าไปเกะกะเปล่าๆ เจ้าอย่าลืมว่าเพราะเจ้าทำให้ข้าเจ็บตัวมาครั้งหนึ่ง”



    “ก็ข้าจะไปนี่”



    “เจ้านี่ดื้อจริงๆ... ก็ได้... แต่อย่าเกะกะข้านะ”



    “ชนะแล้ว”แซนนินร้อง



    “เร็วเข้า ถ้าเจ้าจะไป”



    “มอลฟาเจ้าไปจัดการปีศาจทางด้านหน้าเมือง ข้าจะจัดการที่ปราสาท”อีริคบอก



    “ได้ไม่มีปัญหา”มอลฟาเออออห่อหมก



    อีริคเดินออกมาที่หน้าปราสาท คอยปกป้องไม่ให้ปีศาจเข้าไปข้างในได้



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×