ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : การเปลี่ยนแปลง
    หลังจากที่เปิดภาคเรียนใหม่ไปได้สักพัก ดู ๆ แล้วทุกอย่างเริ่มที่จะเข้าที่เข้าทางล่ะ ส่วนกิ๊บ ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นคนร่าเริง มีมนุษยสัมพันธ์ดีมากทีเดียวเลยล่ะ  เขามักจะคอยดึงฉันให้เข้ากลุ่มกับเพื่อน ๆ หรือไม่ก็มักจะมาคอยอยู่ใกล้ ๆ ชวนคุย แต่น่าแปลกที่ฉันไม่ยักจะรำคาญเธอสักเท่าไหร่  ออกจะดีใจเสียด้วยซ้ำที่ได้คุยกับเธอ มาถึงจุดนี้อาจจะบอกได้ว่า ฉันได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว จากเดิมเพื่อน ๆ ในห้องก็ไม่ค่อยจะคุยกับฉันเท่าไหร่  เมื่อกิ๊บเข้ามาอย่างที่ฉันบอกไปแล้ว เธอเหมือนจะพยายามดึงฉันให้เข้ากับเพื่อน ๆ ตอนแรกเพื่อนในห้องคงเห็นฉันดูเงียบ ๆ ล่ะมั้ง ถึงไม่ค่อยจะเข้ามาคุยเท่าไหร่  นอกเสียจากว่าเป็นการทำงานเป็นกลุ่มถึงจะคุยกัน  แต่ตอนนี้เพื่อน ๆ ก็มาคุยกับฉันบ้าง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องงานถึงจะคุยกัน
    เพื่อน ๆ ในห้องมักพูดว่าฉันกับกิ๊บสนิทกันดี ฉันก็ว่าจริง เพราะไม่ว่าไปไหนมาไหนฉันกับกิ๊บก็จะไปด้วยกันเสมอ  ติดกันนิดที่เรียกว่า “ติดกันเป็นแตงเม” เลยล่ะ เมื่อมีปัญหาหรือไม่ว่าเรื่องอะไรเราก็จรับฟังอีกฝ่ายและช่วยหาทางแก้ไขให้เสมอ  ตอนนี้ฉันรู้สึกอยากไปโรงเรียนเร็ว ๆ ด้วยซ้ำ  ไม่อยากให้มีวันหยุดเลย จะได้เจอกับกิ๊บทุก ๆ วัน  ฉันคิดว่าอย่างนี้อาจจะเรียกว่า “เพื่อนแท้” แล้วก็ได้
    ตั้งแต่กิ๊บย้ายมาฉันก็ไม่เคยถามเรื่องที่ทำไมเธอถึงย้ายโรงเรียนมา และดูเหมือนว่าเธอจะย้ายโรงเรียนตลอดเลยด้วยซ้ำตั้งแต่เด็ก ๆ  แต่ฉันก็ไม่เคยถามเลย เมื่อกะว่าจะถามก็มักจะลืมไปเสมอ  กิ๊บมักจะหยุดเรียนบ่อย หรือไม่ก็มาเรียนแค่ครึ่งวันแล้วก็กลับ  ฉันอยากจะถามเธอด้วยซ้ำ แต่พอถามกิ๊บก็มักจะบอกว่า
    “ไม่มีอะไรหรอกจ่ะ  แค่ที่บ้านที่ธุระนิดหน่อย”  เธอพูดพร้อมกับยิ้มบาง ๆ
    ฉันชอบที่เห็นกิ๊บยิ้ม ฉันรู้สึกว่ารอยยิ้มเธอนั้นสดใสมาก เมื่อได้เห็นเธอยิ้มเมื่อไรฉันก็อดไม่ได้ที่จะต้องยิ้มตามเสมอ รอยยิ้มแลเสียงหัวเราะของเธอดูสดใสเหมือนนกที่ร้องเพลงรับแสงตะวันในยามเช้า  ฉันเคยพูดกับเธอว่า
    “โตขึ้น กิ๊บน่าจะไปสมัครประกวดนางสาวไทยนะ กิ๊บยิ้มสวยออก”  เมื่อฉันพูดอย่างนี้ ใบหน้าของเธอก็จะดูสลดลง
    “ถ้ามีโอกาส นะจ๊ะ” เธอตอบกลับมายอย่างร่าเริงเหมือนเคย ทั้ง ๆ ที่ฉันเห็นแววตาเธอนั้นเศร้าอยู่ ฉันค่อนข้างจะติดใจกับคำพูดนั้นและสีหน้าของเธอ แต่กิ๊บก็พูดขึ้นมาก่อน
    “อืม! ฉันว่าพรุ่งนี้เราไปเที่ยวกันไม๊จ๊ะ  ฉันว่าอากาศคงดีนะ”
    “ได้สิ ฉันก็ว่างอยู่แล้ว”  ฉันตอบรับไปอย่างนั้น  แต่ถ้านี่เป็นเมื่อก่อนล่ะ ฉันคงจะไม่ตอบรับอย่างนี้ไปหรอก คงจะปฏิเสธไปแล้วล่ะ
    ในตอนนั้นถ้าฉันถามเธอกลับไปว่าในคำพูดที่ฉันติดใจนั้น  มีความหมายอะไรแอบแฝงหรือไม่  เมื่อมาถึงในวันนี้ ฉันอาจจะไม่เสียใจเท่านี้ก็เป็นได้
    เพื่อน ๆ ในห้องมักพูดว่าฉันกับกิ๊บสนิทกันดี ฉันก็ว่าจริง เพราะไม่ว่าไปไหนมาไหนฉันกับกิ๊บก็จะไปด้วยกันเสมอ  ติดกันนิดที่เรียกว่า “ติดกันเป็นแตงเม” เลยล่ะ เมื่อมีปัญหาหรือไม่ว่าเรื่องอะไรเราก็จรับฟังอีกฝ่ายและช่วยหาทางแก้ไขให้เสมอ  ตอนนี้ฉันรู้สึกอยากไปโรงเรียนเร็ว ๆ ด้วยซ้ำ  ไม่อยากให้มีวันหยุดเลย จะได้เจอกับกิ๊บทุก ๆ วัน  ฉันคิดว่าอย่างนี้อาจจะเรียกว่า “เพื่อนแท้” แล้วก็ได้
    ตั้งแต่กิ๊บย้ายมาฉันก็ไม่เคยถามเรื่องที่ทำไมเธอถึงย้ายโรงเรียนมา และดูเหมือนว่าเธอจะย้ายโรงเรียนตลอดเลยด้วยซ้ำตั้งแต่เด็ก ๆ  แต่ฉันก็ไม่เคยถามเลย เมื่อกะว่าจะถามก็มักจะลืมไปเสมอ  กิ๊บมักจะหยุดเรียนบ่อย หรือไม่ก็มาเรียนแค่ครึ่งวันแล้วก็กลับ  ฉันอยากจะถามเธอด้วยซ้ำ แต่พอถามกิ๊บก็มักจะบอกว่า
    “ไม่มีอะไรหรอกจ่ะ  แค่ที่บ้านที่ธุระนิดหน่อย”  เธอพูดพร้อมกับยิ้มบาง ๆ
    ฉันชอบที่เห็นกิ๊บยิ้ม ฉันรู้สึกว่ารอยยิ้มเธอนั้นสดใสมาก เมื่อได้เห็นเธอยิ้มเมื่อไรฉันก็อดไม่ได้ที่จะต้องยิ้มตามเสมอ รอยยิ้มแลเสียงหัวเราะของเธอดูสดใสเหมือนนกที่ร้องเพลงรับแสงตะวันในยามเช้า  ฉันเคยพูดกับเธอว่า
    “โตขึ้น กิ๊บน่าจะไปสมัครประกวดนางสาวไทยนะ กิ๊บยิ้มสวยออก”  เมื่อฉันพูดอย่างนี้ ใบหน้าของเธอก็จะดูสลดลง
    “ถ้ามีโอกาส นะจ๊ะ” เธอตอบกลับมายอย่างร่าเริงเหมือนเคย ทั้ง ๆ ที่ฉันเห็นแววตาเธอนั้นเศร้าอยู่ ฉันค่อนข้างจะติดใจกับคำพูดนั้นและสีหน้าของเธอ แต่กิ๊บก็พูดขึ้นมาก่อน
    “อืม! ฉันว่าพรุ่งนี้เราไปเที่ยวกันไม๊จ๊ะ  ฉันว่าอากาศคงดีนะ”
    “ได้สิ ฉันก็ว่างอยู่แล้ว”  ฉันตอบรับไปอย่างนั้น  แต่ถ้านี่เป็นเมื่อก่อนล่ะ ฉันคงจะไม่ตอบรับอย่างนี้ไปหรอก คงจะปฏิเสธไปแล้วล่ะ
    ในตอนนั้นถ้าฉันถามเธอกลับไปว่าในคำพูดที่ฉันติดใจนั้น  มีความหมายอะไรแอบแฝงหรือไม่  เมื่อมาถึงในวันนี้ ฉันอาจจะไม่เสียใจเท่านี้ก็เป็นได้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น