ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : วันที่หัวใจกลายเป็นศูนย์
        ลานจอดรถหน้าบ้านหลังงามยังคงว่างเปล่า  ไร้เจ้าของพื้นที่ที่เคยอาศัยอยู่เป็นประจำ มันไม่ใช่เพียงแค่วันนี้
เท่านั้นนะ แต่มันปาเข้าไปเกือบเดือนแล้วที่เหตุการณ์เหล่านั้นเวียนวนเป็นเช่นนี้และก็คงจะเป็นอยู่อย่างนี้ตลอดไป
        ใบไม้ที่ปลิดปลิวจากต้นสูงตระหง่านตรงหน้าบ้าน ลอยละล่องลงสู่พื้นผิวถนนใบแล้ว ใบเล่า  บางใบถึงกาล
อันควรเป็นใบแก่ที่ถึงกาลร่วงหล่นตามวันเวลา แต่หากบางใบนั้นเป็นใบอ่อนที่เพิ่งผลิใบ กลับร่วงหล่นก่อนกาลอันควร .. เหมือนชีวิตของ
ผู้คนที่มีเกิด แก่ เจ็บ และตาย  คนบางคนใช้ชีวิตตามขั้นตอนที่สวรรค์สั่งให้เป็น แต่บางคนโชคร้ายที่ชีวิตพลิกผันไม่เป็นไปตามขั้นตอน  ทุกอย่างมันมีเหตุผลในตัวของมันเอง
        สายตาที่จดจ้องของคีรินกำลังเชื่อมโยงถึงความนึกคิดหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับตัวของหล่อน  ชีวิตที่เพิ่ง
เริ่มต้นได้ไม่นานอาจกำลังร่วงหล่นและปลิดปลิวจากทางที่ควรจะเป็น เหมือนกับใบไม้ .
        ใบไม้ใบอ่อนที่เพิ่งผลิใบและกำลังร่วงหล่นลงบนผืนดิน
        ภาพอดีตที่เริ่มต้นเมื่อไม่นานกำลังฉายภาพวันวานที่ชื่นสุข  ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยความรักและความเข้าใจ 
ชีวิตทั้งชีวิตที่หล่อนถอดวางไว้และมอบให้กับชายคนหนึ่ง  คนที่คือความหวังและทุก ๆ อย่างของชีวิต  ชีวิตที่มองความรัก
คือ ความสวยงามและเป็นนิรันดร์
        “ รู้จักเขาดีแล้วหรือลูก ”  คำถามนี้คีรินอยากจะกลับไปตอบแม่ของหล่อนอีกสักครั้ง คำตอบที่ไม่ใช่
คำตอบเดิม ด้วยเหตุผลข้อใหม่ที่หล่อนได้ค้นพบและน่าที่จะค้นพบมานานแล้ว
        “ ลูกดูเขาผิดไป ”  คำตอบนี้เป็นคำตอบใหม่ที่น่าจะทำให้ชีวิตของหล่อนมีความสุขมากกว่านี้ และแม่
ของหล่อนคงชื่นใจ แต่ด้วยวันเวลาที่มันผ่านไปแล้ว มันจะมีความหมายอะไร นอกจากความขื่นขมใจอยู่อย่างนั้น   
        คีรินพบกับผู้ชายคนนี้ในงานวันรับพระราชทานปริญญาบัตรเมื่อวันสำเร็จการศึกษา จากการแนะนำ
ของเพื่อนสาว
        “ นี่ คุณภูชิชย์  กสินันท์ ”
        คำแนะนำจากเพื่อนสาวมันทำให้โลกทั้งโลกมีแต่ความฝัน เขาคือสุภาพบุรุษที่วาดหวัง  รูปงาม  ร่ำรวย 
มีชื่อเสียง  รอยยิ้มบนใบหน้าที่เกลี้ยงเกลา  จมูกคมสันได้รูป  ดวงตาที่แลดูมีเสน่ห์มัดใจ ล้วนเป็นภาพสะกดที่ทำให้ลมหายใจ
ของคีรินเข้าออกเป็นผู้ชายคนนี้
                        ความรักทำให้คนตาบอด จริงหรือ
        ไม่หรอก ไม่ใช่
        ความรักทำให้เห็นทางสว่างมากกว่า ทางที่จะก้าวไปสู่ความฝันที่วาดหวัง
        วาดหวังให้เป็น . และจะเป็น
        “ รินจะแต่งงานกับเขาค่ะแม่ ”    คำพูดนี้คือการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวของคีริน หลังจากที่ความสัมพันธ์
ระหว่างหล่อนและเขาสานต่อเพียงช่วงเวลาอันสั้น
        ทุกอย่างคือความถูกต้องที่ควรตัดสินได้ ด้วยตัวของคีรินเอง
        “ แน่ใจแล้วหรือลูก ลูกคบกับเขาได้ไม่เท่าไหร่เอง ความรักมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะลูก
ให้เวลากับมันอีกสักหน่อย เรียนรู้กันไป มันไม่สายหรอกเพื่อความมั่นใจของเรา ”
        แม่ของหล่อนแย้งขึ้น เพราะมองลูกสาวของตัวเองออกว่าคีรินรักหรือหลงเขากันแน่
        “ รินมั่นใจค่ะแม่ ภูรักริน เขาอยากจะสร้างอนาคตร่วมกับริน และรินก็มั่นใจ ”
        คำพูดนี้ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงความนึกคิดของคีรินได้ แม่ของหล่อนรู้ว่าถึงอย่างไรคีรินคงไม่ฟัง 
        แต่มาวันนี้ .. ถ้าแม่ได้มาเห็นสภาพของลูกสาวของแม่  แม่คงจะรู้ว่า ความล้มเหลวมันเกิดขึ้นแล้ว
เกิดขึ้นเพราะ
        “ แม่จ๋า รินไม่มั่นใจในตัวเขาเลย ”
        คีรินสะกัดกั้นอารมณ์อย่างหนักหน่วง หล่อนบอกกับตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว ไม่ใช่เพราะหล่อนเข้มแข็ง
แต่เพียงเพราะว่าหล่อนร้องไห้มามากเหลือเกินแล้ว  ตั้งแต่ได้รับรู้ว่า ภูชิชย์สามีของหล่อนกำลังนอกใจ เขากำลังมีผู้หญิงใหม่
เมียน้อยที่สาวและสวยกว่าหล่อนนัก
        หลายครั้งที่หล่อนกับเขาต้องมีปากเสียงกันเพราะเรื่องนี้
        “ ภูหายไปไหนมา “  คำถามนี้หล่อนมักจะถามเขาทุกครั้งเมื่อภูชิชย์กลับบ้าน
        “ ไปติดต่องาน “ 
        แค่นั้น เขาตอบเพียงแค่นั้น
        “ ติดต่องาน งานอะไรตั้งเกือบเดือน “ 
        ภูชิชย์เป็นคนพูดน้อย ทุกครั้งที่คีรินซักหนักถึงเหตุผล ความเงียบไม่ปริปากแม้สักนิด คือ การแสดงออก
แทนการตอบโต้นั้น  คีรินรู้ว่าที่เขาเงียบ นั่นคือ คำตอบของเขา
        “ ในที่สุดภูก็ตอบรินไม่ได้  ไปหาอีนังเมียน้อยมาใช่ไหม “
        “ เมียน้อยที่ไหนกัน รินอย่าคิดมากสิ “
        “ ภูตอบคำถามรินไม่ได้ จะให้รินคิดยังไง  รินเป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายก็จริง แต่ภูไม่รู้หรอกว่า
ความช้ำใจเสียใจทิ่รินได้รับอยู่ตอนนี้ มันไม่มีกฎหมายบทไหนมารองรับได้เลย “
        คำตอบของภูชิชย์ในความคิดของคีริน มีเพียงอย่างเดียวคือการนอกใจ ถึงแม้หล่อนเคยนึกอยู่บางครั้งว่า 
หล่อนอาจให้ความอยุติธรรมแก่เขามากเกินไป แต่จะให้หล่อนคิดอะไรไปมากกว่านี้เล่า
    ภูชิชย์ไม่ใช่คนที่ตอบโต้ด้วยอารมณ์ร้ายในการแสดงออก แต่อากัปกริยาที่ชินชาและเมินเฉยของเขา ไม่สามารถที่จะทำให้
อีกฝ่ายรับรู้ได้เลยว่า เขากำลังคิดอะไรอยู่ ณ ขณะนั้น ทุกอย่างที่น่าใช่และไม่น่าใช่จึงตกอยู่ที่อีกฝ่ายอย่างหนักหน่วง 
                                มิน่าเล่า ความเสียใจน้อยใจจึงประดังเข้ามาหาคีรินอย่างมากโขขนาดนั้น
        แม้ว่าหล่อนจะมีลูกกับเขา อย่างนั้นหรือ
        มันน่าน้อยใจนัก เลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ยังไม่ค่อยสนใจ
        นับประสาอะไรกับอีกชีวิตหนึ่ง .. ที่กำลังเป็นส่วนเกินไปแล้วนั่น
        มันจะมีความหมายอะไรขึ้นมา .
                      **************************************************************************************   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น