กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายตัดฟืนอาศัยอยู่ในป่า
ทำมาหากินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และแน่นอน จนกระทั่งวันหนึ่ง
จึงปรากฏเทวดาตรงหน้าชายตัดฟืน
“ เราจะมอบของล้ำค่ำ เพื่อเป็นรางวัลตอบแทนที่เจ้าเป็นคนดี มันคือ ยักษ์วิเศษ
“ เทวดากล่าว และบรรยายสรรพคุณต่อ “ เจ้ายักษ์ตนนี้มีความสามารถสูงมาก
มันเกิดมาเพื่อทำงาน มันสามารถทำงานให้เจ้าได้ทุกสิ่ง ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และที่สำคัญมันทำงานได้เร็วมาก ๆ เลย “ “ เทแต่
.” เทวดาเว้นวรรคเล็กน้อย
แล้วจึงกล่าวต่อ “ เจ้าต้องระวัง หากเจ้าไม่สามารถหางานให้มันทำได้ละก็
มันจะกลับมาเล่นงานเจ้าเอง มันจะเล่นงานเจ้าถึงตายเชียวนะ “
ชายตัดฟืนตัดสินใจรับยักษ์วิเศษไว้ เขาพามันกลับบ้าน ทันทีที่เข้าบ้าน
ยักษ์ตนนั้นก็เริ่มกล่าวว่า “ นาน ๆ มีอะไรให้ข้า ฯ ทำบ้าง “
ชายตัดฟืนมอบหมายให้ยักษ์ไปทำความสะอาดบ้านที่รกรุงรัง
ตัวเองก็กระหยิ่มใจที่จะได้พัก ขณะที่เขากำลังจะเอนตัวลงงีบ
ก็ได้ยินเสียงดังชัดเจนข้างหูว่า “ นาย ๆ ข้า ฯ ทำความสะอาดบ้านเสร็จแล้ว
มีอะไรให้ข้าทำอีก “
ชายตัดฟืนมองกวาดไปรอบ ๆ บ้าน อย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง บ้านสะอาดหมดจด
ไม่มีที่ติ เหงื่อเม็ดโป้งผุดขึ้นเต็มหน้าผาก เขาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
สั่งให้เจ้ายักษ์ไปผ่าฟืนที่เขาทำค้างไว้
มันเป็นงานชิ้นใหญ่ที่ทำให้เขาพอมีเวลา
จากนั้นชายตัดฟืนรีบไปปรึกษาท่านผู้รู้ประจำหมู่บ้าน หลังฟังคำแนะนำ
ชายตัดฟืนกลับถึงบ้าย เจ้ายักษ์ก็เสร็จงานผ่าฟืนพอดี
ชายตัดฟืนเริ่มทำตามแผนทันที เขาสั่งยักษ์ให้พาตนไปยังต้นไม้สูงกลางป่า ณ
ตรงต้นไม้นั้น เขาสั่งเจ้ายักษ์ให้ลิดกิ่ง ลิดใบออกจนหมด
ต้นไม้สูงต้นนี้จึงดูเหมือนเสาโล้น ๆ ต้นหนึ่ง
“ นับจากนี้ไป “ ชายตัดฟืนกล่าว “
เมื่อใดที่เจ้ายืนอยู่ที่โคนต้นงานของเจ้าคือ ให้ปีนเขาไปจนสุดปลายยอดไม้ “
เขาเว้นเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อ “ และเมื่อใดที่เจ้าอยู่ที่ปลายยอดไม้
งานของเจ้า คือ ให้ปีนลงมายังโคนต้นไม้ “
คำสั่ง 2 คำสั่ง นี้ ทำให้เจ้ายักษ์ทำงานเป็นวงจรอันไม่รู้จบ ผลก็คือ
เมื่อใดที่ชายตัดฟืนมีงานให้ทำ เขาก็เรียกเจ้ายักษ์มาใช้
ครั้นเมื่องานเสร็จสิ้นลง เขาก็ใช้เจ้ายักษ์ไปปืนต้นไม้
..
ยักษ์วิเศษตนนี้ก็คือ ความคิดของมนุษย์นั่นเอง
ใช่หรือไม่ที่ความคิดของมนุษย์เป็นสิ่งที่มีความสามารถสูง
เป็นสิ่งที่เร็วยิ่ง มนุษย์มีเทคโนโลยีอันทันสมัย เดินทางไปถึงดวงจันทร์ได้
ก็เพราะความคิดนี่เอง แต่
.บ่อยครั้งที่เราพบว่าความคิดนี่แหละ
กลับมาเล่นงานมนุษย์เสียเอง บางคนคิดมากจนบั่นทอนสุขภาพ
บ้างถึงกับต้องจบชีวิตตนเองลงด้วยซ้ำ ก็เพราะเจ้าความคิดนี่เอง
ต้นไม้ในนิทานก็คือลมหายใจในตัวเรานั่นเอง ซึ่งจะเดินทางขึ้นลง
จากปอดขึ้นสู่จมูก จากจมูกลงสู่ปอดเท่านั้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ผู้มีปัญญาย่อมรู้จักที่จะใช้ความคิดของตนให้เกิดประโยชน์
ครั้นเมื่อว่างจากการคิด
ก็ควรหมั่นฝึกนำจิตของตนมารู้อยู่กับลมหายใจเข้าและลมหายใจออก
ผู้ที่ทำได้เช่นนี้ ก็จะยังชีวิตที่เป็นประโยชน์และเป็นสุข
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น