และแล้วรอยยิ้มก็กลับมา... - และแล้วรอยยิ้มก็กลับมา... นิยาย และแล้วรอยยิ้มก็กลับมา... : Dek-D.com - Writer

    และแล้วรอยยิ้มก็กลับมา...

    โดย voodoo

    ฉันแทบถลาไปรับโทรศัพท์ทันทีทันใด เพราะรู้ว่าต้องเป็นเขา และก็ใช่จรงิๆด้วย...

    ผู้เข้าชมรวม

    941

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    941

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 มิ.ย. 46 / 20:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เย็นวันหนึ่งบรรยากาศเงียบเหงาเหลือเกิน ฉันคงเป็นคนสุดท้ายที่เดินออกจากโรงเรียน เสียงคำพูดของเพื่อนสนิทยังคงก้องอยู่ในหู  “ฉันกลับก่อนนะวันนี้ฉันมีนัด เธอคงทำเวรคนเดียวได้นะ”  ไม่ต้องบอกฉันก็รู้ว่าเพื่อนของฉันมีนัดกับแฟนของเธอ แต่ไม่เป็นไรหรอกเพื่อเธอฉันทำเวรคนเดียวได้ สายฝนที่ตกพรำไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกอะไรมากไปกว่า คิดถึงคนที่เคยเดินเคียงข้างกัน กางร่มให้ยามฝนตก เดินคุยกันไปหัวเราะไป บัดนี้เขาห่างฉันไปไกลสุดขอบฟ้า ฉันเดินตากฝนอย่างนี้คนเดียวมาหลายวันแล้ว พวกเพื่อนๆของฉันต่างแยกย้ายกันไป บ้างก็ไปเที่ยวด้วยกัน บ้างก็ไปเที่ยวกับแฟน แต่ฉันไม่มีอารมณ์จะไปเดินเที่ยวกับใคร จึงปฏิเสธคำชักชวนของเพื่อนได้โดยไม่ต้องคิด ฉันเดินไปที่ป้ายรถเมล์ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือซึ่งบอกเวลา 18.00 น. ฉันคิดอะไรมาเรื่อยๆจนมารู้ตัวอีกทีฉันก็ก้าวมานั่งริมหน้าต่างบนรถเมล์แล้ว ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างโดดเดี่ยว คิดถึงใบหน้าของใครบางคนพร้อมกับจดหมายภาษาอังกฤษที่ส่งมาจากต่างประเทศ ฉันอ่านไปเป็นสิบรอบแล้วที่ยังไม่รู้สึกเบื่อเลย ฉันนั่งอ่านไปเงียบๆโดยไม่รู้จะพูดอะไรกับใครดีถ้ามีเขาอยู่ฉันคงไม่เงียบอย่างนี้ เพราะปกติฉันเป็นคนคุยเก่งยิ่งเราเข้าขากันแล้วย่อมไม่มีความเงียบบังเกิดขึ้นแน่ๆ   “น้องๆเมื่อไหร่จะลงสักทีพี่วนรอบเมืองแล้วนะ” เสียงคนขับตะโกนดังมาจากหน้ารถ ฉันจึงตะโกนกลับไปว่า  “ขอโทษค่ะ” พร้อมกับก้าวขาลงจากรถเมล์เพื่อเดินเข้าบ้าน
          บนโต๊ะอาหารมื้อเย็นวันนี้ฉันนั่งรับประทานอาหารได้ไม่มากนัก ทั้งๆที่มีแต่ของโปรดของฉัน ไก่อบน้ำผึ้ง ผัดกระเพราปลาหมึก ต้มยำกุ้ง แต่ฉันกลับลุกออกจากโต๊ะอาหารก่อนคนอื่นพร้อมกล่าวคำว่า  “ขอโทษค่ะ หนูขอตัว”  แล้วเดินเข้าห้องนอนไปอย่างเงียบๆ วันนี้ไม่มีการบ้านบวกกับความอ่อนเพลียจากการทำเวรคนเดียว ฉันจึงตัดสินใจปิดไฟและล้มตัวลงนอน แสงโคมไฟสลัวๆจากโคมไฟที่เขาทำให้ฉัน  ทำให้ฉันนอนคิดอะไรเพลินๆท่ามกลางความคิดถึง แต่ทันใดนั้น  “กริ๊งๆ” เสียงโทรศัพท์ภายในห้องดังขึ้น มันทำให้ฉันสะดุ้งสุดตัวและตื่นจากภวังค์ ฉันแทบจะถลาไปรับโทรศัพท์ทันทีทันใด เพราะรู้ว่าต้องเป็นเขา และก็ใช่จริงๆด้วย เราคุยกันเป็นภาษาไทยบ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง แต่ใจความก็คือ เขาโทรมาขอโทษที่ต้องอยู่ต่ออีก 1 เดือนและบอกกับฉันว่า เขาคิดถึงฉัน หลังจากวางโทรศัพท์ฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว หยดน้ำตาแห่งความคิดถึงได้ไหลระรินอาบสองแก้มของฉันและแล้วโทรศัพท์ก็ได้ดังอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่เขา กลับเป็นเพื่อนของเขา โทรมาบอกถึงแผนการที่จะเกิดในวันพรุ่งนี้ ฉันไม่ค่อยจะเชื่อเพื่อนของเขาเท่าไหร่แต่ฉันก็จะลองดู ก่อนนอนฉันได้บ่นพึมพำกับตัวเองว่า  “นายตัวแสบ”
          เช้าวันรุ่งขึ้นฉันไปโรงเรียนด้วยหน้าตาที่แจ่มใสกว่าปกติ หลังจากที่ฉันไม่เคยยิ้มมาเป็นเวลา 1 เดือนเต็มๆที่เขาจากไป สิ่งที่เพื่อนของเขาบอกเมื่อคืนยังคงก้องอยู่ในหู มันทำให้ฉันรู้สึกว่าเวลาหมุนไปช้าเหลือเกิน วันนี้ฉันมีสอบวิชาคณิตศาสตร์แต่ฉันรู้สึกไม่มีสมาธิในการทำข้อสอบเลย ทั้งๆที่พยายามแล้ว แต่ใครบ้างล่ะจะไม่ตื่นเต้นเมื่อคนที่เรารอกำลังจะมาถึง  “ไหมๆอาจารย์เรียกพบ” เพื่อนคนหนึ่งในห้องเดินมาเรียกฉัน ฉันรีบวิ่งไปห้องพักอาจารย์และหยุดสนทนากับอาจารย์อยู่ครู่ใหญ่ พอฉันออกจากห้องพักอาจารย์ฝนก็เทโครมลงมา แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่จะทำให้ฉันลองเชื่อเพื่อนของเขาดู ฉันวิ่งตากฝนไปจนเกือบจะถึงสนามบินแล้ว แต่อยู่ดีๆโลกก็หมุนไวขึ้นๆจากนั้นฉันก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
          ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นและกระพริบตาถี่ๆเห็นผู้ชายคนหนึ่ง ฉันดีใจมากตะโกนเรียกเขาสุดเสียง  “ลี” เขาโผเข้าหาและลูบหัวฉัน บอกฉันว่า  “เป็นไงบ้างหายรึยัง”  “หายแล้ว ไหมมาอยู่ที่นี่ได้ไงล่ะ แล้วลีกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ลีเริ่มเล่าให้ฉันฟังว่า เขาเพิ่งรู้ว่าเจฟฟรี่ได้เล่าแผนการของเขาให้ฉันฟัง เขารู้ว่าฉันจะต้องไปรอเขาที่สนามบิน แต่ทำไมช้านักล่ะ เขาพอรู้แล้วว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ เขาจึงตามไปตามทางโรงเรียนและได้พบฉันล้มอยู่กลางทาง เขาจึงได้อุ้มฉันมาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด  “ผมคิดถึงคุณ” เสียงอ้อนๆของลีบอกฉัน  “ลีพาไหมไปทานไอศกรีมได้รึเปล่า ไหมมีอะไรจะบอกลีนะ”  “Yes. Of course!”  และหลังจากนั้นทั้งสองได้ออกไปหาไอศกรีมทาน หลังรับประทานเสร็จ ลีพาฉันมาส่งที่ห้องและลากลับเพื่อให้ฉันได้พักผ่อน  “LEE!! I miss you so much and love you so much too!!”  ฉันพูดกับลีพร้อมกับเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มลีฟอดใหญ่  “ลี-ไป-ก่อน-นะ- พัก-ผ่อน-ให้-มากๆ-นะ-หาย-ไวๆ-ล่ะ I love you so much too, baby!!! “ ลีพูดพร้อมลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู ฉันปิดไปและล้มตัวลงนอนด้วยความสุขที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว พร้อมที่จะตื่นไปเผชิญกับวันข้างหน้าที่มีลีเดินอยู่เคียงข้างอย่างอิ่มเอิบใจ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×