สาวร้านดอกไม้กะนายช็อคโกแล็ต(Red Rose Chocco Cake) - สาวร้านดอกไม้กะนายช็อคโกแล็ต(Red Rose Chocco Cake) นิยาย สาวร้านดอกไม้กะนายช็อคโกแล็ต(Red Rose Chocco Cake) : Dek-D.com - Writer

    สาวร้านดอกไม้กะนายช็อคโกแล็ต(Red Rose Chocco Cake)

    ดอกไม้และเค้กคือสิ่งที่เชื่อมคนทั้งคู่ไว้ด้วยกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    824

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    824

    ความคิดเห็น


    19

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 48 / 15:03 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      สาวร้านดอกไม้กะนายช็อคโกแล็ต(Red Rose Chocco Cake)

                                    ในเมืองเล็กๆที่ค่อนข้างจะเป็นเมืองเข้าไปทุกทีเพราะการที่ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้เข้ามาครอบคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทยรวมทั้งบ้านของโรสลูกสาวคนเดียวของร้านดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้(ก็มันมีแค่ร้านเดียวจะให้เล็กกว่าร้านไหนอีกล่ะ) ข้างบ้านของโรสเป็นร้านเค้กที่เปิดมานานพอๆกับร้านดอกไม้นั่นแหละเพราะแม่ของเธอกับบ้านโน้นเป็นเพื่อนกันมาก่อนจึงมาตั้งร้านใกล้กัน ยามเช้าของที่นี่ช่างสดชื่นเสียจริงๆ ไร้มลพิษที่มีอยู่ทั่วไปหมดตามเมืองใหญ่ ดวงอาทิตย์ที่กำลังแหวกม่านเมฆออกมานั้นทำให้รู้สึกถึงความพยายามในการมีชีวิตอยู่ได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับใครบางคนนั้นไม่ใช่อย่างแน่นอน

      กริ้งงงงงงงงงงงงงงงงงง กริ้งงงงงงงงงงงงงง

                           เสียงนาฬิกาปลุกดังอยู่ใกล้หูของโรสที่กำลังรื่นรมย์กับการนิทราที่ยาวนานนั่น   เธอยื่นมือน้อยๆที่ดูบอบบางออกมาจากผ้าห่มที่คลุมตัวเธอมิดชิดจนทำให้ร่างบางๆของเธอกลมอย่างกับโดเรมีก็ไม่ปาน แล้วก็จัดการคว้าที่หัวเตียงไปทั่วจนข้าวของที่วางตกลงบนพื้นไปทั่ว

                           ในที่สุดเธอก็เจอตัววายร้ายตัวต้นเรื่อง ที่มาของเสียงที่ทำลายความสุขในการนอนของของเธอ  เธอไม่รีรอให้มันร้องได้ต่อไปด้วยการจัดการสะกดมันด้วยเวทมนต์ที่เธอมีอยู่นั่นเอง คือการเอาถ่านขนาดAAออกมาแล้ว ก็จัดการขว้างไปที่มุมห้อง ปัง! นาฬิกาเรือนนั้นไปนอนแน่นิ่งและไม่ส่งเสียงร้องอีกต่อไป  ตายเสียได้ก็ดี น่ารำคาญนัก

                            แต่แล้วแม่มดในคราบของนางฟ้าก็มายื่นปรากฏกายอยู่ที่ปลายเตียงนอนของเธอพร้อมกับดึงผ้าห่มออกจากตัวโรส แต่เธอไม่ยอมหรอกก็นี่มันวันอาทิตย์นี่นา  เธอยื้อมันไว้สุดชีวิตแต่ก็ไม่เป็นผล ผ้าห่มถูกลากออกจาเตียงลงไปกองอยุ่ที่พื้นเรียบร้อยโรงเรียนแม่เธอเสียแล้ว

                            “แมจ๋า ขอนอนอีกนิดไม่ได้เหรอ? วันนี้น่ะวันอาทิตย์น่ะ ขอหนูนอนอีกหน่อยล่ะกันน่ะ”โรสพูดเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอทั้งที่ดวงตายังคงปิดอยู่และไม่มีที่ท่าว่าจะยอมเปิดออกมาพบกับแสงแรกของวันเลย ทั้งที่มันออกมาทักทายเธอมาตั้งนานแล้ว

             “ไม่ได้ เรานี่จริงๆเลย ไม่เคยคิดจะแบ่งเบาภาระกันบ้างเลยน่ะ พ่อแก่ก็เหมือนกันตัดช่องน้อยแต่พอตัวสบายไปคนเดียว ฉันล่ะเหนื่อยใจจริง เฮ้ออออออออออ”

                         แม่ของโรสเอาแต่ถอนหายใจเมื่อพูดถึงพ่อของเธอที่จากไปอยู่สวรรค์เมื่อ10ปีก่อนปล่อยให้แม่ต้องเลี้ยงดูเธอมาเพียงลำพัง เพราะธุรกิจที่พ่อของเธอทำต้องปิดตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจฟองสบู่แตกทำให้พ่อเธอล้มละลายและตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองโดยไม่ได้คิดเลยว่าการตายของตัวเองจะส่งผลกระทบต่อคนข้างหลังที่ยังต้องปากกัดteenถีบกันต่อไปยังไง  แต่สำหรับแม่ของเธอนั่นไม่ใช่เลยเพราะเธอก็ไม่เคยเห็นแม่ร้องไห้ให้เธอเห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียวหรือเพราะว่าการร้องไห้ไม่ได้ช่วยให้มีข้าวกินขึ้นมา มิหน่ำซ้ำยังสิ้นเปลืองงบประอีกล่ะมั้งเลยทำให้แม่ของเธออดทนต่อสู้มาจนถึงวันนี้  เธอไม่เคยเห็นแม่ออกปากบ่นสักคำว่าเหนื่อย ทั่งๆที่วันทั้งวันไม่ได้หยุดพัก  เดียวทำโน่นทีเดียวทำนี่ยังกับเด็กไฮเปอร์ เธอคิดในใจ

      แม่นี่แหละ หญิงเหล็กตัวจริง  

                         โรสจำใจต้องตื่นทั้งที่อยากนอนแค่ไหนเพราะแม่มานั่งบ่นอยู่ที่ปลายเตียงโดยที่ไม่ยอมไปไหนเสียทีและมีที่ท่าว่าหากเธอไม่ลุกแม่ไม่ไปไหนเหมือนกัน

                          “บอกแล้วว่าอย่านอนให้มันดึกนัก อินเตอร์เนตน่ะเล่นเข้าไปถ้าเล่นแล้วอิ่มโดยไม่ต้องกินข้าวล่ะก็ ข้าวปลาก็ไม่ต้องกิน เล่นให้มันตายกันไปข้างหนึ่งเลย”

                           “อ่ะ! ยอมแล้ว ลุกก็ได้ เป็นอย่างนี้ทุกทีเลย”เธอหันไปทางแม่พร้อมส่งค้อนอันใหญ่ให้

                            ฝ่ายแม่ของโรสเมื่อเธอเห็นว่าลูกสาวคนเดียวยอมเอาตัวออกจากผ้าห่มที่มองดูแล้วเหมือนลูกชิ้นหมู เธอจึงหันมาส่งยิ้มแป้นให้กับลูกสาวอย่างกับว่าได้เป็นผู้ที่กำชัยชนะไว้ในมือแล้ว ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงของลูกสาวที่ยกนี้ขอยกธงขาวยอมแพ้ก่อน  แต่ก่อนที่จะเปิดประตูห้องออกไปนั้นเธอหันมาเอ่ยกับลูกสาวที่นั่งอยู่บนเตียงว่า

                            “ป้าวี บอกว่าเค้กเขาจะกลับมาวันนี้  แม่เลยจะให้ลูกเอาดอกไม้ไปให้พี่เค้าน่ะ แล้วรีบเข้าล่ะพี่เค้าจะมาถึงตอน11โมง”

                            ปัง! แม่ปิดประตูแล้วเดินลงไปด้านล่างปล่อยให้ลูกสาวคนเดียวนั่งอยู่ในห้อง

      นายนั่นกลับมาแล้วเหรอแล้วนี่ฉันจะทำยังไงล่ะเมื่อได้เจอหน้าเขา!! ตายแน่ๆคราวนี้

                             โรส  ยังคงนั่งอยู่ที่เตียงพลางคิดถึงเมื่อสมัยที่เธอยังเป็นเด็กอยู่    แล้วทันใดนั้นภาพของวันเวลาในวัยเด็กของเธอก็แย่งกันผุดขึ้นมาในห้วงคำนึงของเธออีกครั้ง        ตอนแรกที่เธอมาอยู่ที่นี่เธอยังเล็กมาก พอจะไปเล่นกับคนอื่นก็ไม่มีใครให้เล่นด้วย ไม่มีใครยอมคุยกับเธอเลยแม้สักคนเดียว       พอเธอเดินย่างกายเข้าไปที่ตรงไหนมีอันวงแตกเป็นผึ้งรังแตกทันที      แต่พอเค้าเข้ามาทุกคนก็ดูจะให้ความสนใจเค้าคนเดียว     อย่างกับว่าเค้าคือดวงอาทิตย์แล้วคนอื่นคือดาวเคราะห์ที่จะต้องหมุนไปรอบๆดวงอาทิตย์เสมอ      ไม่ว่าเค้าจะทำอะไรทุกคนจะทำตามเค้าหมด        ตอนนั้นจำได้ว่าจะเล่นซ่อนแอบกัน        พอเริ่มเล่นโรสก็ไปซ่อนแต่รอแล้วรอเล่ารออยู่นานก็ไม่มีใครหาเธอเจอสักที

                            ฟ้าก็เริ่มมืด ดวงอาทิตย์กำลังจะบอกลาขอบฟ้าไปเข้านอนก่อนจะปลุกให้ดวงจันทร์มาเฝ้ายามแทนตัวเองที่เมื้อยล้ากับการเฝ้ามองโลกที่สวยงามแล้วก่อนที่ตัวเองจะหลับไหลภายใต้ราตรีกาลอันยาวนานและรอคอยการกลับมาพบกับโลกของมันอีกครั้ง  เธอนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว แต่แล้วก็มีมือน้อยๆของใครคนหนึ่งก็ยื่นอมยิ้มมาให้และบอกกับเธอว่าไม่ต้องกลัวเดี่ยวเค้าจะเป็นคนพากลับไปบ้านเอง    นั่นคือความทรงจำที่ดีที่เธอยังคงจำได้

                             เค้าคือฮีโร่อันดับหนึ่งสำหรับเธอเสมอถ้าไม่นับรวมกับพ่อที่อยู่บนสวรรค์      แล้วจู่ๆวันหนึ่งเค้าก็มาบอกว่ากำลังจะไปเรียนต่อด้านการทำเค้กที่ฝรั่งเศส     ไปทำตามความฝันของตัวเอง     ใช่ตอนเด็กเค้าอยากเป็นพ่อครัวทำเค้กและในที่สุดเค้าก็คว้ามันมาอยู่ในมือของเค้าจนได้     วันที่เค้าออกเดินทางเธอร้องไห้ตามเค้าสุดฤทธิ์    น้ำมุกน้ำตาเปอะแก้มไปหมดคงเพราะเธอกลัวจะไม่มีใครเล่นด้วยล่ะมั้งถึงได้ทำอย่างนั้นแต่แล้วมันก็ไม่สำเร็จให้เธอร้องไห้จนน้ำตาแห้งเหือด อ้อนวอนจนหมดแรงก็ไม่สามรถรั้งเค้าไว้ได้ในที่สุดเค้าก็จากไป
        
                              เวลา4 ปีที่เค้าไม่อยู่มันช่างยาวนานเสียจริงๆแต่เธอก็ไม่เหงาอีกแล้วเพราะเธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่ไม่มีใครคบ และเธอก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งร้องไห้จนขี้มูกไหลอีกแล้ว

                               โรส  อาบน้ำแล้วลงมาจัดช่อดอกไม้พอจัดเสร็จเธอก็ไปยืนที่หน้าร้าน เมื่อนาฬิกา บอกเวลา11โมง รถยนต์ของที่บ้านเค้าก็แล่นมาจอดที่หน้าร้านของเค้า ผู้เป็นพ่อจอดรถและเดินลงมาที่ท้ายรถเพื่อเอากระเป๋าเดินทางของลูกชาย  แล้วชายหนุ่มอีกคนเดินตามลงมาและเดินตามผู้เป็นพ่อไปช่วยหยิบกระเป๋า เพียงแค่       แว่บแรกที่เธอเห็นเขา หัวใจของเธอมันก็พลันแต่จะเต้นแรง แรงขึ้น จนเกือบจะหยุดเต้นเมื่อเค้าหันมาทางที่เธอยืนอยู่

                              “พ่อครับเดี๋ยวเค้กทำเอง” เขากล่าวกับผู้เป็นพ่อและยื่นมือไปรับกระเป๋า

                                “ไม่ต้องหรอกแกรีบไปหาแม่เถอะ ดูซิยืนน้ำตาไหลที่เห็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกลับมา ถ้าจะเป็นเอามาก”   พ่อของเค้กพูดพร้อมกับส่ายหน้าเมื่อเห็นภรรยามีอาการบ่อน้ำตาแตก

                               เค้กรีบเดินไปหาแม่ที่ยื่นอยู่พร้อมกับยกมือไหว้ แล้วก็สวมกอดกัน โรสมองแล้วให้นึกถึงเมื่อสี่ปีก่อน เหมือนกับมันเพิ่งเกิดไปไม่นาน   เค้กหันมาทางเธออีกครั้งพวกเขาสบตากัน โรสรีบหลบสายตาคู่นั้นทันที พลางคิดในใจ

      นายนี่พอโตขึ้นก็หล่อไม่เบาแฮะ !!  แถมดวงตาคู่นั้นยังสวยมากๆเสียด้วยซิ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยสังเกตเลย เธอจ้องหน้าเค้าเขม็งก่อนคนที่ถูกมองจะหันมา

                               “หวัดดีโรส “เขาทักทายเธอหลังจากที่กล่าวทักทายแม่ของเธอไปก่อนแล้ว

                                 “หวัดดี ยินดีตอนรับกลับบ้าน อ่ะให้”เธอส่งช่อดอกไม้ที่มีดอกทานตะวันกับดอกแกลดิโอลัสส่งให้เค้าพร้อมกับแถมค้อนอีกอันหนึ่งด้วย เค้ารับไปแล้วก็ยิ้มบางๆที่มุมปากนิดหน่อยพร้อมกับมองช่อดอกไม้อย่างชื่นชม

                                 “ดอกไม้นี่มีความหมายว่าอะไรล่ะ” เขาถามแล้วหันมาทาง โรสเป็นเชิงบอกให้รู้ว่า เค้าถามเธออยู่

                                 “ดอกแกลดิโอลัส   หมายถึง  ยินดีด้วยสำหรับความสำเร็จครั้งนี้ ส่วนทานตะวันหมายถึง ความเชื่อมั่นและความมั่นคง”โรสหันไปตอบแล้วก็เดินกลับเข้าบ้านของตัวเอง

                                    “อ้าวไม่ไปบ้านป้าก่อนเหรอหนูโรส เผื่อทีพี่เค้กจะซื้อของมาฝาก”

                                    “ไม่ล่ะค่ะ หนูขอไปเฝ้าร้านดีกว่า”เธอรีบเดินเข้าไปในบ้านทันทีหลังพูดจบ ปล่อยให้คนเป็นแม่เป็นงงกับการกระทำของบุตรสาว

                                      “อย่าไปใส่ใจเลยน่ะ เค้ก โรสมันก็เป็นแบบนี้ล่ะผีเข้าผีออกเอาแน่เอานอนไม่ได้ ”

                                      “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ถือ”เขายิ้มให้แม่ของโรสอย่างสดใส แต่ในใจกลับคิดถึงหน้าของโรสยามเมื่อเธอมองหน้าเค้า แล้วสายตาที่มองนั่นที่มองเค้ามันหมายความว่าไง?  เขาไมเข้าใจจริงๆว่าเธอคิดยังไงดีใจที่เค้ากลับมาหรือไม่ดีใจกันแน่

                                      “นี่ก็เย็นแล้วน่ะ ทำไม? แม่ไม่ยอมกลับมาซักที ไม่รู้หรือไงว่าลูกหิวข้าว” โรสนั่งมองชามม่าม่าที่ตอนนี้เหลือแค่น้ำติดก้นชามเท่านั้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอหายหิวซักนิดแถมท้องเจ้ากรรมของเธอมันดันไม่รักดีร้องตลอดเวลาเสียนี่

      แอ้ดดดดดดดด...................

                                         เสียงแม่เปิดประตูหน้าบ้านเข้ามาแล้วก็เปิดไฟ ก่อนเดินมาหาโรสที่นั่งหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับ ภาพที่แม่เห็นคือเอนั่งบิดไปบิดมาโดยมีมือทั้งสองข้างกุมที่ท้อง

                                         “ไม่อยู่โน่นเลยล่ะแม่”โรสพูดตัดพ้อมารดาพลางส่งสายตาน้อยใจนิดๆให้ผู้เป็นแม่ที่ยืนถือถุงอะไรบ้างอย่างก่อนวางบนโต๊ะ

                                             “ว่าจะนอนแล้วล่ะแต่กลัวใครบางคน ร้องไห้ขี้มูกโป่งเสียก่อนเพราะไม่ได้กินข้าวน่ะซิ เด็กอะไรไม่รู้ โตจนจะตายแล้วยังทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง “  ในขณะ ที่แม่กำลังบ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่นั้น    โรสก็กำลังเอร็ดอร่อยกับเค้กที่แม่เอามา

                                           “ว้าว แม่เค้กนี่อร่อยจังเลย ไม่หวานจนเลี่ยน ฝีมือป้านี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ” เธอกล่าวชมแม่ของเค้กด้วแววตที่เปล่งประกายระยิบระยับ

                                          “ใครว่าฝีมือป้าล่ะ!!!!   นั่นน่ะ เค้กทำต่างหากเล่า ”

                                           โรสทำตาโตก่อนจะคายเค้กที่อยู่ในปากทิ้งและวางอีกสองชิ้นที่อยู่ในมือทั้งสองข้าง ก่อนจะไปกินน้ำแล้วขึ้นชั้นบนโดยที่ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้แม่ยืนงงอีกครั้ง เธอไม่ปฏิเสธเลยสักนิดว่าเค้ามีพรสวรรค์ด้านนี้จริงๆ แต่เธอแค่กลัวเวลาที่อยู่ใกล้เค้าเท่านั้นเอง หลังจากเธออาบน้ำเสร็จเธอก็เดินไปเปิดวิทยุ เสียงเพลงดังแว่วมาเป็นระยะเสียง DJ พูดแทรกขึ้นมา

                                          “ครับ แล้วก็มาถึงเพลงสุดท้ายของค่ำคืนนี้แล้วครับ ก่อนจะจากกันไปขอฝากเพลงนี้ให้กับทุกคนที่กำลังท้อแท้หรือกำลังหมดกำลังใจ จำไว้น่ะครับว่าทุกครั้งที่คุณท้อแท้เราอยู่ข้างคุณเสมอ ราตรีสวัสดิ์ ขอให้ทุกคนหลับฝันดีครับ” แล้วเสียงเพลงก็ดังขึ้นอีกครั้งมันคือเพลงไม่แข่งยิ่งแพ้ของเบิร์ด

      แน่นอน เมื่อเรารักเขาเข้าแล้วเขาไม่ยอมรักตอบ ก็ต้องเจ็บต้องช้ำไป ………………………………..
      แน่นอน ถ้ามันเป็นเกมอะไรสักเกม ก็ต้องมีคนเสียใจ …………………………..
      แต่การแพ้ เพราะไม่เคยได้ลงแข่ง น่าเสียดาย น่าเสียดาย
      อย่าเก็บมันไว้ อย่าปิดมันไว้ เมื่อไปเจอใครที่แคร์
      ไม่อยากเอ่ยยิ่งช้ำ ไม่อยากแข่งยิ่งแพ้ และคนที่เราแคร์ไม่มีวันรู้เลย

      ฉันเอง ได้แต่ฝัน ได้แค่นี้ เพราะว่าใจขี้ขลาด พลาดสิ่งที่แสนดี
      เสียดาย ที่มัวไปกลัวตัวเองช้ำใจ เมื่อรู้ก็สายทุกที

      *ก็การแพ้ เพราะไม่เคยได้ลงแข่ง น่าเสียดาย น่าเสียดาย

      **อย่าเก็บมันไว้ อย่าปิดมันไว้ เมื่อไปเจอใครที่แคร์

      ไม่อยากเอ่ยยิ่งช้ำ ไม่อยากแข่งยิ่งแพ้ และคนที่เราแคร์ไม่มีวันรู้เลย ……………………

                        เธอผล่อยหลับไปพร้อมกับเสียงเพลงนั้นโดยไม่ได้ใส่ใจเลยว่ากำลังมีใครบางคนที่กำลังนอนไม่หลับอยู่เพราะคำสัญญาของใครบางคนที่ได้ให้กับเค้าไว้ยามเมื่อเค้าจะจากไปอยู่ต่างแดน  แต่เด็กจะจำได้มั้ยนี่

      เช้าวันรุ่งขึ้น

                        “โรส ลงมานี่หน่อยพี่เค้ามาหาแหน่ะ ”แม่ของโรสตะโกนเรียกเธอตั้งแต่เช้า

                          “เดี๋ยวค่ะแม่ หนูแต่งตัวจะเสร็จแล้ว”เธอวิ่งลงมาชั้นล่าง

                           “มีธุระอะไรกับโรสล่ะ มาแต่เช้าเชียว โรสไม่ว่างคุยหรอกดี๋ยวเพื่อนมารับไปโรงเรียน”เธอพูดขณะที่กำลังง่วนกับการกิน




      บรื้นนนนนน  บรื้นนนนนน

                          เสียงรถมาจอดที่หน้าบ้าน    โรสรีบวิ่งออกไปโดยไม่ได้สนใจคนที่ยืนอยู่แม่แต่น้อย เขารุ้สึกน้อยใจนิดๆแต่ก็เดินตามออกไป      ภาพที่เห็นตรงหน้าคือชายหนุ่มในชุดนักเรียน น่าตาหล่อพอประมาณแต่คงจะฐานะดี ในที่สุดเด็กหนุ่มคนนั้นก็หันมาเห็นเค้ก

                            “อ้าว พี่เค้กกลับมาเมื่อไหร่น่ะ ผมไม่เห็นรู้เลย ทำไมโรสไม่เห็นบอกเราเลย”    เขาหันไปทางโรสที่ตอนนี้นั่งในรถเรียบร้อยแล้ว เค้กเดินเข้าไปใกล้ๆจึงรู้ว่าเป็นเป๊กนั่นเอง รุ่นน้องของเค้าที่เมื่อก่อนเคยอยู่บ้านใกล้ๆกัน แต่ทำไมมารับโรสล่ะ หรือว่าพวกเขาเป็น................

                           “นี่จะคุยกันอีกนานมั้ย เดี๋ยวก็สายหรอก”เธอหันมาค้อนให้ทั้งคู่ก่อนจะหันกลับไป

                            “งั้นผมไปก่อนน่ะ เดี่ยวโดนเชือด”

                             “ฉันเชือดนายแน่ถ้ายังคืนโอ้เอ้แบบนี้”

                             “งั้นผมไปก่อนน่ะพี่เค้ก แล้วเจอกันวันหลังน่ะค่อยคุยกัน”เป๊กหันไปบอกเค้ก

                              “รีบไปเถอะเดี๋ยวมีใครแถวนี้เค้าจะไม่พอใจ”เค้กพูดพลางหันไปทางโรส

                                รถแล่นออกไปเรื่อยๆจนลับตา   ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่กล่องใบเล็กๆที่ข้างในบรรจุของขวัญให้คนบางคนที่เค้าเฝ้าคิดถึงเธอตลอดเวลาแต่ทำไมเธอกลับไม่สนใจเขาเลยซักนิด

                                 ตอนเย็นโรสเฝ้าร้านคนเดียวเพราะป้าชวนแม่ออกไปทำผมกัน เค้กมาที่ร้านของเธอพร้อมกับกล่องเค้กที่ถูกห่อเป็นอย่างดี

                                   “ช่วยจัดดอกไม้ให้พี่หน่อยซิ พี่จะเอาไปให้เพื่อน”เขาพูดจบก็วางเค้กที่โต๊ะแล้วเดินดูดอกไม้รอบๆร้าน

                                    “อ่ะนี่ ดอกแกลดิโอลัสใช้มั้ยโรส?     พี่จำได้ว่าเราเอาให้พี่วันที่มาถึง”   โรสไม่ตอบเพียงแค่พยักหน้า เธอก้มหน้าก้มตาลงจัดช่อดอกไม้ต่อในช่อประกอบด้วย

                                ดอกกุหลาบสีขาว :  ดอกกุหลาบสีขาวเป็นสีแห่งความรักที่ใสสะอาดบริสุทธิ์  โดยไม่คิดเลยว่าความรักที่มอบให้ไปนั้นจะได้ความรักตอบกลับมาหรือเปล่า  

                                  ดอกยิปโซ:ความน่ารักในตัวเองและแสนประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกัน

                                    ดอกไอริส :  ส่งผ่านความอบอุ่นของหัวใจไปกับดอกไอริสเพื่อเป็นตัวแทนของความนัยที่มีอยู่ในหัวใจและบอกบางอย่างที่ถูกเก็บซ่อนมานานให้ได้รับรู้ว่าเราน่ะ จริงใจนะตัวเอง

                                 ดอกสโนดรอป :  แทนความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กัน  ไม่ว่าจะทุกข์หรือจะสุข ก็ยังยืนหยัดอยู่คอยให้กำลังใจอยู่เคียงข้างอยู่เสมอ  ไม่มีวันเสื่อมคลาย  แม้ว่าวันเวลาหมุนผ่านไปยาวนานซักแค่ไหน (โรแมนติกสุด ๆ เลย)

                                 และมีใบเฟิร์น แซมเล็กน้อยมองแล้วน่ารักมาก โรสซึ่งเป็นคนจัดเองยังอยากได้เลย เมื่อเธอจัดเสร็จเธอก็ส่งให้เขา เขาจ่ายตังค์และกล่าวคำขอบคุณ

                                “ขอบใจน่ะ เพื่อนพี่ต้องชอบแน่ๆเลย  งั้นพรุ่งนี้ไปที่บ้านพี่น่ะเดี๋ยวพี่จะเลี้ยงเค้กอร่อยๆ”

                                 เขาพูดแล้วเดินออกจากร้าน พลางคิดในใจ ทำไม่เธอไม่ถามบ้างว่าเราเอามันให้ใคร เขามองที่ดอกไม้และกล่องเค้กอย่างถอดใจ     นี่ขนาดมีพวกแม่ๆช่วยเค้ายังไม่ได้เรื่องเลย     เขาหยุดมองที่ท้องฟ้ามัวหม่นนั่น  มันไม่มีแม้ดวงดาวให้เขาเห็นแม้แต่น้อย ทางโรสเองเธอก็อยากจะถามเหมือนว่าเค้าจะเอามันไปให้ใครแต่เหตุผลล่ะ? เธอไม่มีเลย ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเงียบดีกว่า

      เช้าของอีกวัน

                                   “โรส ตื่นได้แล้วลูก แม่จะไปแล้วน่ะ”

                                     แม่ปลุกโรสเพราะตัวเองกำลังจะไปต่างจังหวัดกับพ่อแม่ของเค้ก เธอออกมายืนส่งแม่ พลางส่งสายตาอ้อนให้แม่เปลี่ยนใจไม่ไป แต่สายไปเสียแล้วแม่ของเธอรีบขึ้นรถและแล้วรถก็แล่นจากไปเธอหันหน้าจะเดินกลับเข้าบ้าน

                                     “มาที่บ้านพี่ก่อนซิจะเลี้ยงข้าวเช้า”เขาหันมาชวนเธอ

                                       “ไม่ล่ะ โรสต้องไปเฝ้าร้าน”

                                       เธอปฏิเสธเขาก่อนดินจากไปเพราะคิดว่าหากเอาตัวเองไปเกี่ยวข้องกับเค้ามากกว่านี้เธอคงเผลอใจบอกรักเขาไปสักวันและหากเขาไม่ชอบเธอทุกอย่างมันคงพัง    เธอเดินเข้ามาในร้านแต่ต้องตกใจเพราะดอกกุหลาบที่สั่งมาเฉาหมด    เธอจะทำไงดีล่ะ?    เค้กซึ่งเดินตามเข้ามาทีหลังจึงเข้ามาจับดอกกุหลาบที่เฉานั้นขึ้นมาดู

                                        “โรส ใจเย็นๆน่ะเดี่ยวพี่จัดการเอง เอาเป็นว่าโรสเด็ดกลีบออกให้พี่ล่ะกัน”

                                        เขาเริ่มเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างจากนั้นแบ่งกลีบกุหลาบทั้งหมดเป็น 2ส่วน โรสยืนมองเค้กที่กำลังง่วนกับการทำเค้กและแยมกุหลาบ อย่างตะลึงไม่ใช่แค่เขามีพรสวรรค์เท่านั้นเขายังตั้งใจทำมันนี่เองที่ทำให้เขาทำเค้กออกมาได้อร่อย

                                        “เอาล่ะ เสร็จแล้ว”เขาเอามือปาดเหงื่อที่ซึมอยู่ที่หน้าผากแล้วหันมายิ้มกับโรสเขายื่นเค้กที่แบ่งเป็นชิ้นให้เธอ

                                         “ช่วยพาไปวางในตู้ให้พี่หน่อยซิ เดี่ยวพี่จะเอาแยมนี่ไปวางขายหน้าร้านด้วย”

                                          “แล้วจะขายได้จริงๆเหรอ?”ถามอย่างประหลาดใจ

                                          “ได้ซิ”  สักพักหนึ่งก็มีลูกค้าเข้าร้านเป็นเด็ก ม.ปลาย2คน

                                           “ว้าวเค้กนี่น่ารักจังเลย มันชื่อว่าอะไรค่ะ”เด็ก 2คนนั่นพูดพลางชี้ไปที่เค้กที่เพิ่งทำเสร็จ

                                           “Red Rose Chocco Cake ครับ” ชายหนุ่มเดินออกมาพร้อมกับถือขวดแยมกุหลาบออกมาด้วย

                                             “นั่น แยมกุหลาบใช่มั้ยค่ะ?”

                                             “ครับ”เขาตอบสั้นๆ

                                          “งั้น เอาเค้กสองชิ้น กับแยมอีกขวดน่ะค่ะ แล้วก็ช่วยห่อให้ด้วยล่ะกัน”

                                          ในตู้มีเค้ก วางเรียงรายเต็มไปหมด    มีทั้ง         ไวท์ชอกโกแลต    ชาเขียว คัสตาร์ด   บราวนี     เลมอน เมอแรง  เค้กวานิลลา โรยช็อกโกแลตไอซิ่ง  สตรอเบอรีชอร์ต เค้ก  แครอตเค้ก แล้วก็มีอีกหลายชนิด  โรสคิดว่าทั้งหมดนี่คงเป็นผลงานของเค้กแน่ๆ เมื่อลูกค้าเริ่มหมดโรสและเค้กมานั่งพัก    เค้กชงน้ำชากลิ่นลาเวนเดอร์มาให้เธอ ส่วนเขาดื่มชามะลิ เมื่อโรสเห็นเธอก็ตกใจไม่คิดว่าเขาจะรู้ว่าเธอชอบกลิ่นลาเวนเดอร์

                                            “ลาเวนเดอร์ กับมะลิมีความหมายมั้ยโรส”เขาถามเสร็จก็หยิบถ้วยน้ำชามาดื่ม

                                            “มีซิ”เธอตอบ

                                            “ลาเวนเดอร์หมายถึงการรอคอยที่ยาวนาน  รอคำสัญญาโดยไม่รู้ว่าเป็นจริงเมื่อใด ส่วนมะลิหมายถึงความมีอัธยาศัยดี ”เธอบอกเขาพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ

                                            “แล้วเค้กของพี่เค้กล่ะมีความหมายมั้ย”เธอถามแล้วหันไปมองยังเค้กที่ถูกวางเรียงรายไว้ในตู้อย่างดี

                                            “มีซิ!!พี่จะบอกให้”แล้วเขาก็ลุกมายังตู้ก่อนจะหยิบมันออกมาทีล่ะชิ้น

                                             “บราวนี : คุณเป็นพวกชอบเสี่ยง ชอบความคิดแปลกใหม่และรักจะเป็นผู้ชนะเลิศอยู่เสมอ เมื่อเดือดดาลคุณก็พร้อมจะฟันดาบลงไปใส่ผู้ที่เป็นสาเหตุ   มุขตลกของคุณมักจะประหลาด แต่ก็เป็นคนซื่อสัตย์ยากด้วย
                                             เลมอน เมอแรง : เงียบ ติ และชัดเจนในสิ่งที่ต้องการ คุณเป็นคนรู้จักพูดเพื่อสร้างความประทับใจ เป็นครูที่ดี แม้บางครั้งบางคราวจะวางท่าเป็นนางพญาไปบ้าง แต่ก็มีเพื่อนที่รักคุณเยอะแยะ
                                           เค้กวานิลลา โรยช็อกโกแลตไอซิ่ง : รักสนุก ยโส ตลก เป็นคนไม่ค่อยติดดิน ขี้ลังเล และขาดแรงดลใจ อย่างไรก็ตามคุณก็มีเสน่หางอย่างที่ทำให้คนอยากอยู่ใกลแม้ต้องคอยระวังไม่ทำให้คุณสติแตกบ้าง คุณเป็นคนประเภทที่เป็นเพื่อนตายได้เลย
                                        สตรอเบอรีชอร์ต เค้ก : โรแมนติก อบอุ่น น่ารัก คุณช่างห่วงใยผู้อื่น และแทบจะไม่เคยเหน็บแนมใครเลย ภายนอกดูเป็นคนเย็นชา แต่ที่จริงอบอุ่นอยู่ข้างใน ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง และก็ไม่เหมาะที่จะทำเหมือนใครต่อใคร หัดหัวเราะบ่อย เถอะนะ เพราะมันจะดีกับตัวคุณ
                                        เค้กไอศกรีม : ความเป็นคนคลั่งไคล้กีฬาทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเบสบอล ฟุตบอล บาสเกตบอล ฯลฯ แถมถ้าทำไดคงลงไปเล่นกับเขาเสียด้วยซ้ำ ทำให้คุณเป็นคนที่ไม่ชอบการควบคุม แต่จะให้ความสำคัญกับความต้องการของตัวเองก่อน ชอบการดำเนินชีวิตในแบบหรูหรา
                                         แครอตเค้ก : คุณเป็นคนรักสนุก ชอบหัวเราะ ได้อยู่กับคุณนี่ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีเชียวล่ะ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมใคร ชอบไปไหนมาไหนด้วย ความอบอุ่นและช่างพูด ทำให้คุณมีเพื่อนที่ซื่อสัตกับคุณแยะเชียวล่ะ

      คร้อกกกกกกกกก   คร้อกกกกกกกกก

                                         เสียงท้องของโรสร้องดังออกมาเขามองหน้าเธอก่อนจะส่งยิ้มให้แต่แล้วก็หลุดหัวเราะออกมา โรสทำหน้าเหวอสุดขีดเธอตกใจแถมอายอีก แทบจะเอาหน้าไปซุกแผ่นดินเสียให้ได้

                                        “งั้นเดียวพี่หาอะไรให้กินแล้วกัน” ว่าแล้วเขาก็ออกเดินหยิบของที่เตรียมไว้ พลางคิดในใจ

                   วันนี้ล่ะเขาจะต้องทำได้

                                       เขาหยิบของออกมาแล้วก็เอยปากชวนโรสไปนั่งกินที่สวน

                                        “พี่ว่าเราไปกินที่สวนดีกว่ามั้ย “

                                         “แต่ว่าโรสต้องกลับบ้านน่ะ เอ๋ะแต่ไปก็ได้ แม่ไม่อยู่คงไม่เป็นไร” เขายื่นของทั้งหมดให้โรสถือเพราะจะปิดประตูร้านแต่ของชิ้นหนึ่งตกเขารีบเก็บมันก่อนที่โรสจะเห็น

                                        “อะไรตกเหรอ?”

                                       “อ๋อ เปล่าจ๊ะไม่มีอะไร ส่งของมาซิเดียวพี่ถือเอง ”พวกเขาเดินมาเรื่อยๆจนถึงสวน เค้กเดินนำโรสไปที่ชิงช้าก่อนหันมาทางโรส

                                     “จำได้รึเปล่า เราเจอกันครั้งแรกที่นี่”

                                       เค้กถามโรส เธอพยักหน้าตอบรับ แล้วทั่งคู่ก็นั่งลงที่ชิงช้า เค้กเปิดกล่องเค้ก ข้างในมี Red Rose Chocco Cake วางอยู่ เขาส่งให้เธอ เธอบรรจงหยิบมันขึ้นมาแล้วเขาก็เอยขึ้น

                                       ” รู้มั้ยว่าเค้กอันนี้พี่ทำเพื่อฉลองกับใครบางคนแต่เค้ากลับไม่สนใจ” โรสที่กำลังจะส่งเค้กกับปากถึงกับค้าง เธอหันหน้ามาทางเค้าพร้อมด้วยแววตาสงสัย

                                       “เค้าคือรักแรกของพี่ แต่พี่ไม่รู้ว่าเขาจะสนใจพี่รึเปล่า โรสรู้มั้ยเวลาพี่อยู่กับเค้าแล้วพี่รุ้สึกว่าตัวเองมีค่าเพราะพี่สามารถปกป้องเค้าได้”เมื่อโรสมองที่ดวงตาของเค้กเธอก็พบกับคำว่าภูมิใจตัวเท่าช้างในนั้น

                                          “แล้วทำไมพี่ไม่บอกว่าชอบ หรือขอเขาเป็นแฟนล่ะ”

                                            “   พี่ไม่มีโอกาสน่ะสิ เขาไม่เคยให้โอกาสพี่เลย เจอหน้ากันก็ชอบทำหน้าหมุ้ย  บางทีก็ไม่ยอมคุยด้วย ”

                                          โรสมองเห็นหน้าของเค้กไม่ชัดแต่รู้ว่าเขาคงชอบเด็กคนนั้นมา เธอรู้สึกปวดใจนิดๆ ทันใดนั้นเค้กก็ส่งกล่องขวัญเล็กๆให้เธอ เธอรับมันมาจากมือของเขา แล้วก็แกะออกข้างในเป็นสร้อยรูปกุญแจที่ทำจากทองคำขาว มันส่องแสงวับวาวยามเมื่อกระทบกับแสงไฟ

                                   “ให้โรสเหรอ? สวยจัง”เธอมองดูมันอย่างชื่นชม

                                   “หันหลังมาซิเดี๋ยวพี่ใส่ให้”เข้าใส่มันให้เธอก่อนเอ่ย

                                    “พี่ชอบโรส” โรสหันหน้าไปทางต้นเสียงแต่เค้าก็หลบหน้าเธฮโดยการก้มหน้าลงเธอจึงเลือกที่จะถามเขาอีกครั้ง

                                          “ว่าอะไรน่ะพี่เค้ก”เธอถามย้ำเพื่อจะเอาคำตอบจากเขาทั้งที่ในใจนั้นเต้นไม่เป็นส่ำ

                                  “พี่ชอบโรส”เขาตอบแต่คราวนี้หันมาจ้องหน้าคนที่อยู่ตรงหน้า เพื่อให้เธอได้เห็นความในของดวงตาของเขา

                                 “ห่า พี่ชอบโรส แล้วคนที่พี่จะเอาช่อดอกไม้ไปให้ล่ะใคร”เธอถามให้แน่ใจ

                                  “ก็โรสไง โรสจำไม่ได้เหรอว่าวันนั้นวันเกิดพี่ โรสเคยสัญญาว่าจะไปฉลองกับพี่ตอนที่พี่กลับมา แต่แล้วโรสก็ไม่มาสักที”เขาทำหน้าเศร้า

                                “ตายล่ะ โรสลืมไปเลย ขอโทษน่ะพี่เค้ก” เธอทำหน้าสำนึกผิด แต่พอนึกขึ้นได้เมื่อกี้เค้กสารภาพรักกับเธอหน้าของเธอแดงก่ำ มือไม้สั่นไปหมด แล้วเธอก็ตัดสินใจทิ้งความอายหันมาบอกเค้ก

                                  “โรส........ ก็ชอบพี่เค้กน่ะ ชอบมานานแล้วด้วยพอรุ้ว่าพี่เค้กจะกลับมาเลยทำตัวไม่ถูก ”เธอพูดพลางซุกหน้าลงที่อกของเขา

                                    เค้กจับหน้าของโรสขึ้นเขาประทับรอยจูบที่แก้มของเธอ

                    “แค่นี้ก่อนดีกว่าไว้ให้โรสโตอีกนิด”

                                 “โต แล้วจะทำไมล่ะ”เธอเงยหน้าขึ้นมาถามเค้ก

                                 “เดี่ยวก็รู้เอง”เขาไม่ตอบอะไรเพียงแต่กอดเธอไว้แน่นราวกับเธอเป็นเด็กตัวเล็กๆ

      แล้วเขาก็คิดในใจ อดใจไว้ ต้องรอจนกว่าโรสเรียนจบ ไม่งั้นแม่โรสฆ่าตายแน่ๆ หรือไม่เผลอๆอาจไม่ยอมให้สองคนเป็นแฟนกันแน่

                                   เขาดึงตัวเธอมากอดอีกครั้ง ส่วนโรสเองนั้นก็ยิ้มอย่างมีความสุขในอ้อมแขนของเขา ทั้งสองนั่งมองท้องฟ้าที่คืนนี้มีดวงดาวควงคู่กันมาเต้นรำให้พวกเขาได้ดูกัน อย่างมีความสุข

      ^<>^_^<>^_^<>>^_^<>^_^<>^_^<>>^_^<>^_^<>^_^<>>^_^<>^_^<>^_^<>>^_^<>^_^<>^_^<>>^_^<>^_^<>^_^<>
      ก็ขอฝากเรือ่งนี้ไว้กับทุคนแลวกนแล้วอย่าลืมอีก 2เรื่องด้วย

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×