จักรยาน&ที่รัก - จักรยาน&ที่รัก นิยาย จักรยาน&ที่รัก : Dek-D.com - Writer

    จักรยาน&ที่รัก

    ผมกับเธอรู้จักกันมาแต่ม.ต้น พอม.ปลายถึงจะอยู่คนล่ะโรงเรียนแต่ก็ยังขับจักรยานไปรร.ด้วยกันแต่แล้ววันหนึ่งเธอ...แต่...

    ผู้เข้าชมรวม

    636

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    636

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ม.ค. 47 / 14:12 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เรื่องนี้ผมเขียนมาก่อนเรื่องBlue Operationเสียอีกนะครับเป็นแนวรักเรื่องเดียวที่มีในคอมผม(555...หัวเราะไรฟะ)
      -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
      วันหนึ่งในตอนเช้าประมาณ 7.30 นาฬิกาได้…วันที่ต้นฤดูหนาวมาถึง…ผมเพิ่งได้เข้าโรงเรียนมัธยมปลายได้เพียง1เทอม…ขณะที่ผมกำลังขี่จักรยานคันโปรดที่ซื้อมาด้วยเงินตัวเอง(รึเปล่า) ซึ่งเงินที่ได้ก็มาจากที่ช่วยพ่อทำงานซะมากกว่า…มันก็ไม่ต่างอะไรจากขอเงินพ่อธรรมดาๆนี่เองแต่ที่ต่างคือต้องแลกด้วยแรงกายแรงใจที่มี…ก็เท่านั้น…พ่อผมสอนเสมอว่า “เราต้องรู้จักใช้แรงกายและความคิดต่างๆเพื่อที่จะแลกเอาความสุขสบายของเรามาไม่ใช่จะให้พ่อหรือแม่หามาถวายอย่างเดียว…อาจจะไม่ได้ทำงานก็ใช้วิธีช่วยงานพ่อแม่แทน…ก็จะให้ค่าตอบแทนมาบ้าง…แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะช่วยพ่อแม่ด้วยความหวังในทางธุระกิจเท่านั้น…”
      “กริ๊งๆๆ”เสียงกระดิ่งของจักรยานคันหนึ่งทำให้ผมหันไปหา
      “หลีกหน่อยหลีกหน่อย!!……ว้ายยยย!!”

      โครม!!

      “อ๊ะ!!…ขอโทษครับขอโทษ”ผมรีบลุกขึ้นปล่อยจักรยานให้นอนหงายเค้งเก้งอยู่หยั่งงั้น
      “โธ่!!ปองนี่ซุ่มซ่ามจัง…”ผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนที่ขับชนกับผมกล่าว
      “เอ๊ะ!!…อ๊ะ!!…มิกิเหรอ”เธอชื่อมิกิลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นผมยาวปกบ่า(แต่ถูกรวบไว้)…นั้นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอน่ารัก
      “ไม่เป็นไรใช่เปล่า” ::ถ้ารู้ว่าขึ้นม.ปลายแล้วน่ารักขนาดนี้ตีสนิทตั้งแต่ม.ต้นดีกว่า::
      “ไม่เป็นไรหรอกย่ะ…”เธอพูดท่าทางประชดเล็กน้อย
      “ทำเป็นพูด…เธอมาชนชั้นนะ”
      “ทำไงได้ล่ะบอกให้หลบนี่นา…ว่าแต่นายจำชั้นไม่ได้เหรอเมื่อกี้นี้เห็นยืนอึ้งไปเลยพูดเพราะด้วยล่ะขำจริงๆเลย…ฮ่าๆๆ”
      “กะ…ก็…จริงสิผมยาวแล้วนี่นา” ::ยัยบ้าเอ๊ยว่าชั้นได้::
      “อืม…สวยป่ะ”ผมฉุดเธอขึ้นมาแล้วเธอก็หมุนตัวให้เห็นช่างเป็นสิ่งที่สวยงามจริงแท้
      “ป่ะ…ขับไปด้วยกันนะปอง”เธอเอ่ยชวนผม
      “อ๊ะ…ก็ด้าย” ::โอ้ว้าว…โอกาสดีที่จะสนิทแฮะ::
      “เธออยู่ รร.Aใช่ป่าวชั้นอยู่ รร.B น่ะ”เธอถาม
      “อืม…ใช่ๆ”
      “ปิงปองนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะหน้าตาน่ะ…เปลี่ยนแต่สีกางเกงที่เป็นสีดำเท่านั้นนะ…เจอแว๊บแรกก็จำได้เลยล่ะนะ…”ผมได้ยินที่เธอพูดแต่ผมสนใจเธอมากกว่าที่เปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้(คงเพราะความสวยของเธอล่ะมั้ง)
      “เหรอ…อืม…นะ….เธอก็เปลี่ยนไปจากม.ต้นมากเลยนะ”
      “ก็แน่ล่ะ…เป็นเด็กม.ปลายแล้วนี่นา…”
      หลังจากนั้นเราก็ขี่กันไปถึงทางแยกระหว่างสองโรงเรียนของผมและเธอเราก็เลยต้องแยกกันตรงนั้น
      และหลังจากวันนั้น…ผมก็พยายามไป รร.ให้เช้ากว่าทุกวัน(ปรกติ2โมงตรงพอดี)เพื่อที่จะได้ขี่จักรยานไปโรงเรียนพร้อมเธอ…แต่ก็อย่างว่าแหละนะ…มันก็แล้วแต่ดวงว่าจะมาถูกวันรึปล่าวเพราะมันก็ไม่เจอเธอบ้างเหมือนกัน…แล้วในแต่ล่ะวันที่เราได้เจอกันผมก็เริ่มด้วย “หวัดดี…สบายดีป่ะ” แล้วเธอก็จะตอบผมว่า “หวัดดีจ้ะ…บายดี” ด้วยท่าทางเป็นกันเองและยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ทุกๆวัน…แล้วเมื่อทักทายกันเสร็จแล้วพวกเราก็จะเริ่มสทนาในเรื่องไร้สาระต่างๆนานาให้กันฟัง…“ถึงแม้จะได้คุยกับเธอเพียงแค่ไม่กี่นาทีแต่ก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสดชื่นในแต่ล่ะวัน”…อยู่มาวันนึง

      “ว้า…วันนี้มาไม่ทันเฟ้ย…เฮ้อ…ไปคนเดียวก็ด้าย…”ผมเสียดายนิดๆที่ไม่ได้เห็นเธอ
      “ปอง!!…ปอง!!…ทางนี้จ้ะทางนี้”เสียงนี้ดังมาจากอีกฝั่งนึงของสะพานซึ่งเป็นเสียงที่ผมคุ้นเคยอยู่ทุกวัน
      “เป็นไรเหรอ…”ผมรีบปั่นจักรยานมาอย่างรวดเร็วและถามด้วยความเป็นห่วง
      “ก็…โซ่มันตกน่ะ”
      “ใหนดูซิ…เฮ๊ย”ตอนนั้นผมก็ตกใจที่เห็นโซ่พันกันยุ่งไปหมด
      “แบบนี้คงต้องซ่อมนานหน่อยนะ…ร้านแถวนี้ก็ไม่มีซะด้วย”หลังจากที่ผมพูดจบก็งมนั่งทำไปกว่าครึ่งชั่วโมงจนสำเร็จ
      “โหย…ยุ่งเป็นบ้าเลย”
      “อ่ะเช็ดซะ…”เธอยื่นกระดาษทิชชู่มาให้ตอนแรกก็นึกดีใจนึกว่าจะเป็นผ้าเช็ดหน้า
      “อืม”ผมบรรเลงเช็ดโดยไม่ยั้งเพราะมือเลอะมาก…แต่ผมก็ต้องสะอึกเมื่อ…
      มือน้อยๆและบางเบาของเธอจับผ้าเช็ดของของเธอเช็ดเบาๆที่หน้าผากผม
      “หยิบเอาซิย่ะ…ชั้นไม่เช็ดให้ตลอดนะ…แล้วซักมาคืนด้วยล่ะ”
      “อะ…อืม”::แหง่ว…::
      “แต่ก็ขอบใจนะ…”เธอเหลียวมองนาฬิกาแล้ว “ว๊าย!!…ไม่ทันเข้าแถวแล้ว”
      “อืม…ใช่ไม่ทัน”
      “ปองเคยโดดป่าวอ่ะ”เธอถามหน้าตาเฉย
      “ไม่อ่ะมิกิล่ะ”
      “ไม่เคยเหมือนกัน…เราไปที่ริมแม่น้ำดีมั้ย”เธอถามอีกแล้ว…แต่ก็น่าจะดีนะเพื่อจะฟรุ๊คขึ้นมา
      “อะ…เอ่อ…ไปสิป่ะ”
      “อืม”แล้วเธอกับผมก็ขึ้นนั่งบนรถจักรยานแล้วปั่นไปด้วยกัน

      ลมเย็นๆของบรรยากาศฤดูหนาวค่อยๆโชยมา…สายน้ำไหลเป็นทางดูเป็นลายสวยงามนัก…ทุ่งหญ้าเขียวขจีสบายตายิ่ง…นกที่ทำรังอยู่บนต้นไม้ส่งเสียงออกมาอย่างไพเราะ….จักรยาน2คันจอดอยู่ข้างๆกันใต้ต้นไม้ที่นกเหล่านั้นทำรังหนุ่มสาวคู่หนึ่งนักคุยกันอยู่ใกล้ๆ
      “จ๊อก * ~ * ”เสียงท้องผมร้องโอดโอยด้วยความหิวเพราะรีบจนไม่ได้กินข้าวเช้ามาประกอบกับใกล้จะถึงเวลาพักเที่ยงในโรงเรียนพอดี
      “ฮิฮิ…”เสียงน่ารักๆของเธอหัวเราะยิ่งทำให้น่าหลงใหล
      “ชั้นทำข้าวกล่องมานะนายจะกินป่ะ”
      “อ่ะ…เอ่อ…ไม่…”
      “อ้าว”เธอทำหน้าตาผิดหวังเล็กน้อย
      “ไม่ขอผ่าน” แล้วเธอก็พูดว่า “หึหึ…นายนี่มัน…อ่ะเอาไป…แต่กินด้วยกันนะ”
      ผมเปิดออกมา “ว้า~นึกว่าผัดกระเพา…ข้าวผัดเหรอเนี่ย”
      “ไม่ชอบเหรอ”
      “ชอบสิ…แต่ที่เราชอบที่สุดคือผัดกระเพาอ่ะ”ผมพูดก่อนที่จะตักข้าวเข้าปาก
      “งั้นเหรอ…” แล้วเธอก็ตักทานบ้าง

      เวลาผ่านไป10นาที

      “คาบบ่ายแล้วไปกันเถอะ”ผมชวนเธอกลับ
      “อืม”
      แล้วหลังจากนั้นวันต่อมาเราก็ไปโรงเรียนตามปรกติซึ่งก็เริ่มด้วยประโยคเดิม…แล้วก็ตามมาด้วยเรื่องไร้สาระแล้วก็แยกกันไปในโรงเรียนของตัวเอง…จนผ่านไปหนึ่งเดือน
      ช่วงเย็นในวันแรกของเดือนธันวาคม
      “ไม่ห้ายเธอไปต้องเสียอะไรแค่ใหน…เอ๊ะนั้นมิกินี่นา”ผมร้องเพลงมาตามทางและเห็นเธอยืนคุยอยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่ง
      “อ้าวปอง!!…มานี่สิ”เธอเรียกผมขณะที่ผมกำลังจะขับหนีไปพอดี…เพราะด้วยความกลัว…กลัวว่านั้นคือคนที่เธอรัก
      “อ๊ะ…หวัดดีครับ”ผมทักทายชายหนุ่มคนนั้น
      “นี่ปองเพื่อนหนูค่ะ…นี่พี่อเนกประธานชุมนุมชั้นน่ะ”::เฮ้อดีไปที่เป็นแค่รุ่นพี่::ผมคิดในใจ
      “งั้นพี่ไปก่อนนะแล้วลองเก็บไปคิดดูนะ…”ไอ้พี่ประธานกล่าวก่อนที่จะเดินจากไป
      “เรื่องที่ว่าน่ะ…”ผมกล่าวเศร้าๆเล็กน้อยเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคงเป็นเรื่องขอคบแน่ๆ
      “ใช่…เค้าเป็นคนดีนะนายคิดว่าชั้นควรทำไงดี”
      “อ๊ะ…เอ่อ…ไม่รู้สิแล้วแต่เธอสิ”มาถามผมเฉยเลย…งือๆอยากจะร้องแต่ร้องไม่ออก
      “ลองคบดีมั้ยนะ”เสียงพึมพำของเธอผมพอจะได้ยินบ้างและตอนนั้นผมก็เดาความรู้สึกของเธอไม่ออกเลยจริงๆ
      หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เจอเธออีกเลยแต่ก็รู้ว่าเธอคงขึ้นรถเมไปกับรุ่นพี่…ไม่สิ…แฟนของเธอคนนั้นแน่ๆ…
      เวลาผ่านไป…ผมก็ยังไม่ลืมเธอ…เพียงแต่รู้สึกว่าตัวเองโง่ที่ไม่บอกเธอก่อน…และแล้ว…วันนี้…วันสิ้นปีหรือวันปีใหม่นั้นแหละ…พวกผมกับเพื่อนจัดกิจกรรมที่โรงเรียนตอนเช้าแล้วก็ฉลองสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน…จนถึงเวลากลางคืนพวกเราไปที่วัดด้วยกันเพื่อที่จะนับถอยหลังปีใหม่…และเดินเลือกซื้อของในงานวัดนั้น…จนใกล้ถึงเวลา
      “เอาล่ะนั่งดูพุอยู่ตรงนี้แหละเดี๋ยวก็นับแล้ว”เพื่อนผมคนหนี่งพูดขึ้น
      “เอ๊ะ…”ผมหันไปเจอหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ผมพอคุ้นเคย…เค้านั่งกอดไหล่กันอยู่ข้างริมน้ำ
      “โธ่!!เว้ยย!!”ผมตะโกนออกมาพร้อมกับที่พุจุดพอดีทำให้เสียงผมเป็นแค่เสียงแมงหวี่ธรรมดา
      ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
      หลายวันต่อมา…

      “เฮ้อ…เหมือนขาดอะไรมานานแล้วนะ”ผมพึมพำกับตัวเองอย่างเซ็งขณะที่ขี่จักรยานไปโรงเรียน
      “ไงปอง!!”เสียงนี้ที่คุ้ยเคย
      “มิกิ…มาไงเนี่ย”ผมพูดอย่างตื่นเต้นที่ๆได้เห็นเธอ
      “ป่ะไปส่งชั้นหน่อยสิ”เพราะเธอไม่ได้ขี่จักรยานมานี่เอง
      “อืมขึ้นเลยเจ๊”
      “ช้านยังไม่แก่พอที่จะเรียกเจ๊ย่ะ”เธอขึ้นจักรยานแล้วทุบหลังผมหนึ่งปั๊ก
      และวันต่อมาต่อมาและต่อมาผมก็ต้องไปส่งเธอเรื่อยๆ
      “แล้ว…เอ่อ…โทษนะแต่สงสัยอ่ะ…”ผมถามอย่างกลัวๆนิดนิดว่าจะกระทบกระเทือนจิตใจเธอรึปล่าว
      “อะไรเหรอถามมาสิ”
      “เอ่อ…จักรยานเธอล่ะ”เอาจนได้เปลี่ยนคำถามหน้าตาเฉย
      “อ้อ…พี่ชั้นเอาไปน่ะ”
      “พี่เคนน่ะเหรอ…อยากให้เค้าสอนกีต้าให้จัง”ผมกับพี่ของเธอสนิทกันมากถึงขนาดเล่นหัวเล่นหางกันได้(หมายถึงพี่แกเล่นหัวผมนะผมมิกล้าเล่นเค้าหรอก)
      “อืมใช่พี่เคนเอาไป…แล้วเดี๋ยวชั้นจะบอกพี่ให้นะว่าปองอยากให้พี่สอนให้”
      “ดีเลย”
      วันต่อมา
      “ไงปองโทษทีนะที่มาช้าน่ะ…เอ๊ะเป็นไรเหรอ”
      “อ๊ะ!!…เอ่อโซ่ตกน่ะ…เจ๊ไปก่อนเลยนะ”
      “ไม่อ่ะจะไปพร้อมปอง…”เธอกล่าว
      “อืม…แล้วแต่”::โอ้พระเจ้าแผนโซ่ตกผมสำเร็จ Thank you::
      เวลาผ่านไป
      “อ๊ะ!!สายแล้วไม่ทันแล้ว”เธอมองดูนาฬิกาของเธอก่อนจะพูดขึ้น
      “อ้าว…โทษนะ…ทีทำให้เสียเวลา”
      “ไม่เป็นไรหรอก…ไปริมแม่น้ำกันป่ะ”เธอถามก่อนที่ผมจะถามคำถามเดียวกันกับเธอซะอีก
      “อ๊ะ!!…อืม”หลังจากนั้นเราก็ไปที่ริมแม่น้ำ
      ณ ริมแม่น้ำอันสวยงาม
      “เอ่อ…แล้วรุ่นพี่คนนั้นล่ะ”ผมกลั้นใจถามออกไปด้วยความกลัว...เธอเงียบไปครู่นึงก่อนที่จะตอบผมว่า
      “นึกว่าปองจะไม่ถามซะแล้ว…เราเลิกกันแล้วล่ะ”เธอซึมลงไปอย่างเห็นได้ชัด...แล้ว...มือน้อยๆของเธอกุมใบหน้าไว้...น้ำตาหยดเล็กๆหลายหยดกระทบกับพื้นหญ้า...เมื่อผมเห็นดังนั้นก็เดือดขึ้นมาทันที
      “ไอ้สัดเอ๊ย!!”ผมลุกขึ้นและเดินไปที่จักรยาน…ตอนนั้นผมรู้สึกว่าจะควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่คิดอย่างเดียวคือลุกขึ้นไปอัดไอ้นั้นให้หมอบคาตีน
      “อย่า!!”เสียงห้ามและมือน้อยๆที่จับแขนผมไว้ทำให้ผมมีสติขึ้นมาอีกครั้ง
      “...ฮึ...ฮึกๆ...ช่างเค้าเถอะ…ฮึกๆ”เธอพูดไปสะอื้นไป...จนเธอปล่อยโฮออกมาใหญ่...ผมคิดได้อย่างเดียวคือต้องปลอบเธอให้ได้...เพราะผมผิดเองที่ไปถามเธอแบบนั้น
      “อืม…ปองจะไม่ไปและปองจะขออยู่ตรงนี้เคียงข้างมิกิไปตลอด”ผมสวมกอดเธอไว้แน่นเช่นเดียวกันกับที่เธอกอดผมไว้แน่น

      ครู่ต่อมา
      “ดีขึ้นแล้วนะ”ผมถามเธอด้วยความเป็นห่วง...
      “อื้ม”เธอตอบรับอย่างยิ้มแย้มทำให้ผมดีใจไปด้วยที่เค้าทำใจ(น่าจะ)ได้...
      “อ๋อย~หิวแย้วอ่ะ”
      “อ๊ะ…เรามีข้าวกล่องนะกินด้วยกันนะปอง”เธอหยิบกล่องข้าวขึ้นมาและผมค่อยๆเปิดออกผมคิดว่าคงเป็นข้าวผัดแน่ๆ
      “อ๊ะ!!ผัดกระเพา…ว้าวน่ากินจัง”
      “ปองบอกว่าชอบนี่”
      “แค่กๆๆ”ผมแกล้งทำเป็นไอ
      “เชอะ…ทำเป็น…จะให้เอารองเท้าออกจากปากให้มั้ย…อุส่าทำมาให้”
      “อ๊ะ…จ้ะๆๆ…ง้ำๆ”ผมตักกินอย่างอร่อยแต่ด้วยความอยากกวนเธอเล่น
      “อ๊อก!!…อ๊า!!…”ผมทำท่าทุรทุรานจับคอตัวเองและลงไปนอนกับพื้นอย่างสมจริงสมจัง
      “ปอง!!เป็นไรน่ะ”เธอเข้ามาใกล้ๆผมใกล้มากด้วยทันใดนั้นผมก็กอดเธอลงมาใกล้ๆ
      “เข้ามาใกล้มากไปแล้วเจ๊…จุ๊~”เฟิร์สคิสบังเกิดขึ้นในขณะนั้น
      “ตาบ้าเอ๊ย…รู้มั้ยว่าจูบแรกนะขนาดพี่อเนกก็ไม่กล้าทำขนาดนี้เลย”เธอไม่ได้แค่พูดแต่ทุบอกผมไปด้วย…(หน้าแดงก่ำเลย)
      “ก็ดีแล้ว…จะได้จำเราไว้ตลอดไปว่าคนคนนี้ที่ขโมยเอาเฟิร์สคิสเธอไป”
      “นี่แน่ะๆ”เธอทุบอกผมทำให้มีโอกาสทำซึ้งผมจับมือเธอไปวางที่หน้าอกด้านซ้ายของผม…
      “ใจของเราหมดทั้งดวงอยู่ที่เธอแล้วนะ…”
      “อ๊ะ…อืม…ชั้นจะรับไว้…แต่…ค่อยเป็นค่อยไปนะ”เธอพูดแล้วหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด
      นี่อาจไม่ใช่รักแรกของผมและเธอ…แต่ผมก็รู้สึกว่าคนคนนี้…มิกิคนนี้คือคนที่ผมอยากจะดูแลเค้าอย่างจริงใจและจริงจัง…และทำให้ผมนึกถึงคำที่พ่อเคยบอกว่า “ความรักของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกันแล้วแต่ใครจะคิดแต่ความรักของพ่อที่มีต่อแม่แกคือการที่ได้ดูแลแม่ของแกและได้เห็นแม่แกมีความสุขที่ได้อยู่กับพ่อ”เหมือนดังเช่นผมกับมิกิในเวลานี้…
      หลังจากนั้นพวกเราก็จบ ม.6และตอนนี้เธอกับผมก็สอบติดมหาลัยเดียวกันแต่ถึงจะคนละคณะแต่ผมก็มีเวลาได้ดูแลเธอมากกว่าตอน ม.4 หลายเท่านัก
      END...

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×