+ขาแกะแช่แข็ง+ - +ขาแกะแช่แข็ง+ นิยาย +ขาแกะแช่แข็ง+ : Dek-D.com - Writer

    +ขาแกะแช่แข็ง+

    โดย obey

    เหลือเชื่อ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,084

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.08K

    ความคิดเห็น


    11

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  สืบสวน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 เม.ย. 48 / 21:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ห้องนั้นอบอุ่นและสะอาด ม่านถูกชักปิด โคมไฟสองข้างโต๊ะสว่างไสว
      เก้าอี้ของหล่อนตัวหนึ่ง ของเขาอยู่ตรงข้ามอีกตัวหนึ่ง
      ตู้ชิดผนังข้างหลังหล่อนวางถ้วยแก้วทรงสูง 2 ใบ โซดา วิสกี้ กระติกใส่น้ำแข็ง
         นางโมลิน่ากำลังรอให้สามีกลับจากทำงาน
         หล่อนมองนาฬิกาเป็นครั้งคราว แต่ไม่มีทีท่าเร่งร้อนเพียงคิดว่า
      ยิ่งเข็มนาฬิกาเคลื่อนที่ไปเร็วเท่าใด สามีของหล่อนก็จะกลับมาบ้านเร็วขึ้นเท่านั้น
         ใบหน้าของหล่อนยิ้มละไม ท่าทางรื่นเริงในทุกอากัปกิริยา
      ยามที่หล่อนก้มศีรษะมองผ้าที่กำลังเย็บ ท่าก้มก็ดูสวยเยือกเย็น
      หล่อนตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน ผิวพรรณจึงดูผ่องใส ริมฝีปากอิ่มนุ่ม
      นัยน์ตามีแววสงบและอ่อนโยน ดูกลมโตและดำขลับยิ่งกว่าเดิม
         เมื่อเข็มนาฬิกาชี้บอกเวลา 4 นาฬิกา 50 นาทีหล่อนก็
      เริ่มเงี่ยหูฟัง
         ครู่ต่อมา หล่อนได้ยินเสียงยางรถยนต์บดกรวดที่ถนน
      ข้างนอก เสียงประตูรถปิดดังกริ๊ก+++ตรงเวลาเผงเช่นเคย
         หล่อนวางผ้าที่เย็บนั้นลง ลุกขึ้นยืน เดินไปจูบเขาขณะที่
      เขาเข้ามาในห้อง
         \"เป็นยังไงคะ ที่รัก\" หล่อนพูด
         \"คุณล่ะ?\"
         หล่อนรับเสื้อโค้ชจากเขาไปแขวนไว้ในตู้ แล้วเดินไปผสม
      เหล้าแก่ๆ ให้เขา และ ผสมอ่อนๆ ให้ตัวเอง
         ครู่เดียว หล่อนก็กลับมานั่งเก้าอี้และเย็บผ้าต่อ ส่วนเขานั่งที่
      เก้าอี้ตรงข้าม มือทั้งสองข้างประคองแก้วเหล้าทรงสูงขยับไปมา
      เสียงก้อนน้ำแข็งในแก้วดังกรุ๊กกริ๊ก
         หล่อนรู้สึกว่าช่วงเวลานี้ช่างผาสุกเสียนี่กระไร หล่อนรู้ว่า
      เขาไม่ชอบพูดมาก จนกว่าเหล้าแก้วแรกจะหมดเสียก่อน หล่อน
      เองพอใจที่ได้นั่งเงียบๆ เคียงข้างเขา รู้สึกมีความสุขที่เขาอยู่ด้วย
      หลังจากต้องอยู่บ้านคนเดียวนานทั้งวัน
         หล่อนชอบความรู้สึกแสนสุขยามได้อยู่ใกล้เขา คล้ายๆ
      คนชอบอาบแดดรักแสงอาทิตย์ เป็นความอบอุ่นที่ผูชายคนนี้ให้
      แก่หล่อนเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง หล่อนชอบมองเขานั่งตาม
      สบายบนเก้าอี้ ท่าทางที่เดินเข้าประตู หรือท่าเดินก้าวขายาวๆ
      จากฟากหนึ่งของห้องมาหาหล่อน
         หล่อนรักแววตาพินิจพิเคราะห์ที่เขม้นมองมา ริมฝีปาก
      รูปแปลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่าทางนั่งเงียบเวลาที่เขาเหนื่อย
      เขาจะนั่งนิ่งอยู่เช่นนี้จนกว่าวิสกี้จะช่วยทุเลาความเหนี่อยลงไปบ้าง
         \"เหนื่อยหรือคะ ที่รัก\"
         \"จ้ะ+++ผมเหนื่อย\" เขาตอบ แล้วก็ทำสิ่งหนึ่งที่ผิดปกติ
      นั่นคือยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ทั้งๆที่มีเหล้าเหลืออยู่
      ในแก้วตั้งครึ่ง+++ อย่างน้อยก็สักราวๆครึ่งหนึ่ง
         หล่อนไม่ได้เฝ้ามองอยู่ แต่รู้ว่าเขาดื่มรวดเดียวหมด เพราะ
      ได้ยินเสียงก้อนน้ำแข็งหล่อนกระแทกก้นแก้วว่างเปล่าเมื่อเขาลด
      แขนลง
         \"ฉันรินให้ค่ะ\" หล่อนดูเสียงดัง ผุดลุกขึ้นยืน
         \"นั่งลงเถอะ\" เขาสั่ง
         เมื่อเขาเดินกลับมา หล่อนสังเกตว่าเขารินวิสกี้ใส่แก้ว
      มากจนเป็นสีอำพันเข้ม
         \"ที่รักคะ ฉันหยิบรองเท้าแตะให้ไหมคะ\"
         \"ไม่ต้อง\"
         หล่อนเฝ้าดูเขาจิบเครื่องดื่มสีเหลืองแก่ เห็นเหล้าระสาย
      ในแก้วได้ชัดเพราะเหล้านั้นเข้มข้นมาก
         \"ฉันว่าน่าเสียดายนะคะ+++ที่พอตำรวจได้ตำแหน่งสูงขึ้น
      อย่างคุณ ก็ต้องเดินไปเดินมามากเลหือเกินตลอดวัน\" หล่อนพูด
         เขาไม่ตอบ หล่อนจึงก้มหน้าเย็บผ้าต่อไป แต่ทุกครั้งที่เขา
      ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม หล่อนได้ยินเสียงก้อนน้ำแข็งกระทบข้างแก้ว
      ไม่ได้ขาด
         \"ที่รักคะ ฉันหยิบเนยแข็งให้เอาไหมคะ วันนี้ฉันไม่ได้ทำ
      อาหารค่ำ เพราะเป็นวันพฤหัส\"
         \"ไม่ต้อง\" เขาตอบ
         \"ถ้าคุณไม่อยากออกไปกินอาหารข้างนอกเพราะเหนื่อละก็
      ยังไม่เย็นมากนะคะ ในตู้เย็นมีทั้งเนื้อทั้งของอื่นเยอะแยะ ฉันจะ
      ทำอาหารให้ คุณรอนั่งทานที่นี่ ไม่ต้องลุกจากเก้าอี้ก็ได้\" หล่อน
      พูดต่อ ดวงตาของหล่อนจับจ้องที่เขา รอคำตอบ เผื่อเขาจะยิ้ม
      สักนิด พยักหน้าสักหน่อย แต่เขายังคงนิ่งเฉย
         \"เอายังงี้ ฉันจะไปเตรียมเนยแข็งกับขนมปังกรอมาให้\"
      หล่อนพูดอีก
         \"ผมไม่อยากกิน\" เขาตอบ
         หล่อนนั่งกระสับกระส่าย ดวงตากลมโตจ้องหน้าเขา
         \"แต่คุณต้องทานอาหารค่ำนี่คะ+++ฉันทำให้ทานนะคะ
      ง่ายนิดเดียว จะทานเนื้อแกะหรือหมูก็ได้ อยากทานอะไรได้ทั้งนั้น
      มีของทุกอย่างอยู่ในช่องแข็ง\"
         \"ลืมเสียเถอะน่า\" เขาพูด
         \"โธ่! ที่รักคะ แต่คุณต้องกินอาหารนี่คะ ฉันไปทำให้ดีกว่า
      จะกินหรือไม่กินก็ตามใจ\"
         หล่อนลุกขึ้นยืน วางผ้าที่เย็บลงบนโต๊ะข้างโคมไฟ
         \"นั่งลง\" เขาสั่ง \"นั่งลงสักนาที นั่งสิ\" เขาพูด
         ตอนนี้เองที่หล่อนเริ่มตกใจ
         \"บอกว่าไง+++นั่งลงสิ\" เขาย้ำ
         หล่อนค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ ดวงตากลมโตจ้องมองเขา
      อย่างแปลกใจ
         เขาดื่มเหล้าแก้วที่สองหมดแล้ว ขมวดคิ้ว ก้มหน้ามอง
      แก้วในมือ
         \"ฟังให้ดีนะ ผมมีอะไรจะบอก\" เขาพูด
         \"อะไรหรือคะ ที่รักเป็นอะไรไป\"
         เขานั่งเฉย ก้มหน้าต่ำจนแสงไฟจากโคมใกล้ตัวสาดส่อง
      ส่วนบนของใบหน้า คางกับปากอยู่ในเงามืด หล่อนสังเกตเห็น
      กล้ามเนื้อเล็กๆข้างนัยน์ตาซ้ายของเขากระตุกนิดหน่อย
         \"ผมเกรงว่าเรื่องนี้จะทำให้คุณตกใจมาก แต่ผมคิด
      ทบทวนแล้ว อยากบอกคุณให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียเลยดีกว่า หวังว่า
      คุณจะไม่ประณามผมมากเกินไป\" เขาพูด
         แล้วเขาก็บอกหล่อน+++ใช้เวลาไม่นาน เพียงไม่เกิน 4-5
      นาที
         หล่อนนั่งฟังนิ่งจนจบ จ้องหน้าเขาอย่างตระหนก ขณะที่
      คำพูดแต่ละคำของเขาพาตัวเขาห่างหล่อนออกไปทุขณะ
         \"เรื่องมีอยู่แค่นี้เอง+++ผมรู้ว่าไม่ควรเล่าให้คุณฟังในเวลา
      อย่างนี้ แต่ก็ไม่มีทางเลือก แน่ละ ผมจะให้เงินคุณ จะจัดการให้
      คุณอยู่ได้สบาย หวังว่าคงไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรนะ เพราะผมไม่
      อยากให้กระทบกระเทือนไปถึงการงานของผม\" เขาเสริม
         สัญชาตญาณแรกบอกหล่อนว่า ต้องไม่เชื่อ ต้องปฏิเสธ
      ให้หมดสิ้น หล่อนบอกตัวเองว่าเขายังไม่ทันพูดอะไรออกมา
      หล่อนคิดไปเองทั้งนั้น ถ้าสมมุติว่าหล่อนลุกขึ้นไปทำโนทำนี่
      แสร้งทำเป็นว่าไม่ได้นั่งฟังอยู่ ตอนหลัง เมื่อหล่อนตื่นจากหลับ
      ก็อาจจะพบว่าไม่มีอะไรเช่นนนี้เกิดขึ้นเลย
         \"ฉันไปทำอาหารนะคะ\" หล่อนกระซิบ
         คราวนี้เขาไม่ขัด
      ตอนที่หล่อนเดินผ่านห้องไปนั้น หล่อนไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่า
      เท้าเหยียบพื้น ไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น นอกจากเวียนศีรษะนิดหน่อย
      คลื่นไส้มาก ก็เท่านั้น
         ต่อจากนั้นทุกอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติ เดินลงบันไดไป
      ยังห้องใต้ดิน เปิดไป เดินไปที่ตู้แช่แข็ง มือคลำไปโดนสิ่งแรกใน
      ตู้แช่แข็ง ดึงออกมาดู เห็นมันห่อไว้ด้วยกระดาษ ฉักกระดาษออก
      มองดูอีกที
         ขาแกะนั่นเอง!
         เอาละ เป็นอันว่าคืนนี้จะกินขาแกะเป็นอาหารค่ำ !!
         หล่อนยกขาแกะขึ้นไปชั้นบน จับส่วนบางาที่สุดซึ่งเป็น
      ส่วนกระดูกขาแกะด้วยสองมือ เดินเข้าห้องนั่งเล่น เห็นเขายืน
      หันหลังให้อยู่ที่หน้าต่าง หล่อนหยุดนิ่ง
         เข้าได้ยินเสียงหล่อนเดินเข้ามา จึงพูดโดยไม่หันมามองว่า
         \"ให้ตายเถอะ!+++ไม่ต้องทำอาหารให้ผมกินหรอก ผมจะ
      ออกไปข้างนอก\"
         ในนาทีนั้นเอง โมลิน่า ก็เดินตรงเข้าไปหาเขา หล่อน
      เหวี่ยงขาแกะแช่แข็งขนาดใหญ่ขึ้นไปในอากาศเต็มแรง ทุบเปรี้ยง
      โดนท้ายทอยของเขาพอดี
         เท่ากับหล่อนใช้ตะลุมพุกเหล็กทุบเขานั่นเอง!
         หล่อนถอยหลังมาหนึ่งก้าว นิ่งรอ ที่ตลกก็คือเขาไม่ล้มลง
      ในทันที ยังคงยืนอยู่กับที่สัก 4-5 นาทีเป็นอย่างน้อย ร่างโงนเงน
      ไปมา แล้วล้มคว่ำลงบนพรม
         ควาามแรงของการทุบ เสียงที่เกิดขึ้น โต๊ะเล็กล้ม เหล่านี้
      ช่วยให้หล่อนหายจากอาการตกใจจนช็อค หล่อนค่อยรู้สึกตัว
      รู้สึกหนาวและประหลาดใจ กะพริบตามองร่างที่นอนอยู่ สมองมือ
      ของหล่อนยังกำขาแกะไว้แน่น
         \"เอาล่ะ+++ฉันฆ่าเขาแล้ว\" หล่อนบอกตัวเอง
         เป็นเรื่องแปลกที่ความคิดกระจ่างขึ้นทันที หล่อนเริ่มคิด
      อย่างรวดเร็ว หล่อนเป็นภรรยาของตำรวจนักสืบ หล่อนรู้ดีว่า
      โทษเป็นอย่างไร ช่างเถอะ ไม่แปลกอะไรหรอก ดูจะเป็นอารมณ์
      ชั่ววูบมากกว่า
         แต่ครั้นคิดดูอีกที อะไรจะเกิดขึ้นกับลูก กฎหมายตราไว้
      สถานใดสำหรับฆาตกรที่ตั้งครรภ์ จะประหารทั้งแม่ทั้งลูกเลยหรือ
      หรือรอให้ครบ 10 เดือนก่อน หรือว่าทำอย่างไร
         โมลิน่าไม่รู้ แต่หล่อนตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่เสี่ยงเรื่องนี้
         หล่อนหิ้วขาแกะเข้าครัว วางมันลงในถาดอบ เปิดเตาอบ
      ให้ร้อนสุด ใส่ขาแกะเข้าไป เสร็จแล้วก็ล้างมือ วิ่งกลับไปที่นอน
         หล่อนนั่งลงหน้ากระจกแต่งหน้าให้ดูเรียบร้อย ทาลิปสติค
      แตะแป้งที่ใบหน้า พยายามยิ้ม ยิ้มนั้นดูพิกล หล่อนลองยิ้มอีกที
         \"สวัสดีค่ะ+++จอห์น\" หล่อนพูดเสียงดังอย่างแจ่มใส
         เสียงนั้นฟังพิกลไปด้วย
         \"ขอซื้อมันฝรั่งหน่อยค่ะจอห์น ถั่วลันเตาหนึ่งกระป๋องด้วย\"
         ค่อยยังชั่ว ทั้งรอยยิ้มและเสียงพูดค่อยฟังปกติขึ้นหน่อย
      หล่อนลองยิ้มและพูดซ้ำๆอีกหลายครั้ง
         แล้วหล่อนก็วิ่งลงไปชั้นล่าง หยิบเสื้อโค้ทมาสวม เดิน
      ออกทางประตูหลังบ้าน ผ่านสวนดอกไม้ไปที่ถนน

         ยังไม่ถึง 6 โมงเย็น แสงไฟยังสว่างอยู่ในร้านชำ
         \"สวัสดีค่ะ จอห์น\"หล่อนทักอย่างแจ่มใส ยิ้มให้ชายที่ยืน
      อยู่หลังเคาท์เตอร์
         \"อ้อ สวัสดีครับ คุณนายโมลิน่า สบายดีหรือครับ\"
         \"ขอซื้อมันฝรั่งหน่อยค่ะ จอห์น ถั่วลันเตาหนึ่งกระป๋องด้วย\"
         เจ้าของร้านหันไปเอื้อมหยิบถั่วกระป๋องจากบนหิ้งวางของ
         \"อัลเบิร์ตเขาเหนื่อย+++เลยไม่ออกไปทานข้างนอกคืนนี้
      ปกติวันพฤหัสเราออกไปทานอาหารนอกบ้นกันเสมอค่ะ วันนี้
      ฉันไม่มีผักสักอย่างในบ้าน\" หล่อนเล่าให้จอห์นฟัง
         \"มีเนื้อแล้วหรือครับ\"
         \"มีแล้วค่ะ ขอบคุณ ฉันมีขาแกะขาโตจากในตู้แช่แข็ง\"
         \"อ้อ!\"
         \"ว่าที่จริง ฉันไม่ชอบขาแกะที่ยังแข็งโป๊กหรอกค่ะจอห์น
      แต่คืนนี้จะลองดู คิดว่าจะเป็นไรไหมคะ\"
         \"ผมว่าแข็งหรือไม่แข็งก็เหมือนกันแหละครับ คุณนาย
      ต้องการมันฝรั่งพันธุ์ไอดาโฮไหมครับ\"
         \"ค่ะ! ดีจัง ขอสองหัวค่ะ\"
         \"อะไรอีกไหมครับ\" เจ้าของร้านชำเอียงคอ มองหล่อน
      อย่างแจ่มใส \"ของหวานละครับ จะให้คุณแซมทานขนมอะไรดี\"
         \"จอห์นลองแนะสิคะ\"
         เจ้าของร้านกวาดสายตาไปรอบๆ
         \"ชี้สเค้กชิ้นโตๆสักชิ้นเป็นไงครับ ผมว่าคุณอัลเบิร์ตต้อง
      ชอบแน่\"
         \"ดีค่ะ เขาชอบชี้สเค้ก\" หล่อนพูด
         เจ้าของร้านห่อสินค้า หล่อนจ่ายเงิน ยิ้มสดใสที่สุด และ
      พูดว่า
         \"ขอบคุณค่ะ จอห็น สวัสดีนะคะ\"
         \"ราตรีสวัสดิ์ครับ คุณนายโมลิน่า ขอบคุณมากครับ\"
         หล่อนบอกตัวเองขณะที่รีบเดินว่า ตอนนี้หล่อนกำลังรีบ
      กลับบ้านไปหาสามีซึ่งนั่งรอจะกินอาหารค่ำ หล่อนต้องทำอาหาร
      อย่างสุดฝีมือ  ให้อร่อยที่สุด เพราะสามีที่น่าสงสารเหนื่อยมาก
         ตอนที่หล่อนเดินเข้าบ้าน ถ้าเผอิญเจออะไรที่ผิดปกติ
      หรือน่าเศร้า หรือน่ากลัว หล่อนจะต้องตกใจและลนลานเพราะ
      หวานกลัวและเศร้าโศก แต่ว่า+++หล่อนต้องไม่คาดว่าจะเจอ
      อะไรสักอย่างต่างหาก หล่อนกำลังเดินถือฝักกลับบ้าน ภรรยา
      ของอัลเบิร์ตกำลังเดินถือกระป๋องถั่วลันเตากลับบ้านในตอนเย็น
      วันพฤหัสบดีเพื่อทำอาหารค่ำให้สามี
         หล่อนบอกตัวเองว่า ต้องดำเนินการตามนี้ ทำทุกอย่างให้
      ถูกต้องและเป็นธรรมชาติที่สุด ทำให้เป็นธรรมชาติหมดทุกอย่าง
      แล้วก็ไม่ต้องแสดงอะไรเลย
         ดังนั้น ขฯะที่หล่อนเข้าประตูหลังบ้านไปยังครัว หล่อนจึง
      ร้องเพลงหงิงๆ และยิ้มให้ตัวเอง
         \"อัลเบิร์ตขา! เป็นไงมั่งคะ ที่รัก\"
         หล่อนวางห่อของลงบนโต๊ะ เดินเข้าห้องนั่งเล่น เมื่อเห็น
      เขานอนคว่ำอยู่บนพื้น ขาสองข้างงอขึ้นมา แขนข้างหนึ่งบิดงอ
      อยู่ข้างหลัง หล่อนก็อดตกใจไม่ได้
         ความรักและความปรารถนาครั้งเก่าก่อนเต็มตื้นท้นขึ้นมา
      หล่อนวิ่งไปหาเขา คุกเข่าลงข้าวๆ และร้องไห้แทบขาดใจ
         ง่ายจะตายไป! ไม่เห็นต้องแสดงสักหน่อย
         2-3 นาทีต่อมา หล่อนลุกขึ้น เดินไปที่โทรศัพท์ หล่อนรู้
      หมายเลขสถานีตำรวจที่เขาทำงานอยู่ เมื่อมีคนมารับสายทางโน้น
      หล่อนก็พูดว่า
         \"เร็วเข้าค่ะ!+++รีบมาด่วนที่สุดเลยนะคะ!+++อัลเบิร์ตตาย
      เสียแล้ว!\"
         \"ใครพูดครับ\"
         \"ภรรยาของเขาค่ะ+++\"
         \"คุณหมายความว่าอัลเบิร์ตตายแล้วเหรอครับ\"
         \"ดิฉันคิดว่าอย่างงั้นค่ะ+++เขานอนอยู่บนพื้น ดิฉันคิดว่าเขา
      สิ้นใจแล้วค่ะ\"
         \"จะมาเดี๋ยวนี้เลยครับ\" ชายคนที่รับสายพูด
         รถแล่นมาถึงบ้านของหล่อนเร็วทันใจ
         เมื่อหล่อนเปิดประตูหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ก็เดิน
      เข้ามาในบ้าน
         หล่อนรู้จักเขาดีทั้ง 2 คน+++หล่อนรู้จักตำรวจทุกคนที่
      สถานีแห่งนั้น หล่อนจึงถลาเข้าหาอ้อกอกของแจ๊ค นูแนน พลาง
      ร้องไห้จนตัวสั่น
         เขาประคองหล่อนมานั่งเก้าอี้ แล้วเดินไปสมทบเพื่อน
      ที่มาด้วยกัน คนนามสกุล โอ มัลลีย์ กำลังคุกเข่าอยู่ข้างศพ
         \"เขาตายแล้วเหรอคะ\" หล่อนอุทาน
         \"ผมคิดว่าจะเป็นเช่นนั้น+++เกิดอะไรขึ้นครับ\"
         หล่อนเล่าเรื่องที่ออกไปซื้อของที่ร้านชำอย่างย่อๆ และว่า
      กลับมาเจอเขานอนอยู่บนพื้น
         ขณะที่หล่อนกำลังเล่าพลางร้องไห้พลาง แจ๊คก็พบเลือก
      แห้งกรังอยู่ที่ศีรษะของผู้ตาย เขาเรียก โอ มัลลีย์มาดู โอมัลลีย์ลุก
      ขึ้นทันที เดินไปที่โทรศัพท์
         ในไม่ช้า คนอื่นๆก็ทะยอยเข้ามาในบ้าน ตอนแรก แพทย์
      คนหนึ่งมาถึงก่อน จากนั้นก็นักสืบสองคน ซึ่งหล่อนรู้จักแต่ชื่อ
      หลังจากนั้นก็ตำรวจช่างภาพ มาถ่ายรูป ติดตามด้วยผู้เชี่ยวชาญ
      การดูรอยนิ้วมือ
         มีการกระซิบกระซาบมากมายข้างๆศพ นักสืบตั้งคำถาม
      ถามหล่อนเป็นการใหญ่ แต่พูดด้วยดีมาก
         หล่อนเล่าเรื่องซ้ำอีก คราวนี้เล่าตั้งแต่ต้น เริ่มจากตอนที่
      อัลเบิร์ตเข้ามาในบ้าน หล่อนกำลังนั่งเย็บผ้าอยู่ เขาเหนื่อยมาก
      เหนื่อยเสียจนไม่อยากออกไปกินอาหารนอกบ้าน หล่อนเล่าว่าใส่
      ขาแกะในเตาอบ ตอนนี้ขาแกะก็ยังอยู่ในเตาอบ คงจวนสุกแล้ว
      หล่อนออกไปซื้อผักที่ร้านชำ กลับมาเจอเขานอนอยู่บนพื้น
         \"ร้านชำอยู่ไหนครับ\" นักสืบคนหนึ่งถาม
         หล่อนบอกเขา เขาหันไปกระซิบกระซาบบอกอะไรนักสืบอีกคน
      หนึ่งซึ่งรีบออกไปที่ถนน
         อีก15นาทีต่อมา นักสืบคนนั้นกลับมาพร้อมด้วยกระดาษ
      บันทึกข้อความ 1 แผ่น มีการกระซิบกระซาบกันอีก หล่อนได้ยิน
      นักสืบพูด 2-3 วลี ระหว่างที่กำลังสะอึกสะอื้นว่า \'ท่าทางดูปกติ
      รื่นเริงดี+++อยากทำอาหารอร่อยให้เขารับประทาน+++ถั่วลันเตา+++
      ชี้สเค้ก+++เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะ+++\'
         หลังจากนั้นครูหนึ่ง ช่างภาพและนายเพทย์ก็ออกไป มี
      ชายอีก2คน เข้ามาหามศพที่วางไว้บนเปลหาม แล้วผู้เชี่ยวชาญ
      ด้านรอยนิ้วมือก็ออกไปอีกคน
         นักสืบ2คน กับตำรวจอีก2นาย ยังอยู่ในห้อง ทุกคนดี
      ต่อหล่อนมาก แจ๊คถามว่า หล่อนไม่อยากไปอยู่ที่อื่นหรอกหรือ
      +++จะไปอยู่บ้านพี่สาว หรือไปค้างกับภรรยาของเขาก็ได้ ภรรยา
      ของเขาจะดูแลหล่อน และให้ค้างคืนที่บ้านเขาด้วย
         ไม่หรอก หล่อนรู้สึกว่าไม่อยากขยับเขยื้อนไปไหนแม้แต่
      นิดเดียว จะว่าอะไรไหมถ้าขออยู่อย่างนี้จนกว่าจะค่อยยังชั่วขึ้น
      ตอนนี้หล่อนรู้สึกไม่ค่อยสบาย ไม่สบายจริงๆ
         แจ๊คถามว่า ถ้าเช่นนั้นนอนเสียไม่ดีหรือ
         หล่อนตอบว่า ไม่ต้องหรอก หล่อนอยากอยู่กับที่+++นั่ง
      เก้าอี้ตัวนี้อีกประเดี๋ยว+++ถ้าหล่อนค่อยสบายขึ้นหล่อนก็จะไป
      นอนเอง
         คนพวกนั้นจึงปล่อยให้หล่อนนั่งตามสบาย ขณะที่เขาค้น
      บ้านกันอุตลุด
         นานๆครั้ง นักสืบ2คนจึงจะถามอะไรหล่อนสักอย่าง
      เวลาแจ๊คเดินผ่านมา เขาก็จะพูดกับหล่อนด้วยถ้อยคำอ่อนโยน
      ทุกครั้ง+++เขาบอกว่า สามีของหล่อนถูกทุบด้วยของหนักและทื่อ
      น่าจะเป็นแท่งเหล็ขนาดใหญ่ ต้องหาอาวุธนี้ให้พบ ฆาตกรอาจ
      จะเอาไปด้วย หรืออาจจะโยนทิ้งหรือซุกไว้ที่ใดที่หนึ่งแถวๆนี้
         \"เรื่องยังงี้เก่าแล้วครับ ถ้าหาอาวุธได้ ก็หาตัวคนร้ายได้\"
      เขาพูด
         หลังจากนั้นนักสืบคนหนึ่งก็มานั่งข้างๆหล่อน ถามหล่อน
      ว่า พอจะรู้ไหมว่าในบ้านนี้มีอะไรที่ใช้เป็นอาวุธได้บ้าง หล่อนจะ
      ว่าอะไรไหมถ้าเขาขอให้หล่อนช่วยหาดูเผื่อของอะไรหายไป เช่น
      กุญแจปากตายขนาดใหญ่ หรือแจกันโลหะที่หนักมากๆ
         หล่อนตอบว่า ที่นี่ไม่มีแจกันหนักมากๆ
         \"กุญแจปากตายละครับ\"
         หล่อนว่าไม่เคยเห็นกุญแจปากตายขนาดใหญ่ แต่ที่โรงรถ
      อาจจะมีอะไรคล้ายๆกันนั้น
         ตำรวจกับนักสืบหากันเป็นโกลาหล หล่อนรู้ว่าในสวยรอบ
      บ้านมีตำรวจอีกหลายคน หล่อนได้ยินเสียงฝีเท้าเหยียบพื้นกรวด
      ที่ถนนนอกบ้าน บางทีก็เห็นแสงไฟฉายวาบเข้ามาทางรอยแยก
      ของม่านหน้าต่าง
         ค่อนข้างดึกแล้ว เกือบ3ทุ่ม หล่อนดูเวลาจากนาฬิกาที่
      อยู่เหนือเตาผิง ชาย4คน ที่ค้นหาไปทั่วบ้านเริ่มต้นเหนื่อยและ
      หัวเสีย
         เมื่อจ่าสิบตำรวจเอกแจ๊คเอินผ่านหล่อนไปอีกครั้ง หล่อน
      บอกเขาว่า
         \"แจ๊คคะ ช่วยรินเหล้าให้ฉันนิดนึง ได้ไหมคะ\"
         \"ได้สิครับ+++คุณหมายถึงวิสกี้ในขวดนี่หรือครับ\"
         \"ค่ะ ขอนิดเดียวก็พอ ฉันอาจจะรู้สึกสบายขึ้นหน่อย\"
         เขารินเหล้าส่งให้หล่อน
         \"ทำไมจ่าไม่ดื่มสักแก้วละคะ จ่าคงเหนื่อยแย่ ดื่มเถอะค่ะ
      จ่าดีต่อฉันมาก\" หล่อนพูด
         \"แหม! กำลังทำหน้าที่ ตามกฎห้ามดื่มครับ+++แต่ผมขอ
      สักอึกเถอะ จะได้มีแรงทำงานต่อ\" เขาตอบ
         นักสืบอีกคนและตำรวจคนอื่นๆเข้ามาในห้อง หล่อน
      คะยั้นคะยอให้ดื่มคนละหน่อย พวกเขายืนถือแก้วเหล้าท่าทางเก้อ
      ไม่สบายใจเมื่ออยู่ต่อหน้าหล่อน พยายามพูดจาปลอบโยนหล่อน
         จ่าสิบตำรวจเอกแจ๊คเดินเข้าไปในครัว แล้วรีบกลับออก
      มาบอกหล่อนว่า
         \"คุณโมลิน่าครับ เตาอบร้อนแล้วนะครับ เนื้อก็ยังอยู่ข้างใน\"
         \"ต๊ายตาย! จริงด้วยค่ะ!\" หล่อนอุทาน
         \"ผมดับไปในเตาอบให้ดีไหมครับ\"
         \"ช่วยดับเถอะค่ะ ขอบคุณมาก\"
         เมื่อแจ๊คกลับมาอีกครั้ง หล่อนมองเขาด้วยดวงตาสีดำกลม
      โตมีน้ำตาเอ่อท้น
         \"แจ๊คคะ\" หล่อนเรียก
         \"ว่าไงครับ\"
         \"จ่ากับคุณๆพวกนี้น่ะ+++ช่วยอะไรฉันนิดได้ไหมคะ\"
         \"ได้สิครับ\"
         \"คืองี้ค่ะ+++พวกคุณมาอยู่ที่นี่กันพร้อมหน้า ทุกคนเป็น
      เพื่อนที่ดีของอัลเบิร์ต มาช่วยกันหาตัวฆาตกร พวกคุณคงหิวแย่
      ตอนนี้เลยเวลาอาหารค่ำมาตั้งนานแล้ว อัลเบิร์ตคงไม่ยกโทาให้
      ดิฉันแน่ๆ+++ถ้าดิฉันปล่อยให้พวกคุณอยู่ในบ้านโดยไม่ต้อนรับ
      ขับสู้ ทำไมไม่รับประทานขาแกะในเตาอบเสียละคะ ป่านนี้คงสุก
      ได้ที่พอดี\"
         \"ไม่ต้องหรอกครับ\"
         \"โธ่! กรุณารับประทานเถอะค่ะ\" หล่อนวิงวอน \"ดิฉันกิน
      อะไรไม่ลงหรอก โดยเฉพาะขาแกะที่อยู่ในบ้านตอนเขายังไม่ตาย
      แต่พวกคุณไม่เป็นไรนี่คะ ถ้าช่วยทานได้ ดิฉันจะดีใจมาก+++
      แล้วค่อยหาต่อ หลังจากรับประทานเสร็จแล้ว\"
         ตำรวจทั้ง 4 นาย รีรอต่อไปอีกครู่ เห็นได้ชัดว่าทุกคนหิว
      เต็มที่
         ในที่สุด ต่างก็ยอมเข้าครัวไปช่วยตัวเอง
         โมลิน่ายังคงอยู่ที่เดิม เงี่ยหูฟังที่ประตูซึ่งเปิดทิ้งไว้ ได้ยิน
      พวกนั้นคุยกันเอง เสียงอู้อี้เพราะกำลังเคี้ยวอาหารเต็มปาก
         \"ชาร์ลี ไม่กินอีกรึ\"
         \"ไม่ละ อย่ากินให้หมด\"
         \"เธอบอกให้เรากินให้หมดนี่หว่า เธอว่าให้เราช่วยกัน
      หน่อย\"
         \"งั้นก็ตกลง ขออีกหน่อย\"
         \"ไอ้คนร้ายคงใช้ตะบองใหญ่เบ้อเริ่มตีหัวอัลเบิร์ต+++\"
      คนหนึ่งพูด \"หมอบอกว่ากะโหลกยุบเป็นแถบ เหมือนถูกทุบ
      ด้วยฆ้อนเหล็กขนาดใหญ่\"
         \"ถึงว่าซี+++น่าจะหาเจอนะ\"
         \"เราก็ว่ายังงั้น\"
         \"ใครก็ตามที่ฟาดหัวคนด้วยอะไรยังงี้ได้ คงจะไม่เที่ยวได้
      หอบหิ้วอาวุธติดตัวไปนานนักหรอก\"
         ใครคนหนึ่งเรอดังเอิ้ก
         \"เราว่าอาวุธน่าจะอยู่ในบ้านนี้แหละ\"
         \"อาจจะอยู่แถวๆจมูกเราก็ได้+++นายว่าไง แจ๊ค\"
         โมลิน่า นั่งหัวเราะคิกๆอยู่ในอีกห้องหนึ่ง

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×