penfriend - penfriend นิยาย penfriend : Dek-D.com - Writer

    penfriend

    ... คุณเคยมีเพื่อนทางจดหมายไหม? ผมก็เคย แต่ผมไม่อยากมีอีกแล้วล่ะ ทำไมน่ะเหรอ.... เรื่องทั้งหมดมันเริ่มขึ้นจากวันนั้น...

    ผู้เข้าชมรวม

    382

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    382

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 ต.ค. 46 / 20:35 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ผมชื่อแน็ค เพิ่งจะย้ายเข้ามาเรียนในตัวเมือง วันแรกของผมที่สถานศึกษานั้นไม่ค่อยจะดีนัก ผมไม่รู้จักใครเลย ทุกคนรอบข้างผม ต่างก็มีเพื่อนที่ย้ายมาเรียนด้วยกัน ต่างกับผมที่ตัวคนเดียว ซึ่งไม่กล้าที่จะไปทักใครก่อน พูดง่าย ๆ คือผมขี้อาย

      หลังจากเลิกเรียน ผมก็กลับมาที่หอพัก ห้องของผมเป็นเพียงห้องแคบ ๆ มีห้องน้ำในตัว และแน่นอนผมพักอยู่ที่นี่คนเดียว ผมสังเกตุเห็นจดหมายฉบับหนึ่ง เหน็บอยู่ที่ประตู ผมจึงเปิดอ่านมันหลังจากอาบน้ำเสร็จ จดหมายฉบับนั้นเป็นเพื่อนทางจดหมายของผมเอง เราติดต่อกันมานานแล้ว เธอชื่อริน

      เธอเป็นคนจังหวัดเดียวกันกับผม แต่ต่างอำเภอกัน และเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมรู้จัก เมื่อติดต่อกันทางจดหมายนานเข้า ความรักก็เกิดขึ้น ผมพยายามเขียนสื่อถึงความรู้สึกของผมออกไปให้เธอรู้

      “ก๊อก! ก๊อก!” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมละมือจากการเขียนตอบจดหมายมาเปิดประตู คุณป้าเจ้าของหอพักยืนยิ้มอยู่หน้าห้อง “ไงจ๊ะ... อยู่สบายดีมั้ย... หรือมีปัญหาอะไรรึเปล่า?\"

      ผมส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่มีปัญหาอะไรครับ”

      คุณป้ายิ้มให้ผมนิดนึงก่อนที่จะพูดอีกว่า “ถ้ามีอะไรเรียกป้าได้เลยนะ…”

      ผมพยักหน้าเล็กน้อยแล้วยิ้มตอบ แต่ก่อนที่คุณป้าจะเดินกลับไป ผมก็อยากขอบคุณเรื่องจดหมาย “เอ่อ...คุณป้าครับขอบคุณนะครับที่เก็บจดหมายไว้ให้ “

      คุณป้าเจ้าของหอพักหันมาทำหน้างง ”อะไรกันป้าไม่ได้เก็บให้นี่...” คุณป้าเดินจากไปโดยทิ้งความงงงวยไว้ให้ผม แล้วใครล่ะที่เก็บจดหมายมาเหน็บประตูไว้ให้ผม

      ผ่านไปหลายวันแล้วสำหรับการมาเรียนที่นี่ของผม โดยที่ผมยังคงไม่สนิทกับใคร ถึงจะมีเพื่อนร่วมห้องมาทักบ้างก็เถอะ เมื่อกลับจากสถานศึกษา ผมก็ตรงมาที่หอพักพร้อมกับตรวจดูว่า มีจดหมายจากรินเหน็บอยู่ตรงไหนมั้ย

      และวันนี้ก็มีจดหมายจากรินมาถึงผมอีก เธอยังคงเขียนมาเล่าอาการป่วยของเธอเช่นเดิม เนื้อร้ายในสมองของเธอ สร้างความเป็นห่วงให้ผมไม่น้อย และมันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเป็นเพื่อนทางจดหมายกับเธอ ซึ่งผมหวังว่าจดหมายของผม จะช่วยเป็นเพื่อนและกำลังใจให้เธอได้

      ผมสัญญาไว้กับเธอว่าถ้าเธอหายผมจะไปเที่ยวกับเธอ เรื่องของผมก็เป็นเช่นนี้เรื่อยมา
      จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมตัดสินใจสารภาพรักผ่านจดหมาย แต่เธอก็ไม่ได้ตอบจดหมายผมอีกเลย

      ในที่สุดผมก็เริ่มสอบ ซึ่งเป็นช่วงที่ผมจะขมักเขม้นอ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำ เพื่อที่จะสอบ แต่ผมก็ไม่ได้รับจดหมายตอบจากรินเลย เมื่อสอบเสร็จก็ถึงช่วงปิดเทอม นักศึกษาทั่วไปจะกลับบ้านกัน แต่ผมตัดสินใจเดินทางไปหารินตามที่อยู่ในจดหมาย ซึ่งก็คือโรงพยาบาลที่รินรักษาตัวอยู่

      ผมนั่งรถเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันนานมาก จนอดที่จะกระวนกระวายใจไม่ได้ จนในที่สุดผมก็มาถึงที่หมาย ผมรีบเดินหาหมายเลขห้องที่ระบุไว้ในจดหมาย ไม่นานนักผมก็มาหยุดที่ประตูห้องนั้น

      ผมตัดสินใจผลักประตูเข้าไปทันที และทันทีที่ผมผลักประตูเข้าไป ผมก็ต้องแปลกใจเมื่อภาพที่อยู่ตรงหน้า คือห้องกับเตียงโล่ง ๆ ที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ ผมสับสนไปหมด

      “มาหาใครครับ? ” เสียงหนึ่งพูดขึ้นมา ผมหันไปดูตามเสียงก็พบว่าเป็นหมอของโรงพยาบาลนี้นั่นเอง และที่ยิ่งไปกว่านั้นหมอคนนี้ผมรู้จัก

      “อ้าวแน็ค มาทำอะไรที่นี่” คุณหมอสมเดชเป็นเพื่อนกับพ่อผมเอง ผมไม่เคยรู้เลยว่าเขาทำงานที่นี่

      “ผมมาตามหาคน ๆ หนึ่งน่ะครับเธออยู่ห้องนี้” ผมชี้เข้าไปในห้อง

      “อ๋อ...หนูรินน่ะเหรอ” ผมแปลกใจที่เขารู้จักเธอด้วย

      “คุณหมอรู้จักเหรอครับ?”

      “ทำไมจะไม่รู้จักล่ะ.. เค้าเป็นคนไข้ของหมอนะ” หมอสมเดชขยับแว่นเล็กน้อย แล้วยกมือมาวางที่ไหล่ผม พร้อมกับถอนหายใจ สีหน้าของหมอสมเดชเปลี่ยนไป

      “ฟังให้ดีแล้วทำใจนะ... หนูรินน่ะ เธอเสียชีวิตไปแล้วเมื่ออาทิตย์ก่อน”

      ผมแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองมือไม้สั่นไปหมด ขาผมหมดเรี่ยวแรงทรุดตัวลงกองอยู่ตรงนั้น

      “หมอล้อเล่นใช่มั้ยครับ…” ผมพูดน้ำตาก็เริ่มเอ่อล้นออกมาอาบแก้ม หูอื้อไปหมดหน้าอกของผมมันเจ็บแปล็บไปทั่ว

      “หนูรินน่ะนะเค้ามารักษาตัวที่นี่หลายเดือนแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้นเลย...” หมอสมเดชบอกยืนยัน ผมเช็ดน้ำตาแล้วพยุงตัวยืนขึ้น

      “คุณหมอ...รู้มั้ยครับว่าบ้านเธออยู่ที่ไหน” หมอสมเดชมีสีหน้าลำบากใจที่จะบอก

      “เรื่องส่วนตัวของผู้ป่วย หมอบอกไม่ได้หรอกนะ มันผิดจรรยาบรรณน่ะ” ไม่ว่าผมจะรบเร้ายังไง หมอสมเดชก็ไม่ยอมบอก

      ผมต้องกลับมาที่หอพักอีกครั้ง ความโศกเศร้ายังไม่หายไปจากจิตใจของผม แต่ทันทีที่ผมเปิดประตู จดหมายซองสีชมพู ก็ปลิวตกลงมาผมหยิบมันขึ้นมาช้า ๆ ใจก็เต้นตึกตัก แต่เมื่อพลิกดูด้านหน้า กลับไม่มีอะไรเขียนไว้เลย ไม่มีแม้แต่แสตมป์

      เมื่อผมเปิดออก ก็พบแค่กระดาษเปล่าที่พับเป็นรูปหัวใจอยู่ด้านใน กระดาษนั้นผมยังจำได้ มันเป็นกระดาษที่รินชอบใช้เขียนจดหมายมาให้ผม ท่ามกลางความแปลกใจ ลมก็พัดแรงขึ้น ผมวางจดหมายนั้นไว้บนโต๊ะ แล้วอาบน้ำเข้านอนทันที แต่ก็ยากพอสมควรที่จะหลับตาลงได้

      คืนนั้นในความฝันของผม ผมได้เจอกับริน เราสองคนไปเที่ยวด้วยกัน ในที่ ๆ ผมตั้งใจอยากจะพาเธอไป ใบหน้าของเธอดูสดใสมาก เธอเที่ยวกับผมอย่างสนุก ผมรู้สึกมีความสุขมากในความฝันนั้น ถ้าเป็นไปได้ผมไม่อยากตื่นขึ้นเลย มันเป็นเพียงแค่สิ่งเดียว ที่ผมจะใกล้ชิดกับรินได้ ก่อนที่ผมจะตื่น รินได้พูดอะไรบางอย่างกับผม

      แสงแดดส่องเข้ามาในห้อง บอกถึงเวลาเช้าของวันใหม่ ผมทบทวนเรื่องความฝัน มันเหมือนเพิ่งจะผ่านไป แค่ไม่กี่นาทีนี้ กับคำพูดของรินที่พยายามนึกยังไงก็ไม่ออก ท่าทีของริน เหมือนต้องการจะชักชวนผม หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ผมก็เตรียมตัวออกไปข้างนอก มองเห็นจดหมายฉบับนั้น วางอยู่บนโต๊ะในสภาพเดิม

      ความหิวบอกให้ผมออกไปหาอะไรกิน และทันทีที่ผมเปิดประตู จดหมายนับสิบฉบับ ก็ร่วงกราวลงสู่พื้น จดหมายทุกฉบับเป็นแบบเดียวกันหมด คือซองเป็นสีชมพูไม่ติดแสตมป์ ไม่เขียนจ่าหน้าซอง และข้างในมีกระดาษเปล่าที่พับเป็นรูปหัวใจ เป็นกระดาษลายที่รินชอบเขียนส่งมาให้ผม

      เรื่องราวที่ผมได้พบเจอทำให้ผมสับสนมาก ใครกันที่เอาจดหมายพวกนี้มาให้ผม แล้วให้ทำไม? ผมเดินคิดมาตามทางเดิน กับเรื่องราวที่ยากจะเข้าใจนั่น ยิ่งคิดก็ยิ่งเกิดคำถามขึ้นมากมาย

      ในขณะที่ผมกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ความรู้สึกแวบหนึ่งก็ทำให้ผมหันไปยังฝั่งตรงข้ามของถนน มีใครบางคนยืนอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางกลุ่มคนที่เดินกันขวักไขว่ เมื่อผมมองดูดี ๆ แล้วก็เห็นว่าคน ๆ นั้นคือริน!

        

        
      เธอยืนยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน อะไรกัน! เป็นไปได้ยังไงกัน! นี่มันเรื่องอะไรกัน! รินที่ตายไปแล้ว ทำไมมายืนยิ้มให้ผมได้ในที่แบบนี้

      ก่อนที่คำถามมากมายจะผุดขึ้นมา ผมรีบข้ามถนนไปหาเธอ พอผมข้ามมาอีกฝั่ง รินก็ยังยืนอยู่ที่เดิม ผมเดินเข้าไปใกล้ ๆ เธอยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน หรือว่าหมอสมเดชหลอกผม!?...

      แต่แล้วทุกอย่างก็กระจ่าง เมื่อกลุ่มคนรอบ ๆ แตกตื่นกับอะไรบางอย่างข้างหลังผม ผู้คนเหล่านั้นวิ่งผ่านตัวของรินกับผม เหมือนเราไม่มีตัวตนอยู่

      ผมหันกลับไปมองสิ่งที่กลุ่มคนเหล่านั้นกำลังมุงดู ร่างของผม นอนอยู่ใต้ท้องรถบรรทุก ในสภาพเลือดท่วมตัว ผมพูดอะไรไม่ออก ในขณะที่เราทั้งสอง กำลังลอยตัวสูงขึ้น

      ผมเริ่มเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด รินแค่อยากส่งจดหมายมาตอบรักของผม เธอแค่อยากจะบอกลาผม และเรื่องในตอนนี้มันไม่ใช่ความฝันแล้ว ผมกับรินจะได้อยู่ด้วยกันในที่ ๆ ไกลแสนไกล ที่ของเรา

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×