ผมตื่นขึ้นในตอนเช้า ก่อนเจ้านาฬิกาปลุกตัวเก๋าของผมจะดังขึ้น นี้เป็นวันที่เท่าไรแล้วนะ “ ที่อากาศร้อนอบอ้าวอย่างงี้ “ ผมคิดพร้อมเดินไปเปิดหน้าต่างให้กว้างขึ้น  เพื่อรับสายลมตอนกลางคืนของกทม.ในเดือนเมษายน ก่อนวังสงกรานอีกเพียงไม่กี่วัน  ทั้งๆทีเมื่อไม่กี่วันก่อนยังได้รับไอเย็นจากฝนแท้ๆ  นี้เป็นสิ่งที่บอกให้ผมรู้ได้เลยว่าผมยังอยู่ใน ประเทศไทย
  นาฬิกาของผมดังขึ้นตอน 8 โมงเช้า ผมเดินเข้าไปห้องน้ำเพื่อชำระความเหนี่ยวของเนื้อตัว ที่เกิดจากอากาศอันร้อนอบอ้าวเมื่อคืนนี้  ผมรีบแต่งตัวเพื่ออกไปตามนัดกับหญิงสาวที่โทรมานัดผมเมื่อคืนนี้
..
  ผมไปถึงที่ก่อนเวลาจริงประมาณซัก 30 นาที ในร้านกาแฟแห่งนึงไม่ไกลจากที่พักผมมากนัก  ร้านกาแฟแห่งนี้ผูกผันกับผมตั้งแต่เข้ามาเรียนยังมหาวิทยาลัยแห่งนี้
  ทั้งเวลาผมสุขหรือทุกข์ ผมจะมานั่งที่ร้านนี้  พร้อมกับนั่งมุมโปรดของผมบริเวณหน้าต่าง ทุกครั้งที่ได้นั่งอยู่ตรงนี้ผมได้แง่มุมต่างๆของชีวิตผู้คน  ได้เห็นขอทานตาบอดที่นั่งคลุกอยู่กับแสงแดดตอนกลางวันทั้งวัน  เห็นคนกวาดถนนที่กวาดขยะทั้งวัน ทั้งๆที่รู้ว่ากวาดไปยังไงก็ไม่มีวันหมด รวมไปถึงเห็นคู่รักหลายๆคู่เดินจูงมือกันมั้ง ทะเลาะกันมั้ง เป็นสภาพสังคมที่เราเห็นได้จากท้องถนนสายนึงของกทม. ที่บางทีเราอาจจะเห็นจนชินตาจนไม่สนใจกับสภาพสิ่งที่เกิดขึ้นพวกนี้แล้วก็ได้
.
  เป็นเวลานานเท่าไรแล้วนะที่ผมนั่งอยู่ในร้าน  จนเพิ่งจะรู้สึกว่าข้างนอกมีละอองฝนที่โปรยปรายลงมา ผู้คนต่างวิ่งหลบฝนที่หล่นลงมาผิดฤดูอย่างอลหม่าน  ผมนั่งดูพวกเขาผ่านทางกระจกใบนี้ พร้อมยิ้มขณะที่มือขวากำลังคนกาแฟอยู่
.
  กริ๊ง..เสียงกระดิ่งที่ร้านดังขึ้น บงบอกให้รู้ว่ามีคนเดินเข้ามาในร้าน  เธอเดินตรงมาทางโต๊ะผมด้วยสภาพเปียกปอน พร้อมกับเลื่อนเกาอี้ออกมาจากโต๊ะที่ผมกำลังนั่งอยู่  “ รอนานไหมจ๊ะ “ เธอถามพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน  ก่อนที่ผมจะยิ้มตอบแล้วตอบเธอไปว่า “ ไม่นานหรอกครับ
แม่ “
                                                     
                                                 
.
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น